สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่รู้ว่าในเมืองไทยบอกหรือไม่นะ
แต่ WHO ให้คำแนะนำไว้ว่า จะค้องรักษาความลับของผู้ป่วย ซึ่งในที่นี้ก็ทั้ง ผู้ให้และผู้รับ
ในต่างประเทศมีการวิจัยอยู่ (ก็แสดงว่ามีกรณีที่บอก) พบว่า
ญาติผู้บริจาคเกิน 90% อยากรู้ว่าใครเป็นผู้รับ และเกินครึ่งอยากเจอ
หลายๆที่ก็เลยจะให้ข้อมูลแบบทั่วๆไป ที่สาวไปถึงตัวไม่ได้ เช่น เพศอะไร อายุเท่าไร เป็นอะไรถึงต้องรับบริจาคอวัยวะ หลังจากรับแล้วอาการเป็นอย่างไร และจะมีสิ่งที่แสดงความขอบคุณจากผู้รับบริจาค (ที่ไม่แสดงตัวตน)
ญาติผู้รับบริจาคและผู้รับบริจาคส่วนใหญ่พอใจแค่นี้ แต่ก็มีบางคนที่ยังอยากเห็นอยากเจออยู่
ผลเสียของการที่รู้ว่ารับจากใคร ทางฝั่งผู้รับก็มีการรายงานเรื่องความเครียด ความกดดันกับความคาดหวังของญาติผู้บริจาคอยู่พอสมควร (เช่นหวังว่า คนรับจะต้องเป็นคนดี คนเก่ง ต้องทำประโยขน์ให้สังคม ต้องดีอย่างน้อยก็เท่ากับคนบริจาค แต่ทีนี้ มาตรฐานของคนมันไม่เท่ากัน และการแสดงออกถึงความคาดหวังมันก็ควบคุมไม่ได้)
การบอกหรือไม่บอก พบหรือไม่พบ จึงยังเป็นประเด็นที่ยังต้องถกกันต่อไป
แต่ WHO ให้คำแนะนำไว้ว่า จะค้องรักษาความลับของผู้ป่วย ซึ่งในที่นี้ก็ทั้ง ผู้ให้และผู้รับ
ในต่างประเทศมีการวิจัยอยู่ (ก็แสดงว่ามีกรณีที่บอก) พบว่า
ญาติผู้บริจาคเกิน 90% อยากรู้ว่าใครเป็นผู้รับ และเกินครึ่งอยากเจอ
หลายๆที่ก็เลยจะให้ข้อมูลแบบทั่วๆไป ที่สาวไปถึงตัวไม่ได้ เช่น เพศอะไร อายุเท่าไร เป็นอะไรถึงต้องรับบริจาคอวัยวะ หลังจากรับแล้วอาการเป็นอย่างไร และจะมีสิ่งที่แสดงความขอบคุณจากผู้รับบริจาค (ที่ไม่แสดงตัวตน)
ญาติผู้รับบริจาคและผู้รับบริจาคส่วนใหญ่พอใจแค่นี้ แต่ก็มีบางคนที่ยังอยากเห็นอยากเจออยู่
ผลเสียของการที่รู้ว่ารับจากใคร ทางฝั่งผู้รับก็มีการรายงานเรื่องความเครียด ความกดดันกับความคาดหวังของญาติผู้บริจาคอยู่พอสมควร (เช่นหวังว่า คนรับจะต้องเป็นคนดี คนเก่ง ต้องทำประโยขน์ให้สังคม ต้องดีอย่างน้อยก็เท่ากับคนบริจาค แต่ทีนี้ มาตรฐานของคนมันไม่เท่ากัน และการแสดงออกถึงความคาดหวังมันก็ควบคุมไม่ได้)
การบอกหรือไม่บอก พบหรือไม่พบ จึงยังเป็นประเด็นที่ยังต้องถกกันต่อไป
แสดงความคิดเห็น
ทำไมหมอถึงไม่บอกเราว่าใครบริจาคอวัยวะให้เรา