สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
คุณไม่ได้วิตกกังวลเกินเหตุหรอกค่ะ
สมควรแล้ว ที่ช่วงนี้ ต้องระมัดระวังตัวเองและคนในครอบครัวให้มาก
ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง ระยะนี้ คือ ต้องทำเพื่อชาติ เพื่อสังคมส่วนรวมด้วยค่ะ
(อย่าทำทองไม่รู้ร้อน แล้วซ้ำเติมให้สถานการณ์มันแย่ลงกว่าเดิม ก็ดีมากแล้ว)
กรณีแฟนคุณ
แรกเริ่ม เขาโมโห เพราะถูกขัดใจค่ะ
ยิ่งเถียงนานไป ประสาทสัมผัสที่เคยมีเอาไว้รับรู้เหตุผล จะเริ่มเลือน เหลือเพียงทิฐิจะเอาชนะกัน
คุณเป็นผู้ใหญ่กว่า (ในที่นี้ คือ คุณมีเหตุผลมากกว่า) ก็ให้ยอมเขาหน่อย
หลอกล่อเหมือนคุยกับเด็ก ...
บอกเขาว่า รอให้สถานการณ์ดีกว่านี้ จะตามใจเขาทุกอย่าง
จะพาไปกิน จะป้อน จะเลี้ยง สารพัดวิธี งัดมาติดสินบนเขาให้ได้
ช่วงนี้ ซื้อมาทำกินกันที่บ้านไปก่อน กับพวกเพื่อนๆงด สังสรรค์ที่ร้านอาหาร
คุยออนไลน์เอา
เคล็ดลับคือ เสนอ โปรพิเศษให้เขาเยอะๆ ยอมอดกลั้นหน่อย แม้รู้ว่าเขาผิด
ที่ยอมก็เพื่อความปลอดภัยของคุณทั้งคู่ ...
พอเขาเห็นคุณง้อ เขาอาจจะบ่นกระปอดกระแปดต่อสักหน่อย
แต่เราเชื่อว่า เขาจะยอมมาพบคุณครึ่งทางนี้ค่ะ
สมควรแล้ว ที่ช่วงนี้ ต้องระมัดระวังตัวเองและคนในครอบครัวให้มาก
ไม่ใช่แค่เพื่อตัวเอง ระยะนี้ คือ ต้องทำเพื่อชาติ เพื่อสังคมส่วนรวมด้วยค่ะ
(อย่าทำทองไม่รู้ร้อน แล้วซ้ำเติมให้สถานการณ์มันแย่ลงกว่าเดิม ก็ดีมากแล้ว)
กรณีแฟนคุณ
แรกเริ่ม เขาโมโห เพราะถูกขัดใจค่ะ
ยิ่งเถียงนานไป ประสาทสัมผัสที่เคยมีเอาไว้รับรู้เหตุผล จะเริ่มเลือน เหลือเพียงทิฐิจะเอาชนะกัน
คุณเป็นผู้ใหญ่กว่า (ในที่นี้ คือ คุณมีเหตุผลมากกว่า) ก็ให้ยอมเขาหน่อย
หลอกล่อเหมือนคุยกับเด็ก ...
บอกเขาว่า รอให้สถานการณ์ดีกว่านี้ จะตามใจเขาทุกอย่าง
จะพาไปกิน จะป้อน จะเลี้ยง สารพัดวิธี งัดมาติดสินบนเขาให้ได้
ช่วงนี้ ซื้อมาทำกินกันที่บ้านไปก่อน กับพวกเพื่อนๆงด สังสรรค์ที่ร้านอาหาร
คุยออนไลน์เอา
เคล็ดลับคือ เสนอ โปรพิเศษให้เขาเยอะๆ ยอมอดกลั้นหน่อย แม้รู้ว่าเขาผิด
ที่ยอมก็เพื่อความปลอดภัยของคุณทั้งคู่ ...
พอเขาเห็นคุณง้อ เขาอาจจะบ่นกระปอดกระแปดต่อสักหน่อย
แต่เราเชื่อว่า เขาจะยอมมาพบคุณครึ่งทางนี้ค่ะ

แสดงความคิดเห็น
ทะเลาะกับแฟนเรื่อง แฟนชวนไปกินชาบูกับเพื่อนในสถานการณ์โควิดแบบนี้ ?
ทุกวันนี้เราไปทำงาน พยายามไม่สัมผัสกับใคร ใส่แมสก์ตลอด ยกเว้นดื่มน้ำ ข้าวเที่ยงกลับมากินที่บ้านคนเดียว ไม่กินข้าวร่วมกับคนอื่นเลยนอกจากแฟน
คือ ไม่อยากเสี่ยงตัวเอง และถ้าเราติด ก็ไม่อยากให้มีคนต้องลำบากเยอะ
แฟนทำงานคนละที่ แต่ที่ทำงานเค้าคนน้อย และแยกกันกินข้าวอยู่แล้ว
จังหวัดที่อยู่ ก็มีการระบาดอยู่ แต่ไม่ได้มากเหมือนเมืองใหญ่ๆ
ช่วงนี้ก็มีกินข้าวนอกบ้านบ้าง แต่ไปกินกันแค่สองคนกับแฟน ที่บ้านก็อยู่กันแค่สองคน
วันนี้แฟนชวนว่า ศุกร์นี้ไปกินชาบูแถวนี้กัน จะชวนเพื่อนด้วย
เพื่อนอยู่อำเภอเดียวกัน แต่ทำงานคนละที่ เราก็รู้สึกว่ายังไม่ควรกินชาบูด้วยกัน
คือ ชาบูอ่ะ เรารู้สึกว่าเสี่ยงเยอะ กินร่วมร้านกัน ไม่เสี่ยงเท่ากินร่วมหม้ออ่ะ
ช่วงนี้น่าจะแยกๆ ตัวหน่อย ป้องกันไว้ก่อน ทั้งเราและเพื่อนแหละ
แฟนก็หาว่าเราวิตกจริตมากเกินไป เค้าไม่กังวลเพื่อนเลย และถ้าจะต้องติดก็ติด เพราะก็ต้องดำเนินชีวิต
เราก็รู้สึกว่านี่มันเป็นสิ่งที่ป้องกันได้ ไม่ใช่สุดวิสัยแบบลูกค้าติดโควิดมาใช้บริการ หรือเพื่อนร่วมงานกัน
คือยังไม่จำเป็นต้องไปกินชาบูกับเพื่อนช่วงนี้ก็ได้มั้ย ไปกันสองคนก็ได้ ลดเสี่ยงกับเพื่อน
แฟนก็บ่นๆ และยืนยันว่าไม่สนใจหรอก จะไปกินกับเพื่อน เราวิตกจริตก็ไม่ต้องไป
เราก็รู้สึกว่า ถ้าแฟนไปเสี่ยงมาแล้วเกิดติดโควิด หรือเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูงขึ้นมา เราก็ต้องเสี่ยงด้วยเพราะก็นอนด้วยกันทุกวัน
แฟนก็เลยบอกว่า งั้นไม่นอนด้วยก็ได้ จะแยกไปนอนอีกห้อง
คือ อยู่บ้านเดียวกันมั้ย ถ้าใครคนนึงติดโควิด หรือสัมผัสเสี่ยงสูงมา อีกคนถึงไม่ติด ก็ต้องกักตัวอยู่ดี และคนรอบข้างที่สัมผัสเราก็ต้องนอยไปด้วยอยู่ดี
เราแค่อยากให้ป้องกันไว้ก่อน พยายามเลี่ยงอะไรที่เสี่ยง ไม่อยากให้คนรอบข้างต้องมากักตัวเพราะเรา และเราก็ไม่อยากกักตัว หรือติดโควิด
แต่แฟนไม่เห็นความเสี่ยง คิดว่าไม่เป็นไร และคิดว่าตัวเองระวังที่สุดแล้ว ถ้าจะต้องติดโควิดก็ไม่เป็นไร
คือ เรากังวลมากไปมั้ยคะ? หรือควรทำอย่างไรให้แฟนตระหนักบ้างดี?