คือเรื่องมันมีอยู่ว่าคนที่บ้านชอบให้เราไปขอตังค์แฟนเพราะเห็นว่าที่บ้านแฟนมีเงิน และตอนนี้แฟนก็เพิ่งเรียนจบเริ่มทำงาน เริ่มมีเงินแล้ว โดยให้เหตุผลว่าเราเสียตัวให้เขาแล้วก็ต้องได้อะไรคืนกลับมาบ้าง เห้อ เรานี่โคตรเซ็งกับตรรกะป่วยป่วยแบบนี้เลย😢
ท้าวความก่อนว่าก่อนหน้านี้เราขึ้นไปทำงานที่กรุงเทพประมาณหนึ่งปีแฟนก็เรียนอยู่ที่กรุงเทพพักอาศัยอยู่ที่ห้องเดียวกันแล้วก็เพิ่งจะกลับมาบ้านตอนที่โควิดระบาดรอบสามแฟนเรียนจบพอดีเราตัดสินใจแยกย้ายกันทำงานแยกย้ายกันทำหน้าที่ตัวเองแล้วก็คุยกันเข้าใจแล้วว่าจะช่วยกันทำงานหาเงินเก็บเงินซักสามสี่ปีแล้วก็จะแต่งงานกันซึ่งตรงนี้อ่ะไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเราเลย เราโทรคุยกันตลอดโทรคุยกันทุกวันไปไหนทำอะไรเราบอกกันเข้าใจกันตลอดแล้วก็ไว้ใจกันมากๆเพราะเราทั้งคู่ไม่ได้มีนิสัยเจ้าชู้ในตอนที่อยู่ด้วยกันก็ดูแลกันอย่างดีพอห่างกันแล้วก็ไว้ใจเชื่อใจกันก็จะมีแค่ความคิดถึงซึ่งถ้าโควิดมันเริ่มซาลงยังไงเราก็ได้ไปเจอกันไปเที่ยวกันเหมือนเดิมอยู่แล้ว แต่ที่บ้านก็จะครหาว่าอยู่ห่างกันแบบนี้จะไปรอดกันได้หรอ ก็เลยอยากให้เราขอเงินแฟนให้ได้มากๆเพราะกลัวว่าจะไปกันไม่รอด ไหนๆเราก็เสียตัวให้แฟนไปแล้วยังไงก็ขอคืนกลับมาบ้างก็ยังดี เราไม่เถียงนะว่าเราเสียตัวให้แฟนแล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคู่รักเลยแล้วเราก็อยู่ด้วยกันนอนห้องเดียวกันเตียงเดียวกันเป็นระยะเวลาหนึ่งปีถ้าบอกว่าไม่เคยมีอะไรกันมันไม่จริงอยู่แล้ว แต่แฟนเราเค้าไม่ได้เป็นคนเซ็กซ์จัดอะไรอยู่แล้วเราเองต่างหากที่บางทีก็ขอให้เขามีอะไรด้วย ถ้าพูดออกไปตอนนั้นคนที่บ้านก็คงตกใจอ่ะ คือแฟนเรานิสัยดีมากๆจริงๆ เราไม่ได้จะเถียงว่าแฟนเราจะดีแบบนี้ไปตลอดนะ อนาคตเขามีหน้าที่การงานดีเค้าเจอคนที่ใกล้กว่าถูกใจกว่าเค้าอาจจะเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ แต่แค่อยากให้เขาเข้าใจว่าณ ตอนนี้เราอยู่ห่างกันก็จริงแต่เราเข้าใจกันดีมากๆแล้วตอนนี้เราก็กำลังช่วยกันทำงานเก็บเงิน เราไม่ใช่ว่าจะ ไม่ฟังผู้ใหญ่ที่เขาอาบน้ำร้อนมาก่อนนะ แต่แค่ตอนนี้มันดีอยู่แล้วยังไม่ต้องไปคิดอะไรที่มันยังไม่เกิดได้ไหม เพราะว่าถ้าอนาคตมันไม่ได้เกิดอะไรแย่ๆแบบนั้นขึ้นมาจริงๆเท่ากับเราคิดฟรีเครียดฟรีเลยนะ อยากจะบอกว่าถ้าอนาคตมันไม่ได้ดีแบบที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้เราพร้อมจะเดินออกมาเลยแบบไม่เสียใจ อาจจะเสียใจเเหละ เเต่เราก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวเราไปทนอยู่กับคนไม่ดีอีกทำไม แต่เราค่อนข้างมั่นใจในตัวแฟนเราเลยว่า เค้าทำแบบที่เค้าพูดได้แล้วเราก็รอเค้าได้เหมือนกัน แล้วอีกอย่างหนึ่งเรางงกับตรรกะคนที่บ้านเรามากชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับเด็กแถวแถวบ้านที่ท้องก่อนแต่งอายุ 13 14 15 แบบเนี่ยว่าเขายังได้เงินสินสอดเลยแต่เราอ่ะนอนเสียตัวให้เขาแล้วจะไม่ได้อะไรคืนกลับมาบ้างเลยหรอทั้งทั้งที่มันไม่ใช่เรามีอะไรกันก็คือด้วยความรักไม่ใช่เพราะเงินแล้วเราก็ไม่เคยคิดว่าจะเลิกลากันไปด้วย เราคิดถึงอนาคตร่วมกันตลอดแต่ไม่รู้จะบอกยังไงให้เขาเข้าใจไม่รู้จะอธิบายกับความคิดน้ำเต็มแก้วของเค้ายังไง เค้าไม่รับฟังใครเลยจนเราก็ เราก็เหนื่อยจะอธิบายแล้ว แต่ถ้าในระหว่างที่รอแฟนเก็บเงินมาขอแต่งงานสามสี่ปีนี้ต้องเป็นแบบนี้ตลอดเราก็ไม่ไหวอ่ะพูดกับแฟนก็ไม่ได้กลัวแฟนจะมองคนที่บ้านเราไม่ดี ถ้าทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ทุกคนจะทำยังไงดีคะ
ช่วยด้วย!!เปลี่ยนความคิดคนที่บ้านยังไงดี
ท้าวความก่อนว่าก่อนหน้านี้เราขึ้นไปทำงานที่กรุงเทพประมาณหนึ่งปีแฟนก็เรียนอยู่ที่กรุงเทพพักอาศัยอยู่ที่ห้องเดียวกันแล้วก็เพิ่งจะกลับมาบ้านตอนที่โควิดระบาดรอบสามแฟนเรียนจบพอดีเราตัดสินใจแยกย้ายกันทำงานแยกย้ายกันทำหน้าที่ตัวเองแล้วก็คุยกันเข้าใจแล้วว่าจะช่วยกันทำงานหาเงินเก็บเงินซักสามสี่ปีแล้วก็จะแต่งงานกันซึ่งตรงนี้อ่ะไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับเราเลย เราโทรคุยกันตลอดโทรคุยกันทุกวันไปไหนทำอะไรเราบอกกันเข้าใจกันตลอดแล้วก็ไว้ใจกันมากๆเพราะเราทั้งคู่ไม่ได้มีนิสัยเจ้าชู้ในตอนที่อยู่ด้วยกันก็ดูแลกันอย่างดีพอห่างกันแล้วก็ไว้ใจเชื่อใจกันก็จะมีแค่ความคิดถึงซึ่งถ้าโควิดมันเริ่มซาลงยังไงเราก็ได้ไปเจอกันไปเที่ยวกันเหมือนเดิมอยู่แล้ว แต่ที่บ้านก็จะครหาว่าอยู่ห่างกันแบบนี้จะไปรอดกันได้หรอ ก็เลยอยากให้เราขอเงินแฟนให้ได้มากๆเพราะกลัวว่าจะไปกันไม่รอด ไหนๆเราก็เสียตัวให้แฟนไปแล้วยังไงก็ขอคืนกลับมาบ้างก็ยังดี เราไม่เถียงนะว่าเราเสียตัวให้แฟนแล้ว มันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคู่รักเลยแล้วเราก็อยู่ด้วยกันนอนห้องเดียวกันเตียงเดียวกันเป็นระยะเวลาหนึ่งปีถ้าบอกว่าไม่เคยมีอะไรกันมันไม่จริงอยู่แล้ว แต่แฟนเราเค้าไม่ได้เป็นคนเซ็กซ์จัดอะไรอยู่แล้วเราเองต่างหากที่บางทีก็ขอให้เขามีอะไรด้วย ถ้าพูดออกไปตอนนั้นคนที่บ้านก็คงตกใจอ่ะ คือแฟนเรานิสัยดีมากๆจริงๆ เราไม่ได้จะเถียงว่าแฟนเราจะดีแบบนี้ไปตลอดนะ อนาคตเขามีหน้าที่การงานดีเค้าเจอคนที่ใกล้กว่าถูกใจกว่าเค้าอาจจะเปลี่ยนแปลงไปก็ได้ แต่แค่อยากให้เขาเข้าใจว่าณ ตอนนี้เราอยู่ห่างกันก็จริงแต่เราเข้าใจกันดีมากๆแล้วตอนนี้เราก็กำลังช่วยกันทำงานเก็บเงิน เราไม่ใช่ว่าจะ ไม่ฟังผู้ใหญ่ที่เขาอาบน้ำร้อนมาก่อนนะ แต่แค่ตอนนี้มันดีอยู่แล้วยังไม่ต้องไปคิดอะไรที่มันยังไม่เกิดได้ไหม เพราะว่าถ้าอนาคตมันไม่ได้เกิดอะไรแย่ๆแบบนั้นขึ้นมาจริงๆเท่ากับเราคิดฟรีเครียดฟรีเลยนะ อยากจะบอกว่าถ้าอนาคตมันไม่ได้ดีแบบที่เป็นอยู่ ณ ตอนนี้เราพร้อมจะเดินออกมาเลยแบบไม่เสียใจ อาจจะเสียใจเเหละ เเต่เราก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวเราไปทนอยู่กับคนไม่ดีอีกทำไม แต่เราค่อนข้างมั่นใจในตัวแฟนเราเลยว่า เค้าทำแบบที่เค้าพูดได้แล้วเราก็รอเค้าได้เหมือนกัน แล้วอีกอย่างหนึ่งเรางงกับตรรกะคนที่บ้านเรามากชอบเอาเราไปเปรียบเทียบกับเด็กแถวแถวบ้านที่ท้องก่อนแต่งอายุ 13 14 15 แบบเนี่ยว่าเขายังได้เงินสินสอดเลยแต่เราอ่ะนอนเสียตัวให้เขาแล้วจะไม่ได้อะไรคืนกลับมาบ้างเลยหรอทั้งทั้งที่มันไม่ใช่เรามีอะไรกันก็คือด้วยความรักไม่ใช่เพราะเงินแล้วเราก็ไม่เคยคิดว่าจะเลิกลากันไปด้วย เราคิดถึงอนาคตร่วมกันตลอดแต่ไม่รู้จะบอกยังไงให้เขาเข้าใจไม่รู้จะอธิบายกับความคิดน้ำเต็มแก้วของเค้ายังไง เค้าไม่รับฟังใครเลยจนเราก็ เราก็เหนื่อยจะอธิบายแล้ว แต่ถ้าในระหว่างที่รอแฟนเก็บเงินมาขอแต่งงานสามสี่ปีนี้ต้องเป็นแบบนี้ตลอดเราก็ไม่ไหวอ่ะพูดกับแฟนก็ไม่ได้กลัวแฟนจะมองคนที่บ้านเราไม่ดี ถ้าทุกคนตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ทุกคนจะทำยังไงดีคะ