อย่างไรก็ตามในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเหตุการณ์นี้จะจบลงเมื่อใด อาจทำให้ต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน 1 เดือน หรือ 2 เดือน หรืออาจมากกว่านั้น ดังนั้นจึงควรที่จะดูแลรถเพื่อให้อยู่ในสภาพพร้อมสำหรับใช้งานอยู่เสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์จำเป็นจริงๆ จะได้มีรถยนต์พร้อมใช้งาน
Tips หรือเคล็ดลับดีๆ ในการ “ ดูแลรถอย่างไร เมื่อต้องจอดทิ้งไว้นานๆ ” ให้ทุกคนได้ลองปรับใช้กัน
1. สถานที่จอดรถ
หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ ควรเลือกจอดรถในที่ร่มที่มีหลังคากันแดด และหลีกเลี่ยงการจอดรถใต้ต้นไม้หรือใกล้ถังขยะ เพราะอาจมียางไม้หยดลงมาทำให้สีรถเสียหาย รวมไปถึงอาจมีกิ่งไม้หักลงมาทำให้เกิดรอยขีดข่วน ร้ายไปกว่านั้นอาจมีสัตว์ร้ายอย่างงู หรือหนูเข้ามาอาศัยหรือทำรังใต้กระโปรงรถก็ได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญสำหรับคนรักรถที่ไม่ควรมองข้ามคือ การจัดสรรพื้นที่จอดรถที่มีหลังคา เป็นพื้นที่ปิดสนิท บางบ้านรักรถมาก อาจจะมีโรงรถอัตโนมัติ ที่มาพร้อมสัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันความปลอดภัยด้วยระบบล็อคถึง 2 ชั้น ช่วยป้องกันการโจรกรรม และรีโมทสัญญาณแบบ BiSecur ที่ไม่สามารถก็อปปี้ได้ หรือหากบ้านใครมีคนชรา เด็กเล็กๆ สามารถติดเสริมเพิ่มเติมในส่วนของระบบเซ็นเซอร์แบบอินฟราเรด หากมีสิ่งกีดขวางหรือวัตถุเคลื่อนไหวผ่านระบบประตูจะหยุดทำงานทันที จึงปลอดภัยเหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง
2. แบตเตอรี่
ปัญหารถที่พบได้ประจำหลังจากที่ไม่ค่อยได้ใช้รถคือ แบตเตอรี่หมด แบตเสื่อม ไม่มีประจุไฟฟ้า หากแบตเตอรี่หมด สิ่งที่ควรทำ คือ การพ่วงระบบไฟเพื่อสตาร์ท หากพ่วงแบตเตอรี่อยู่เป็นประจำ อาจส่งผลทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้ ข้อแนะนำ ควรสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือหากทำได้ทุกวันก็จะดี
3.ลมยาง/ยางรถยนต์
รู้หรือไม่การจอดรถทิ้งไว้ที่บ้านนานๆ อาจส่งผลทำให้โครงยางเสียรูป ผลลัพธ์ที่ตามมาเวลาขับรถอาจเกิดอาการสั่น และเสียงดังผิดปกติได้ ฉะนั้นควรเติมลมยางอยู่เป็นประจำ หรือ นำรถขับออกไปข้างนอกบ้าง หรือหากมีความจำเป็นต้องจอดรถนานๆ ควรยกรถตั้งบนแท่นวางทั้ง 4 ล้อ ช่วยให้น้ำหนักรถไม่กดทับลงบนยาง
4. ของเหลวในรถยนต์
แนะนำให้ทำการเช็ค น้ำมันเครื่องหรือน้ำในหม้อน้ำอย่างสม่ำเสมอ และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 5,000 หรือ 10,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 6 เดือนแล้วแต่รุ่นของรถ เพราะน้ำมันเครื่องก็มีวันหมดอายุและเสื่อมสภาพเช่นกัน
5. สตาร์ทเครื่องยนต์นำออกไปใช้งานบ้าง
ควรขับรถยนต์ออกไปใช้นอกบ้านบ้าง เนื่องจากในรถยนต์นั้นมีชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ต่างๆ ที่เป็นจุดหมุน หากไม่มีการขยับตัวก็อาจเกิดอาการเส้นยึดได้
6. การทำความสะอาดรถ
ควรหมั่นทำความสะอาดรถเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกฝังติดแน่น และใช้ผ้าคลุมคลุมรถเพื่อป้องกันฝุ่นเกาะ และรักษาสีรถยนต์จากแสงแดด สำหรับภายในรถ ควรหมั่นดูดฝุ่นและถอดพรมปูพื้นมาซัก 2 ครั้งต่อเดือน หรือเดือนละครั้ง นอกจากจะช่วยให้รถสะอาดเหมือนใหม่แล้ว ยังลดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคร้ายที่มองไม่เห็นได้อีกด้วย
7. เติมน้ำมันให้เต็มถัง
เมื่อน้ำมันไม่เต็มถังมีที่ว่าง อาจเกิดการควบแน่นของความชื้นกลายเป็นหยดน้ำเกาะตามพื้นที่ว่างในถังน้ำมัน ซึ่งหากจอดรถทิ้งไว้นานๆ อาจทำให้เกิดสนิมส่งผลให้ระบบน้ำมันอุดตันได้ ฉะนั้นควรเติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่เสมอ
ดูแลรถอย่างไร เมื่อต้องจอดทิ้งไว้นานๆ WFH
อย่างไรก็ตามในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าเหตุการณ์นี้จะจบลงเมื่อใด อาจทำให้ต้องจอดรถทิ้งไว้เป็นเวลานาน 1 เดือน หรือ 2 เดือน หรืออาจมากกว่านั้น ดังนั้นจึงควรที่จะดูแลรถเพื่อให้อยู่ในสภาพพร้อมสำหรับใช้งานอยู่เสมอ เมื่อเกิดเหตุการณ์จำเป็นจริงๆ จะได้มีรถยนต์พร้อมใช้งาน
Tips หรือเคล็ดลับดีๆ ในการ “ ดูแลรถอย่างไร เมื่อต้องจอดทิ้งไว้นานๆ ” ให้ทุกคนได้ลองปรับใช้กัน
1. สถานที่จอดรถ
หลีกเลี่ยงการจอดรถกลางแจ้งเป็นเวลานานๆ ควรเลือกจอดรถในที่ร่มที่มีหลังคากันแดด และหลีกเลี่ยงการจอดรถใต้ต้นไม้หรือใกล้ถังขยะ เพราะอาจมียางไม้หยดลงมาทำให้สีรถเสียหาย รวมไปถึงอาจมีกิ่งไม้หักลงมาทำให้เกิดรอยขีดข่วน ร้ายไปกว่านั้นอาจมีสัตว์ร้ายอย่างงู หรือหนูเข้ามาอาศัยหรือทำรังใต้กระโปรงรถก็ได้ ดังนั้นสิ่งสำคัญสำหรับคนรักรถที่ไม่ควรมองข้ามคือ การจัดสรรพื้นที่จอดรถที่มีหลังคา เป็นพื้นที่ปิดสนิท บางบ้านรักรถมาก อาจจะมีโรงรถอัตโนมัติ ที่มาพร้อมสัญญาณกันขโมย ระบบป้องกันความปลอดภัยด้วยระบบล็อคถึง 2 ชั้น ช่วยป้องกันการโจรกรรม และรีโมทสัญญาณแบบ BiSecur ที่ไม่สามารถก็อปปี้ได้ หรือหากบ้านใครมีคนชรา เด็กเล็กๆ สามารถติดเสริมเพิ่มเติมในส่วนของระบบเซ็นเซอร์แบบอินฟราเรด หากมีสิ่งกีดขวางหรือวัตถุเคลื่อนไหวผ่านระบบประตูจะหยุดทำงานทันที จึงปลอดภัยเหมาะสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง
2. แบตเตอรี่
ปัญหารถที่พบได้ประจำหลังจากที่ไม่ค่อยได้ใช้รถคือ แบตเตอรี่หมด แบตเสื่อม ไม่มีประจุไฟฟ้า หากแบตเตอรี่หมด สิ่งที่ควรทำ คือ การพ่วงระบบไฟเพื่อสตาร์ท หากพ่วงแบตเตอรี่อยู่เป็นประจำ อาจส่งผลทำให้แบตเตอรี่เสื่อมได้ ข้อแนะนำ ควรสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือหากทำได้ทุกวันก็จะดี
3.ลมยาง/ยางรถยนต์
รู้หรือไม่การจอดรถทิ้งไว้ที่บ้านนานๆ อาจส่งผลทำให้โครงยางเสียรูป ผลลัพธ์ที่ตามมาเวลาขับรถอาจเกิดอาการสั่น และเสียงดังผิดปกติได้ ฉะนั้นควรเติมลมยางอยู่เป็นประจำ หรือ นำรถขับออกไปข้างนอกบ้าง หรือหากมีความจำเป็นต้องจอดรถนานๆ ควรยกรถตั้งบนแท่นวางทั้ง 4 ล้อ ช่วยให้น้ำหนักรถไม่กดทับลงบนยาง
4. ของเหลวในรถยนต์
แนะนำให้ทำการเช็ค น้ำมันเครื่องหรือน้ำในหม้อน้ำอย่างสม่ำเสมอ และควรเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องทุก 5,000 หรือ 10,000 กิโลเมตร หรือทุกๆ 6 เดือนแล้วแต่รุ่นของรถ เพราะน้ำมันเครื่องก็มีวันหมดอายุและเสื่อมสภาพเช่นกัน
5. สตาร์ทเครื่องยนต์นำออกไปใช้งานบ้าง
ควรขับรถยนต์ออกไปใช้นอกบ้านบ้าง เนื่องจากในรถยนต์นั้นมีชิ้นส่วนและอุปกรณ์ที่ต่างๆ ที่เป็นจุดหมุน หากไม่มีการขยับตัวก็อาจเกิดอาการเส้นยึดได้
6. การทำความสะอาดรถ
ควรหมั่นทำความสะอาดรถเป็นประจำทุกอาทิตย์ เพื่อป้องกันฝุ่นและสิ่งสกปรกฝังติดแน่น และใช้ผ้าคลุมคลุมรถเพื่อป้องกันฝุ่นเกาะ และรักษาสีรถยนต์จากแสงแดด สำหรับภายในรถ ควรหมั่นดูดฝุ่นและถอดพรมปูพื้นมาซัก 2 ครั้งต่อเดือน หรือเดือนละครั้ง นอกจากจะช่วยให้รถสะอาดเหมือนใหม่แล้ว ยังลดการเจริญเติบโตของเชื้อโรคร้ายที่มองไม่เห็นได้อีกด้วย
7. เติมน้ำมันให้เต็มถัง
เมื่อน้ำมันไม่เต็มถังมีที่ว่าง อาจเกิดการควบแน่นของความชื้นกลายเป็นหยดน้ำเกาะตามพื้นที่ว่างในถังน้ำมัน ซึ่งหากจอดรถทิ้งไว้นานๆ อาจทำให้เกิดสนิมส่งผลให้ระบบน้ำมันอุดตันได้ ฉะนั้นควรเติมน้ำมันให้เต็มถังอยู่เสมอ