ผมชอบเขียนหนังสือเป็นอย่างมาก และอยากจะเขียนให้เพื่อน ๆ หรือ คนทุกคนได้อ่านเรื่องที่ผมเขียน อาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ได้เรื่องหรือได้เรื่อง ผมก็อยากจะเขียนให้คุณได้อ่านกัน แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องแรก ผมสมัครสมาชิกไปแล้ว มิทราบว่าผ่านเหรือยัง? จึงลองเขียนไปเสียก่อน และผมก็เพิ่งเข้ามาเป็นสมาชิกไม่นานมานี้เอง จึงยังนึกเรื่องจะเขียนไม่ออก พอทำหรือเขียนได้มาก ๆ แล้ว ค่อยคุ้นแล้วจะเขียนออกไป ตอนนี้ ของลองเขียนเพียงแค่นี้ก่อน ไม่รู้ว่าจะผ่านหรือเปล่า? ผิดพลาดประการใด ขออภัยเป็นอย่างสูงด้วยครับ.
ผมสามารถเขียนแก้ไขเพิ่มเติมได้อีกนี่นา? และเขียนเรื่องสั้นได้ยาวมากขึ้นกว่าเดิมด้วย คงต้องเขียนต่อไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ คงดีเหมือนกัน เรื่องการเขียนเรื่องสั้นนี้ หากนึกเรื่องจะเขียนเป็นรูปเป็นร่างไม่ออก ก็ดูกระอักกระอ่วนใจเต็มทน ในการจะเข็นขืนเขียนเรื่องที่นึกไม่ออก นี่อาจเป็นความเจ็บปวดอย่างหนึ่งของคนเขียนหนังสือ ทว่า การจะรอแต่ให้เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นมาแล้วทำการเขียน ผิดวิสัยของคนชอบเขียนหนังสือไปสักหน่อย อันได้แก่ความหมายที่ว่า จะรอแต่ให้เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นมา แล้วจึงเขียน หากเรื่องไม่ดีแล้วไม่ฝืนเขียน ก็จะเกิดสันดานของความขี้เกียจในการเขียนขึ้นมาได้ ดังนี้แล้ว ผมจึงต้องฝืนเขียนให้เสมอไป แม้ว่าเรื่องที่เขียนจะไม่ค่อยได้เรื่อง ไม่เป็นเรื่อง ไม่ดี ไม่ได้อรรถรสอะไรสมบูรณ์ก็ตาม แต่ยังยืนยันในเจตนาของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมว่า จะไม่มีทางหยุดทำการเขียน หรือ รอแต่โอกาสให้เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นมาเองเลย จะต้องทำการอย่างขยันหม่ันเพียรอุตสาหะอย่างยิ่งยวด ในการเขียนอย่างเป็นเนืองนิจ.
เขียนไม่ออกเอาดื้อ ๆ หนึ่งจุดศูนย์หกนาที ของวันที่ใกล้สิ้นเดือนเมษายน หกสี่ เขียนหนังสือไม่ออกเอาดื้อ ๆ ตายห่า มองดูช่องในการตั้งกระทู้ หรือ เขียนหนังสือหมื่นตัวอักษร แต่ตอนนี้เขียนได้พันกว่า ๆ แสดงว่าเหลืออีกมากมาย ที่สามารถเขียนลงได้อีก เรื่องที่ผมคิดเขียนเป็นเรื่องสั้นที่ไม่ค่อยจะเป็นเรื่องสั้นนั้นมีข้อความดังต่อไปนี้
ในการแข่งขันระดับโลกรายการหนึ่ง ที่มีชื่อว่า "ใครสามารถทำให้เข็ดฟันได้?" โดยเหลือประเทศที่เข้าแข่งขันชิงตำแหน่งกันสามประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และ ประเทศไทย. ตัวแทนสหรัฐอเมริกาคว้าถาดพิซซาขึ้นมากัดกินอย่างตะกละตะกลาม แต่คณะกรรมก็มิได้เข็ดฟันแต่อย่างไรหากแต่รู้สึกพะอืดพะอมเท่านั้น ส่วนประเทศหมีขาว ด้วยความเป็นอยู่ในประเทศที่หนาวจัด จึงหยิบขวดวอสก้าขึ้นมาดื่มอึก ๆ จนหมดขวด แต่การกระทำก็หาทำให้คณะกรรมการตัดสินบรรลุจุดประสงค์ ในการเข็ดฟันก็หาไม่ ส่วนไทยแลนด์ของเรา เหลียวหน้าเหลียวหลังมองกรรมการเลิ่กลั่ก เพราะเป็นประเทศที่ค่อนข้างเล็กกว่าประเทศทั้งสอง จึงล้วงพืชผลไม้ประจำประเทศที่เรียกกันว่ามะขาม กับ มะม่วง ขึ้นมากัดกร้วม ๆ จนทำให้คณะกรรมการน้ำลายสอไปตาม ๆ กัน.(จบ)
ท่านคิดว่า เรื่องสั้นข้างบนนี้เป็นอย่างไร? ส่วนผมมีความรู้สึกว่า ในเรื่องสั้นนี้ มีข้อดีข้อเสียดังที่ผมจะวิจารณ์ได้ดังต่อไปนี้
เป็นเรื่องสั้นที่มีมุขฝืดอยู่หลายส่วน อันสามารถแจกแจงได้ดังนี้
หนึ่ง เป็นเรื่องสั้นที่ไม่ได้มาตรฐานเอาเสียเลยในด้านของความยาว หากเรื่องนี้ถูกเขียนให้คนนอกประเทศไทยอ่าน คงไม่ได้ผลอย่างเป็นแน่ ๆ มันคงได้ผลแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ดังนี้เรา น่าจะใส่ให้กรรมการที่ตัดสินนั้นเป็นกรรมการคนไทยทั้งหมด จึงจะสมเหตุผล
สอง คำในเรื่องสั้นเรื่องนี้ ดูดีทีเดียว ผมหมายความว่า ไม่ได้ใช้คำซ้ำมากนัก คำที่ดูจะส่งผลอย่างตรง ๆ กับคนอ่านค่อนข้างเห็นผล ได้แก่ คำว่าตะกละตะกลาม เลิกลั่ก กร้วม ๆ ... คำอย่างนี้น่าสนใจตรงที่ แสดงอาการกริยาได้ชัดเจน อย่างเห็นการกระทำได้อย่างชัดเจน แต่ก็นั่นแหละ เป็นคำที่สมควรในการพินิจพิจารณา ใช้อย่างให้ถ้วนถี่ หรือ มั่นใจเป็นอย่างดีแล้ว จึงควรใช้ นี่เป็นความเห็นสำหรับเรื่องสั้นเรื่องนี้.
.
ผมเขียนมาถึงสามพันกว่าตัวอักษรแล้ว ในสองสามวัน แต่จะหาเรื่องสั้นที่เป็นเรื่องดี ๆ อย่างชัดเจนยังไม่ได้เอาเลย ได้แต่เขียนเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ๆ และทราบดีว่า คงไม่ค่อยมีใครเข้ามาอ่านสักเท่าไหร่? แต่เป็นการดีอย่างหนึ่ง ที่ผมได้เขียนเอาไว้อย่างที่ตั้งใจต้องการจะทำ. มีหลายอย่างที่สามารถกระทำสื่อสารในเรื่องสั้นได้ ตัวอย่าง เรื่องการเขียนหนังสือด้วยการใช้เสียง การใช้ภาพประกอบ และการใช้วิดีโอ แต่ผมกลับเลือกแต่การเขียนเพียงอย่างเดียวเป็นการสื่อสาร เพราะไม่ชอบทำอย่างอื่นเข้ามาปะปนกับการเขียน แม้ว่าโลกในการเขียนจะเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการผสมผสานกับเรื่องอื่น ๆ แต่ผมยังชอบแต่การเขียนเพียงอย่างเดียวเป็นเสียส่วนมาก เพราะหากใช้อย่างอื่นเข้ามาประสมในการเขียน ดูจะกลายเป็นว่า ตัวหนังสือในการสื่อสารจะด้อยลงไปเสียมากกว่า ด้วยการเขียนหนังสือ ผมคิดว่าต้องเป็นแต่การเขียนด้วยการใช้แต่หนังสือเพียงอย่างเดียว เป็นเครื่องนำทาง อันนี้เป็นแต่ความในใจของผมคนเดียวที่ชอบเอาแต่ตัวหนังสือเป็นเรื่องเอก ในการสื่อสาร มากกว่าการเอาอย่างอื่นเข้ามาผสมผเส.
รอว่าพรุ่งนี้ ผมจะพบเรื่องสั้นที่ดีหรือเปล่าครับ สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อนครับผม
ผมมาเขียนต่ออีก ในจำนวนสี่พันกว่าตัวอักษร เรื่องสั้นสักเรื่องเป็นอย่างดี ก็ยังไม่ออกมาเลยสักเรื่อง แต่ผมลองจะรอดูอีกสักหน่อย เผื่อว่าเรื่องสั้นที่ผมคิดเขียนจะเดินทางมาก็ได้ เรื่องการเดินทางมาของเรื่องสั้นแต่ละเรื่องนั้น มีการมาแตกต่างกัน ตัวอย่าง ในตอนเช้าจะคิดเรื่องที่จะเขียนนั้นได้อย่างมากมายหลายเรื่อง แต่พอสายแดดจ้าขึ้นมาเรื่อย ๆ เจ้าเรื่องสั้นหลายเรื่องที่คิดขึ้นมาได้นั้น เริ่มทยอยหายไปทีละเรื่องสองเรื่อง และขุ่นมัวในตอนบ่าย ๆ แทบจะคิดเรื่องสั้นที่เขียนให้ออกไม่ได้เลย แต่ต้องรอ การรอให้เกิดเรื่องสั้นสักเรื่องนั้นเป็นความสุขอย่างหนึ่ง เพราะการมาของเรื่องสั้นนั้นแตกต่างกันในช่วงของวันเวลา ส่วนมากเรื่องสั้นดี ๆ ผมคิดออกตอนเข้าห้องน้ำ และกำลังจะขี้ลงส้วม เรื่องสั้นหลายเรื่องคิดออกขณะทำงาน มีบางเรื่องสั้นหลายเรื่องที่คิดออกตอนถูกเมียด่าประณามว่าเป็นไอ้บ้า เรื่องสั้นดี ๆ บางเรื่องเกิดจากสภาพความกดดัน กับ ภาวะในการสิ้นหวัง และในบางเรื่องเกิดขึ้นมาอย่างหยาบโลนวิจิตรวิตถารบนความต้องการ "เขียนอะไรก็ได้ ขอแต่ให้คนได้อ่านและซื้อเรื่องที่ผมเขียน?"...ฯลฯ
ผมเขียนทุกอย่าง แม้แต่ภาวะสิ้นไร้กำลังใจ ซึ่งไม่ค่อยจะมี หรือ อาจจะมีน้อย เพราะการเขียนมามาก เพราะการเลี้ยงชีวิตเลี้ยงชีพส่วนใหญ่ด้วยการคิดเขียน บังคับให้ผมเขียนสู้เพื่อให้ได้สิ่งต่าง ๆ ในการนำมาใช้ดำรงชีวิตต่อลมหายใจของตัวเอง ของคนที่อยุ่ข้าง ๆ ผม แม้การเขียนจะไม่ได้นำความภาคภุมิใจ หรือ การกล่าวขานถึงว่าเป็นผู้มีการงานทำ มีเงินมีรายได้เหมือนกับอาชีพอย่างอื่นเลยก็ตาม แต่ผมต้องเขียน เพราะนี่คือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ผมมีอยู่ในตัวเอง.
* เรื่องการเขียนเรื่องสั้น ในความท้าทายกับการค้นหาทางสัจธรรม เป็นอีกทางหนึ่งที่ผมชอบเขียน เพราะเป็นการท้าทายความคิดของตัวกับของคนอื่นได้เป็นอย่างดี ผมถูกใครหลายคนการด่าในใจเกี่ยวกับการเขียนเรื่องทำนองนี้ แต่ผมมิได้กลัวเกรง หรือ ต้องการแต่จะเขียนเพื่อให้ได้รับคำชมว่า "เขียนในทางสร้างสรรค์" เพียงอย่างเดียว ผมจะเขียนสร้างสรรค์ได้อย่างไร เมื่อไม่เคยเขียนผ่านความล้มเหลว หรือ ไม่เคยเขียนผ่านในการแสดงออกของการยืนยันในเจตนารมณ์ของตัวเอง อย่างหนึ่งอย่างใดเลย.
เรื่องสั้นเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องไร้สาระ และพยายามจะเขียนให้เต็มจำนวนคำอย่างเต็มที่อันสาระเสียเต็มกลืน ความละลานตาในการมองเห็นตัวหนังสือของตัวเองเขียน มันก็เท่านั้น เป็นแค่ความสุขของคนบ้า ๆ คนหนึ่งที่พยายามจะเขียนหนังสือให้ได้มากที่สุดเท่านั้นเอง เพื่ออะไรกันล่ะหรือ? อย่างน้อย ๆ หัวใจที่อึดอัดของผมก็ได้ระบายออกทางตัวหนังสืออยู่บ้างเหมือนกัน ผมขอสารภาพตามตรงครั้งที่นับไม่ถ้วนทั่วว่า ผมเป็นคนไร้สาระที่สุดในการที่จะทำการเขียนอย่างจะขาดเสียไม่ได้ ถึงแม้ว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่มีสาระ ไม่มีคนอ่านก็ตาม หรือ เรื่องนี้ดำเนินไปบนความซ้ำซากอย่างจำเจเป็นที่สุด ตัวหนังสือเดินทางมาถึงหกพันกว่าคำ และผมคิดว่า มันคงจะถามผมว่า "เขียนหาหอกอะไรว่ะ?"

อยู่หรอก) เช่นเดียวกัน ผมจะไม่ตอบคำถามจากการที่ตัวหนังสือถามผมหรอก เพราะอย่างน้อย ผมก็เขียนมาจนจวนจะเจ็ดพันตัวอักษรแล้ว มันคือ ความสุขอย่างงมงายอย่างหนึ่ง ที่จะทำตามความเชื่อของตัวเอง อย่างไม่ต้องสงสัยในการหาคำตอบ หรือ ความต้องการอันใดแต่อย่างใด สักธุลีเดียว.
เหลืออีกสามพันตัวอักษร ก็ครบหนึ่งหมื่นพอดี ตอนนี้ขอเขียนไว้เท่านี้ก่อนครับ.
.
ห่างหายการเขียนไปเสียนาน พอจะมาเขียนใหม่กลายเป็นว่าเรื่องที่จะเขียนนั้นไม่ต่อเนื่องกันเสียแล้ว อย่างไรก็ตาม คิดไว้ในใจว่าจะเขียนให้ครับจำนวนข้อความหมื่นตัวอักษร ก็ต้องเขียนให้ได้อย่างที่ตั้งใจไว้.
.
เรื่องแนวคิด ในการเขียนเรื่องสั้นนั้นมีมากมายอยู่เหมือนกัน แต่พอเอาเข้าจริงก็เขียนไม่ได้สมกับความคิดของตัวเองสักที อาจเป็นไปได้ว่า ต้องใช้เวลาในการเตรียมการเขียนอยู่เหมือนกัน ครั้นจะตั้งหน้าตั้งตาเขียนตะลุยอย่างเก่าก็กะไรอยู่ เพราะการเขียนอย่างว่านี้ ล้วนแต่เต็มไปด้วยความใคร่หิวกระหายในการเขียนเสียมากกว่า ส่วนการเขียนในตอนนี้ ผมต้องเขียนตามแต่ความตั้งใจอย่างปลอดโปร่งอันอิสระที่จะทำการเขียนให้เป็นการงานอย่างอิสระบริสุทธิ์เท่านั้น ชนิดไม่ได้เต็มไปด้วยตัณหาความอยากอย่างมากมายจนทำให้ผุ้เขียนมีความเป็นทุกข์เลย นี่คือ เรื่องราวในการที่ผมจะตั้งใจเขียนในเวลาที่เหลืออยู่ คือ การเขียนอย่างเป็นอิสระปลอดโปร่งในตัวเอง ชนิดไม่ให้งานเขียนนี้กัดตัวผมเอง ผมคิดเอาไว้อย่างนี้ เรื่องที่จะทำได้หรือไม่ได้นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในจิตใจคนเขียนหนังสืออย่างผมเท่านั้น.
.
เรื่องที่น่าเขียนเป็นเรื่องต่อไปนี้ เรื่องเหตุการณ์ในถิ่นชนบทที่ผมอาศัยอยู่ กับ การเข้ามาของโรคระบาด คือ โควิด 19 เรื่องหนึ่ง อีกเรื่องชีวิตของผมในความหมายของการติดคุกพันธนาการในแง่ของนามธรรม ผมไม่ได้ติดคุก แต่ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ผมมีความรู้สึกว่าตัวเองถูกพันธนาการด้วยอะไรหลายอย่าง การรับผลกรรมในการดื่มเหล้าอย่างหนัก การมีความคิดที่ว่าตัวเองเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้พี่ชายตาย พี่ชายผมสติไม่ค่อยดี คล้ายคนบ้า ต่อมาผมจึงเป็นเหมือนกับพี่ชาย อันมีลักษณะหลายอย่างคล้ายกัน และผมคิดว่าตัวเองบ้าเข้าไปทุกขณะ, และ เกือบหกปี ไม่กี่เดือนก็จะครบหกปีที่ผมแต่งงานกับผู้หญิงสารพัดความทราม ที่ผมตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงและหลอกใช้ เหมือนกับเป็นขี้ข้าอะไรบางอย่าง, สิ่งทั้งหลาย เรื่องราวที่ผมกล่าวมานี้ ผมได้ยินเสียงจากคนนุ่งขาวห่มขาว ถือ ศีล ทุกวันพระบอกว่า ผมนี่แหละเป็นคนมีกรรม แต่มาในวันนี้ ผมมีลักษณะความรู้สึกหลายอย่างว่าผมหลุดพ้นจากคุกที่ขังผมมาอย่างยาวนาน เมื่อผมมีอิสระที่จะทำอะไรได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามตัวเองต้องการ ชนิดไม่ให้ตัวเอง หรือ คนอื่นเดือดร้อน. ผมกลัวล่ะหรือ? กับคนถือศีลนุ่งขาวห่มขาวคนนั้นที่ตีตราว่าผมเป็นคนบาป คนมีกรรม แล้วเขาล่ะ? หลุดพ้นไปมากมายกว่าผมล่ะหรือ? ผมอยากจะลองวัดใจกับพวกเขาเหล่านี้ทุกคน ที่ตีตรามาที่ผมว่าเป็นคนมีกรรม เป็นคนบาปหนัก ผมจะคอยดูคนที่ไม่มีกรรมอย่างพวกเขาว่า จะสามารถทน หรือ หลีกหนีพ้นเรื่องอย่างที่พวกเขาว่ากับผมได้หรือเปล่า? ผมจะคอยดู มันคงจะสนุกดีพิลึกทีเดียว.
.
เขียนมาได้เก้าพันห้าร้อยตัวอักษรแล้ว อีกย่อหน้าหนึ่งคงครบพอดี.
.
ดูท่าทางว่าผมจะชอบเขียนเรื่องราวให้ครบเสียอย่างที่กำหนดไว้แล้วซิ? ตอนนี้ผมเขียนได้ช้าสักหน่อย เพราะใช้มือทำงานหนักไปหน่อย ตัวอย่าง เรื่องการฝ่าฟืนในการหุงหาประกอบอาหาร กับ การพิมพ์แต่ในมือถือ การพิมพ์ในโน็ตบุคส์จึงไม่รวดเร็วอย่างแต่ก่อน ต้องพิมพ์ตั้งนานมือจึงได้ทำท่าทำทางเหมือนจะอ่อนอย่างแต่ก่อน เรื่องการใช้มือทำงานหนักนี้ดูจะไปไม่ได้เลยทีเดียวกับการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่จะไปได้ดีกับการพิมพ์แบบพิมพ์ดีดมืออย่างแต่ก่อน ต้องทนพิม
เรื่องสั้น
ผมสามารถเขียนแก้ไขเพิ่มเติมได้อีกนี่นา? และเขียนเรื่องสั้นได้ยาวมากขึ้นกว่าเดิมด้วย คงต้องเขียนต่อไปเรื่อย ๆ อย่างนี้ คงดีเหมือนกัน เรื่องการเขียนเรื่องสั้นนี้ หากนึกเรื่องจะเขียนเป็นรูปเป็นร่างไม่ออก ก็ดูกระอักกระอ่วนใจเต็มทน ในการจะเข็นขืนเขียนเรื่องที่นึกไม่ออก นี่อาจเป็นความเจ็บปวดอย่างหนึ่งของคนเขียนหนังสือ ทว่า การจะรอแต่ให้เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นมาแล้วทำการเขียน ผิดวิสัยของคนชอบเขียนหนังสือไปสักหน่อย อันได้แก่ความหมายที่ว่า จะรอแต่ให้เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นมา แล้วจึงเขียน หากเรื่องไม่ดีแล้วไม่ฝืนเขียน ก็จะเกิดสันดานของความขี้เกียจในการเขียนขึ้นมาได้ ดังนี้แล้ว ผมจึงต้องฝืนเขียนให้เสมอไป แม้ว่าเรื่องที่เขียนจะไม่ค่อยได้เรื่อง ไม่เป็นเรื่อง ไม่ดี ไม่ได้อรรถรสอะไรสมบูรณ์ก็ตาม แต่ยังยืนยันในเจตนาของตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมว่า จะไม่มีทางหยุดทำการเขียน หรือ รอแต่โอกาสให้เรื่องดี ๆ เกิดขึ้นมาเองเลย จะต้องทำการอย่างขยันหม่ันเพียรอุตสาหะอย่างยิ่งยวด ในการเขียนอย่างเป็นเนืองนิจ.
เขียนไม่ออกเอาดื้อ ๆ หนึ่งจุดศูนย์หกนาที ของวันที่ใกล้สิ้นเดือนเมษายน หกสี่ เขียนหนังสือไม่ออกเอาดื้อ ๆ ตายห่า มองดูช่องในการตั้งกระทู้ หรือ เขียนหนังสือหมื่นตัวอักษร แต่ตอนนี้เขียนได้พันกว่า ๆ แสดงว่าเหลืออีกมากมาย ที่สามารถเขียนลงได้อีก เรื่องที่ผมคิดเขียนเป็นเรื่องสั้นที่ไม่ค่อยจะเป็นเรื่องสั้นนั้นมีข้อความดังต่อไปนี้
ในการแข่งขันระดับโลกรายการหนึ่ง ที่มีชื่อว่า "ใครสามารถทำให้เข็ดฟันได้?" โดยเหลือประเทศที่เข้าแข่งขันชิงตำแหน่งกันสามประเทศได้แก่ สหรัฐอเมริกา รัสเซีย และ ประเทศไทย. ตัวแทนสหรัฐอเมริกาคว้าถาดพิซซาขึ้นมากัดกินอย่างตะกละตะกลาม แต่คณะกรรมก็มิได้เข็ดฟันแต่อย่างไรหากแต่รู้สึกพะอืดพะอมเท่านั้น ส่วนประเทศหมีขาว ด้วยความเป็นอยู่ในประเทศที่หนาวจัด จึงหยิบขวดวอสก้าขึ้นมาดื่มอึก ๆ จนหมดขวด แต่การกระทำก็หาทำให้คณะกรรมการตัดสินบรรลุจุดประสงค์ ในการเข็ดฟันก็หาไม่ ส่วนไทยแลนด์ของเรา เหลียวหน้าเหลียวหลังมองกรรมการเลิ่กลั่ก เพราะเป็นประเทศที่ค่อนข้างเล็กกว่าประเทศทั้งสอง จึงล้วงพืชผลไม้ประจำประเทศที่เรียกกันว่ามะขาม กับ มะม่วง ขึ้นมากัดกร้วม ๆ จนทำให้คณะกรรมการน้ำลายสอไปตาม ๆ กัน.(จบ)
ท่านคิดว่า เรื่องสั้นข้างบนนี้เป็นอย่างไร? ส่วนผมมีความรู้สึกว่า ในเรื่องสั้นนี้ มีข้อดีข้อเสียดังที่ผมจะวิจารณ์ได้ดังต่อไปนี้
เป็นเรื่องสั้นที่มีมุขฝืดอยู่หลายส่วน อันสามารถแจกแจงได้ดังนี้
หนึ่ง เป็นเรื่องสั้นที่ไม่ได้มาตรฐานเอาเสียเลยในด้านของความยาว หากเรื่องนี้ถูกเขียนให้คนนอกประเทศไทยอ่าน คงไม่ได้ผลอย่างเป็นแน่ ๆ มันคงได้ผลแต่ในประเทศไทยเท่านั้น ดังนี้เรา น่าจะใส่ให้กรรมการที่ตัดสินนั้นเป็นกรรมการคนไทยทั้งหมด จึงจะสมเหตุผล
สอง คำในเรื่องสั้นเรื่องนี้ ดูดีทีเดียว ผมหมายความว่า ไม่ได้ใช้คำซ้ำมากนัก คำที่ดูจะส่งผลอย่างตรง ๆ กับคนอ่านค่อนข้างเห็นผล ได้แก่ คำว่าตะกละตะกลาม เลิกลั่ก กร้วม ๆ ... คำอย่างนี้น่าสนใจตรงที่ แสดงอาการกริยาได้ชัดเจน อย่างเห็นการกระทำได้อย่างชัดเจน แต่ก็นั่นแหละ เป็นคำที่สมควรในการพินิจพิจารณา ใช้อย่างให้ถ้วนถี่ หรือ มั่นใจเป็นอย่างดีแล้ว จึงควรใช้ นี่เป็นความเห็นสำหรับเรื่องสั้นเรื่องนี้.
.
ผมเขียนมาถึงสามพันกว่าตัวอักษรแล้ว ในสองสามวัน แต่จะหาเรื่องสั้นที่เป็นเรื่องดี ๆ อย่างชัดเจนยังไม่ได้เอาเลย ได้แต่เขียนเรื่อยเปื่อยไปเรื่อย ๆ และทราบดีว่า คงไม่ค่อยมีใครเข้ามาอ่านสักเท่าไหร่? แต่เป็นการดีอย่างหนึ่ง ที่ผมได้เขียนเอาไว้อย่างที่ตั้งใจต้องการจะทำ. มีหลายอย่างที่สามารถกระทำสื่อสารในเรื่องสั้นได้ ตัวอย่าง เรื่องการเขียนหนังสือด้วยการใช้เสียง การใช้ภาพประกอบ และการใช้วิดีโอ แต่ผมกลับเลือกแต่การเขียนเพียงอย่างเดียวเป็นการสื่อสาร เพราะไม่ชอบทำอย่างอื่นเข้ามาปะปนกับการเขียน แม้ว่าโลกในการเขียนจะเปลี่ยนแปลงไป ด้วยการผสมผสานกับเรื่องอื่น ๆ แต่ผมยังชอบแต่การเขียนเพียงอย่างเดียวเป็นเสียส่วนมาก เพราะหากใช้อย่างอื่นเข้ามาประสมในการเขียน ดูจะกลายเป็นว่า ตัวหนังสือในการสื่อสารจะด้อยลงไปเสียมากกว่า ด้วยการเขียนหนังสือ ผมคิดว่าต้องเป็นแต่การเขียนด้วยการใช้แต่หนังสือเพียงอย่างเดียว เป็นเครื่องนำทาง อันนี้เป็นแต่ความในใจของผมคนเดียวที่ชอบเอาแต่ตัวหนังสือเป็นเรื่องเอก ในการสื่อสาร มากกว่าการเอาอย่างอื่นเข้ามาผสมผเส.
รอว่าพรุ่งนี้ ผมจะพบเรื่องสั้นที่ดีหรือเปล่าครับ สำหรับวันนี้พอแค่นี้ก่อนครับผม
ผมมาเขียนต่ออีก ในจำนวนสี่พันกว่าตัวอักษร เรื่องสั้นสักเรื่องเป็นอย่างดี ก็ยังไม่ออกมาเลยสักเรื่อง แต่ผมลองจะรอดูอีกสักหน่อย เผื่อว่าเรื่องสั้นที่ผมคิดเขียนจะเดินทางมาก็ได้ เรื่องการเดินทางมาของเรื่องสั้นแต่ละเรื่องนั้น มีการมาแตกต่างกัน ตัวอย่าง ในตอนเช้าจะคิดเรื่องที่จะเขียนนั้นได้อย่างมากมายหลายเรื่อง แต่พอสายแดดจ้าขึ้นมาเรื่อย ๆ เจ้าเรื่องสั้นหลายเรื่องที่คิดขึ้นมาได้นั้น เริ่มทยอยหายไปทีละเรื่องสองเรื่อง และขุ่นมัวในตอนบ่าย ๆ แทบจะคิดเรื่องสั้นที่เขียนให้ออกไม่ได้เลย แต่ต้องรอ การรอให้เกิดเรื่องสั้นสักเรื่องนั้นเป็นความสุขอย่างหนึ่ง เพราะการมาของเรื่องสั้นนั้นแตกต่างกันในช่วงของวันเวลา ส่วนมากเรื่องสั้นดี ๆ ผมคิดออกตอนเข้าห้องน้ำ และกำลังจะขี้ลงส้วม เรื่องสั้นหลายเรื่องคิดออกขณะทำงาน มีบางเรื่องสั้นหลายเรื่องที่คิดออกตอนถูกเมียด่าประณามว่าเป็นไอ้บ้า เรื่องสั้นดี ๆ บางเรื่องเกิดจากสภาพความกดดัน กับ ภาวะในการสิ้นหวัง และในบางเรื่องเกิดขึ้นมาอย่างหยาบโลนวิจิตรวิตถารบนความต้องการ "เขียนอะไรก็ได้ ขอแต่ให้คนได้อ่านและซื้อเรื่องที่ผมเขียน?"...ฯลฯ
ผมเขียนทุกอย่าง แม้แต่ภาวะสิ้นไร้กำลังใจ ซึ่งไม่ค่อยจะมี หรือ อาจจะมีน้อย เพราะการเขียนมามาก เพราะการเลี้ยงชีวิตเลี้ยงชีพส่วนใหญ่ด้วยการคิดเขียน บังคับให้ผมเขียนสู้เพื่อให้ได้สิ่งต่าง ๆ ในการนำมาใช้ดำรงชีวิตต่อลมหายใจของตัวเอง ของคนที่อยุ่ข้าง ๆ ผม แม้การเขียนจะไม่ได้นำความภาคภุมิใจ หรือ การกล่าวขานถึงว่าเป็นผู้มีการงานทำ มีเงินมีรายได้เหมือนกับอาชีพอย่างอื่นเลยก็ตาม แต่ผมต้องเขียน เพราะนี่คือสมบัติชิ้นสุดท้ายที่ผมมีอยู่ในตัวเอง.
* เรื่องการเขียนเรื่องสั้น ในความท้าทายกับการค้นหาทางสัจธรรม เป็นอีกทางหนึ่งที่ผมชอบเขียน เพราะเป็นการท้าทายความคิดของตัวกับของคนอื่นได้เป็นอย่างดี ผมถูกใครหลายคนการด่าในใจเกี่ยวกับการเขียนเรื่องทำนองนี้ แต่ผมมิได้กลัวเกรง หรือ ต้องการแต่จะเขียนเพื่อให้ได้รับคำชมว่า "เขียนในทางสร้างสรรค์" เพียงอย่างเดียว ผมจะเขียนสร้างสรรค์ได้อย่างไร เมื่อไม่เคยเขียนผ่านความล้มเหลว หรือ ไม่เคยเขียนผ่านในการแสดงออกของการยืนยันในเจตนารมณ์ของตัวเอง อย่างหนึ่งอย่างใดเลย.
เรื่องสั้นเรื่องนี้กลายเป็นเรื่องไร้สาระ และพยายามจะเขียนให้เต็มจำนวนคำอย่างเต็มที่อันสาระเสียเต็มกลืน ความละลานตาในการมองเห็นตัวหนังสือของตัวเองเขียน มันก็เท่านั้น เป็นแค่ความสุขของคนบ้า ๆ คนหนึ่งที่พยายามจะเขียนหนังสือให้ได้มากที่สุดเท่านั้นเอง เพื่ออะไรกันล่ะหรือ? อย่างน้อย ๆ หัวใจที่อึดอัดของผมก็ได้ระบายออกทางตัวหนังสืออยู่บ้างเหมือนกัน ผมขอสารภาพตามตรงครั้งที่นับไม่ถ้วนทั่วว่า ผมเป็นคนไร้สาระที่สุดในการที่จะทำการเขียนอย่างจะขาดเสียไม่ได้ ถึงแม้ว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่มีสาระ ไม่มีคนอ่านก็ตาม หรือ เรื่องนี้ดำเนินไปบนความซ้ำซากอย่างจำเจเป็นที่สุด ตัวหนังสือเดินทางมาถึงหกพันกว่าคำ และผมคิดว่า มันคงจะถามผมว่า "เขียนหาหอกอะไรว่ะ?"
เหลืออีกสามพันตัวอักษร ก็ครบหนึ่งหมื่นพอดี ตอนนี้ขอเขียนไว้เท่านี้ก่อนครับ.
.
ห่างหายการเขียนไปเสียนาน พอจะมาเขียนใหม่กลายเป็นว่าเรื่องที่จะเขียนนั้นไม่ต่อเนื่องกันเสียแล้ว อย่างไรก็ตาม คิดไว้ในใจว่าจะเขียนให้ครับจำนวนข้อความหมื่นตัวอักษร ก็ต้องเขียนให้ได้อย่างที่ตั้งใจไว้.
.
เรื่องแนวคิด ในการเขียนเรื่องสั้นนั้นมีมากมายอยู่เหมือนกัน แต่พอเอาเข้าจริงก็เขียนไม่ได้สมกับความคิดของตัวเองสักที อาจเป็นไปได้ว่า ต้องใช้เวลาในการเตรียมการเขียนอยู่เหมือนกัน ครั้นจะตั้งหน้าตั้งตาเขียนตะลุยอย่างเก่าก็กะไรอยู่ เพราะการเขียนอย่างว่านี้ ล้วนแต่เต็มไปด้วยความใคร่หิวกระหายในการเขียนเสียมากกว่า ส่วนการเขียนในตอนนี้ ผมต้องเขียนตามแต่ความตั้งใจอย่างปลอดโปร่งอันอิสระที่จะทำการเขียนให้เป็นการงานอย่างอิสระบริสุทธิ์เท่านั้น ชนิดไม่ได้เต็มไปด้วยตัณหาความอยากอย่างมากมายจนทำให้ผุ้เขียนมีความเป็นทุกข์เลย นี่คือ เรื่องราวในการที่ผมจะตั้งใจเขียนในเวลาที่เหลืออยู่ คือ การเขียนอย่างเป็นอิสระปลอดโปร่งในตัวเอง ชนิดไม่ให้งานเขียนนี้กัดตัวผมเอง ผมคิดเอาไว้อย่างนี้ เรื่องที่จะทำได้หรือไม่ได้นั้น เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเกิดขึ้นในจิตใจคนเขียนหนังสืออย่างผมเท่านั้น.
.
เรื่องที่น่าเขียนเป็นเรื่องต่อไปนี้ เรื่องเหตุการณ์ในถิ่นชนบทที่ผมอาศัยอยู่ กับ การเข้ามาของโรคระบาด คือ โควิด 19 เรื่องหนึ่ง อีกเรื่องชีวิตของผมในความหมายของการติดคุกพันธนาการในแง่ของนามธรรม ผมไม่ได้ติดคุก แต่ช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมา ผมมีความรู้สึกว่าตัวเองถูกพันธนาการด้วยอะไรหลายอย่าง การรับผลกรรมในการดื่มเหล้าอย่างหนัก การมีความคิดที่ว่าตัวเองเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้พี่ชายตาย พี่ชายผมสติไม่ค่อยดี คล้ายคนบ้า ต่อมาผมจึงเป็นเหมือนกับพี่ชาย อันมีลักษณะหลายอย่างคล้ายกัน และผมคิดว่าตัวเองบ้าเข้าไปทุกขณะ, และ เกือบหกปี ไม่กี่เดือนก็จะครบหกปีที่ผมแต่งงานกับผู้หญิงสารพัดความทราม ที่ผมตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงและหลอกใช้ เหมือนกับเป็นขี้ข้าอะไรบางอย่าง, สิ่งทั้งหลาย เรื่องราวที่ผมกล่าวมานี้ ผมได้ยินเสียงจากคนนุ่งขาวห่มขาว ถือ ศีล ทุกวันพระบอกว่า ผมนี่แหละเป็นคนมีกรรม แต่มาในวันนี้ ผมมีลักษณะความรู้สึกหลายอย่างว่าผมหลุดพ้นจากคุกที่ขังผมมาอย่างยาวนาน เมื่อผมมีอิสระที่จะทำอะไรได้ทุกสิ่งทุกอย่างตามตัวเองต้องการ ชนิดไม่ให้ตัวเอง หรือ คนอื่นเดือดร้อน. ผมกลัวล่ะหรือ? กับคนถือศีลนุ่งขาวห่มขาวคนนั้นที่ตีตราว่าผมเป็นคนบาป คนมีกรรม แล้วเขาล่ะ? หลุดพ้นไปมากมายกว่าผมล่ะหรือ? ผมอยากจะลองวัดใจกับพวกเขาเหล่านี้ทุกคน ที่ตีตรามาที่ผมว่าเป็นคนมีกรรม เป็นคนบาปหนัก ผมจะคอยดูคนที่ไม่มีกรรมอย่างพวกเขาว่า จะสามารถทน หรือ หลีกหนีพ้นเรื่องอย่างที่พวกเขาว่ากับผมได้หรือเปล่า? ผมจะคอยดู มันคงจะสนุกดีพิลึกทีเดียว.
.
เขียนมาได้เก้าพันห้าร้อยตัวอักษรแล้ว อีกย่อหน้าหนึ่งคงครบพอดี.
.
ดูท่าทางว่าผมจะชอบเขียนเรื่องราวให้ครบเสียอย่างที่กำหนดไว้แล้วซิ? ตอนนี้ผมเขียนได้ช้าสักหน่อย เพราะใช้มือทำงานหนักไปหน่อย ตัวอย่าง เรื่องการฝ่าฟืนในการหุงหาประกอบอาหาร กับ การพิมพ์แต่ในมือถือ การพิมพ์ในโน็ตบุคส์จึงไม่รวดเร็วอย่างแต่ก่อน ต้องพิมพ์ตั้งนานมือจึงได้ทำท่าทำทางเหมือนจะอ่อนอย่างแต่ก่อน เรื่องการใช้มือทำงานหนักนี้ดูจะไปไม่ได้เลยทีเดียวกับการพิมพ์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ แต่จะไปได้ดีกับการพิมพ์แบบพิมพ์ดีดมืออย่างแต่ก่อน ต้องทนพิม