เมื่อเยซูมาเป็นสายสืบ ตอนที่ 2

โลกที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง เกิดมา จากไป ขาว ดำ สรรค์สร้างและทำลาย... แต่น้ำพระทัยที่มีต่อลูกของพระองค์จะไม่มีวันเหือดหาย... 
 
     อีกวันที่แสนจะธรรมด๊าธรรมดาภายในห้องเช่าแคบๆ ราคาถูก ที่ภายในทั้งคับคั่งเพราะโสโครก อีกทั้งยังมีกลิ่นอับที่ทำเอาจมูกแทบจะ.... (ไม่ต้องอธิบายหรอกเนอะ)
 
"โอ๊ยยยยยยยยยยยยยย ไม่ไหวแล้ววน้าาาาาาา! " เยซูตะโกนลั่นออกนอกหน้าต่าง ทำเอาข้างห้องถึงกับชะโงกหน้าออกมาดู ก่อนที่สายตาทุกคู่จะจับจ้องไปที่เขาพร้อมพูดว่า
 
"เป็น ยิ้มไรของ!?? "
 
"....................................................................."
 
 
"ร้อนเอาเรื่อง ไม่น่าล่ะ พระบิดาถึงไหม้เกรียมโต้แดดเป็นว่าเล่น" เยซูนึกในใจพลางนอนกลิ้งไปมาอยู่กลางห้องที่แทบไม่มีอะไรนอกจากผ้าปูบางๆ และหมอนที่ทั้งเก่าและแฟบใบนึง
 
"ข้าควรทำเช่นไร... "
 เยซูบ่นพึมพำก่อนสายตาจะเบิกโพลงเหมือนนึกอะไรขึ้นได้ พลางลุกขึ้นนั่งและพูดว่า
 
"ข้าต้องสวดภาวนา! "
 
ไม่รอช้าก็รีบปัดที่ตัวเองนั่ง สูดหายใจเข้าลึกๆ หลับตาและพูดว่า
 
"ข้าแต่พระบิดาของข้าพเจ้าทั้งหลาย
พระองค์สถิตในสวรรค์
พระนามพระองค์จงเป็นที่สักการะ
พระอาณาจักรจงมาถึง
พระประสงค์จงสำเร็จในแผ่นดินเหมือนในสวรรค์
 
โปรดประทานอาหารประจำวัน แก่ข้าพเจ้าทั้งหลายในวันนี้
โปรดประทานอภัยแก่ข้าพเจ้า เหมือนข้าพเจ้าให้อภัยแก่ผู้อื่น
โปรดช่วยข้าพเจ้าไม่ให้แพ้การผจญ
แต่โปรดช่วยให้พ้นจากความชั่วร้ายเทอญ"
 
เยซูกุมมือแน่นพร้อมเหงื่อที่ไหลย้อยด้วยสีหน้าที่ตึงเครียดก่อนจะพูดออกมาเบาๆ ว่า
 
"ได้โปรดบอกข้าพระองค์เถิด ว่าข้าพระองค์ควรทำเช่นไร... "
 
ทันใดนั้นแรงลมที่อับเฉาอยู่ๆ ก็ฮึดอุตลุดเหมือนผีเข้าสิงพัดเหวี่ยงไปมา ทำเอาเศษฝุ่นและขยะปลิวละล่องเข้ามาในห้องจนเยซูต้องหรี่ตา ก่อนที่แรงลมจะพัดหายไปพร้อมแสงแดดที่กลับมาจ้ายิ่งกว่าเก่า จนผิวนี่แทบจะหลอมละลาย
 
เยซูเม้มปากแน่นพลางมองไปรอบห้องที่ตอนนี้กลายเป็นกองขยะหนักกว่าเก่า ก่อนจะถอนหายใจและพึมพำว่า
 
"พระองค์ทรงเปี่ยมด้วยความเมตตาแท้... "
 
บ่ายวันนั้นกับท้องที่ร้องจ๊อกๆ ทำเอาเยซูจำใจตื่นด้วยความหงุดหงิด (จากเสียงร้องของท้องตัวเอง) พระองค์ปาดเหงื่อที่ไหลซึมกับเส้นผมที่เปียกชุ่มด้วยสีหน้าเหนื่อยล้าและเบื่อหน่าย เพราะความร้อนทำเอาความคิดแตกกระเจิง เยซูเลยตบหน้าตัวเองแรงๆ เป็นการกระตุ้น และลุกยืนแทบจะเสี้ยววิพร้อมตะโกนออกไปว่า
 
"เอาโว้ย สู้! "
 
"สู้... สู้... สู้... สู้... สู้... สู้... "
 
เสียงตะโกนดังกึกก้องไปมา ก่อนที่เสียงข้างห้องจะโต้กลับมาว่า
 
"ไอ้สั**........................ "
 
 
ณ ทางเดินแห่งหนึ่ง
 
เยซูเดินตะลอนทั่วพร้อมแฮมเบอร์เกอร์ก้อนใหญ่ที่ถืออยู่ในมือกับเสียงเคี้ยวตุ้ยๆ และเสียงบ่นงึมงำว่า
 
"น่าแปลก คนสมัยนี้เปลี่ยนไปเยอะเสียจริง กะอีแค่ซื้อของ หน้านี่บูดยังกะตูด... เหนื่อยใจแท้... "
 
ความคิดอันวุ่นวายถูกตัดบทด้วยเสียงร้องที่ไม่เป็นภาษา ทำเอาเยซูชะงักเมื่อได้ยินก่อนจะละหันขวับๆ จนคอแทบเคล็ด
 
"เสียงไรน่ะ? พิลึกชะมัด หรือว่าจะเป็นการสวดภาวนาหาพระบิดารูปแบบใหม่ ไปดูหน่อยดีกว่า"
ไม่รอช้า ก็ตรงรี่ไปที่ต้นตอของเสียง
 
เสียงเหล่านั้นพล่ามเหมือนสวดภาวนาดังไปทั่วโบสถ์ทำเอาเยซูตาลุกวาวเมื่อเห็นวิหารแห่งนี้
 
ตัวโบสถ์ทำด้วยปูนสีขาวเพียว มีลวดลายที่วิจิตรตระการตาแปะป้ายด้วยสีแดงและทองเด่นชัดอร่ามทั่ว ผู้คนจำนวนมากนั่งสงบนิ่งกับท่าพนมมือที่เยซูไม่เคยเห็น เยซูกวาดตาทั่วด้วยสายตาอันแวววาว ก่อนจะเพ่งไปที่ต้นเสียงซึ่งเหมือนจะมาจากนักบวชกลุ่มหนึ่ง แต่ที่แปลกตายิ่งกว่า คือการแต่งกายที่ปกคลุมไปด้วยผ้าสีเหลืองๆ พันรอบตัวกับผมที่ไม่มีสักกะเส้น
 
"ว้าวววววววววววววววววววววววววววววววว... "
 
ไม่รอช้าก็ปรี่ตัวเข้าไปใกล้แบบถึงเนื้อถึงหนัง ทำเอาคนทั้งศาลาเหลือบตามองด้วยความสงสัย แต่สิ่งที่สะดุดตาสะพรึงใจยิ่งกว่าคือรูปปั่นที่มีเอกลักษณ์แบบฝุดๆ โครงหน้าที่เอบอิ่มสมบูรณ์ ทรงผมอันมีเอกลักษณ์ ดวงตารีลง งดงามและอ่อนโยน ใบหูที่ยาวผิดแปลก รวมถึงการแต่งกายที่ละม้ายคล้ายกับกลุ่มคนที่นั่งสวด
 
"ทำไมพระบิดาข้าถึงมีรูปลักษณ์เปลี่ยนไปเช่นนี้?"
 
ความว้าวนี้ ยาวและตระการตายิ่งกว่าไหนๆ ก่อนจะปรี่เปลี่ยนทิศเข้าไปใกล้พร้อมสำรวจลูบคลำ
 
แต่ความว้าวนี้กลับต้องสะดุด เพราะเสียงซุบซิบและเสียงฝีเท้าที่ตรงเข้ามา ก่อนจะถูกแรงเหวี่ยงยกร่างของเขา  ปลิวละล่องลอยแบบสโลว์โมชันออกนอกเขตโบสถ์ด้วยสายตานับสิบที่แสดงความพอใจแบบฝุดๆ
 
"คนบ้าที่ไหนก็ไม่รู้ ติดยาแหงๆ.... "
 
เสียงซุบซิบดังทั่ว ทำเอาเยซูงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนจะหันไปพูด
 
"ข้าคือบุตรของพระเจ้า พวกท่านอาจไม่ทราบ แต่ข้าก็ไม่... "
 
"ปั้ง! "
 
ยังไม่ทันจะพูดจบ เสียงประตูโบสถ์ก็ปิดอัดใส่หน้า พร้อมลมที่กระพือทำเอาหน้าแทบสะบัด
เยซูนั่งนิ่งมองประตูที่ปิดสนิทด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ก่อนถอนหายใจด้วยความเซ็ง พลางเงยหน้ามองฟ้าและพูดว่า
 
"ข้าแต่พระบิดา... ลูกเสียใจยิ่งนักที่..."
 
"พี่ทำไรอะ? " เสียงของเด็กผู้ชายแทรกขึ้น ทำเอาเยซูสะดุ้งโหยงพร้อมหันมอง
 
"เอ่อ....."
 
ยังไม่ทันจะพูดสักกะจิ๊ด เด็กคนนั้นก็ตะโกนแทรกพร้อมกับประโยคที่ทำเอาขนตูดลุกได้ว่า
 
"ป้าๆ มีคนบ้ามานั่งตรงนี้ด้วยล่ะฮะ"
 
 "นานิ!? "
 
เยซูถึงขั้นอุทาน ก่อนที่ภาพแบบเดจาวูจะปรากฏซ้ำอีกครั้งในเพียงไม่กี่วิ ก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่นอกเขตรั้วโบสถ์
เยซูเม้มปากแน่นพร้อมยืนปัดตูดไปมา ก่อนจะยืนเท้าสะเอวและพูดว่า
 
"ลูกควรทำเช่นไรดี...."
 
"แมะ..."
 
พระบิดาตอบกลับเช่นเคยแต่มาในรูป...
 
"ขี้นก.."
 
เยซูหลับตาและพูดว่า
 
"สรรเสริญพระนามพระองค์... อาเมน..."
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่