หมอศิริราชสับถ้อยแถลงที่ไร้แถลงให้ข้อมูลสะเปะสะปะเกาไม่ถูกที่โควิด-19 ระบาดมากขึ้น
https://www.thansettakij.com/content/covid_19/477159
หมอศิริราชสับถ้อยแถลงที่ไร้แถลงให้ข้อมูลสะเปะสะปะเกาไม่ถูกที่โควิด-19 ระบาดมากขึ้น ระบุเตรียมซักซ้อมลูกทีมรับมือ
รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความว่า
ถ้าจะรอถึงรอบโพสต์เจ็ดวันคงขาดดิ้นแดดายเป็นแน่แท้ สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า สูงสุดคืนสู่สามัญ ถ้อยแถลงที่ไร้แถลง หากซื้อหวยก็คงถูกแหงแซะ ผ่านไปแค่ 6 วัน 18-23 เม.ย. ยอดใหม่ทั้งประเทศพุ่งพรวดมาแตะหนึ่งหมื่นพอดี โดย กทม.และปริมณฑลยังครองแชมป์กว่าหนึ่งในสาม นั่นหมายความถึงคำทำนายใกล้จะเป็นจริง ในเมื่อภาคประชาชนส่วนใหญ่พยายามร่วมมือกัน แต่ยังมีส่วนน้อยไม่ยอมหยุดนิ่ง
สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มเห็นผู้ป่วยจำนวนมากที่เก็บตัวอยู่บ้านแต่เผลอไปกินข้าวหรือซื้อของข้างนอกชั่วครั้งชั่วคราวก็ติดเชื้อ ผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคเรื้อรังไม่ออกไปไหนแต่มีลูกหลานหรือคนรู้จักมาเยี่ยมมากราบพร้อมนำเชื้อมาฝาก เพื่อนร่วมงานเผลอพูดคุยเล่นหัวใกล้ชิดหรือกินอาหารร่วมกันโดยไม่ระวังก็ต้องไปป้ายจมูกและกักตัว และรูปแบบอื่นๆ อีกมากมายจนยากจะจาระไน ต่างกับสองระลอกก่อนที่ไม่ว่ายากดีมีจนล้วนไม่พ้นเชื้อร้ายที่มองไม่เห็นนี้
แน่นอนเมื่อฐานจำนวนผู้ป่วยรวมสะสมแต่ต้นเดือนข้ามหลักสองหมื่นโดยไม่ต้องออกแรงลุ้น ย่อมพบผู้ป่วยอาการรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นวิกฤต ควบคู่กันไปคือกระแสดรามาในสังคม เป็นธรรมดายามที่ผู้คนมองหาที่พึ่งได้ไม่เด่นชัด เหลียวหาไปที่ส่วนหัวก็ดูแต่เหมือนจะหลงประเด็นจับต้นชนปลายกันไม่ถูกที่ถูกทาง การบริหารจัดการข้อมูลดูสะเปะสะปะไร้จุดหมาย (ต้องโทษกลุ่มคนชงด้วย) นำมาซึ่งการดำเนินงานที่แสนเงื่องหงอยเกาไม่ถูกที่คัน
อย่ากระนั้นเลยทุ่มเทให้กับงานดูแลผู้ป่วยโควิด-19 (Covid-19)ที่เริ่มหลั่งไหลกันมาทุกสารทิศดีกว่า รอบนี้อาวุธดีพร้อมนึกว่าจะมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ศัตรูมีลูกเล่นหลากหลาย แถมโถมเข้ามาแบบไม่ให้ทันตั้งตัวติด ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปการรักษาระดับความสูญเสียร้ายแรงแบบกู่ไม่กลับที่ 0.3% คงจะยาก ว่าแล้วหันไปปลุกขวัญลูกทีมที่กำลังรับศึกหนักกันแบบไม่มีหลังพิงดีกว่า ควบคู่ไปกับการซักซ้อมเมื่อยามเข้าตาจนที่ไม่รู้จะไปบ่นกับใคร
#ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3573071769465147&id=100002870789106
หญิงดับ 1 ราย หลังฉีดวัคซีน ผู้เชี่ยวชาญชี้ไม่เกี่ยว แต่เพราะมีโรคประจำตัว ญาติยังติดใจ
https://www.matichon.co.th/covid19/news_2688227
เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของ
โรงพยาบาลสามเงา ได้โพสต์เอกสาร รายงานผลการพิจารณาอาการภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยว่า
รายงานผลการพิจารณา กรณีบุคลากรโรงพยาบาลสามเงา เสียชีวิตภายหลังการได้รับวัคซีนโควิด 19 โดยคณะผู้เชี่ยวชาญอาการภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
ทั้งนี้ ภายในเอกสารดังกล่าว ได้ระบุว่า กองระบาดวิทยา ได้รับรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคจากวัคซีนโควิด 19 จำนวน 1 ราย โดย ที่โรงพยาบาลสามเงา เสียชีวิต 1 ราย
โดยผลจกการพิจารณา ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอาการภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ระบุว่า สาเหตุของการเสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่เป็นเหตุการณ์ร่วม โดยผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเดิมคือไขมันในเลือดสูง และเบาหวานที่ไม่ได้กินยาสม่ำเสมอ ผลการชันสูตรพบเส้นเลือดหัวใจเส้นใหญ่ตีบ มีรอยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเดิม ร่วมกับผู้ป่วยมีประวัติเจ็บปวดสะบักด้านซ้ายเป็นๆหายๆ ซึ่งอาจเป็นอาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดมาก่อนแต่ที่ไม่เคยได้รับการรักษา นอกจากนี้อาการท้องเสียอาจเป็นเหตุเสริมทำให้ อาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเป็นมากขึ้นได้
อย่างไรก็ดี ในโลกออนไลน์ ได้โพสต์ภาพสเตตัสของญาติผู้เสียชีวิต ที่ออกมาบอกว่า ผลชันสูตรยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ ทางโรงพยาบาลไม่ได้แจ้งครอบครัวก่อนจะลง และข้อมูลการทานยาไม่สม่ำเสมอ รวมทั้งปวดสะบักซ้ายมาก่อน ทางครอบครัวไม่ได้มีใครให้ข้อมูลเช่นนั้น ไม่แน่ใจว่า ต้องการสื่อให้ไปทางหัวใจขาดเลือดจากพฤติกรรมที่ไม่ดีหรือเปล่า
แม่ผมก็เป็นพยาบาลในโรงพยาบาลสาธารณสุขตรวจสุขภาพทุกปี ทำไมถึงไม่รอผลชันสูตรทางการก่อน รวมทั้งมั่นใจแค่ไหนหรือมีหลักฐานงานวิจัยชิ้นไหน ว่าวัคซีนไม่ได้มีผลต่อเลือดหรือหลอดเลือด
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. ทางเฟซบุ๊กของ โรงพยาบาลสามเงา ได้ลบโพสต์รายงานดังกล่าวออกไป
อัพ VGB อดีตนักกีฬาอีสปอร์ต ติดโควิดเสียชีวิต กักตัวรอตรวจหลายวันจนโคม่า
https://www.amarintv.com/news/detail/76620
อัพ VGB อดีตนักกีฬาอีสปอร์ต ติดโควิดเสียชีวิต เผยกักตัวรอตรวจ หลายวันจนอาการโคม่า สายด่วนโทรไม่ติด - โทรเช็กเตียงตาม รพ.กลับโดนด่า
วันนี้(24 เม.ย.64) เวลาประมาณ 01.00 น. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก
Prab Laoharojanaphan โพสต์แจ้งข่าวการจากไปของ
“อัพ VGB” นายกุลทรัพย์ วัฒนผล นักกีฬาอีสปอร์ตยุคแรกๆ ของไทย ซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยต้องรอนานมากกว่า 1 สัปดาห์ ระบุ
"หากใครโตทัน “คลื่นลูกแรก” ของวงการอีสปอร์ตไทย ในยุคที่การแข่งเกมเป็นเรื่องของเด็กเนิร์ดกลุ่มเล็กๆของประเทศนี้ เวลาจัดแข่งทีก็ไปเหมาร้านเกมแข่งขันกัน เวลาไปแข่งกับต่างประเทศก็ต้องออกเงินกันเอง เช่าเซิฟเวอร์แข่งกันเอง ไม่มีสปอนเซอร์ ไม่มีเงินรางวัลหลักแสนหลักล้าน มีแต่รางวัลเป็นอุปกรณ์คอมฯ มูลค่าไม่กี่บาท
ใครที่โตทันยุคนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก “พี่อัพ VGB” กุลทรัพย์ วัฒนผล หัวหน้าแคลน VGB (Vagabond Team) ทีมอีสปอร์ตที่ใหญ่มากๆ เมื่อ 17 ปีก่อน ส่งแข่งทุกรายการ กับเกมทุกประเภท ตั้งแต่เกมแข่งรถ เกมฟุตบอล ไปจนถึงเกมวางแผนการรบ
หลังจากที่ครอบครัวซื้อคอมพิวเตอร์ที่เล่นเกมได้เครื่องแรกตอน ม.3 ซึ่งเปิดโอกาสให้เราเข้าถึงชุมชนออนไลน์ของเหล่าฮาร์ดคอเกมเมอร์ (ไม่ใช่แค่เล่นเกมออนไลน์ แต่เป็น PC Master Race) ที่ตอนนั้นยังเป็นเพียงเด็กเนิร์ดไม่กี่คนจากโรงเรียน-มหาลัยต่างๆ การได้รู้จักกับพี่อัพถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตวัยเด็ก
พี่อัพในฐานะหัวหน้าแคลน VGB ได้เปิด “โลกการแข่งขัน” อย่างมืออาชีพของเกมเมอร์ คนเล่นเกมที่ไม่ใช่แค่เอาสนุก แค่ติดตามเนื้อเรื่องหรือหลงไหลในเทคโนโลยี แต่คือการฝึกฝน คือการชิงไหวชิงพริบและความเป็นหนึ่ง พี่อัพเป็นยอดฝีมือ “เกมวางแผนการรบ (RTS)” ของประเทศไทย แชมป์ประเทศไทยของเกมอย่าง Dawn of War, Company of Heroes และเกมวางแผนอีกหลายๆเกม
เมื่อได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมอีสปอร์ตยุคนั้น พี่อัพได้แนะนำเราเรื่องที่เหนือจินตนาการจะได้เรียนรู้ของเด็กม.3 หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐศาสตร์ในเกมวางแผนการรบ การประยุกต์กลยุทธซุนวู ฝึนฝน situational awareness แม้จะเป็นโอตาคุโม้ๆบ้าง แต่พี่อัพเป็นที่รักและผูกพันของน้องๆเสมอ แม้ยุคคลื่นลูกแรกของวงการอีสปอร์ตไทยจะผ่านไปแล้วหลายสิบปีก็ตาม เราต่างเติบโตในเส้นทางชีวิตที่หลากหลาย แต่เรามีประสบการณ์วัยรุ่นร่วมกันที่น้อยคนในประเทศนี้จะมีเหมือนกับเรา
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายปี แต่วันนี้ทราบข่าวแล้วว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก ขอนำ timeline ของพี่อัพที่ พี่ภูภู่สรุปไว้สั้นๆ มาเล่าต่อครับ
17 เม.ย. - เขาตั้งสเตตัสว่ากักตัวเองมา 5 วันแล้ว ไม่มีโควต้า รพ.ไหนให้เขาเข้าไปตรวจ
21 เม.ย. - เขาเข้าแอดมิด ตรวจพบเชื้อ และเชื้อลงปอดไปแล้ว จำเป็นต้องต่อเครื่องช่วยหายใจ
13 ชั่วโมงที่ผ่านมา - เขาเข้า ICU ออกซิเจนเหลือ 80 กว่า ปอดเสียหายไปแล้วกว่า 80%
เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา - หัวใจเขาหยุดเต้น หมอได้ทำการขออนุญาตปั้มหัวใจ
เพิ่มเติม เมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมา – เขาได้จากไปแล้วครับ
หากระบอบแห่งความล้มเหลวยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ต่อไป จากนี้ไปเราจะมีความทรงจำร่วมกันว่า ใครใกล้ตัวที่จากเราไปบ้าง ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศนี้ ขอบคุณพี่อัพสำหรับความทรงจำในวัยเด็กที่พิเศษที่สุด ด้วยรักตลอดไป จาก LerSuang (VGB TEAM B )"
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเฟซบุ๊ก
Kunlasub Wattnaphon เฟซบุ๊กของผู้ตาย พบว่ามีการไลฟ์ระบุอาการ พร้อมเผยด้วยว่า ได้โทรเช็กเตียงตาม รพ.กลับโดนเจ้าหน้าที่ทั้งดุทั้งด่าทั้งไล่ โดยโพสต์ล่าสุดเปิดเผยว่า ทางผู้ตายได้พยายามติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และไม่กล้าเรียกแท็กซี่มารับตัวเนื่องจากกลัวแพร่เชื้อ แต่ก็ไม่สามารถขับรถไป รพ.เองได้ จนสุดท้ายอาการทรุดหนัก โดยระบุรายละเอียดว่า
"ไปดูอัพมา อัพตัวเเข็ง มือเท้าเย็นเลือดไหลที่จมูก ตายตาไม่หลับ พยายามปิดให้หลายครั้งเเต่ก็ไม่หลับ ก่อนไป ICU มันเพิ่งหันหน้ามาถามว่าอยู่คนเดียวเหงาไหม เดี๋ยวกูรีบกลับมา เเต่อัพก็ไม่มีโอกาสได้กลับมาเเล้ว อัพไม่อยากตาย อัพโทรหาหน่วยงานทุกหน่วยเพื่อให้ได้รอดชีวิต เพราะเหนื่อยมาก เเล้วก็ที่ตรวจโควิทเเถวบ้านไม่มี มีก็ไกลเลย อัพหายใจไม่ออกไปไม่ไหว อัพมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่เรียกเเกรปหรือเเทคซี่เพราะกลัวคนอื่นติด เเต่ขับรถเองไม่ไหว เลยทำให้อัพทรุดหนัก จากไปอย่างสงบเเล้ว"
JJNY : หมอศิริราชสับถ้อยแถลง│ญ.ดับ1หลังฉีดวัคซีน│อดีตนักกีฬาอีสปอร์ต ติดโควิดเสียชีวิต│ศศินผิดหวัง│ชี้วัคซีนช้า รบ.สูญงบ
https://www.thansettakij.com/content/covid_19/477159
รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความว่า
ถ้าจะรอถึงรอบโพสต์เจ็ดวันคงขาดดิ้นแดดายเป็นแน่แท้ สรรพสิ่งล้วนว่างเปล่า สูงสุดคืนสู่สามัญ ถ้อยแถลงที่ไร้แถลง หากซื้อหวยก็คงถูกแหงแซะ ผ่านไปแค่ 6 วัน 18-23 เม.ย. ยอดใหม่ทั้งประเทศพุ่งพรวดมาแตะหนึ่งหมื่นพอดี โดย กทม.และปริมณฑลยังครองแชมป์กว่าหนึ่งในสาม นั่นหมายความถึงคำทำนายใกล้จะเป็นจริง ในเมื่อภาคประชาชนส่วนใหญ่พยายามร่วมมือกัน แต่ยังมีส่วนน้อยไม่ยอมหยุดนิ่ง
สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มเห็นผู้ป่วยจำนวนมากที่เก็บตัวอยู่บ้านแต่เผลอไปกินข้าวหรือซื้อของข้างนอกชั่วครั้งชั่วคราวก็ติดเชื้อ ผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคเรื้อรังไม่ออกไปไหนแต่มีลูกหลานหรือคนรู้จักมาเยี่ยมมากราบพร้อมนำเชื้อมาฝาก เพื่อนร่วมงานเผลอพูดคุยเล่นหัวใกล้ชิดหรือกินอาหารร่วมกันโดยไม่ระวังก็ต้องไปป้ายจมูกและกักตัว และรูปแบบอื่นๆ อีกมากมายจนยากจะจาระไน ต่างกับสองระลอกก่อนที่ไม่ว่ายากดีมีจนล้วนไม่พ้นเชื้อร้ายที่มองไม่เห็นนี้
แน่นอนเมื่อฐานจำนวนผู้ป่วยรวมสะสมแต่ต้นเดือนข้ามหลักสองหมื่นโดยไม่ต้องออกแรงลุ้น ย่อมพบผู้ป่วยอาการรุนแรงมากขึ้นจนถึงขั้นวิกฤต ควบคู่กันไปคือกระแสดรามาในสังคม เป็นธรรมดายามที่ผู้คนมองหาที่พึ่งได้ไม่เด่นชัด เหลียวหาไปที่ส่วนหัวก็ดูแต่เหมือนจะหลงประเด็นจับต้นชนปลายกันไม่ถูกที่ถูกทาง การบริหารจัดการข้อมูลดูสะเปะสะปะไร้จุดหมาย (ต้องโทษกลุ่มคนชงด้วย) นำมาซึ่งการดำเนินงานที่แสนเงื่องหงอยเกาไม่ถูกที่คัน
อย่ากระนั้นเลยทุ่มเทให้กับงานดูแลผู้ป่วยโควิด-19 (Covid-19)ที่เริ่มหลั่งไหลกันมาทุกสารทิศดีกว่า รอบนี้อาวุธดีพร้อมนึกว่าจะมีชัยไปกว่าครึ่ง แต่ศัตรูมีลูกเล่นหลากหลาย แถมโถมเข้ามาแบบไม่ให้ทันตั้งตัวติด ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปการรักษาระดับความสูญเสียร้ายแรงแบบกู่ไม่กลับที่ 0.3% คงจะยาก ว่าแล้วหันไปปลุกขวัญลูกทีมที่กำลังรับศึกหนักกันแบบไม่มีหลังพิงดีกว่า ควบคู่ไปกับการซักซ้อมเมื่อยามเข้าตาจนที่ไม่รู้จะไปบ่นกับใคร
#ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=3573071769465147&id=100002870789106
หญิงดับ 1 ราย หลังฉีดวัคซีน ผู้เชี่ยวชาญชี้ไม่เกี่ยว แต่เพราะมีโรคประจำตัว ญาติยังติดใจ
https://www.matichon.co.th/covid19/news_2688227
เมื่อวันที่ 24 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊กของ โรงพยาบาลสามเงา ได้โพสต์เอกสาร รายงานผลการพิจารณาอาการภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค โดยว่า
รายงานผลการพิจารณา กรณีบุคลากรโรงพยาบาลสามเงา เสียชีวิตภายหลังการได้รับวัคซีนโควิด 19 โดยคณะผู้เชี่ยวชาญอาการภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
ทั้งนี้ ภายในเอกสารดังกล่าว ได้ระบุว่า กองระบาดวิทยา ได้รับรายงานเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคจากวัคซีนโควิด 19 จำนวน 1 ราย โดย ที่โรงพยาบาลสามเงา เสียชีวิต 1 ราย
โดยผลจกการพิจารณา ผู้เชี่ยวชาญพิจารณาอาการภายหลังได้รับการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค ระบุว่า สาเหตุของการเสียชีวิตไม่เกี่ยวข้องกับวัคซีน แต่เป็นเหตุการณ์ร่วม โดยผู้ป่วยมีโรคประจำตัวเดิมคือไขมันในเลือดสูง และเบาหวานที่ไม่ได้กินยาสม่ำเสมอ ผลการชันสูตรพบเส้นเลือดหัวใจเส้นใหญ่ตีบ มีรอยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเดิม ร่วมกับผู้ป่วยมีประวัติเจ็บปวดสะบักด้านซ้ายเป็นๆหายๆ ซึ่งอาจเป็นอาการของกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดมาก่อนแต่ที่ไม่เคยได้รับการรักษา นอกจากนี้อาการท้องเสียอาจเป็นเหตุเสริมทำให้ อาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเป็นมากขึ้นได้
อย่างไรก็ดี ในโลกออนไลน์ ได้โพสต์ภาพสเตตัสของญาติผู้เสียชีวิต ที่ออกมาบอกว่า ผลชันสูตรยังไม่ออกอย่างเป็นทางการ ทางโรงพยาบาลไม่ได้แจ้งครอบครัวก่อนจะลง และข้อมูลการทานยาไม่สม่ำเสมอ รวมทั้งปวดสะบักซ้ายมาก่อน ทางครอบครัวไม่ได้มีใครให้ข้อมูลเช่นนั้น ไม่แน่ใจว่า ต้องการสื่อให้ไปทางหัวใจขาดเลือดจากพฤติกรรมที่ไม่ดีหรือเปล่า
แม่ผมก็เป็นพยาบาลในโรงพยาบาลสาธารณสุขตรวจสุขภาพทุกปี ทำไมถึงไม่รอผลชันสูตรทางการก่อน รวมทั้งมั่นใจแค่ไหนหรือมีหลักฐานงานวิจัยชิ้นไหน ว่าวัคซีนไม่ได้มีผลต่อเลือดหรือหลอดเลือด
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.00 น. ทางเฟซบุ๊กของ โรงพยาบาลสามเงา ได้ลบโพสต์รายงานดังกล่าวออกไป
อัพ VGB อดีตนักกีฬาอีสปอร์ต ติดโควิดเสียชีวิต กักตัวรอตรวจหลายวันจนโคม่า
https://www.amarintv.com/news/detail/76620
อัพ VGB อดีตนักกีฬาอีสปอร์ต ติดโควิดเสียชีวิต เผยกักตัวรอตรวจ หลายวันจนอาการโคม่า สายด่วนโทรไม่ติด - โทรเช็กเตียงตาม รพ.กลับโดนด่า
วันนี้(24 เม.ย.64) เวลาประมาณ 01.00 น. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Prab Laoharojanaphan โพสต์แจ้งข่าวการจากไปของ “อัพ VGB” นายกุลทรัพย์ วัฒนผล นักกีฬาอีสปอร์ตยุคแรกๆ ของไทย ซึ่งเสียชีวิตจากการติดเชื้อโควิด-19 โดยต้องรอนานมากกว่า 1 สัปดาห์ ระบุ
"หากใครโตทัน “คลื่นลูกแรก” ของวงการอีสปอร์ตไทย ในยุคที่การแข่งเกมเป็นเรื่องของเด็กเนิร์ดกลุ่มเล็กๆของประเทศนี้ เวลาจัดแข่งทีก็ไปเหมาร้านเกมแข่งขันกัน เวลาไปแข่งกับต่างประเทศก็ต้องออกเงินกันเอง เช่าเซิฟเวอร์แข่งกันเอง ไม่มีสปอนเซอร์ ไม่มีเงินรางวัลหลักแสนหลักล้าน มีแต่รางวัลเป็นอุปกรณ์คอมฯ มูลค่าไม่กี่บาท
ใครที่โตทันยุคนี้ คงไม่มีใครไม่รู้จัก “พี่อัพ VGB” กุลทรัพย์ วัฒนผล หัวหน้าแคลน VGB (Vagabond Team) ทีมอีสปอร์ตที่ใหญ่มากๆ เมื่อ 17 ปีก่อน ส่งแข่งทุกรายการ กับเกมทุกประเภท ตั้งแต่เกมแข่งรถ เกมฟุตบอล ไปจนถึงเกมวางแผนการรบ
หลังจากที่ครอบครัวซื้อคอมพิวเตอร์ที่เล่นเกมได้เครื่องแรกตอน ม.3 ซึ่งเปิดโอกาสให้เราเข้าถึงชุมชนออนไลน์ของเหล่าฮาร์ดคอเกมเมอร์ (ไม่ใช่แค่เล่นเกมออนไลน์ แต่เป็น PC Master Race) ที่ตอนนั้นยังเป็นเพียงเด็กเนิร์ดไม่กี่คนจากโรงเรียน-มหาลัยต่างๆ การได้รู้จักกับพี่อัพถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญในชีวิตวัยเด็ก
พี่อัพในฐานะหัวหน้าแคลน VGB ได้เปิด “โลกการแข่งขัน” อย่างมืออาชีพของเกมเมอร์ คนเล่นเกมที่ไม่ใช่แค่เอาสนุก แค่ติดตามเนื้อเรื่องหรือหลงไหลในเทคโนโลยี แต่คือการฝึกฝน คือการชิงไหวชิงพริบและความเป็นหนึ่ง พี่อัพเป็นยอดฝีมือ “เกมวางแผนการรบ (RTS)” ของประเทศไทย แชมป์ประเทศไทยของเกมอย่าง Dawn of War, Company of Heroes และเกมวางแผนอีกหลายๆเกม
เมื่อได้เป็นส่วนหนึ่งในทีมอีสปอร์ตยุคนั้น พี่อัพได้แนะนำเราเรื่องที่เหนือจินตนาการจะได้เรียนรู้ของเด็กม.3 หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐศาสตร์ในเกมวางแผนการรบ การประยุกต์กลยุทธซุนวู ฝึนฝน situational awareness แม้จะเป็นโอตาคุโม้ๆบ้าง แต่พี่อัพเป็นที่รักและผูกพันของน้องๆเสมอ แม้ยุคคลื่นลูกแรกของวงการอีสปอร์ตไทยจะผ่านไปแล้วหลายสิบปีก็ตาม เราต่างเติบโตในเส้นทางชีวิตที่หลากหลาย แต่เรามีประสบการณ์วัยรุ่นร่วมกันที่น้อยคนในประเทศนี้จะมีเหมือนกับเรา
หลังจากที่ไม่ได้เจอกันหลายปี แต่วันนี้ทราบข่าวแล้วว่าคงไม่มีโอกาสได้เจอกันอีก ขอนำ timeline ของพี่อัพที่ พี่ภูภู่สรุปไว้สั้นๆ มาเล่าต่อครับ
17 เม.ย. - เขาตั้งสเตตัสว่ากักตัวเองมา 5 วันแล้ว ไม่มีโควต้า รพ.ไหนให้เขาเข้าไปตรวจ
21 เม.ย. - เขาเข้าแอดมิด ตรวจพบเชื้อ และเชื้อลงปอดไปแล้ว จำเป็นต้องต่อเครื่องช่วยหายใจ
13 ชั่วโมงที่ผ่านมา - เขาเข้า ICU ออกซิเจนเหลือ 80 กว่า ปอดเสียหายไปแล้วกว่า 80%
เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา - หัวใจเขาหยุดเต้น หมอได้ทำการขออนุญาตปั้มหัวใจ
เพิ่มเติม เมื่อ 5 นาทีที่ผ่านมา – เขาได้จากไปแล้วครับ
หากระบอบแห่งความล้มเหลวยังคงลอยหน้าลอยตาอยู่ต่อไป จากนี้ไปเราจะมีความทรงจำร่วมกันว่า ใครใกล้ตัวที่จากเราไปบ้าง ในช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศนี้ ขอบคุณพี่อัพสำหรับความทรงจำในวัยเด็กที่พิเศษที่สุด ด้วยรักตลอดไป จาก LerSuang (VGB TEAM B )"
ทั้งนี้จากการตรวจสอบเฟซบุ๊ก Kunlasub Wattnaphon เฟซบุ๊กของผู้ตาย พบว่ามีการไลฟ์ระบุอาการ พร้อมเผยด้วยว่า ได้โทรเช็กเตียงตาม รพ.กลับโดนเจ้าหน้าที่ทั้งดุทั้งด่าทั้งไล่ โดยโพสต์ล่าสุดเปิดเผยว่า ทางผู้ตายได้พยายามติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว และไม่กล้าเรียกแท็กซี่มารับตัวเนื่องจากกลัวแพร่เชื้อ แต่ก็ไม่สามารถขับรถไป รพ.เองได้ จนสุดท้ายอาการทรุดหนัก โดยระบุรายละเอียดว่า
"ไปดูอัพมา อัพตัวเเข็ง มือเท้าเย็นเลือดไหลที่จมูก ตายตาไม่หลับ พยายามปิดให้หลายครั้งเเต่ก็ไม่หลับ ก่อนไป ICU มันเพิ่งหันหน้ามาถามว่าอยู่คนเดียวเหงาไหม เดี๋ยวกูรีบกลับมา เเต่อัพก็ไม่มีโอกาสได้กลับมาเเล้ว อัพไม่อยากตาย อัพโทรหาหน่วยงานทุกหน่วยเพื่อให้ได้รอดชีวิต เพราะเหนื่อยมาก เเล้วก็ที่ตรวจโควิทเเถวบ้านไม่มี มีก็ไกลเลย อัพหายใจไม่ออกไปไม่ไหว อัพมีความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่เรียกเเกรปหรือเเทคซี่เพราะกลัวคนอื่นติด เเต่ขับรถเองไม่ไหว เลยทำให้อัพทรุดหนัก จากไปอย่างสงบเเล้ว"