สวัสดีค่ะ พอดีเราเพิ่งไปต่อใบขับขี่มา ยังจำสเตปได้ เลยจะมาแชร์ขึ้นตอนการต่อใบขับขี่ไว้
ตอนแรกก็นึกว่าจะยุ่งยาก ต้องจองคิวผ่านแอปอีก แต่พอทำจริงแล้วก็ไม่ยุ่งเลยค่ะ
ไม่มีรูปนะคะ เน้นตัวหนังสือ
ขั้นตอนโดยรวมก็คือ
1. download app ชื่อ "DTL smart queue" มาจองวันที่จะไปต่อใบขับขี่
อันนี้ทำแต่เนิ่นๆ ก่อนบัตรหมดอายุก็ได้ค่ะ เพราะคิวมักจะเต็มยาวจากวันนี้ไปสัก 2 เดือนได้
(บอกไว้นิดนึง ตอนจองคิวเสร็จแล้วจะออกจากแอป ต้องกดตรงตัวการ์ตูนโรบอทด้านล่าง ถึงจะมีเมนูให้เลือก เราหาตั้งนานว่าจะออกจากแอปยังไง)
2. เข้า web learning เพื่ออบรมออนไลน์
อันนี้ให้คำนวณด้วยนะคะ ว่าอบรมวันนี้นับไปถึงวันที่ได้คิวต่อ อยู่ภายใน 90 วันหรือเปล่า เพราะผลการอบรมมีอายุ 90 วัน
https://www.dlt-elearning.com/People/Login?ReturnUrl=%2FeLearning : เวปอบรม
ส่วนเฉลยข้อสอบ หรือเวปลองทำข้อสอบก็มีนะคะ ลองหาในอากู๋ว่าอบรมออนไลน์เฉลยข้อสอบ ประมาณนี้ดูก็ได้ แต่ยังไงตอนดูคลิปก็เพลินดีนะคะ ได้ความรู้ดีด้วย แปบๆ ก็จบแล้ว
3. ไปขอใบรับรองแทพย์ สำหรับทำใบขับขี่
อันนี้ให้คำนวณว่าอยู่ภายใน 1 เดือน ก่อนถึงคิวต่อ จริงๆ สัก 1 อาทิตย์ก่อนวันได้คิวค่อยไปก็ได้ เราใช้วิธีเสริจอากู๋ว่าคลีนิคใกล้ฉัน แล้วโทรไปถามว่ารับ ทำใบรับรองแพทย์สำหรับทำใบขับขี่ไหม เราทำราคา 100 บาทค่ะ
4. ไปขนส่งที่เลือกไว้ ในวันที่จองคิวไว้
ส่วนรายละเอียดตอนลงทะเบียนหรืออบรมเสริจอากู๋ก็ได้นะคะ มีเวปแนะนำแบบนี้เยอะมาก
เมื่อถึงวันที่ได้คิวต่อ
ก็ไปที่ขนส่ง ของเราไปที่จตุจักร เราเลือกรอบ 13.00 สาเหตุเพราะห่วงที่จอดรถว่าช่วงเช้าน่าจะหาที่จอดยาก
1. อาคาร 4 (ตึกม่วง) คืออาคารที่ต้องไป ถ้ามาจากเส้นพหลโยธิน ก็เลี้ยวเข้าขนส่ง วิ่งไปจนสุดทางแล้วกลับรถ อาคารจะอยู่ซ้ายมือตรงใกล้จุดกลับรถเลย ถ้ามาจากซอยด้านวิภาวดี พอเข้ามาตามทางนิดนึงก็จะเจอตึกอยู่ซ้ายมือเลย เข้าไปในตัวอาคารเลยค่ะ
2. ชั้น 1 จะมีห้องกระจกขวามือ (ตรงข้ามลิฟท์) ให้เข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาต่อใบขับขี่ เค้าจะถามรอบ ถ้ายังไม่ถึงก็จะให้นั่งรอ เดี๋ยวเค้าจะเรียกอีกที ของเราไปถึงเที่ยง นั่งรอพักเดียว (นั่งหน้าๆ ก็ได้ค่ะ ตอนต่อแถวจะได้คิวแรกๆ) เกือบเที่ยงครึ่ง เค้าก็เริ่มเรียกรอบ 13.00 มาต่อแถวตรวจเอกสาร เข้าใจว่าเค้าคงคุยกับข้างบนว่าคนเสร็จแล้วก็เรียกต่อเลย ดังนั้นไปก่อนเวลาหน่อยก็ได้ค่ะจะได้เสร็จเร็ว
เอกสารที่ต้องเตรียมก็คือ
1. บัตรประชาชน
2. ใบขับขี่ใบเดิม
3. หน้าจอผลอบรมออนไลน์ หรือใบปริ้นผล
4. หน้าจอจองคิว (เราเตรียมไว้แต่เค้าก็ไม่ได้ขอดู)
5. เงิน ต่อใบขับขี่ 5 ปี ราคา 505 บาทค่ะ
พอตรวจเอกสารเสร็จ เค้าจะบอกให้ขึ้นไปชั้น 2
3. ชั้น 2 พอขึ้นมาเจอห้องกระจก ก็เข้าไปเลย จะมีพนักงานคอยบอกอยู่ ก็เดินทำตามสเตปไปเรื่อยๆ จนถึงที่เค้าออกบัตรคิวเสร็จ เค้าก็จะให้เดินขึ้นไปชั้น 3
4. ชั้น 3 พอขึ้นมาเจอห้องกระจกมีเก้าอี้นั่งรอ ก็เข้าห้องกระจกอีกชั้น (มีป้ายบอก) จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร เสร็จแล้วไปนั่งคอยเข้าห้องทดสอบ
5. หน้าห้องทดสอบ จะมีเรียกคิวเป็นกลุ่มๆ ระหว่างรอก็ดูวีดีโอไปพลางว่าเค้าจะทดสอบอะไรบ้าง ซึ่งหลายคนคงเคยทดสอบกันมาแล้ว แต่ก็ดูเพลินดีค่ะ พอถึงเวลาเค้าก็จะเรียกคิวเข้าห้องทดสอบ
6. ในห้องทดสอบ ก็จะทดสอบ 4 อย่าง
1. ทดสอบบอกสีที่เห็น แดง เขียว เหลือง
2. ทดสอบเลื่อนแกนสีขาวให้เท่ากัน (เชิงลึก)
3. ทดสอบเหยียบเบรคให้ทัน
4. ทดสอบบอกสีที่เห็นด้านซ้ายขวา (ตรงด่านนี้ เมื่อก่อนเค้าจะเป็นเครื่องให้เราวางหน้าลงไปแล้วจะมีสีขึ้นแวปๆ ซ้ายขวา แต่พอเป็นโควิด จะเปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่ เอาไม้ยาวๆ ต่อแผ่นสีกลมๆ มาสลับซ้ายขวาให้เราบอกสี เป็นการประยุกต์เรียบง่ายและใช้งานได้ดี น่ารักดีค่ะ)
พอทดสอบเสร็จก็เอาเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่หน้าห้อง เค้าจะออกบัตรคิวและให้เราลงไปชั้น 2 เพื่อถ่ายรูปทำบัตร
7. กลับลงมาชั้น 2 อีกที แต่เป็นด้านที่มีเคาเตอร์เป็นช่องๆ ถ่ายรูป จะมีระบบเรียกคิวอยู่บนจอ เมื่อได้คิว ก็เข้าไปยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ระหว่างที่เจ้าหน้าทำนู่นนี่ เราก็เตรียมตัวจัดแต่งร่างกายเพื่อถ่ายรูป (เอาหวีหรือกระจกไปเผื่อก็ได้ค่ะ เราเห็นบางคนทาลิปก่อน บางคนเอาสูทมาใส่) ได้เวลาก็ถ่ายรูป เจ้าหน้าที่ก็ดีนะคะ ไม่กดดัน มีบอกขยับซ้ายขวาถ้าเรานั่งไม่ตรง เสร็จแล้วก็จ่ายเงิน(กรณีนี้บางคนลืมเตรียมมา เจ้าหน้าก็ให้ออกไปกดเงินได้ แต่ยังไม่ให้ใบขับขี่นะ) แล้วก็รับใบเสร็จและใบขับขี่ใบใหม่ไฉไลกว่าเดิม (55) เป็นอันจบ
เหมือนจะยุ่งยาก แต่ก็ไม่ยากนะคะ พอเค้าจำกัดจำนวนคนจากแอปก็ทำให้คนไม่เยอะ คิวรันไปอย่างรวดเร็ว แปปเดียวก็เสร็จ เป็นอีกหนึ่งข้อดีของการจองคิว โดยรวมแล้วพอใจมากค่ะ
รีวิว ขั้นตอนการต่อใบขับขี่อออนไลน์ ที่กรมขนส่ง จตุจักร เน้นตอนไปขนส่ง (ณ เมษายน ปี 2564)
ตอนแรกก็นึกว่าจะยุ่งยาก ต้องจองคิวผ่านแอปอีก แต่พอทำจริงแล้วก็ไม่ยุ่งเลยค่ะ
ไม่มีรูปนะคะ เน้นตัวหนังสือ
ขั้นตอนโดยรวมก็คือ
1. download app ชื่อ "DTL smart queue" มาจองวันที่จะไปต่อใบขับขี่
อันนี้ทำแต่เนิ่นๆ ก่อนบัตรหมดอายุก็ได้ค่ะ เพราะคิวมักจะเต็มยาวจากวันนี้ไปสัก 2 เดือนได้
(บอกไว้นิดนึง ตอนจองคิวเสร็จแล้วจะออกจากแอป ต้องกดตรงตัวการ์ตูนโรบอทด้านล่าง ถึงจะมีเมนูให้เลือก เราหาตั้งนานว่าจะออกจากแอปยังไง)
2. เข้า web learning เพื่ออบรมออนไลน์
อันนี้ให้คำนวณด้วยนะคะ ว่าอบรมวันนี้นับไปถึงวันที่ได้คิวต่อ อยู่ภายใน 90 วันหรือเปล่า เพราะผลการอบรมมีอายุ 90 วัน
https://www.dlt-elearning.com/People/Login?ReturnUrl=%2FeLearning : เวปอบรม
ส่วนเฉลยข้อสอบ หรือเวปลองทำข้อสอบก็มีนะคะ ลองหาในอากู๋ว่าอบรมออนไลน์เฉลยข้อสอบ ประมาณนี้ดูก็ได้ แต่ยังไงตอนดูคลิปก็เพลินดีนะคะ ได้ความรู้ดีด้วย แปบๆ ก็จบแล้ว
3. ไปขอใบรับรองแทพย์ สำหรับทำใบขับขี่
อันนี้ให้คำนวณว่าอยู่ภายใน 1 เดือน ก่อนถึงคิวต่อ จริงๆ สัก 1 อาทิตย์ก่อนวันได้คิวค่อยไปก็ได้ เราใช้วิธีเสริจอากู๋ว่าคลีนิคใกล้ฉัน แล้วโทรไปถามว่ารับ ทำใบรับรองแพทย์สำหรับทำใบขับขี่ไหม เราทำราคา 100 บาทค่ะ
4. ไปขนส่งที่เลือกไว้ ในวันที่จองคิวไว้
ส่วนรายละเอียดตอนลงทะเบียนหรืออบรมเสริจอากู๋ก็ได้นะคะ มีเวปแนะนำแบบนี้เยอะมาก
เมื่อถึงวันที่ได้คิวต่อ
ก็ไปที่ขนส่ง ของเราไปที่จตุจักร เราเลือกรอบ 13.00 สาเหตุเพราะห่วงที่จอดรถว่าช่วงเช้าน่าจะหาที่จอดยาก
1. อาคาร 4 (ตึกม่วง) คืออาคารที่ต้องไป ถ้ามาจากเส้นพหลโยธิน ก็เลี้ยวเข้าขนส่ง วิ่งไปจนสุดทางแล้วกลับรถ อาคารจะอยู่ซ้ายมือตรงใกล้จุดกลับรถเลย ถ้ามาจากซอยด้านวิภาวดี พอเข้ามาตามทางนิดนึงก็จะเจอตึกอยู่ซ้ายมือเลย เข้าไปในตัวอาคารเลยค่ะ
2. ชั้น 1 จะมีห้องกระจกขวามือ (ตรงข้ามลิฟท์) ให้เข้าไปแจ้งเจ้าหน้าที่ว่ามาต่อใบขับขี่ เค้าจะถามรอบ ถ้ายังไม่ถึงก็จะให้นั่งรอ เดี๋ยวเค้าจะเรียกอีกที ของเราไปถึงเที่ยง นั่งรอพักเดียว (นั่งหน้าๆ ก็ได้ค่ะ ตอนต่อแถวจะได้คิวแรกๆ) เกือบเที่ยงครึ่ง เค้าก็เริ่มเรียกรอบ 13.00 มาต่อแถวตรวจเอกสาร เข้าใจว่าเค้าคงคุยกับข้างบนว่าคนเสร็จแล้วก็เรียกต่อเลย ดังนั้นไปก่อนเวลาหน่อยก็ได้ค่ะจะได้เสร็จเร็ว
เอกสารที่ต้องเตรียมก็คือ
1. บัตรประชาชน
2. ใบขับขี่ใบเดิม
3. หน้าจอผลอบรมออนไลน์ หรือใบปริ้นผล
4. หน้าจอจองคิว (เราเตรียมไว้แต่เค้าก็ไม่ได้ขอดู)
5. เงิน ต่อใบขับขี่ 5 ปี ราคา 505 บาทค่ะ
พอตรวจเอกสารเสร็จ เค้าจะบอกให้ขึ้นไปชั้น 2
3. ชั้น 2 พอขึ้นมาเจอห้องกระจก ก็เข้าไปเลย จะมีพนักงานคอยบอกอยู่ ก็เดินทำตามสเตปไปเรื่อยๆ จนถึงที่เค้าออกบัตรคิวเสร็จ เค้าก็จะให้เดินขึ้นไปชั้น 3
4. ชั้น 3 พอขึ้นมาเจอห้องกระจกมีเก้าอี้นั่งรอ ก็เข้าห้องกระจกอีกชั้น (มีป้ายบอก) จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสาร เสร็จแล้วไปนั่งคอยเข้าห้องทดสอบ
5. หน้าห้องทดสอบ จะมีเรียกคิวเป็นกลุ่มๆ ระหว่างรอก็ดูวีดีโอไปพลางว่าเค้าจะทดสอบอะไรบ้าง ซึ่งหลายคนคงเคยทดสอบกันมาแล้ว แต่ก็ดูเพลินดีค่ะ พอถึงเวลาเค้าก็จะเรียกคิวเข้าห้องทดสอบ
6. ในห้องทดสอบ ก็จะทดสอบ 4 อย่าง
1. ทดสอบบอกสีที่เห็น แดง เขียว เหลือง
2. ทดสอบเลื่อนแกนสีขาวให้เท่ากัน (เชิงลึก)
3. ทดสอบเหยียบเบรคให้ทัน
4. ทดสอบบอกสีที่เห็นด้านซ้ายขวา (ตรงด่านนี้ เมื่อก่อนเค้าจะเป็นเครื่องให้เราวางหน้าลงไปแล้วจะมีสีขึ้นแวปๆ ซ้ายขวา แต่พอเป็นโควิด จะเปลี่ยนเป็นเจ้าหน้าที่ เอาไม้ยาวๆ ต่อแผ่นสีกลมๆ มาสลับซ้ายขวาให้เราบอกสี เป็นการประยุกต์เรียบง่ายและใช้งานได้ดี น่ารักดีค่ะ)
พอทดสอบเสร็จก็เอาเอกสารมาให้เจ้าหน้าที่หน้าห้อง เค้าจะออกบัตรคิวและให้เราลงไปชั้น 2 เพื่อถ่ายรูปทำบัตร
7. กลับลงมาชั้น 2 อีกที แต่เป็นด้านที่มีเคาเตอร์เป็นช่องๆ ถ่ายรูป จะมีระบบเรียกคิวอยู่บนจอ เมื่อได้คิว ก็เข้าไปยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ระหว่างที่เจ้าหน้าทำนู่นนี่ เราก็เตรียมตัวจัดแต่งร่างกายเพื่อถ่ายรูป (เอาหวีหรือกระจกไปเผื่อก็ได้ค่ะ เราเห็นบางคนทาลิปก่อน บางคนเอาสูทมาใส่) ได้เวลาก็ถ่ายรูป เจ้าหน้าที่ก็ดีนะคะ ไม่กดดัน มีบอกขยับซ้ายขวาถ้าเรานั่งไม่ตรง เสร็จแล้วก็จ่ายเงิน(กรณีนี้บางคนลืมเตรียมมา เจ้าหน้าก็ให้ออกไปกดเงินได้ แต่ยังไม่ให้ใบขับขี่นะ) แล้วก็รับใบเสร็จและใบขับขี่ใบใหม่ไฉไลกว่าเดิม (55) เป็นอันจบ
เหมือนจะยุ่งยาก แต่ก็ไม่ยากนะคะ พอเค้าจำกัดจำนวนคนจากแอปก็ทำให้คนไม่เยอะ คิวรันไปอย่างรวดเร็ว แปปเดียวก็เสร็จ เป็นอีกหนึ่งข้อดีของการจองคิว โดยรวมแล้วพอใจมากค่ะ