ชอบบังคับให้พิเศษในช่วงปิดเทอมเพียงเพราะว่าอยากสนับสนุนคนรู้จักที่เขาสอน บังคับให้สอบเข้ารร.ดังๆดีๆยากๆ
เท้าความว่าเราย้ายรร.ตอนป.4 พอไปปรร.ใหม่ก็เด็กไม่ได้เก่งมากส่วนใหญ่จบไปก็เรียนรร.มัธยมใกล้ๆบ้านที่ไม่ต้องตั้งใจสอบก็เข้าได้ เราพูดตรงๆเลยว่าเป็นรร.ที่ไร้คุณภาพด้านการศึกษามาก เด็กจะสอบรร.ดังให้ครูติวให้ครูบอกไม่รู้ทำไม่เป็น ทำให้มีโอกาสน้อยมากที่เราจะสอบติดรร.ดังแห่งนึงที่พ่อแม่คาดหวังไว้
เราเลยต้องไปเรียนพิเศษเพิ่มช่วงจะสอบเข้าม.1 เราร้องไห้รู้สึกกดดัน รู้สึกไม่เป็นอิสระ ทำไมเราต้องเรียนวิทย์-คณิตยากๆด้วยทั้งๆที่เราไม่ได้เก่งอะไรเลย เราขอพ่อแม่ไม่อยากเรียนที่นี่ท่านก็ไม่ฟัง แถมยังให้เราไปเรียนกีต้าร์เพื่อคลายเครียดทั้งที่เราไม่ชอบเล่นดนตรีเหมือนน้องเรา เราร้องไห้ทุกครั้งที่ครูดนตรีออกจากห้อง
พอผลสอบออกเราได้ที่สุดท้ายของตัวจริงหรือสั้นๆว่าสอบติด เรารู้สึกว่าเราพยายามแล้ว เราเก่งแล้ว เราอยากได้กำลังใจเพราะด้วยความที่ก่อนวันสอบเป็นวันไปทัศนศึกษา ซึ่งเราไม่ได้เพราะต้องสอบเข้า แต่สิ่งที่เราได้คือการโยนยึดโทรศัพท์แล้วให้ไปเรียนพิเศษเพิ่มเพื่อเตรียมเข้าเรียน
หลังจากวันสอบเราป่วยหนักมากเพราะติดไข้ตอนไปสอบเข้าเรียน แต่หลังจากวันนั้นเป็นวันสอบปลายภาค เราเลยจำใจต้องไปสอบทั้งที่ป่วย สิ่งที่เราได้คือคำพูดของครูที่บอกว่า"แค่นี้ไม่ตายหรอก5555" คุณไม่หรอกว่า"แค่นี้"สำหรับเรามันทรมานมาก
เราอยากเป็นนักวาดมังงะหรืออนิเมชั่น อะไรใดๆที่เกี่ยวข้องกับการวาดรูปแต่แม่เราไม่อนุมัติแล้วให้เรามาเปิดร้านกาแฟแทน เอ้า???? ความคาดหวังทั้งหมด ความฝันทุกอย่างจบสิ้นตรงลงที่ร้านกาแฟ สิ่งที่คุณทรมานเรามาทั้งเพื่อร้านกาแฟเล็กๆน่ะหรอ?? นี่ยังไม่พูดถึงว่าเราไล่เล่าไปเรียนมหาลัยที่เขาฝัน ไปบนไว้หรือขอพรไว้ให้เราต้องเรียนติด ทำงาน ต่อมหาลัยในจังหวัดแห่งหนึ่งไม่ปล่อยให้เราได้เลือกเอง
ทำไมเค้าต้องเอาสิ่งที่เขาอยากเป็น อยากได้ อยากให้เป็นมาให้เราด้วยคะ เราแค่อยากเป็นตัวของตัวเอง เลือกอาชีพ มหาลัยของตัวเองเท่านั้นเอง เขาไม่เคยปล่อยเราเลย ขนาดห้องนอนยังทำแบบเปิด ไม่มีประตู คนในบ้านเดินเข้าออกสบายไม่มีอะไรกั้น อิสระก็ไม่มี ความเป็นส่วนตัวก็ไม่มี เหมือนเขามองเราเป็นเด็กที่ยังเลือกเองไม่ได้ ชนาดเรียนจบเรายังขอว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นและใช้ชีวิตของตัวเอง พวกท่านก็ไม่ยอมและบังคับให้เราอยู่บ้านพ่อแม่เหมือนเดิม
เรากลายเป็นคนเกลียดและรำคาญพ่อแม่เข้าไส้ จนอยากตัดพ่อแม่ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องเรียนเรื่องเดียว ทั้งเรียนบูลลี่เรา คุกคามเรา มีหลายคนที่บอกว่าพ่อแม่เราเลี้ยงลูกไม่เป็นซึ่งเราเห็นด้วย
ตอนนี้จะขึ้นม.3ค่ะ ช่วงปิดเทอมเราต้องเสียไปกับการเรียนพิเศษ เรากลัวเราเครียดมากๆเพราะมีเหตุรุ่นพี่รร.เขาเส้นเลือดในสมองแตกและเสียชีวิตหลังจากการสอบแข่งขันต่างๆ เราไม่อยากเสียช่วงม.ต้นที่มีค่าของเราไป เราควรบอกและโน้มน้าวพ่อแม่ยังไงดีคะ เราเคยไปหาจิตแพทย์เพราะสภาพจิตใจย่ำแย่มากแต่ตอนนั้นแม่เราอยู่ด้วยทำให้เราไม่ได้พูดอะไรเลยและแม่ก็ตีโพยตีพายโบ้ยให้พ่อ
พ่อแม่ชอบบังคับทำไงดีคะ?
เท้าความว่าเราย้ายรร.ตอนป.4 พอไปปรร.ใหม่ก็เด็กไม่ได้เก่งมากส่วนใหญ่จบไปก็เรียนรร.มัธยมใกล้ๆบ้านที่ไม่ต้องตั้งใจสอบก็เข้าได้ เราพูดตรงๆเลยว่าเป็นรร.ที่ไร้คุณภาพด้านการศึกษามาก เด็กจะสอบรร.ดังให้ครูติวให้ครูบอกไม่รู้ทำไม่เป็น ทำให้มีโอกาสน้อยมากที่เราจะสอบติดรร.ดังแห่งนึงที่พ่อแม่คาดหวังไว้
เราเลยต้องไปเรียนพิเศษเพิ่มช่วงจะสอบเข้าม.1 เราร้องไห้รู้สึกกดดัน รู้สึกไม่เป็นอิสระ ทำไมเราต้องเรียนวิทย์-คณิตยากๆด้วยทั้งๆที่เราไม่ได้เก่งอะไรเลย เราขอพ่อแม่ไม่อยากเรียนที่นี่ท่านก็ไม่ฟัง แถมยังให้เราไปเรียนกีต้าร์เพื่อคลายเครียดทั้งที่เราไม่ชอบเล่นดนตรีเหมือนน้องเรา เราร้องไห้ทุกครั้งที่ครูดนตรีออกจากห้อง
พอผลสอบออกเราได้ที่สุดท้ายของตัวจริงหรือสั้นๆว่าสอบติด เรารู้สึกว่าเราพยายามแล้ว เราเก่งแล้ว เราอยากได้กำลังใจเพราะด้วยความที่ก่อนวันสอบเป็นวันไปทัศนศึกษา ซึ่งเราไม่ได้เพราะต้องสอบเข้า แต่สิ่งที่เราได้คือการโยนยึดโทรศัพท์แล้วให้ไปเรียนพิเศษเพิ่มเพื่อเตรียมเข้าเรียน
หลังจากวันสอบเราป่วยหนักมากเพราะติดไข้ตอนไปสอบเข้าเรียน แต่หลังจากวันนั้นเป็นวันสอบปลายภาค เราเลยจำใจต้องไปสอบทั้งที่ป่วย สิ่งที่เราได้คือคำพูดของครูที่บอกว่า"แค่นี้ไม่ตายหรอก5555" คุณไม่หรอกว่า"แค่นี้"สำหรับเรามันทรมานมาก
เราอยากเป็นนักวาดมังงะหรืออนิเมชั่น อะไรใดๆที่เกี่ยวข้องกับการวาดรูปแต่แม่เราไม่อนุมัติแล้วให้เรามาเปิดร้านกาแฟแทน เอ้า???? ความคาดหวังทั้งหมด ความฝันทุกอย่างจบสิ้นตรงลงที่ร้านกาแฟ สิ่งที่คุณทรมานเรามาทั้งเพื่อร้านกาแฟเล็กๆน่ะหรอ?? นี่ยังไม่พูดถึงว่าเราไล่เล่าไปเรียนมหาลัยที่เขาฝัน ไปบนไว้หรือขอพรไว้ให้เราต้องเรียนติด ทำงาน ต่อมหาลัยในจังหวัดแห่งหนึ่งไม่ปล่อยให้เราได้เลือกเอง
ทำไมเค้าต้องเอาสิ่งที่เขาอยากเป็น อยากได้ อยากให้เป็นมาให้เราด้วยคะ เราแค่อยากเป็นตัวของตัวเอง เลือกอาชีพ มหาลัยของตัวเองเท่านั้นเอง เขาไม่เคยปล่อยเราเลย ขนาดห้องนอนยังทำแบบเปิด ไม่มีประตู คนในบ้านเดินเข้าออกสบายไม่มีอะไรกั้น อิสระก็ไม่มี ความเป็นส่วนตัวก็ไม่มี เหมือนเขามองเราเป็นเด็กที่ยังเลือกเองไม่ได้ ชนาดเรียนจบเรายังขอว่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่นและใช้ชีวิตของตัวเอง พวกท่านก็ไม่ยอมและบังคับให้เราอยู่บ้านพ่อแม่เหมือนเดิม
เรากลายเป็นคนเกลียดและรำคาญพ่อแม่เข้าไส้ จนอยากตัดพ่อแม่ ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องเรียนเรื่องเดียว ทั้งเรียนบูลลี่เรา คุกคามเรา มีหลายคนที่บอกว่าพ่อแม่เราเลี้ยงลูกไม่เป็นซึ่งเราเห็นด้วย
ตอนนี้จะขึ้นม.3ค่ะ ช่วงปิดเทอมเราต้องเสียไปกับการเรียนพิเศษ เรากลัวเราเครียดมากๆเพราะมีเหตุรุ่นพี่รร.เขาเส้นเลือดในสมองแตกและเสียชีวิตหลังจากการสอบแข่งขันต่างๆ เราไม่อยากเสียช่วงม.ต้นที่มีค่าของเราไป เราควรบอกและโน้มน้าวพ่อแม่ยังไงดีคะ เราเคยไปหาจิตแพทย์เพราะสภาพจิตใจย่ำแย่มากแต่ตอนนั้นแม่เราอยู่ด้วยทำให้เราไม่ได้พูดอะไรเลยและแม่ก็ตีโพยตีพายโบ้ยให้พ่อ