สวัสดีครับ วันนี้ผมก็อยากมาเล่าสิ่งที่อยู่ในใจผมครับ ปัจจุบันผมอายุ 23 เดือนหน้าจะ 24 แล้ว จนถึงทุกวันนี้ก็ยังโสด ผมก็มองว่ามันไม่แปลกเท่าไหร่ ต้องบอกก่อนครับ ผมเป็นเกย์ที่ออกไปทางสาว แต่จะสาวกับเพื่อนหรือคนที่สนิทมากๆนะครับ กับคนไม่ค่อยสนิทก็ปกติคน แต่ก็น่าจะรู้ว่าผมเป็นแหละ คือผมเป็นคนเสียงเล็กเวลาพูด แต่เวลาหัวเราะคือ เสียงใหญ่ 555 ถ้ามองรูปร่างภายนอก ผมเป็นคนอ้วนครับ ช่วงนี้จัดว่าอ้วนมาก เนื่องจากเทคนิควิจัยดุเดือด ก็กินสิ แต่ผมสูงประมาณ 180-181 ซม. แค่รูปลักษณ์ภายนอกกับเพศผมก็มองว่าเป็นเรื่องยากสำหรับตัวผมแล้วที่จะมีใครเข้ามา อาจจะมองว่าทำไมดูคิดลบนะครับ แต่ก็ไม่อยากมองบวกแล้วมาทำร้ายตัวเอง อีกอย่างผมเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจด้วยครับ คือ ไม่กล้าคุยกับใครก่อน ไม่มั่นใจ กลัวแบบไปลุยเขาไม่ได้ชอบเราคือ เหวอนะ นิสัยส่วนตัวผมเป็นคนชอบอยู่บ้านครับ ก็จะนอนเฉยๆ ดูหนัง ทำอะไรก็ว่ากันไป ติดบ้านมาก ไม่ชอบออกข้างนอกแต่ถ้าออกทีก็ยาวเหมือนกัน ผมเป็นคนไม่ชอบแต่งตัว คือ แต่งอะไรก็ได้ ใครซื้ออะไรมาผมก็ใส่ ก็จะเป็นคนเน้นเรียบๆ เวลาอยู่กับเพื่อนผมเม้าได้ทุกเรื่องตั้งแต่วิชาการ ยังสากกะเบือ คือสุดจริง แต่บางทีก็พูดวิชาการบ่อย เพื่อนก็แอบเบื่อ 555 ผมเป็นคนที่ถ้าเอาจริงๆผมว่า ผมเป็นคนที่รู้จักตัวเองดีครับ ว่าผมชอบอะไรไม่ชอบอะไร แล้วก็จะทำมันอย่างชัดเจน เรารู้ว่าเราควรทำอะไรถ้าอยากจะไปจุดมุ่งหมายนี้ หรือถ้าเรารู้ว่าที่ล้มเหลวเพราะอะไร ก็เหมือนเป็นดาบเหมือนกันเวลาที่รู้สึกท้อหรือขี้เกียจ และอีกจุดหนึ่งที่ผมมีคือ ผมเป็นคนที่ถ้าอยากรู้หรือจะสู้กับอะไรสักอย่างที่อยากจะทำก็สุดเหมือนกันครับ แต่บุคลิกข้างนอกเหมือนคนไม่สู้อะไรเลย 5555 สำหรับประสบการณ์เรื่องความรัก ผมก็จะเป็นคนที่แอบชอบครับ ซึ่งผมก็ไม่ได้รู้สึกกับใครง่ายนะ ที่ผ่านจะ 24 แล้ว ก็จะมี 3 คน คนแรกคนนี้ชอบนานมาก ตั้งแต่ป.3 ก็เป็นความชอบในวัยเด็ก พอป.4 เราก็แยกย้ายกันอยู่คนละห้อง จนกลับมาม.3 มันมีกิจกรรมให้เรากลับมาเจอกัน อยู่ดีๆความรู้สึกผมก็กลับมาอีกครั้งว่าชอบเขา หรือที่ผ่านมาอาจจะเพราะไม่ได้แบบอยู่ด้วยกันประจำ ความรู้สึกมันก็เหมือนจางลงไป แต่ลึกก็ซ้อนอยู่ 555 แต่ก็ได้แค่ชอบครับเพราะว่าตอนนั้นเขามีแฟน ผมก็ต้องตัดใจมันก็เจ็บนะเห็นกันเกือบทุกวัน แต่นั้นแหละชีวิต ม.4-6 ผมได้อยู่ห้องเดียวกับเขาโอ้โหตอนแรก คือ อุตส่าห์ดีขึ้นแล้ว ความรู้สึกมันจางลงแล้ว พอม.4 ช่วงนั้นคือ ผมกับเขาคือ ได้ทำอะไรหลายอย่างด้วยกันมาก จนแบบโดนครูแซวเป็นคู่จิ้น ยิ่งโดนแซวคนที่รู้สึกมีแต่ผม และความรู้สึกนั้นมันก็แรงมากขึ้น จน ม.5 ไม่รู้มีจุดอะไรที่มาทำให้ผมบอกกับตัวเองว่าต้องพอแล้ว อย่าอยู่แบบนี้ ด้วยความที่เขาเป็นผู้ชาย มันเป็นไปไม่ได้ ช่วงนั้นก็เจ็บนะครับ แต่ถามว่ามันใช่ความรู้สึกอกหักไหม ผมว่าน่าจะไม่ใช่ เพราะไม่ได้เศร้าแบบร้องไห้ นอนไม่หลับ ก็มีแค่ซึมๆ เอาจริงๆตอนนั้นผมไม่กล้าบอกใครด้วยว่าชอบคนนั้นแม้กระทั่งเพื่อนสนิท แต่ก็มีเพื่อน 1-2 คนที่รู้ว่าผมชอบ ส่วนเคสที่ 2 เป็นช่วงคาบเกี่ยวกับคนแรกตอนม.3 กิจกรรมเดียวนี้แหละผมพบกับพี่คนหนึ่ง เขาเป็นแฟนเพื่อนในห้องผม ทีนี้มาเริ่มมีเรื่องราวที่ทำให้ชอบคือ เพื่อนผมคนนี้ที่เป็นแฟนพี่เขาดันไปนอกใจเขาสุดท้ายก็ไปคบกับคนใหม่ ผมนี่แหละที่คอยปลอบพูดคุยกับพี่คนนี้ จนผมรู้สึกดีๆกับพี่เขา เหมือนจะดีแต่พีคมากสุดท้ายพี่คนเขาไปคบกับเพื่อนสนิทในกลุ่มผมที่เป็นผู้หญิง คือ ผมช็อคมาก งงด้วย ทั้งๆที่ผมก็คุยกับพี่เขาตลอด แต่เขาไม่เคยบอกอะไรกับผมเลย หลังจากนั้นผมก็ตัดใจจากเขาแบบหักดิบสุดๆครับ ส่วนคนที่ 3 คนนี้เป็นเพื่อนที่มหาลัย ใช้คำว่าสนิทกันมากๆ แต่เขาก็เป็นแบบผมแหละ 5555 อาจจะเพราะว่าช่วงรู้จักกันแรกๆ ยังไม่ได้สนิทกันเท่าไหร่ก็เลยหลงไปชอบมัน ทุกวันนี้ถ้าให้ผมพูดตรงๆนะครับ ผมก็มีเล่นแอพหาคู่เหมือนกัน แต่เราเล่นแบบรู้สึกว่าขำๆกรุปๆ คือ ด้วยลึกๆ แล้วผมว่ามันคงเป็นไม่ได้สำหรับผม สังคมไทยผมยังไม่ใช่คำตอบสักเท่าไหร่ 5555 เคยมีคนกับคนในแอพไหมมีครับ แต่มากสุด 3 วัน ด้วยความที่ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไร ไม่กล้าทักเขาไป ไม่มั่นใจ ถามว่าทุกวันนี้ชีวิตผมก็รู้สึกไม่ได้ขาดอะไรนะ แต่แท้จริงแล้วผมก็ยังมองว่าผมก็ยังขาดเรื่อง แฟน นี่แหละ คือ ผมก็รู้สึกว่างงเหมือนกันนะ เพื่อนเราทำไมเขามีคนคุยเรื่อยๆ จัง แต่เราไม่มีเลย 5555 หรือเราเลือกเยอะไป ไม่น่าจะใช่เท่าไหร่ 5555 ปล. ขอบคุณสำหรับคนที่เข้ามาอ่านเรื่องของผมจนจบนะครับ 😊😊
ลึกๆ ก็อยากเจอใครสักคน