[SR] ตราด ไม่ไกล อย่างที่คิด

แค่เหยียบให้มิด แป๊บเดียวก็ถึง อ่ะ หยอกๆ ^^  

                 สารภาพตามตรงว่าไม่เคยเที่ยวฝั่งตะวันออกเลย เพราะคิดว่ามันไกล  ตราดห่างจาก กทม ประมาณ 300 กว่ากิโลเมตร ขับรถใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง

ทริปนี้ ขอบคุณ Pantip และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่ทำให้เราได้เที่ยว จ.ตราด 

หลังจากที่เฝ้าอธิษฐานต่อต้นชวนชมหน้าบ้านอยู่หลายวัน 
หาก Pantip นั้น ได้ยินคำอธิษฐานของหัวใจ กี่พันครั้งก็ยังจะขอให้ดวงใจ ฉันอยู่ใกล้เธอ  
เย้! ในที่สุด ใจฉันก็ได้อยู่ใกล้เธอ Pantip และ ททท.  ^^     
ปล ใครที่อ่านถึงบรรทัดนี้แล้วยิ้ม  ใช่ค่ะ เราดูซีรี่ย์เรื่องเดียวกัน ^^  จขกท พึ่งดูจบ กำลังอิน 

ทริปนี้ เรามีเจ้าถิ่นพาเที่ยว เพราะฉะนั้น ของดี ของเด็ด ที่เที่ยวเจ๋งๆ เยอะมาก ไป 4 วัน 3 คืน ยังไม่ถึงครึ่งของเมืองตราดเล้ยยย  
เราว่าเป็น จังหวัดที่เที่ยว ได้เหมาะกับทุกวัยจริงๆ  
เอาล่ะ เริ่มออกเดินทางกันดีกว่า จุดนัดพบ ที่ ททท. เวลา 06.00 น. น่าจะเป็นวันที่เราตื่นเช้าที่สุดในรอบปี ตื่นเช้าได้เฉพาะเที่ยวนี่แหละ 

ทริปนี้เราเดินทางโดยรถตู้ การเดินทางราบรื่น เพราะหลับกันทั้งรถ ไม่ว่าจะสะดุ้งตื่นกันกี่รอบ ก็ยังไม่ถึงซักที  
หลายคน คงคิด “ ไหนว่า ไม่ไกล ”  เราก็แย้งในใจเหมือนคุณนี่แหละ หลังจากที่ได้ยินคำนี้ครั้งแรก  “ ตราดไม่ไกลอย่างที่คิด ”  

ตอนขาไป เราคิดว่าไกลมาก แต่ขากลับนี่ เปลี่ยนความคิดเราไปเลย ตราดไม่ไกลอย่างที่คิดจริงๆ   
มันคุ้มที่จะไป  เป็นสถานที่ ที่เที่ยวได้เหมาะกับทุกวัยจริงๆ อยากพาครอบครัว มาพักผ่อน  หรือเฮฮาปาร์ตี้กับเพื่อน หรือจะนั่งโง่ๆที่ริมหาด
หรืออยากจะพายซับบอร์ดเท่ห์ๆ หรืออยากจะลองติดเกาะ แบบหนังเรื่อง Cast Away 
(โปรดอย่าเดา อายุ จขกท แค่ 20 นิดๆ ที่เหลือฝากไว้ที่เกาะหมาก  ^^ )

คือบอกเลย เที่ยวตราด  ครั้งเดียวไม่พอ  สถานที่ท่องเที่ยวเยอะมาก ขนาดเรามีเจ้าถิ่นพาไป  อัดแน่นๆ เน้นๆ ยังเที่ยวไม่ถึงครึ่งเลย มีซ้ำแน่นอน  
 
ยัง ยัง ไม่ถึงตราดอีก เกริ่นนานแล้วนะ  ถึงแล้วก็ได้ 
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง  เริ่มกันที่ ร้านคนพลัดถิ่น  ไม่ธรรมดานะร้านนี้
ท่านจะได้ทานข้าว ท่ามกลางบรรยกาศต้นบอนไซ ที่ตกแต่งอย่างสวยงาม ใครที่เป็นสายบอนไซ บอกเลยที่นี่ มีของดีเยอะมาก  
และ ไฮไลท์คือ ได้ดูเหยี่ยวแดงนับร้อยตัว มาโฉบเฉี่ยวอวดโฉม ให้ได้ดูเพลินๆ ระหว่างทานข้าวกันเลยล่ะ 

ขอบคุณรูปสวยๆ จากทีมงาน Pantip และ ททท. ค่ะ

 

เมนูไหนดี เมนูไหนเด็ด ถามเจ้าของร้านได้เลยค่ะ อร่อยทุกอย่าง การันตี จากจานที่เกลี้ยงเหมือนพึ่งล้างเสร็จใหม่ๆ 
ร้านคนพลัดถิ่น อยู่ห่างจากตัวเมืองตราด 7 กิโลเมตร เปิดทุกวัน เบอร์โทร 087-1357423  สามารถโทรสอบถามเมนูอาหาร หรือ เช็กเวลาดูเหยี่ยวได้เลยค่ะ 

อิ่มท้องกันแล้ว ไปต่อกันที่ ชุมชนบ้านไม้รูด 
หมู่บ้านชาวประมง เดินเพลินๆ ชมวิถีชาวประมง ถ่ายรูป ชิลๆ ซื้ออาหารทะเล สดๆ  ราคาถูกกว่าท้องตลาด ซื้อกลับไปทานได้เลยค่ะ
 
ซื้อกลับบ้านได้เลย สด พร้อมทาน  เนื้อปูหวานมาก

ปล ที่ชุมชน มีร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขาขายด้วยนะ เผื่อใครไม่ได้ทานข้าวมา  ถ้าไม่ติดว่าพึ่งกินข้าวมา อยากจะลิ้มลองซักที คือเห็นจากรูปกั้งอัดเน้น เต็มชามมาก แต่ติดที่ตอนนี้ พุงไม่เหลือที่ว่างแล้ว  

มาชมพระอาทิตย์ตก ที่ หาดบานชื่น แต่วันนี้ พระอาทิตย์ขี้อาย ส่งก้อนเฆม มาอำพรางสายตาเรา  อดยลโฉมเลย

บรรยากาศริมหาด พาเด็กๆ มาเล่นทราย เล่นน้ำ ได้เลย หาดสะอาด มีเปล ให้นอนชิล ฟังเสียงคลื่นทะเล นอนนานๆ บอกเลยมีเคลิ้มหลับแน่นอน

มื้อเย็นเราฝากท้องกันที่ ร้านทะเลภู ซึ่งเป็นร้านอาหารและมีบริการที่พักอยู่ด้านใน

ห้องพักของเรา 
บรรยากาศแถวที่พัก เดินไม่กี่ก้าว เท้าก็แตะทรายแล้ว

ไม่รู้ว่า อาหารอร่อยมาก หรือ ที่พักสบายมาก หรือทั้งสองอย่าง ^^ 
เพื่อนเราสลบไปพร้อมกับการนุ่งผ้าเช็ดตัวอาบน้ำเตรียมอาบน้ำ  
“เดี๋ยวจะอาบน้ำ รออาหารย่อยแป๊บ”  เพื่อนได้กล่าวไว้

เอิ่ม.....แป๊บ ตั้งแต่สองทุ่มกว่ายันหกโมงเช้า
แถมเช้านั้น นางนุ่งผ้าเช็ดตัวครึ่งท่อน  ไปขอยืมยาสีฟันเพื่อนร่วมทริปห้องข้างๆ
ที่พึ่งรู้จักกัน 1 วันถ้วน  ขอบคุณพี่ๆที่ให้ยืมด้วยนะคะ

ปล ทริปนี้ เราเตรียมพร้อมกันมาก ครีมกันแดด โลชั่น ยาสีฟัน สบู่ ใช่ค่ะ ที่กล่าวมา ไม่มีในกระเป๋าเราทั้งคู่ 555


วันที่ 2 คงคอนเซ็ปต์เดิม กองทัพต้องเดินด้วยท้อง เริ่มต้น มื้อเช้า ที่ร้านทะเลภู ร้านเดิม อร่อยทุกอย่าง 
เมื่อหนังท้องตึง เราก็พร้อมออกเดินทางกันอีกรอบ ตามแพลนคือ เราจะไปเป็นชาวเกาะหมาก พร้อมชมฝูงกวางที่เกาะกระดาด ต่อด้วยไปยลโฉมเกาะขายหัวเราะ เป็นไงล่ะ แค่เห็นแพลนก็น่าสนใจใช่มั๊ยล่ะ 

ไปเกาะหมากกันเถอะ  ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เดี๋ยวจะบอกวิธีเดินทางไปแต่ละเกาะที่ตอนท้ายนะคะ  

ถึงแล้ว เกาะหมาก 
จากท่าเรือ มียานพาหนะ หน้าตาน่ารัก มารอรับ พร้อมที่จะพาเราไปเที่ยวทั่วเกาะหมาก  

มาถึงเกาะที่ได้ชื่อว่าเป็น แหล่งท่องเที่ยว Low carbon destination แล้ว ที่แรกที่เราไป คือ ฟาร์มออร์แกนิค ชื่อ Koh Mak Farm  ที่ปลูกผักทุกอย่างโดยไม่ใช้สารเคมี   หากใครสนใจเกี่ยวกับการทำฟาร์มออร์แกนิค แนะนำที่นี่ค่ะ เพราะพี่เค้าจบเกษตร ความรู้แน่นๆ แน่นอน 
ต้อนรับ ด้วยรอยยิ้มสดใส

ที่ฟาร์มมีกิจกรรมให้ทำหลากหลายมาก ทั้งสอนทำอาหาร ปลูกผัก หรือจะมาทานอาหาร ท่ามกลางบรรยากาศแบบ Low carbon 
สามารถสอบถามได้ที่เพจ ได้โดยตรง ได้เลยค่ะ  พี่ๆ เค้ามีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ไม่เหงาแน่นอน


วันนี้ที่ฟาร์มมีกิจกรรมให้เราได้แสดงฝีมือกัน คือ  การห่อ บันจั๊ง (ปอเปี๊ยะเวียดนาม)   พี่เค้าสาธิตการห่อ ให้ดูก่อน  อืม ไม่น่ายากนะ

และแน่นอนระดับ ฝีมือระดับเรา ที่มีทักษะการต้มมาม่าเป็นเลิศแล้ว  แค่การห่อบันจั๊ง ไม่ใช่เรื่องยาก แต่...............ไม่ง่ายสำหรับเรา ห่ออันใหญ่มาก เกือบเอาเข้าปากไม่ได้ 555
หลังจากที่ได้กินบันจั๊ง ที่ห่อด้วยน้ำมือตัวเองแล้ว เราก็ฝากท้องมื้อเที่ยงกันที่นี่  

อิ่มท้องแล้ว เราก็เดินดูผักต่างๆ พร้อมกับฟังบรรยายความรู้เกี่ยวกับการปลูกผักออร์แกนิค ชนิดต่างๆในฟาร์ม
กิจกรรมสุดท้ายก่อนกลับ พี่เค้าให้เราปลูกผัก พร้อมกับนำกลับบ้านกันด้วย   
ซึ่งตอนนี้ น้องผักของเราได้จากไปแล้ว  เนื่องจากน้องรับทนความใส่ใจจากเราไม่ไหว  

ต่อที่คอมเม้นต์ด้านล่างนะคะ จำนวนข้อความเกินค่ะ
ชื่อสินค้า:   ตราด ไม่ไกล อย่างที่คิด
คะแนน:     

SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - ได้รับสินค้าหรือบริการมาใช้รีวิวฟรี โดยไม่ต้องคืนสินค้าหรือบริการนั้น
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่