อย่างไร... ภายในใจฉันตอนนี้เหมือนยกอดีตเก่าๆของฉันกับเลิศชัยออกจากอก
รามราชเป็นคนช่วยให้ฉันหลุดออกมาจากภวังค์รักของเลิศชัย
“แม่ไปโรงเรียนก่อนนะจ้าลูกสาวคนสวยของแม่”
ฉันกอดจูบน้องนิด้าลูกสาวคนเดียวด้วยความรัก ครอบครัวฉันและรามราชยังคงรักกันมาตลอด
....เลิศชัยจางหายไปจากใจฉัน นานแล้ว ตอนนี้เหลือแต่รามราชและลูกสาวที่น่ารักเท่านั้น
“เราไปฉลองตำแหน่งใหม่กันนะดาว” รามราชชวนฉันไปกินเลี้ยงเพื่อฉลองตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนใหม่
ฉันกับรามราชจะทำอะไรด้วยกันเสมอ เราจะไปเรียนต่อด็อกเตอร์ด้วยกัน เรียนบริหารการศึกษาด้วยกัน สอบเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนด้วยกัน หน้าที่การงานเราเจริญก้าวหน้ามาก และได้ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนเหมือนกันคนละโรงเรียน
มีแต่คนแอบอิจฉาในความรักและความเจริญก้าวหน้าในการงานของเรา ฉันมีความสุขมาก มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเป็นครอบครัวตัวอย่างของจังหวัดเลยหละ ใครๆก็รู้จักครอบครัวของเรา เป็นที่ภาคภูมิใจตลอดมา
วันเวลาผ่านไปนาน ตำแหน่งสูง การงานเจริญก้าวหน้า มีหน้ามีตาในสังคม ลูกสาวสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯได้ ชีวิตสมบูรณ์แบบมาก เพื่อนฝูงมาหาคุยกันสนุกสนาน เพื่อนๆชื่นชมในความสำเร็จของชีวิตฉัน
ซึ่งในขณะเดียวกันเพื่อนบางคนก็อยู่อย่างพอเพียง ไม่มีหน้าตาในสังคม มีชีวิตอยู่ไปวันๆ ฉันก็พูดปลอบใจเพื่อนๆ เพื่อไม่ให้เพื่อนรู้สึกผิดหวังหรือท้อแท้ในชีวิต เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆเสมอมา
“ดาว..เธอไปเที่ยวกับสามีเธอบ้างหรือเปล่า เห็นทำแต่งาน ต้องพักผ่อนท่องเที่ยวบ้างนะ”
เพื่อนสนิทถามฉันเพราะไม่เคยเห็นฉันไปเที่ยวที่ไหนเลย ทำแต่งานและอยู่บ้าน
“ ฉันไม่ค่อยได้ไปเที่ยวหรอก งานเยอะมาก” ฉันรีบบอกเพื่อนๆไป แต่จริงๆก็อยากไปเที่ยว
แต่รามราชไม่เคยชวนไปเที่ยวด้วย เขาอ้างว่าไปเที่ยวกับเพื่อนฝูง เกรงว่าถ้าฉันไปด้วยจะทำให้ฉันไม่สนุก
.... นานแล้วที่ฉันไม่ได้ไปเที่ยวกับรามราช
“ระวังนะ...สาวๆจะแอบฉกเอาสามีของเธอไป ฮ่าๆๆ”
เพื่อนๆพูดแซวแบบไม่ได้ตั้งใจให้ฉันเกิดความระแวงสงสัย พอเพื่อนๆกลับกันไปหมด
ฉันสะดุด...ตรงคำพูดของเพื่อนวันนี้ทำให้ฉันเริ่มนั่งคิดทบทวนวันเวลาที่ผ่านมา
คืนนั้นฉันนอนไม่ค่อยหลับ คำพูดของเพื่อนสะกิดใจฉัน การที่ฉันทำงานมากเกินไปและรามราชก็ทำงานมากเช่นกัน แต่เวลาเขาไปเที่ยวหลายปีมานี้เขาไม่เคยชวนฉันไปเที่ยวด้วยเลย เขาไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆหรือว่าเขาจะไปเที่ยวกับสาวๆที่เพื่อนฉันพูดนะ
ฉันเริ่มระแวงรามราช ฉันคิดวางแผนและเริ่มสังเกตการณ์ว่าที่เขาไปเที่ยวเขาไปเที่ยวกับใคร
เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าคำพูดของเพื่อนสนิทฉันจะเป็นจริงหรือไม่...
“ ผมขอลาพักร้อน 3 วันนะดาว พอดีเพื่อนชวนไปเที่ยวภาคใต้ รวมเสาร์อาทิตย์ด้วยก็คง 5 วันนะ” รามราชบอกฉันเย็นนี้ ฉันเลยแกล้งถามไปว่า
“ ไปเที่ยวด้วยได้ไหมราม ดาวไม่ได้เที่ยวนานแล้ว ยังลาพักร้อนทันนะ” ลองหยั่งเชิงว่ารามราชจะพูดอย่างไร เขารีบตอบทันทีเลยว่า
“ผมไปในงานด้วยครับ และถือโอกาสเที่ยวด้วย เพราะไม่ได้เที่ยวภาคใต้นานแล้ว และจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้วด้วยนะ”
การปฏิเสธของเขาเป็นการโยนให้กับงาน....
“ต้องอดใจรอก่อนนะคล้ายดาว” ฉันเตือนตัวเองตลอดเวลา อย่าให้รามราชจับได้ว่าฉันกำลังติดตามสืบว่าเขาไปกับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร
คำถามเกิดขึ้นในหัวฉันตลอดเวลา ความรู้สึกที่เคยไว้ใจ กลับเปลี่ยนเป็นไม่ไว้ใจ แต่อย่าเพิ่งปักใจว่าใช่ต้องสืบดูก่อนแล้วจึงจะยอมเชื่อ
.... อย่าเชื่อในสิ่งที่สงสัย ให้เชื่อในสิ่งที่เห็น....
ฉันนั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม จิตใจตอนนี้ปั่นป่วนอย่างที่สุด ใจหนึ่งก็ขอให้ไม่ใช่เรื่องจริงเถอะ อีกใจหนึ่งก็คิดว่าถ้าเป็นเรื่องจริงก็จะได้เปิดเผยธาตุแท้ของรามราชไปเลย เพราะถ้าความจริงออกมาแล้ว จะได้ทำใจให้สงบและจากกันไปด้วยดี
ภาพในอดีตเริ่มปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งภาพของเลิศชัยคนรักเก่า ที่ฉันแสนรักเป็นที่สุด
ภาพของรามราชสามีคนปัจจุบัน และภาพครอบครัวที่เคยมีความสุขด้วยกัน ฉันนั่งหลับตา หายใจลึกๆ ใจมันสั่นจนต้องกดหน้าอกเอาไว้ สูดอากาศเข้าเต็มปอด เพื่อช่วยให้ความรู้สึกปวดลึกๆเบาบางลงบ้าง
ฉันได้ยินเสียงเรียกชื่อของเขาจากผู้หญิงคนหนึ่ง....
“พี่รามรอแอนด้วยค่ะ” ฉันรีบลืมตาเพื่อมองตามเสียงนั้น
โอ้..ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ถึงแม้ว่าจะห่างกันหลายสิบก้าว ฉันก็รู้ได้ว่า” ราม” คือรามราชสามีของฉันแน่นอน
ฉันรีบหลบทันที เสาขนาดใหญ่ของโรงแรม เป็นที่หลบซ่อนได้ดีมาก
หญิงสาวคนนั้นดูสวยและเซ็กซี่แต่งตัวทันสมัย เดินกอดแขนรามราชสามีของฉัน แสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน
“ นี่ไม่ได้ฝันหรือเห็นภาพหลอนไปนะ” ฉันหยิกแก้มตัวเองเต็มแรง โอ้ย..รู้สึกเจ็บ
ปกติฉันเป็นคนชอบทะเลมาก ทะเลภาคใต้น้ำใสเขียว มองเห็นพื้นทรายด้านล่าง ฝูงปลาการ์ตูนแหวกว่ายไปมา ปะการังเต็มใต้ทะเล มีสีสันสวยงาม
..... แต่วันนี้ทะเลภาคใต้ ....ดำมืดมิด ....ท้องฟ้ามืดครึ้ม ....เสียงฟ้าร้องครื้นๆ ....ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นใครนอกจาก...รามราชคนเดียว
เราอยู่กันคนละบ้าน
ต่างคนต่างอยู่แบบนี้มานาน 5 ปีแล้ว
เราเจอกันในที่ทำงานหรือที่ประชุมสัมมนา เราทักทายกันเป็นไปอย่างปกติ
ไม่มีใครรู้ว่าเราแยกกันอยู่มานานแล้ว
...เพราะเราไม่เคยพูดจาว่าร้ายกัน
....ไม่โทษซึ่งกันและกัน
.... ไม่โทษว่าใครผิดใครถูก
.... ไม่ทำอะไรที่ไม่ดีต่อกัน
.... เพียงแต่เราต่างคนต่างอยู่
.... ไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวซึ่งกันและกัน
.... เพียงขอแค่ชีวิตที่....เป็นอิสรภาพทางกายและทางใจเป็นของตัวเองอย่างสมบูรณ์
ฉันไม่เคยบอกรักรามราช ตั้งแต่เราแต่งงานกันมา เพราะในใจฉันรักได้เพียงเลิศชัยคนเดียวเท่านั้น รามราชคงรู้ว่าฉันไม่ได้รักเขา เขาคงเหนื่อยและท้อที่จะรักฉันอยู่ข้างเดียว
บางทีการแยกกันอยู่ อาจทำให้ความรู้สึกที่แท้จริงในใจของแต่ละฝ่าย จะปรากฏเด่นชัดตามที่ใจของตนเองปรารถนา
.... รามราชกับฉันยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมา
ภาพเลิศชัย...วนเวียนอยู่ในความคิดฉันตลอดเวลาที่ต้องการเขา เขาจะมาปรากฏในใจฉันเสมอ
.... รักเธอเลิศชัยและฉันจะรักเธอตลอดไปจนสิ้นลมหายใจ...
ทางเลือกแห่งรัก(ตอน3)
รามราชเป็นคนช่วยให้ฉันหลุดออกมาจากภวังค์รักของเลิศชัย
“แม่ไปโรงเรียนก่อนนะจ้าลูกสาวคนสวยของแม่”
ฉันกอดจูบน้องนิด้าลูกสาวคนเดียวด้วยความรัก ครอบครัวฉันและรามราชยังคงรักกันมาตลอด
....เลิศชัยจางหายไปจากใจฉัน นานแล้ว ตอนนี้เหลือแต่รามราชและลูกสาวที่น่ารักเท่านั้น
“เราไปฉลองตำแหน่งใหม่กันนะดาว” รามราชชวนฉันไปกินเลี้ยงเพื่อฉลองตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนใหม่
ฉันกับรามราชจะทำอะไรด้วยกันเสมอ เราจะไปเรียนต่อด็อกเตอร์ด้วยกัน เรียนบริหารการศึกษาด้วยกัน สอบเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนด้วยกัน หน้าที่การงานเราเจริญก้าวหน้ามาก และได้ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียนเหมือนกันคนละโรงเรียน
มีแต่คนแอบอิจฉาในความรักและความเจริญก้าวหน้าในการงานของเรา ฉันมีความสุขมาก มีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบเป็นครอบครัวตัวอย่างของจังหวัดเลยหละ ใครๆก็รู้จักครอบครัวของเรา เป็นที่ภาคภูมิใจตลอดมา
วันเวลาผ่านไปนาน ตำแหน่งสูง การงานเจริญก้าวหน้า มีหน้ามีตาในสังคม ลูกสาวสอบเข้ามหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯได้ ชีวิตสมบูรณ์แบบมาก เพื่อนฝูงมาหาคุยกันสนุกสนาน เพื่อนๆชื่นชมในความสำเร็จของชีวิตฉัน
ซึ่งในขณะเดียวกันเพื่อนบางคนก็อยู่อย่างพอเพียง ไม่มีหน้าตาในสังคม มีชีวิตอยู่ไปวันๆ ฉันก็พูดปลอบใจเพื่อนๆ เพื่อไม่ให้เพื่อนรู้สึกผิดหวังหรือท้อแท้ในชีวิต เป็นกำลังใจให้เพื่อนๆเสมอมา
“ดาว..เธอไปเที่ยวกับสามีเธอบ้างหรือเปล่า เห็นทำแต่งาน ต้องพักผ่อนท่องเที่ยวบ้างนะ”
เพื่อนสนิทถามฉันเพราะไม่เคยเห็นฉันไปเที่ยวที่ไหนเลย ทำแต่งานและอยู่บ้าน
“ ฉันไม่ค่อยได้ไปเที่ยวหรอก งานเยอะมาก” ฉันรีบบอกเพื่อนๆไป แต่จริงๆก็อยากไปเที่ยว
แต่รามราชไม่เคยชวนไปเที่ยวด้วย เขาอ้างว่าไปเที่ยวกับเพื่อนฝูง เกรงว่าถ้าฉันไปด้วยจะทำให้ฉันไม่สนุก
.... นานแล้วที่ฉันไม่ได้ไปเที่ยวกับรามราช
“ระวังนะ...สาวๆจะแอบฉกเอาสามีของเธอไป ฮ่าๆๆ”
เพื่อนๆพูดแซวแบบไม่ได้ตั้งใจให้ฉันเกิดความระแวงสงสัย พอเพื่อนๆกลับกันไปหมด
ฉันสะดุด...ตรงคำพูดของเพื่อนวันนี้ทำให้ฉันเริ่มนั่งคิดทบทวนวันเวลาที่ผ่านมา
คืนนั้นฉันนอนไม่ค่อยหลับ คำพูดของเพื่อนสะกิดใจฉัน การที่ฉันทำงานมากเกินไปและรามราชก็ทำงานมากเช่นกัน แต่เวลาเขาไปเที่ยวหลายปีมานี้เขาไม่เคยชวนฉันไปเที่ยวด้วยเลย เขาไปเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนๆหรือว่าเขาจะไปเที่ยวกับสาวๆที่เพื่อนฉันพูดนะ
ฉันเริ่มระแวงรามราช ฉันคิดวางแผนและเริ่มสังเกตการณ์ว่าที่เขาไปเที่ยวเขาไปเที่ยวกับใคร
เพื่อเป็นการพิสูจน์ว่าคำพูดของเพื่อนสนิทฉันจะเป็นจริงหรือไม่...
“ ผมขอลาพักร้อน 3 วันนะดาว พอดีเพื่อนชวนไปเที่ยวภาคใต้ รวมเสาร์อาทิตย์ด้วยก็คง 5 วันนะ” รามราชบอกฉันเย็นนี้ ฉันเลยแกล้งถามไปว่า
“ ไปเที่ยวด้วยได้ไหมราม ดาวไม่ได้เที่ยวนานแล้ว ยังลาพักร้อนทันนะ” ลองหยั่งเชิงว่ารามราชจะพูดอย่างไร เขารีบตอบทันทีเลยว่า
“ผมไปในงานด้วยครับ และถือโอกาสเที่ยวด้วย เพราะไม่ได้เที่ยวภาคใต้นานแล้ว และจองตั๋วเครื่องบินเรียบร้อยแล้วด้วยนะ”
การปฏิเสธของเขาเป็นการโยนให้กับงาน....
“ต้องอดใจรอก่อนนะคล้ายดาว” ฉันเตือนตัวเองตลอดเวลา อย่าให้รามราชจับได้ว่าฉันกำลังติดตามสืบว่าเขาไปกับใคร ที่ไหน เมื่อไหร่ และอย่างไร
คำถามเกิดขึ้นในหัวฉันตลอดเวลา ความรู้สึกที่เคยไว้ใจ กลับเปลี่ยนเป็นไม่ไว้ใจ แต่อย่าเพิ่งปักใจว่าใช่ต้องสืบดูก่อนแล้วจึงจะยอมเชื่อ
.... อย่าเชื่อในสิ่งที่สงสัย ให้เชื่อในสิ่งที่เห็น....
ฉันนั่งรออยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม จิตใจตอนนี้ปั่นป่วนอย่างที่สุด ใจหนึ่งก็ขอให้ไม่ใช่เรื่องจริงเถอะ อีกใจหนึ่งก็คิดว่าถ้าเป็นเรื่องจริงก็จะได้เปิดเผยธาตุแท้ของรามราชไปเลย เพราะถ้าความจริงออกมาแล้ว จะได้ทำใจให้สงบและจากกันไปด้วยดี
ภาพในอดีตเริ่มปรากฎขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งภาพของเลิศชัยคนรักเก่า ที่ฉันแสนรักเป็นที่สุด
ภาพของรามราชสามีคนปัจจุบัน และภาพครอบครัวที่เคยมีความสุขด้วยกัน ฉันนั่งหลับตา หายใจลึกๆ ใจมันสั่นจนต้องกดหน้าอกเอาไว้ สูดอากาศเข้าเต็มปอด เพื่อช่วยให้ความรู้สึกปวดลึกๆเบาบางลงบ้าง
ฉันได้ยินเสียงเรียกชื่อของเขาจากผู้หญิงคนหนึ่ง....
“พี่รามรอแอนด้วยค่ะ” ฉันรีบลืมตาเพื่อมองตามเสียงนั้น
โอ้..ภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า ถึงแม้ว่าจะห่างกันหลายสิบก้าว ฉันก็รู้ได้ว่า” ราม” คือรามราชสามีของฉันแน่นอน
ฉันรีบหลบทันที เสาขนาดใหญ่ของโรงแรม เป็นที่หลบซ่อนได้ดีมาก
หญิงสาวคนนั้นดูสวยและเซ็กซี่แต่งตัวทันสมัย เดินกอดแขนรามราชสามีของฉัน แสดงความเป็นเจ้าของอย่างชัดเจน
“ นี่ไม่ได้ฝันหรือเห็นภาพหลอนไปนะ” ฉันหยิกแก้มตัวเองเต็มแรง โอ้ย..รู้สึกเจ็บ
ปกติฉันเป็นคนชอบทะเลมาก ทะเลภาคใต้น้ำใสเขียว มองเห็นพื้นทรายด้านล่าง ฝูงปลาการ์ตูนแหวกว่ายไปมา ปะการังเต็มใต้ทะเล มีสีสันสวยงาม
..... แต่วันนี้ทะเลภาคใต้ ....ดำมืดมิด ....ท้องฟ้ามืดครึ้ม ....เสียงฟ้าร้องครื้นๆ ....ตอนนี้ฉันมองไม่เห็นใครนอกจาก...รามราชคนเดียว
เราอยู่กันคนละบ้าน
ต่างคนต่างอยู่แบบนี้มานาน 5 ปีแล้ว
เราเจอกันในที่ทำงานหรือที่ประชุมสัมมนา เราทักทายกันเป็นไปอย่างปกติ
ไม่มีใครรู้ว่าเราแยกกันอยู่มานานแล้ว
...เพราะเราไม่เคยพูดจาว่าร้ายกัน
....ไม่โทษซึ่งกันและกัน
.... ไม่โทษว่าใครผิดใครถูก
.... ไม่ทำอะไรที่ไม่ดีต่อกัน
.... เพียงแต่เราต่างคนต่างอยู่
.... ไม่ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวซึ่งกันและกัน
.... เพียงขอแค่ชีวิตที่....เป็นอิสรภาพทางกายและทางใจเป็นของตัวเองอย่างสมบูรณ์
ฉันไม่เคยบอกรักรามราช ตั้งแต่เราแต่งงานกันมา เพราะในใจฉันรักได้เพียงเลิศชัยคนเดียวเท่านั้น รามราชคงรู้ว่าฉันไม่ได้รักเขา เขาคงเหนื่อยและท้อที่จะรักฉันอยู่ข้างเดียว
บางทีการแยกกันอยู่ อาจทำให้ความรู้สึกที่แท้จริงในใจของแต่ละฝ่าย จะปรากฏเด่นชัดตามที่ใจของตนเองปรารถนา
.... รามราชกับฉันยังคงเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอมา
ภาพเลิศชัย...วนเวียนอยู่ในความคิดฉันตลอดเวลาที่ต้องการเขา เขาจะมาปรากฏในใจฉันเสมอ
.... รักเธอเลิศชัยและฉันจะรักเธอตลอดไปจนสิ้นลมหายใจ...