อยากทราบเกี่ยวกับสัมพันธ์ ญี่ปุ่นกับอังกฤษ ในช่วง สงครามโลกครั้งที่ 1 - ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ครับ

อยากรู้ว่าสภาพ ความสัมพันธ์ ตอนนั้นเป็นไง ทั้ง การเมืองเศรษฐกิจ และ เทคโนโลยีครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
อังกฤษกับญี่ปุ่นเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกันในช่วงปี 1902-1923 ครับ สาเหตุที่เข้าเป็นพันธมิตรกันก็แน่นอนว่าเพื่อต้านรัสเซีย อังกฤษกังวลว่ารัสเซียจะรุกคืบยึดอิสตันบูลแล้วส่งกองเรือรบในทะเลดำออกมาขยายอิทธิพลในเมดิเตอร์เรเนียน (ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างอังกฤษกับอินเดียเพชรมหามงกุฏ) ส่วนญี่ปุ่นก็กังวลว่ารัสเซียจะบุกเข้าเกาหลีแล้วใช้เกาหลีเป็นฐานในการเข้าโจมตีเกาะแม่ของญี่ปุ่น ดังนั้นมีศัตรูร่วมกันก็เข้าเป็นพันธมิตรกันดีกว่า เราควรสังเกตว่าอังกฤษไม่มีพันธมิตรอื่นใดอีกเลยนอกจากญี่ปุ่นนะครับ ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้นอังกฤษเซ็นสัญญาตกลงความเข้าใจ (Entente) กับฝรั่งเศสและรัสเซียเท่านั้น ไม่ได้เป็นถึงพันธมิตร (Alliance) แบบญี่ปุ่น

แต่พอจบสงครามโลกครั้งที่ 1 นั้นทางอังกฤษก็ไม่แน่ใจว่าควรจะเป็นพันธมิตรกับญี่ปุ่นต่อดีหรือไม่ เพราะตอนนั้นรัสเซียก็ล่มไปแล้วคงใช้เวลาอีกซักพักกว่าจะกลับมาท้าทายอังกฤษได้ คู่แข่งของญี่ปุ่นในภูมิภาคตะวันออกก็คืออเมริกากับออสเตรเลีย ซึ่งถ้ามีการรบกันระหว่างญี่ปุ่นกับอเมริกาจริง สนธิสัญญานี้จะดึงอังกฤษให้เข้าไปร่วมรบด้วย และดึงชาติลูกน้อง (Dominion) ของอังกฤษให้เข้าร่วมรบด้วยเช่นกัน (แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์) ทางแคนาดากังวลมาก ๆ ครับเพราะตนเองมีพรมแดนติดกับอเมริกา จำนวนคน ขนาดกองทัพ อุตสาหกรรมเล็กกว่าเยอะ ถ้ามีสงครามจริงนี่แคนาดาโดนอเมริกาถล่มแน่ ทางออสเตรเลียเองอยากคงสนธิสัญญาไว้เพราะเป็นหลักประกันว่าจะไม่โดนญี่ปุ่นรุกราน แต่ถ้าจะยกเลิกสัญญาจริงก็ขอให้อังกฤษช่วยเสริมกองทัพเรือให้ สุดท้ายอังกฤษก็จบสัญญาพันธมิตรกับญี่ปุ่นในปี 1921 (แต่มีผลในปี 1923) ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นเริ่มไม่ไว้วางใจอังกฤษเท่าไหร่แล้ว

ปี 1922 มีการประชุมที่วอชิงตันเรื่องเอเซียตะวันออกนี่แหละ ที่จบลงด้วยการจำกัดกำลังทางเรือ สามชาติสำคัญก็คืออังกฤษ อเมริกา ญี่ปุ่น เข้าร่วม ทุกประเทศไม่อยากให้เกิดการต่อเรือแข่งกันจนเป็นสงครามเหมือนสงครามโลกครั้งแรก อเมริกามีความต้องการเพิ่มเติมที่จะจำกัดการขยายอำนาจของญี่ปุ่นในจีน ญี่ปุ่นอยากให้ทุกชาติยอมรับดินแดนที่ญี่ปุ่นยึดมาได้ (เช่นชิงเต่า เกาะซาคาลิน กับเกาะอื่นในแปซิฟิค) ส่วนอังกฤษไม่มีความต้องการอะไรพิเศษนอกจากไม่อยากให้อเมริกากับญี่ปุ่นรบกันหรือมายุ่งกับพื้นที่ของตน (ฮ่องกง สิงคโปร์ ออสเตรเลีย) สุดท้ายก็ตกลงสัดส่วนจำนวนกองทัพเรือได้ที่ 5:5:3 (อเมริกา:อังกฤษ:ญี่ปุ่น) อเมริกากับอังกฤษค่อนข้างพอใจ แต่ญี่ปุ่นเสียงแตก ฝั่งกองทัพเรือไม่พอใจสัดส่วน 5:3 เพราะเคยวิเคราะห์ไว้ว่าสัดส่วนที่จะทำให้ญี่ปุ่นมีโอกาสชนะอเมริกาคือ 10:7 แต่อีกกลุ่มนึงก็บอกว่าญี่ปุ่นสร้างกองทัพเรือมาให้ได้สัดส่วน 10:7 กับอเมริกาไม่ไหวอยู่แล้วเนื่องด้วยทรัพยากร (คือถ้าญี่ปุ่นขอ 10:7 ญี่ปุ่นอาจสร้างขึ้นมาได้จริงแค่ 10:5 หรือ 10:6 ดังนั้น 10:6 หรือ 5:3 เนี่ยเป็นการลิมิตอเมริกาตามศักยภาพจริงของญี่ปุ่น)

จากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษกับญี่ปุ่นก็แย่ลงเรื่อย ๆ ล่ะครับ ไม่มีสนธิสัญญาพันธมิตรแล้วด้วย ญี่ปุ่นก็รุกรานจีนต่อไป ชาติตะวันตกก็พยายามหยุดญี่ปุ่นทำให้ญี่ปุ่นเพิ่มความไม่พอใจเข้าไปอีก จนเกิดสงครามโลกครั้งที่สองครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่