ความละเอียดของขันธ์ห้า ขอให้ท่านผู้ศึกษามาก่อนหน้านี้มาคลี่คลายด้วย ขอบคุณครับ

ผมเล่น facebook เพลินๆไปเจอคลิปหนึ่งที่พระอาจารย์ชื่ดังพูดถึงขันธ์ห้า(ไม่ขอแปะคลิป) เนื่องด้วยเรื่องนี้ผมก็พยายามศึกษามานานพอสมควรแต่ยากมากยังมึนๆหลายจุดอยู่ เพราะอยากศึกษาอย่างละเอียด ผมเลยไปแสดงความคิดเห็น(อาจเป็นอัตตาของผมเอง) ลูกศิษย์สำนักนี้จึงมาตอบผม ดังนี้;
...
ผู้ตั้งกระทู้: เห็นด้วยกับพระอาจารย์หนึ่งส่วนครับ แต่ท่านยังพูดไม่ละเอียดพอครับ เพราะขันธ์ห้า พูดแบบละเอียดกว่านี้อีกครับ อธิบายให้ละเอียดมากกว่านี้ได้ครับ ผมรู้ขันธ์ห้าคืออะไร และมันทำงานอย่างไรครับ ถ้าพิจารณาขั้นการทำงาน แม้ผมพิจารณาก็ว่าเป็นเรื่องยาก ละเอียด ยากยิ่งในปุถุชน ผมยังไม่เข้าใจมากพอในส่วนการทำงานครับ
ผู้ตอบ: ก็ละเอียดแล้วสำหรับ คนที่ยังไม่รู้อะไรเลย การที่ท่านแสดงธรรมแต่ละครั้งความละเอียดก็ไม่เท่ากันขันธ์5 มันไม่ใช่เราไงทั้งขันธ์มันไม่ได้รู้เรื่องอะไร สัตว์ผู้มีอวิชชา ไปหลงยึดว่าเป็นมัน ชาติชรามรณะ ก็ตามมา
       เห็นเขาตอบมาอย่างนี้ผมก็นึกสนุกอย่างรู้ว่าเขารู้ถึงขั้นไหนในขันธ์ห้า
ผู้ตั้งกระทู้: ในเมื่อขันธ์ห้าไม่ใช่เรา แล้วเราละครับคืออะไร แล้วอะไรเป็นเราเข้าไปยึดครับ
ผู้ตอบ: เราก็ไม่มีไงครับ เรายังยึดว่านี่นั่นเป็นเราอยู่เลย ราคะ ฉันทะ นันทิ ตันหา มีแล้วข้องแล้วในขันธ์ห้าแล้วนี่ถูกเรียกว่าสัตว์
ผู้ตั้งกระทู้: ราคะ ฉันทะ นันธิ ตัณหา เหล่านี้เป็นอารมณ์ แล้วตัวที่ไปยึดเหล่านี้ละครับคืออะไร คุณอธิบายสิ่งที่ถูกยึด ยังไม่ได้ขยายความสิ่งที่เข้าไปยึดเลยนะครับ เห็นไหมครับว่าความละเอียดของขันธ์ห้า ขนาดไหนนี้เราพูดให้ชั้นปุถุชนแลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ
ผู้ตอบ: อ๋อ ก็วิญญาณ ไปรับรู้ขันธ์ทั้งสี่ แล้วยึดว่าเป็นมัน แต่วิญญาณเป็นแค่ธาตุรู้ที่เกิดดับ ที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย ถูกสัตว์ยึดมาแล้ว แล้วตัววิญญาณขันธ์ก็ไปยึดขันธ์ทั้งสี่ว่าเป็นตัวมันอีก นี่คือสิ่งที่ไปยึดขันธ์ห้า เรียกว่า วิญญาณฐิติ
ผู้ตั้งกระทู้: ผมขอถามต่อพอเป็นวิทยาทานครับ จิต มโน วิญญาณ คือสิ่งเดียวกัน ในชั้นปุถุชนที่มีขันธ์ห้า บริบูรณ์ วิญญาณทำงานอย่างไร การที่จะรับรู้สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้น
ผู้ตอบ: จิตมโนวิญญาณ สามอย่างนี้อันเดียวกัน วิญญาณไปรับรู้ขันธ์ทั้งสี่ แต่วิญญาณรู้ได้แค่ทีละขันธ์ เปลี่ยนจากสังขาร มาเป็นสัญญา ประมาณนี้ แต่มันเกิดดับไวมาก เมื่อเปลี่ยนจากสังขาร ความปรุงแต่งมาเป็นสัญญาแล้ว วิญญาณจากสังขารก็ดับไป วิญญาณที่สัญญาก็เกิดขึ้น วิญญาณจะไปรู้แค่สี่ขันธ์นี้ ประมาณนี้
ผู้ตั้งกระทู้: สรุปจิตเข้าไปรับรู้(เคลื่อนไปรับรู้) หรือถูกผัสสะกันแน่ครับ ในพระสูตรว่าด้วย จิตประภัสสร แต่มัวหมองเพราะ กิเลสที่จรมา
ผู้ตอบ: คุณต้องดูสายปฏิจจสมุปบาทขันธ์ห้ามาก่อนผัสสะ เพราะมีอวิชชาเป็นปัจจัย จึงมี สังขาร สังขาร จึงมี วิญญาณ วิญญาณ-นามรูป นามรูป-สฬายตนะ สฬายตนะ-ผัสสะ?
ผู้ตั้งกระทู้: ณ ตอนนี้ ที่เราคุยกันนามรูปเกิดหรือหยังครับ
ผู้ตอบ: เราคุยกันด้วยสัญญาครับ แต่ผมคุยกับคุณ ขันธ์ห้าผมมันก็ทำงานของมันปกติ
ผู้ตั้งกระทู้: ขันธ์ห้า ประกอบด้วย รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่มีสัญญามาเกี่ยวข้องนิครับ (หมายถึงในปฏิจสมุทบาท) ขอให้คุณพิจารณาใหม่ครับ ใช่หรือที่มีแต่สัญญามาเกี่ยวข้องครับ (หมายถึง ณ ตอนนี้พูดถึงการโต้ตอบด้วยสัญญา)
ผู้ตอบ: วิญญาณก็เป็นส่วนหนึ่งของขันธ์ห้า มันไปรู้ทุกอันในขันธ์ทั้งสี่ เราคุยกันเนี่ยเราคุยด้วยสัญญา ภาษาไทย ความรู้ความทรงจำในเรื่องนั้นๆ วิญญาณมารับรู้สัญญา ผมว่าคุณศึกษาเถอะ คุยกันมาตั้งนานนิไม่ได้เข้าใจเลยใช่ไหมไปย้อนอ่านคอมเม้นเอาสิ่งที่ผมบอก คือคำศาสดาทั้งนั้น ไปล่ะ
ผู้ตั้งกระทู้: ผมขอขยายความที่ผมยกผัสสะ(กระทบ) เพราะต้องการให้คุณพิจารณาใหม่ ว่าจิตนี้เคลื่อนไปรู้ หรือถูกกระทบด้วยสิ่งภายนอกกันแน่ครับ หากตอบว่าเคลื่อนไปรู้ผมจะได้ถามต่อ ถ้าตอบ ถูกกระทบผมจะได้หยุดในส่วนนี้ เอ้า55++ สรุปว่า คุณไม่เข้าใจการทำงานของจิตเลย ใช่หรือไม่ 555++ ไอ้ก็หลงนึกว่าเข้าใจ คุณลองพิจารณาใหม่คุณว่าสัญญาขันธ์อย่างเดียวหรือ ผมขอยกข้อเดียวประดับความรู้ เช่นคุณใช้ตารับรู้สิ่งหนึ่งหมายถึงตาถูกกระทบ รูปเกิดในสิ่งนั้น สัญญาทำงาน บ้างสังขารทำงานด้วย เวทนาทำงาน การตอบสนองจึงมี ที่ว่าจิตเร็วนั้นเห็นจะใช้ แต่คุณไม่เข้าใจว่ามันเกิดจริง อ้างแต่คำพระศาสดาแต่ไม่เคยเข้าใจ ระวังเป็นแบบพระอานนท์นะครับ ดีนะที่พระอานนท์ยังรู้แจ้งในอริยะ
ผู้ตอบ: คุณให้ผมพิจารณาใหม่ วิญญาณมารับรู้ สัญญา ของผมก็ทำงาน สิ่งที่ผมบอกคุณไป มันถูกที่สุดแล้ว จิตไม่มีเคลื่อน มีแต่ดับ แล้วเกิดผัสสะผมเกิด เพราะสงสัย ทำไมไม่ศึกษาก่อนค่อยมาถาม คุยกันจะเข้าใจกันยาก ที่คุณพูดน่ะ สฬายตนะต่างหาก แต่ที่ณพูดก็ถูกบ้างนะ ประมาณนี้ไง ผมก็พูดบ่อยคำนี้แรกเริ่มที่คุยกัน เพราะแค่ทำให้แค่พอเข้าใจบ้าง แล้วค้นคว้าเอง ไม่คิดว่าคุณจะรู้เรื่องอายตนะด้วย
ผู้ตั้งกระทู้: ผมถึงได้พูดถึงความละเอียด ลึกซึ้ง ในขันธ์ห้า หากผู้ที่ไม่ได้สดับ ไม่เคยศึกษามาฟังจะเกิดมิจฉาทิฐิได้ง่าย การที่จะเอาคำของพระศาสดามาพูดนั้นต้องคำนึงถึงข้อนี้อย่างยิ่งครับ ผมพิจารณาเรื่องขันธ์ห้าและกระบวนการทางจิตถึงได้เข้าใจว่า อ๋อที่พระพุทธเจ้าท้อพระหฤทัย่งตรัสรู้ใหม่เป็นเหตุนี้เอง ปุถุชนอย่างผมแค่รู้ไม่เท่าฝุ่นผงยังว่ายากอย่างนี้ นับประสาอะไรพระพุทธเจ้า รู้แบบ ละเอียดลึกซึ้ง เจนจัด จะไม่ท้อได้อย่างไร  ผมคงจะสอบดูอารมณ์คุณเท่านี้ล่ะครับ ขอบคุณมากที่สละเวลามาสนทนา
... 
ท้ายนี้ใครอยากสนทนาเชิญมาโต้ตอบกับผมเลยครับเพื่อผมจะมีปัญญามากขึ้น
ขอบคุณครับ