เวลาแค่ 7 วันสำหรับภาคใต้ 4 จังหวัดก็น่าจะพอนะสำหรับเขา เดือนรพีคิดเองเออเองในใจตลอด เพราะเราเพิ่งรู้จักกันแค่วันสองวัน จะพูดอะไรมากก็ไม่ได้ ต้องดูท่าทีของเขาก่อน ช่วงที่เดินทางไปด้วยกัน เดือนรพีแอบมองเขาเป็นช่วงๆ แต่ก็ไม่รู้ว่าเขาจะแอบมองเดือนรพีหรือเปล่า เพราะเดินทางเมื่อไหร่เดือนรพีจะหลับเอาแรงเสมอ
“คุณเตรียมกางเกงว่ายน้ำมาหรือเปล่าค่ะคุณเฉินซี” เดือนรพีถามเขา
“ ผมจะใส่กางเกงขาสั้นเล่นน้ำทะเลครับ คุณเดือนรพี เรียกผมว่าเฉินก็ได้นะครับ”
“ เคค่ะ ฉันจะเรียกคุณว่าเฉินนะค่ะ แล้วคุณเฉินก็เรียกฉันว่าเดือนก็แล้วกันนะค่ะ ง่ายดีค่ะ และเป็นกันเองดีค่ะ” เดือนรพียิ้มหวานให้เขา เฉินซียิ้มตอบเหมือนพอใจเธอ
เฉินซีลงเล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน เขาใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว เขาถอดเสื้อเห็นกล้ามและซิกแพคของเขาอย่างชัดเจน เดือนรพีพยายามไม่มองโดยตรงแต่จะพยายามแอบมองเขา เพราะมองเห็นหุ่นเขากับกางเกงขาสั้นที่เปียกน้ำ มันช่างแนบเนื้อเขามาก ทำให้ใจเธอหวิวๆชอบกล ผมที่ยาวและรุงรังถูกน้ำทะเลเปียก และสะท้อนกับแสงพระอาทิตย์ ดูเซ็กซี่มาก เดือนรพีต้องเก็บภาพให้เขาตลอดการท่องเที่ยว ทำเป็นอัลบั้มให้นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความสุขและพอใจแก่นักท่องเที่ยว
เขาเล่นน้ำจนเย็นและเขาก็ตะโกนออกมาสุดเสียง ตอนพระอาทิตย์ตกน้ำ ได้ยินไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนเป็นการระบายความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจของเขาออกมา เดือนรพีนั่งมองเขาเล่นน้ำจนพระอาทิตย์ตกน้ำไปแล้ว เขายังนอนอยู่ตรงหาดทราย เหมือนกับหมดอาลัยในชีวิต เขาเป็นอะไรของเขานะ เดือนรพีอยากรู้จัง แต่ก็เก็บความอยากรู้เอาไว้ ถ้าเขาจะบอกคงบอกเองแหละ อย่าไปอยากรู้ใจและความรู้สึกของเขาเลย ทำหน้าที่ไกด์ที่ดีก็แล้วกัน ยุ่งมากกับลูกทัวร์ไม่ดีแน่
เดินทางต่อไปภาคตะวันออก โปรแกรมพาไปชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราด เวลา 5 วัน เดือนรพีชวนเฉินซีคุยเรื่องท่องเที่ยวในเมืองไทย เขาฟังอย่างตั้งใจ เขาบอกว่าเขารู้มาก่อนหน้าแล้วว่าประเทศไทยน่าเที่ยวมาก เขาจึงซื้อทัวร์มาเที่ยวและอยากเที่ยวคนเดียว ไม่อยากเที่ยวกับคนอื่น จะมาเองก็เบื่อไม่อยากต้องค้นหาด้วยตัวเอง อยากให้มีคนพาเที่ยว อยากเที่ยวแบบสบายๆ เพื่อปลดปล่อยอย่างเต็มที่ เฉินซีเริ่มเล่าเรื่องของเขาให้เดือนรพีฟัง แววตาของเขาเศร้ามาก
“ ถ้าคุณเฉินไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะค่ะ อาจจะทำให้คุณเศร้าใจถ้าพูดถึงมันอีก แต่ถ้าคุณเฉินอยากเล่าเพื่อให้ใครได้ฟังบ้างก็ยินดีจะรับฟังนะค่ะ ตามสบายเลยค่ะ”
หลังจากเดือนรพีพูดออกไป เฉินมองหน้าเธอและยิ้มอย่างเศร้าๆและพูดว่า
“ ถ้าคุณยินดีรับฟังเรื่องของผม ผมก็จะเล่าให้ฟัง คือผมเคยรักกับหญิงคนหนึ่ง และพร้อมจะแต่งงานกัน แต่....”
เฉินหยุดพูดไปพักหนึ่ง น้ำตาเขาไหลออกมา เดือนรพีเห็นเช่นนั้นเธอรีบเข้าไปโอบไหล่เขา เพื่อปลอบโยนเขาด้วยความสงสาร และหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาให้เขาอย่างทะนุถนอมและเห็นใจ เขาคงเสียใจมาก น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมานี่ก็แสดงว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
“ขอบคุณครับ..ผมต้องเสียแฟนของผมไปเพราะเกิดอุบัติเหตุกับเธอ..”
“เสียใจด้วยนะค่ะ” เดือนรพีจับไหล่เขาเบาๆ และพูดปลอบใจเขา
“สักวันคุณเฉินก็จะได้เจอคนที่ดีที่สุดมาแทนที่เธอค่ะ ขอให้คุณได้พบเจอในเร็ววันนะค่ะ ฉันขอภาวนาให้แฟนคุณได้ไปสวรรค์ค่ะ” เดือนรพีพูดปลอบเขาอย่างสุดใจ
เช้านี้ที่เกาะช้าง เฉินซีดูร่าเริงขึ้น แววตามีประกายแจ่มใส คงเพราะเมื่อวานเขาได้ระบายความเศร้าของเขาออกจนหมดสิ้น ความสุขคงกลับมาหาเขาอีกครั้ง
“ หลับสบายดีไหมค่ะคุณเฉินเมื่อคืน” เดือนรพีทักทายเพื่อให้ลูกทัวร์รู้สึกเป็นกันเอง
“ ครับ..ขอบคุณเดือนมากที่เป็นเพื่อนฟังเรื่องของผม ทำให้ผมได้เจอคนใหม่มาแทนที่แฟนเก่าผมแล้ว” เฉินซีกล่าวออกมาอย่างมีความสุข
“เอ..เขาไปเจอใครนะที่มาแทนแฟนเก่าเขา ไปเจอตรงไหน แปลกดีแฮ่ะ เจอคนใหม่ไวจัง” เดือนรพีสงสัยใครกันน้าที่เฉินซีเจอแล้ว
หลังจากดำน้ำดูปะการังเสร็จ ได้เวลาอาหารเย็น เฉินซีอาบน้ำประะแป้งดูน่ารักกว่าทุกวัน คงจะเพราะเฉินซีเจอคนที่ใช่แล้ว จึงทำให้เขามีความสุขขึ้น เขามองมาที่เดือนรพี แววตาเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ
“คุณเดือนแต่งงานแล้วหรือยังครับ ขอโทษนะครับที่ถามแบบนี้” เฉินถามตรงมาก
“ อ๋อ..ฉันยังโสดค่ะ” เดือนรพีตอบแบบไม่คิดอะไร แต่คำตอบของเธอทำให้เฉินซียิ้มแก้มปริ แววตาสดใสแบบมีความหวัง เขาจ้องมองเดือนรพีอย่างจริงจัง ทำให้เดือนรพีต้องหลบตาเขา ในใจเธอเริ่มคิดหละว่าทำไมเฉินซีมองเธอแบบนั้น
“คุณเฉินมองฉันแบบนี้ คงไม่เชื่อละซิว่าฉันยังโสด ใช่ไหมค่ะ” เดือนรพีเริ่มฉุนเฉียวเพราะมาสะกิดต่อมมีปมด้อยของเธอ
“ เปล่าๆๆครับ ผมเชื่อคุณเดือนนะครับ แต่แค่แปลกใจว่าคนน่ารักแบบคุณเดือนทำไมไม่มีแฟน” เท่านั้นเองต่อมโกรธของเดือนรพีก็พุ่งขึ้นมาทันที
“ ก็ฉันไปเจอผู้ชายไม่ดีนะซิ มีแฟนก็ไม่บอกฉัน หลอกให้ฉันหลงรัก แล้วก็มาบอกว่ามีแฟนแล้ว เจ็บใจสุดๆ เกลียดผู้ชายแบบนี้จริงจริ๊ง...” เธอหลุดปากพูดออกไป ทำให้เฉินซีมองเธอตาค้าง ไม่คิดว่าจะเห็นเดือนรพีแค้นผู้ชายคนนั้นมากขนาดนี้
“ ขอโทษค่ะที่พูดแบบนั้นออกไป ขอโทษนะค่ะ” เดือนรพีปิดปากแน่นเลยที่เผลอพูดความในใจออกไปแบบนั้น เฉินซีหัวเราะชอบใจแบบลืมตัว ทำให้เดือนรพีหันมามองเขาแบบจริงจังเพราะยังโกรธอยู่ ต่างคนต่างมองตาซึ่งกันและกัน นานเท่าไหร่ไม่รู้ จนได้ยินเสียงเด็กเสริฟเขามาบอกว่าร้านจะปิดแล้ว จึงทำให้ต่างคนต่างเลิกมองกันและรีบออกจากร้านไป
คืนนั้นเดือนรพีนอนไม่ค่อยหลับ เพราะจำแววตาที่เฉินซีมองเธอเมื่อตอนหัวค่ำ ภาพนั้นปรากฏขึ้นมาในสมองและความทรงจำตลอดเวลา ในขณะที่เฉินซีนอนบิดไปบิดมาเพราะมัวแต่คิดถึงเดือนรพีกับแววตาของเธอที่จ้องมองกับเขาในอาหารมื้อค่ำนี้
เช้ามาต่างคนต่างง่วงนอน เดือนรพีไม่กล้าสบตาเฉินซีอีก มองก้มต่ำตลอดเวลา แต่เฉินซีกลับมองเดือนรพีมากขึ้น มองอย่างพิจารณาในตัวเธอ เธอจะพูดอะไรหรือเล่าเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว เฉินซีจะมองเธอด้วยความเอ็นดู ยิ่งเดือนรพีไม่สบตาเขา ก็ยิ่งทำให้เขาอยากสบตาเธอมากเท่านั้น
จุดสุดท้ายที่จะไปเที่ยวคือภาคเหนือ ช่วงนี้อากาศหนาวเย็นมาก เฉินอยากขึ้นดอยอ่างขาง เชียงใหม่ อากาศบนดอยหนาวเย็นมาก 5 องศา ดอกพญาเสือโคร่งและดอกซากุระบานสะพรั่ง สวยงามมาก เดือนรพีสวมเสื้อกันหนาวบางๆเพราะไม่ได้เตรียมมา แต่เฉินซีบอกชอบอากาศแบบนี้ ที่เมืองจีนหนาวยิ่งกว่านี้อีกเขาบอกเธอ
เดือนรพีส่งผ้าพันคอบางๆให้เฉินซี เขาแขวนคอแป๊บเดียว แล้วเขาก็เอามาคล้องคอให้เดือนรพีเพราะเห็นเธอหนาวสั่น ทำให้เธอได้กลิ่นไอจากตัวเขาที่ติดมากับผ้าพันคอ เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด เฉินซีมองเธอด้วยแววตาเป็นห่วง และซ่อนความรู้สึกรักเอาไว้ด้วย
“คุณเฉินไม่หนาวเหรอค่ะ” เดือนรพีถามแล้วไม่กล้าสบตากับเขา เพราะตอนนี้ความรู้สึกของเธอหวั่นไหวกับเฉินซี เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบเดือนรพี แต่เธอก็คอยเตือนตัวเองว่าอย่าหลงรักเขา เพราะกลัวจะเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา
ค่ำคืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายของทริปเที่ยวเมืองไทยของเฉินซี เขารู้สึกไม่อยากกลับเมืองจีนเลย อยากอยู่เมืองไทยและเที่ยวต่อทุกจังหวัด แต่วีซ่าทำมาเท่านี้
ความรู้สึกของเฉินซีที่มีต่อเดือนรพี ช่างลึกซึ้งยิ่งนัก เขาไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะเกรงว่าเดือนรพีจะปฏิเสธเขา เดือนรพีก็ไม่กล้ารักเฉินซีเพราะเธอยังเข็ดกับความรักในอดีต
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดือนหนึ่งผ่านไปกับการท่องเที่ยวของหนุ่มจีน โดยไกด์สาวไทย ความผูกพันธ์แน่นแฟ้น แต่ยังมีเส้นกั้นบางๆระหว่างเขาและเธออยู่ เดือนรพีส่งเขากลับเมืองจีน สายตาของเขาเศร้ามากเหมือนตอนที่เขาระบายเรื่องแฟนเก่า เดือนรพีโบกมือให้ก่อนที่เขาจะเข้าไปข้างใน เธอรีบเดินหนีและกลับไปที่ทำงาน
“ น้องเดือนมีทัวร์จีนมานะ คราวนี้มา 3 คนจ้า แต่เขาขอไกด์แบบพาเที่ยวคนเดียวจ้า”
“ ได้ค่ะพี่จันทร์ มานานไหมค่ะ”
“มา 2 อาทิตย์จ้า เดือนพร้อมพาเที่ยวนะ”
“ พร้อมค่ะพี่จันทร์” เดือนรพีเตรียมวางแผนพาคนจีนกลุ่มนี้เที่ยวเหมือนเดิม
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดือนรพีโบกป้ายชื่อเฉินซา เธอมองเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมาเยอะเดินเป็นแถว มีนักท่องเที่ยวชาวจีนค่อนข้างมีอายุโบกมือให้เธอ คราวนี้เจอง่ายกว่าครั้งที่เฉินซีมา ทำให้เดือนรพีคิดถึงเขาขึ้นมา นึกถึงวันที่เธอต้องมารอพบเขา
เดือนรพีหันไปเจอหญิงฝรั่งในกลุ่มนั่นด้วย เธอแปลกใจคนจีนมาเที่ยวกับคนฝรั่ง เธอกวาดสายตามองหานักท่องเที่ยวอีกคน เพราะตามทัวร์ต้องมี 3 คน เธอเหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งหน้าตาหล่อเหลา ผมสั้น หน้าสดใสเกลี้ยงเกลา สะดุดตาจัง
“ ผมเองครับเฉินซี ผมมาตามหาคนรักของผมที่จะมาแทนที่แฟนเก่าผมครับ” เขายิ้มหวานแววตาสดใสให้กับเดือนรพี
" ฉันพร้อมพาคุณเฉินเที่ยวค่ะ แต่คุณเฉินต้องถามใจตัวเองก่อนว่า คุณเฉินต้องการไกด์คนนี้เป็นไกด์พาท่องเที่ยวไปตลอดชีวิตไหมค่ะ"
ฟ้ามิอาจกั้น...รักสองเรา(ตอน2)
“คุณเตรียมกางเกงว่ายน้ำมาหรือเปล่าค่ะคุณเฉินซี” เดือนรพีถามเขา
“ ผมจะใส่กางเกงขาสั้นเล่นน้ำทะเลครับ คุณเดือนรพี เรียกผมว่าเฉินก็ได้นะครับ”
“ เคค่ะ ฉันจะเรียกคุณว่าเฉินนะค่ะ แล้วคุณเฉินก็เรียกฉันว่าเดือนก็แล้วกันนะค่ะ ง่ายดีค่ะ และเป็นกันเองดีค่ะ” เดือนรพียิ้มหวานให้เขา เฉินซียิ้มตอบเหมือนพอใจเธอ
เฉินซีลงเล่นน้ำทะเลอย่างสนุกสนาน เขาใส่แค่กางเกงขาสั้นตัวเดียว เขาถอดเสื้อเห็นกล้ามและซิกแพคของเขาอย่างชัดเจน เดือนรพีพยายามไม่มองโดยตรงแต่จะพยายามแอบมองเขา เพราะมองเห็นหุ่นเขากับกางเกงขาสั้นที่เปียกน้ำ มันช่างแนบเนื้อเขามาก ทำให้ใจเธอหวิวๆชอบกล ผมที่ยาวและรุงรังถูกน้ำทะเลเปียก และสะท้อนกับแสงพระอาทิตย์ ดูเซ็กซี่มาก เดือนรพีต้องเก็บภาพให้เขาตลอดการท่องเที่ยว ทำเป็นอัลบั้มให้นักท่องเที่ยว เพื่อสร้างความสุขและพอใจแก่นักท่องเที่ยว
เขาเล่นน้ำจนเย็นและเขาก็ตะโกนออกมาสุดเสียง ตอนพระอาทิตย์ตกน้ำ ได้ยินไม่ชัดเจนเท่าไหร่ แต่ดูเหมือนเป็นการระบายความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจของเขาออกมา เดือนรพีนั่งมองเขาเล่นน้ำจนพระอาทิตย์ตกน้ำไปแล้ว เขายังนอนอยู่ตรงหาดทราย เหมือนกับหมดอาลัยในชีวิต เขาเป็นอะไรของเขานะ เดือนรพีอยากรู้จัง แต่ก็เก็บความอยากรู้เอาไว้ ถ้าเขาจะบอกคงบอกเองแหละ อย่าไปอยากรู้ใจและความรู้สึกของเขาเลย ทำหน้าที่ไกด์ที่ดีก็แล้วกัน ยุ่งมากกับลูกทัวร์ไม่ดีแน่
เดินทางต่อไปภาคตะวันออก โปรแกรมพาไปชลบุรี ระยอง จันทบุรีและตราด เวลา 5 วัน เดือนรพีชวนเฉินซีคุยเรื่องท่องเที่ยวในเมืองไทย เขาฟังอย่างตั้งใจ เขาบอกว่าเขารู้มาก่อนหน้าแล้วว่าประเทศไทยน่าเที่ยวมาก เขาจึงซื้อทัวร์มาเที่ยวและอยากเที่ยวคนเดียว ไม่อยากเที่ยวกับคนอื่น จะมาเองก็เบื่อไม่อยากต้องค้นหาด้วยตัวเอง อยากให้มีคนพาเที่ยว อยากเที่ยวแบบสบายๆ เพื่อปลดปล่อยอย่างเต็มที่ เฉินซีเริ่มเล่าเรื่องของเขาให้เดือนรพีฟัง แววตาของเขาเศร้ามาก
“ ถ้าคุณเฉินไม่อยากเล่าก็ไม่เป็นไรนะค่ะ อาจจะทำให้คุณเศร้าใจถ้าพูดถึงมันอีก แต่ถ้าคุณเฉินอยากเล่าเพื่อให้ใครได้ฟังบ้างก็ยินดีจะรับฟังนะค่ะ ตามสบายเลยค่ะ”
หลังจากเดือนรพีพูดออกไป เฉินมองหน้าเธอและยิ้มอย่างเศร้าๆและพูดว่า
“ ถ้าคุณยินดีรับฟังเรื่องของผม ผมก็จะเล่าให้ฟัง คือผมเคยรักกับหญิงคนหนึ่ง และพร้อมจะแต่งงานกัน แต่....”
เฉินหยุดพูดไปพักหนึ่ง น้ำตาเขาไหลออกมา เดือนรพีเห็นเช่นนั้นเธอรีบเข้าไปโอบไหล่เขา เพื่อปลอบโยนเขาด้วยความสงสาร และหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดน้ำตาให้เขาอย่างทะนุถนอมและเห็นใจ เขาคงเสียใจมาก น้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมานี่ก็แสดงว่าคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
“ขอบคุณครับ..ผมต้องเสียแฟนของผมไปเพราะเกิดอุบัติเหตุกับเธอ..”
“เสียใจด้วยนะค่ะ” เดือนรพีจับไหล่เขาเบาๆ และพูดปลอบใจเขา
“สักวันคุณเฉินก็จะได้เจอคนที่ดีที่สุดมาแทนที่เธอค่ะ ขอให้คุณได้พบเจอในเร็ววันนะค่ะ ฉันขอภาวนาให้แฟนคุณได้ไปสวรรค์ค่ะ” เดือนรพีพูดปลอบเขาอย่างสุดใจ
เช้านี้ที่เกาะช้าง เฉินซีดูร่าเริงขึ้น แววตามีประกายแจ่มใส คงเพราะเมื่อวานเขาได้ระบายความเศร้าของเขาออกจนหมดสิ้น ความสุขคงกลับมาหาเขาอีกครั้ง
“ หลับสบายดีไหมค่ะคุณเฉินเมื่อคืน” เดือนรพีทักทายเพื่อให้ลูกทัวร์รู้สึกเป็นกันเอง
“ ครับ..ขอบคุณเดือนมากที่เป็นเพื่อนฟังเรื่องของผม ทำให้ผมได้เจอคนใหม่มาแทนที่แฟนเก่าผมแล้ว” เฉินซีกล่าวออกมาอย่างมีความสุข
“เอ..เขาไปเจอใครนะที่มาแทนแฟนเก่าเขา ไปเจอตรงไหน แปลกดีแฮ่ะ เจอคนใหม่ไวจัง” เดือนรพีสงสัยใครกันน้าที่เฉินซีเจอแล้ว
หลังจากดำน้ำดูปะการังเสร็จ ได้เวลาอาหารเย็น เฉินซีอาบน้ำประะแป้งดูน่ารักกว่าทุกวัน คงจะเพราะเฉินซีเจอคนที่ใช่แล้ว จึงทำให้เขามีความสุขขึ้น เขามองมาที่เดือนรพี แววตาเหมือนมีอะไรอยู่ในใจ
“คุณเดือนแต่งงานแล้วหรือยังครับ ขอโทษนะครับที่ถามแบบนี้” เฉินถามตรงมาก
“ อ๋อ..ฉันยังโสดค่ะ” เดือนรพีตอบแบบไม่คิดอะไร แต่คำตอบของเธอทำให้เฉินซียิ้มแก้มปริ แววตาสดใสแบบมีความหวัง เขาจ้องมองเดือนรพีอย่างจริงจัง ทำให้เดือนรพีต้องหลบตาเขา ในใจเธอเริ่มคิดหละว่าทำไมเฉินซีมองเธอแบบนั้น
“คุณเฉินมองฉันแบบนี้ คงไม่เชื่อละซิว่าฉันยังโสด ใช่ไหมค่ะ” เดือนรพีเริ่มฉุนเฉียวเพราะมาสะกิดต่อมมีปมด้อยของเธอ
“ เปล่าๆๆครับ ผมเชื่อคุณเดือนนะครับ แต่แค่แปลกใจว่าคนน่ารักแบบคุณเดือนทำไมไม่มีแฟน” เท่านั้นเองต่อมโกรธของเดือนรพีก็พุ่งขึ้นมาทันที
“ ก็ฉันไปเจอผู้ชายไม่ดีนะซิ มีแฟนก็ไม่บอกฉัน หลอกให้ฉันหลงรัก แล้วก็มาบอกว่ามีแฟนแล้ว เจ็บใจสุดๆ เกลียดผู้ชายแบบนี้จริงจริ๊ง...” เธอหลุดปากพูดออกไป ทำให้เฉินซีมองเธอตาค้าง ไม่คิดว่าจะเห็นเดือนรพีแค้นผู้ชายคนนั้นมากขนาดนี้
“ ขอโทษค่ะที่พูดแบบนั้นออกไป ขอโทษนะค่ะ” เดือนรพีปิดปากแน่นเลยที่เผลอพูดความในใจออกไปแบบนั้น เฉินซีหัวเราะชอบใจแบบลืมตัว ทำให้เดือนรพีหันมามองเขาแบบจริงจังเพราะยังโกรธอยู่ ต่างคนต่างมองตาซึ่งกันและกัน นานเท่าไหร่ไม่รู้ จนได้ยินเสียงเด็กเสริฟเขามาบอกว่าร้านจะปิดแล้ว จึงทำให้ต่างคนต่างเลิกมองกันและรีบออกจากร้านไป
คืนนั้นเดือนรพีนอนไม่ค่อยหลับ เพราะจำแววตาที่เฉินซีมองเธอเมื่อตอนหัวค่ำ ภาพนั้นปรากฏขึ้นมาในสมองและความทรงจำตลอดเวลา ในขณะที่เฉินซีนอนบิดไปบิดมาเพราะมัวแต่คิดถึงเดือนรพีกับแววตาของเธอที่จ้องมองกับเขาในอาหารมื้อค่ำนี้
เช้ามาต่างคนต่างง่วงนอน เดือนรพีไม่กล้าสบตาเฉินซีอีก มองก้มต่ำตลอดเวลา แต่เฉินซีกลับมองเดือนรพีมากขึ้น มองอย่างพิจารณาในตัวเธอ เธอจะพูดอะไรหรือเล่าเรื่องสถานที่ท่องเที่ยว เฉินซีจะมองเธอด้วยความเอ็นดู ยิ่งเดือนรพีไม่สบตาเขา ก็ยิ่งทำให้เขาอยากสบตาเธอมากเท่านั้น
จุดสุดท้ายที่จะไปเที่ยวคือภาคเหนือ ช่วงนี้อากาศหนาวเย็นมาก เฉินอยากขึ้นดอยอ่างขาง เชียงใหม่ อากาศบนดอยหนาวเย็นมาก 5 องศา ดอกพญาเสือโคร่งและดอกซากุระบานสะพรั่ง สวยงามมาก เดือนรพีสวมเสื้อกันหนาวบางๆเพราะไม่ได้เตรียมมา แต่เฉินซีบอกชอบอากาศแบบนี้ ที่เมืองจีนหนาวยิ่งกว่านี้อีกเขาบอกเธอ
เดือนรพีส่งผ้าพันคอบางๆให้เฉินซี เขาแขวนคอแป๊บเดียว แล้วเขาก็เอามาคล้องคอให้เดือนรพีเพราะเห็นเธอหนาวสั่น ทำให้เธอได้กลิ่นไอจากตัวเขาที่ติดมากับผ้าพันคอ เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด เฉินซีมองเธอด้วยแววตาเป็นห่วง และซ่อนความรู้สึกรักเอาไว้ด้วย
“คุณเฉินไม่หนาวเหรอค่ะ” เดือนรพีถามแล้วไม่กล้าสบตากับเขา เพราะตอนนี้ความรู้สึกของเธอหวั่นไหวกับเฉินซี เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าชอบเดือนรพี แต่เธอก็คอยเตือนตัวเองว่าอย่าหลงรักเขา เพราะกลัวจะเหมือนกับอดีตที่ผ่านมา
ค่ำคืนนั้นเป็นคืนสุดท้ายของทริปเที่ยวเมืองไทยของเฉินซี เขารู้สึกไม่อยากกลับเมืองจีนเลย อยากอยู่เมืองไทยและเที่ยวต่อทุกจังหวัด แต่วีซ่าทำมาเท่านี้
ความรู้สึกของเฉินซีที่มีต่อเดือนรพี ช่างลึกซึ้งยิ่งนัก เขาไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะเกรงว่าเดือนรพีจะปฏิเสธเขา เดือนรพีก็ไม่กล้ารักเฉินซีเพราะเธอยังเข็ดกับความรักในอดีต
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดือนหนึ่งผ่านไปกับการท่องเที่ยวของหนุ่มจีน โดยไกด์สาวไทย ความผูกพันธ์แน่นแฟ้น แต่ยังมีเส้นกั้นบางๆระหว่างเขาและเธออยู่ เดือนรพีส่งเขากลับเมืองจีน สายตาของเขาเศร้ามากเหมือนตอนที่เขาระบายเรื่องแฟนเก่า เดือนรพีโบกมือให้ก่อนที่เขาจะเข้าไปข้างใน เธอรีบเดินหนีและกลับไปที่ทำงาน
“ น้องเดือนมีทัวร์จีนมานะ คราวนี้มา 3 คนจ้า แต่เขาขอไกด์แบบพาเที่ยวคนเดียวจ้า”
“ ได้ค่ะพี่จันทร์ มานานไหมค่ะ”
“มา 2 อาทิตย์จ้า เดือนพร้อมพาเที่ยวนะ”
“ พร้อมค่ะพี่จันทร์” เดือนรพีเตรียมวางแผนพาคนจีนกลุ่มนี้เที่ยวเหมือนเดิม
ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เดือนรพีโบกป้ายชื่อเฉินซา เธอมองเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนมาเยอะเดินเป็นแถว มีนักท่องเที่ยวชาวจีนค่อนข้างมีอายุโบกมือให้เธอ คราวนี้เจอง่ายกว่าครั้งที่เฉินซีมา ทำให้เดือนรพีคิดถึงเขาขึ้นมา นึกถึงวันที่เธอต้องมารอพบเขา
เดือนรพีหันไปเจอหญิงฝรั่งในกลุ่มนั่นด้วย เธอแปลกใจคนจีนมาเที่ยวกับคนฝรั่ง เธอกวาดสายตามองหานักท่องเที่ยวอีกคน เพราะตามทัวร์ต้องมี 3 คน เธอเหลือบไปเห็นชายคนหนึ่งหน้าตาหล่อเหลา ผมสั้น หน้าสดใสเกลี้ยงเกลา สะดุดตาจัง
“ ผมเองครับเฉินซี ผมมาตามหาคนรักของผมที่จะมาแทนที่แฟนเก่าผมครับ” เขายิ้มหวานแววตาสดใสให้กับเดือนรพี
" ฉันพร้อมพาคุณเฉินเที่ยวค่ะ แต่คุณเฉินต้องถามใจตัวเองก่อนว่า คุณเฉินต้องการไกด์คนนี้เป็นไกด์พาท่องเที่ยวไปตลอดชีวิตไหมค่ะ"