หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว Guru Gyuu บุฟเฟ่ต์ยากินิคุเจ้าเก่าย่านสะพานควาย เสิร์ฟเนื้อคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเพียงคนละ 699 ฿
กระทู้รีวิว
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารญี่ปุ่น
อาหารซีฟู้ด
อาหารปิ้งย่าง
อาหารคาว
ถ้ามีคนตั้งโพสต์ถามในกลุ่มชมรมคนรักเนื้อว่าบุฟเฟ่ต์ยากินิคุใช้เนื้อคุณภาพดีราคาไม่แพงที่ไหนดีสุดในกรุงเทพ 5 อันดับแรกคงหนีไม่พ้นร้าน Guru Gyuu Yakiniku ย่านสะพานควาย ส่วนตัวเคยมาทานร้านนี้แต่เว้นช่วงไปนานมากจนลืมรสชาติในความทรงจำไปหมดแล้วอีกทั้งปัจจุบันเห็นว่ามีการปรับเพิ่มเมนูใหม่ใส่เนื้อวากิวคุณภาพสูงลงไปแต่จ่ายแค่ราคา 699 บาทเท่านั้นเลยต้องหยิบกล้องออกมาถ่ายรีวิวที่ร้านอีกครั้ง ตอนนี้เปิดให้บริการอยู่ 2 สาขาก็คือ Guru Gyuu สาขานางลิ้นจี่ และ Guru Gyuu สาขาต้นตำรับสะพานควายอยู่ใกล้กับธนาคารออมสินสำนักงานใหญ่ที่เรามาทานกันวันนี้ วิธีการเดินทางถ้ามาด้วยรถยนต์ส่วนตัวให้ปักหมุดมาตาม Google Maps สามารถจอดที่ริมถนนหน้าร้านได้หากมีที่ว่างยาวตลอดแนวเฉพาะช่วงหลัง 18.00 น. เท่านั้น และที่จอดรถอีกจุดตรงซอยข้างร้านในโครงการ The Hub มีอาคารจอดรถอัตโนมัติ คิดราคาค่าจอดชั่วโมงละ 50 บาท รับได้ประมาณ 40 คัน มาทานที่ร้านแล้วแสดงใบเสร็จจะได้รับสิทธิ์ 2 ชม. แรกจ่ายเพียงแค่ 50 บาท (ปกติราคาเต็ม 100 บาท) ในตึกมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลความสะดวกให้ถึงแค่เวลา 21.00 น. (รับรถได้ไม่เกิน 24.00 น.) ถ้ามาด้วยบริการขนส่งสาธารณะให้ลง BTS สถานีสะพานควายแล้วเดินต่อหรือเรียกรถเข้าไปที่ร้านประมาณ 700 เมตร หากเจอตึกแถวที่มีป้ายร้านสีแดงขนาดใหญ่หน้าร้านใช้ตัวอักษรสีขาวเขียนว่า Guru Gyuu Yakiniku ติดริมถนนแบบนี้แสดงว่ามาถูกร้านแล้วครับ
บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างปลอดโปร่งโล่งสบายเพราะเป็นตึกแถวใหญ่ขนาด 2 คูหาที่มีเพดานสูงเป็นพิเศษ ล้อมรอบด้วยหน้าต่างบานกระจกช่วยเปิดรับแสงจากธรรมชาติด้านนอกเข้ามาภายในร้านได้อย่างทั่วถึง พื้นปูหินขัดแบบบ้านคนจีนสมัยโบราณซึ่งให้ความทานทานแต่ก็ค่อนข้างเก่า (เพราะร้านนี้เปิดให้บริการมานานหลายปีแล้ว) โต๊ะก็มีให้เลือกทั้งแบบไม้-ปูนเชื่อมต่อกันเป็นแนวยาวแต่ก็มีฉากพลาสติกคอยกั้นเพื่อเว้นระยะห่าง (ถ้ามากับเพื่อนเยอะก็เอาฉากกั้นออกเชื่อมโต๊ะติดกันได้ง่ายๆ) เตาย่างเจาะรูเป็นวงกลมตรงกลางโต๊ะเชื่อมต่อท่อดูดควันเอาไว้เป็นอย่างดีไม่ต้องกลัวหัวเหม็น ส่วนเก้าอี้ที่ร้านเป็นไม้แท้เนื้อหนาและน้ำหนักมากจึงมั่นคง-นั่งสบาย เดินขึ้นบันไดด้านหลังมาข้างบนเป็นชั้นลอยสามารถมองลงไปเห็นด้านล่างทั้งหมดได้แบบ 180 องศา โทนสีที่เลือกใช้ภายในคือแดง/เหลือง/ขาวใช้โคมไฟสีส้มดูอบอุ่นนั่งสบาย ถึงแม้ว่าโดยรวมๆจะดูค่อนข้างเก่าไปหน่อยแต่ก็มีเสน่ห์ที่ดีไปอีกแบบนึงครับผม
นั่งที่โต๊ะสักพักพนักงานก็นำเล่มเมนูของที่ร้านออกมาให้เราเลือกราคาบุฟเฟ่ต์ในมื้อนี้แบ่งออกเป็น 4 ราคาก็คือ 1. บุฟเฟ่ต์ราคา 399 บาท สั่งได้อาหารทั้งหมด 27 เมนู (สามารถมาทานราคานี้ได้เฉพาะวันอังคารถึงวันศุกร์ตั้งแต่เวลา 11.30-15.00 น.) 2. บุฟเฟ่ต์ราคา 599 บาท สั่งอาหารได้ทั้งหมด 44 เมนู และ 3. บุฟเฟ่ต์ราคา 699 บาท สั่งอาหารได้ทั้งหมด 66 เมนู เฉพาะบุฟเฟ่ต์ 3 ราคาแรกมีน้ำเปล่าให้เติมฟรี ถ้าต้องการดื่มน้ำอีก 10 ชนิดแบบรีฟิลคิดราคาเพิ่มคนละ 55 บาท และเฉพาะบุฟเฟ่ต์ราคา 599 - 699 บาท เลือกรับของหวานได้เพียง 1 ชุดระหว่างผลไม้รวมและมินิพุดดิ้ง ยกเว้นบุฟเฟ่ต์ราคาแพงสุดคือ 4. บุฟเฟ่ต์เนื้อวากิวแท้ราคา 1,999 บาท สั่งอาหารได้ทั้งหมด 80 เมนู เติมน้ำรีฟีลได้ไม่อั้นและสั่งขนมหวานได้ไม่จำกัดจำนวน บุฟเฟ่ต์ทุกราคาสามารถสั่งอาหารพร้อมกับนั่งทานได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 100 ซม. ทานฟรี หากมีส่วนสูงตั้งแต่ 100-120 ซม. คิดเพียงครึ่งราคาจากแพ็คเกจบุฟเฟ่ต์ที่เลือก ส่วนสูงตั้งแต่ 120 ซม. ขึ้นไปคิดราคาผู้ใหญ่ ราคาที่เห็นในเล่มเมนูทั้งหมดนี้ไม่มี Vat. หรือ Service Charge มากวนใจ และถ้าทานไม่หมดทางร้านปรับจริงแต่เอาอาหารที่เหลือใส่ถุงให้พร้อมคิดเงินเป็นจาน A La Carte ตามที่เขียนไว้ในเล่มเมนู หากสงสัยว่าจานที่สั่งมาเป็นส่วนไหนของวัวที่ร้านก็มีป้ายกำกับชิ้นส่วนแต่ละจานแบ่งสีพร้อมแบ่งราคากำกับเอาไว้เรียบร้อย เป็นเล่มเมนูที่ละเอียดและอำนวยความสะดวกแก่สายเนื้อดีมากครับ
ระหว่างรอวัตถุดิบและอาหารเมนูต่างๆมาเสิร์ฟบนโต๊ะ ลุกมาเดินเล่นรอบร้านก็มาพบกับป้ายประกาศณียบัตรรับประกันความอร่อยจากหลายหลายสำนักและคอลัมน์นิตยสารชื่อดังถูกตัดแปะใส่กรอบเอาไว้ติดกำแพงหน้าทางเข้าร้านช่วยการันตีความอร่อยระดับตำนานของที่นี่ได้อย่างแท้จริง ข้างๆกันเป็นตู้แช่เย็นเครื่องดื่มและ Gyuu Togo ตู้แช่แข็งเนื้อวัว-เนื้อหมูส่วนต่างๆสำหรับคนที่ติดใจคุณภาพจนอยากนำไปทำเป็นเมนูอื่นๆตามใจตัวเอง ขนาดบรรจุ 100-150 กรัมราคาเริ่มต้นที่ 149-799 บาท ภายในตู้นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่วางโชว์หน้าร้าน ใครอยากดูแคตตาล๊อกเนื้อส่วนต่างๆฉบับเต็มแนะนำให้ไปที่ Facebook : @Gyuutogo สามารถออเดอร์เดลิเวอรี่จัดส่งถึงหน้าบ้านได้อีกด้วย กลับมาที่โต๊ะอย่างที่บอกไปเบื้องต้นแล้วว่าถ้าทานบุฟเฟ่ต์ชุด 1,999 บาท จะสั่งน้ำอะไรก็ได้เลยจัดมาเป็นเอสรสองุ่นกับน้ำส้มเย็นซ่าๆ ดื่มหมดแล้วจะเปลี่ยนเป็นน้ำเขียว/เลมอน/สตอเบอรี่/โคล่า/ชูการ์ฟรี/ชาเขียว/ชามะนาว/น้ำเปล่าได้เรื่อยๆเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม แนะนำว่าอย่าดื่มน้ำหวานๆมากเกินไปสมองจะสั่งให้อิ่มเร็วกว่าปกตินะครับ
เมื่อเราสั่งชุดบุฟเฟ่ต์ราคาสูงสุดของทางร้านสิ่งที่จะถูกเปลี่ยนไปก็คือจานรองสีดำพลาสติกและถ้วยน้ำจิ้มสีขาวพนักงานจะเก็บออกและนำชุดจานกระเบื้องที่สวยงามออกมาวางให้แทน น้ำจิ้มก็มีให้เลือกมากมายถึง 8 อย่างได้แก่ น้ำจิ้มกิวทาเระ (ยากินิคุ)/น้ำจิ้มซีฟู๊ด/น้ำจิ้มโคชูจัง/น้ำจิ้มแจ่ว/น้ำจิ้มมิโสะ/น้ำจิ้มเกลือน้ำมันงา (สั่งได้เฉพาะบุฟเฟ่ต์ราคา 1,999 เท่านั้น) ส่วนวาซาบิดองอยู่ในหมวดเครื่องเคียงเอาไว้ทานกับเนื้อย่างส่วนเกลือหิมาลายัน-พริกไทยดำมาเป็นกระบอกหมุนด้วยมือเพื่อกลิ่นที่สดใหม่ ขอพริกสด/กระเทียมสับและมะนาวปรุงรสน้ำจิ้มได้ตามใจตัวเองครับ
เนื้อต่างๆที่สั่งไปเริ่มทยอยออกมาเสิร์ฟเป็นเมนูอยู่ในราคา 1,999 บาท จานแรกคือ "เนื้อซุปเปอร์คารูบิวากิว" เป็นเนื้อวัววากิวนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมีไขมันแทรกละเอียดสวยงามราวกับหินอ่อนบนเนื้อสีชมพู ซึ่งทางร้านได้คัด 3 สายพันธุ์มาเสิร์ฟก็คือ Kobe Wine Beef / Kagoshima และ Miyazaki เฉพาะแทรกไขมันระดับ A4 เท่านั้น (แล้วแต่รอบว่าจะได้ทานเนื้อสายพันธุ์ไหน) ส่วนตัวเคยทาน Kagoshima Wagyu A4 ที่ร้านดองกี้สาขาทองหล่อจานนี้ราคาไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทแน่นอน ทานสัก 3 จานก็ถือว่าคุ้มค่าบุฟเฟ่ต์แน่นอนครับ ตามมาด้วย "เนื้อริปอายซุปเปอร์วากิว" จานนี้เป็นเนื้อวากิวพันธุ์ไทยแทรกไขมันรสชาติหอมหวาน-เข้มข้นกว่าเนื้อญี่ปุ่นและได้เคี้ยวมากกว่าเล็กน้อยแต่กลิ่นไม่แรงเท่าพวกออสเตรเลียหรือแองกัสทานง่ายและอร่อยสุดๆ มาต่อกันด้วย "เนื้อคารูบิวากิว" เป็นวากิวไทยส่วนเนื้อติดซี่โครงแทรกไขมันละเอียดสวยงามไม่แพ้เนื้อวากิวนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ติดเอ็นกระดูกเคี้ยวหนึบนิดๆรสชาติเข้มข้นดีงาม และ "ลิ้นวัวซุปเปอร์บางกรอบ" ลิ้นวัวไทยวากิวสไตลด์บางแทรกไขมันเต็มลิ้นทานกับเลมอนหั่นซีกสดที่แถมมาในจานบีบลงไปช่วยเพิ่มความเปรี้ยว-หอมตัดความเลี่ยนจากไขมันของลิ้นวัวได้เป็นอย่างดี
เมนูต่อไปก็เป็นเนื้อวัวนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นคือ "เนื้อซุปเปอร์บูลโกกิวากิว" ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนไหนของวัวแต่ยังคงใช้ 3 สายพันธุ์หลักเหมือนเคยคือ Kobe Wine Beef / Kagoshima และ Miyazaki แทรกไขมันระดับ A4 ถึงแม้จะมีไขมันแทรกไม่ละเอียดเท่าส่วนคารูบิแต่ก็มาจากวัวตัวเดียวกัน ความนุ่มนวลพอๆกันแต่รสชาติเข้มข้นกว่าเล็กน้อยสมกับเป็นเนื้อวัวคุณภาพระดับพรีเมี่ยม เมนูนอกจากนั้นเป็นเนื้อวัววากิวสายพันธุ์ไทยทั้งหมดเริ่มจาก "เนื้อใบพายซุปเปอร์วากิว" เป็นส่วนที่สายเนื้อวัวคุ้นเคยเรื่องความนุ่ม-หอมมีชั้นไขมันแทรกละเอียดเป็นลายหินอ่อนตามธรรมชาติรสชาติเข้มข้นทานง่ายๆสไตล์เนื้อไทย หากอยากทานเนื้อวัวส่วนที่เคี้ยวกรุบกรอบหั่นเสิร์ฟมาหนา-ชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มคำไขมันแทรกคุณภาพสูงให้สั่งเป็น "ลิ้นวัวซุปเปอร์หนานุ่ม" ย่างด้านนอกให้เกรียมๆเนื้อในชุ่มฉ่ำบีบเลมอนหรือโรยแค่เกลือสีชมพู+พริกไทยดำก็อร่อยเด็ดสุดๆ ถ้าอยากสัมผัสรสของเนื้อวัวคุณภาพดีโดยไม่ผ่านความร้อนให้สั่งเป็น "กิวทาทากิ" ยำเนื้อแบบเย็นสไตล์ญี่ปุ่นทานคู่กับกระเทียมสด-ยำต้นหอมบีบมะนาวสดช่วยเพิ่มความสดชื่นตัดไขมันและเลี่ยนของเนื้อเหลือแต่รสชาติอร่อยหอมหวานกับกลิ่นของวากิวคุณภาพดีเต็มปากในทุกๆคำที่เคี้ยวครับ
หมดเมนูเนื้อวัววากิวคุณภาพสูงก็มาต่อกันด้วยซีฟู๊ดระดับพรีเมี่ยมที่เสิร์ฟเฉพาะในบุฟเฟ่ต์ระดับราคา 1,999 บาท เริ่มจาก "ขาปูทาระบะ" เป็นขาปูอลาสก้าหรือทาระบะของแท้ไม่ใช่ปูยักษ์ชิลีขนแหลมราคาถูกๆแล้วมาหลอกว่าเป็นอลาสก้าจริงแบบที่เสิร์ฟตามบุฟเฟ่ต์โรงแรมต่างๆ แต่เกรดที่ทางร้านคัดมาเป็นแบบ Frozen ไม่ใช่ Live จึงมีรสหวานไม่มากเท่าปูเป็นแต่ราคานี้ได้ทานก็ถือว่าคุ้มมากๆแล้วครับ ตามมาด้วย "หอยเชลล์ซุปเปอร์" หรือที่เรียกกันว่าฮอกไกโดสแกลลอปตัวใหญ่เนื้อใสแจ๋วสำหรับเอาไปย่างเนื้อหวานเด้งสู้ฟันสุดๆ (ส่วนใหญ่ร้านอื่นนำมาเสิร์ฟเป็นซูชิและใช้ตัวเล็กกว่านี้) ถือว่าคุณภาพพรีเมี่ยมจริงครับผม จานต่อไปถ้าไปสั่งทานตามร้านอาหารญี่ปุ่นไซส์ขนาดนี้ขายประมาณตัวละ 250-300 บาทคือ "หอยนางรมญี่ปุ่น" ตัวใหญ่เนื้อสีขาวใสเนียนละเอียดจะทานสดหรือย่างให้สุกแล้วบีบเลมอน-ราดน้ำจิ้มซีฟู๊ดก็อร่อยเนื้อหวานฉ่ำไหลลื่นลงคอ ต่อกันด้วย "กุ้งลายกูรู" หรือกุ้งลายเสื้อราคาแพงตัวใหญ่เนื้อเยอะเด้งกรอบสู้ฟันซึ่งความหวานอาจจะไม่เท่าตัวที่เพิ่งตายมาใหม่ๆแต่ก็ถือว่าคุ้มราคาบุฟเฟ่ต์มากครับ
******* เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ *******
ชื่อสินค้า:
Guru Gyuu Yakiniku สาขาสะพานควาย
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รีวิว "Red Panda Yakiniku" บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่างเนื้อวากิวเปิดใหม่ติด BTS พญาไท ราคาเริ่มต้นแค่คนละ 469฿+
สำหรับสายชอบทานเนื้อย่างยากินิคุตัวจริงต้องรู้จักร้านนี้เพราะกำลังเป็นกระแสและเพิ่งเปิดไม่นานย่านพญาไทนั่นก็คือ "Red Panda Yakiniku" มีจุดเด่นอยู่ตรงที่เสิร์ฟเนื้อวากิวคุณภาพดีให้ไม่อั้นตลอด
Food Addicts
กินอะไรดีที่อินโดนีเซีย (รวบรวมอาหารจากทริปหนึ่งเดือนบนเกาะชวา)
จากการไปฉายเดี่ยวแบ็คแพ็คเที่ยวบนเกาะชวามาหนึ่งเดือน หากไม่พูดถึงอาหารของที่นี่ก็ไม่ได้ จากการสังเกตอาหารหลายๆเมนูในอินโดนีเซียมักมีรสเผ็ดจากซอสพริก Sambal และ 'มัน' ค่อนข้างเยอะ เพื่อนดิฉันที่มาฝึกง
สมาชิกหมายเลข 8706631
เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ & อาหารจีน มีบุฟเฟ่ต์แล้วนะครับ! 399 บาท/2 ชั่วโมง 🍲✨
สวัสดีครับ 🙏 วันนี้ขอมาแชร์ประสบการณ์ไปลองบุฟเฟ่ต์ที่ เอี่ยวไถ่ สุกี้โบราณ & อาหารจีน สาขา Central Westgate ราคา 399 บาท/คน กินได้ 2 ชั่วโมงเต็ม ปกติผ่านชื่อร้านนี้บ่อย แต่ไม่เคยลองเลยครับ เลยถือ
SarinPoom
BufFeast Review : ร้านปิ้งย่างญี่ปุ่นควบปลาไทยดิบ "Ichi Yakiniku"@ถ.ศาลาธรรมสพน์
ผมเฝ้าติดตามบุฟเฟ่ต์ร้านหนึ่งมานาน ชื่อว่า Ichi Yakiniku เป็นร้านสไตล์ปิ้งย่างญี่ปุ่นควบปลาดิบ ซึ่งมีเมนูพิเศษที่ทำให้ผมสนใจ นั่นคือ ซาซิมิปลาไทย แต่ด้วยความที่ร้านอยู่ไกล แถวๆ ม.มหิดลเลย จึงต้องรอจน
TheHeatBufFeast
โรงลาบท่าพระ ร้านดังจากขอนแก่นมาเปิดอยู่กรุงเทพที่อุดมสุขวอล์แล้วจ้า
โรงลาบท่าพระ สาขาอุดมสุขวอล์ค โรงลาบท่าพระ-กรุงเทพ ร้านดังจากขอนแก่น มาเปิดสาขาที่อุดมสุขวอล์คแล้ว แบบนี้จะพลาดได้ไง ตัวร้านมี 2 ชั้น ตั้งอยู่ใจกลางตลาด มีขายทั้งอาหารอีสาน อาหารจานเดียว และเมนูของทา
พาผู้เที่ยว-Paapooteaw
อยากไห้ทางภาครัฐเข้ามาส่งเสริมเกษตรกร ที่เลี้ยงโค พลักดันสายพันโคไทย
อยากไห้ทางภาครัฐเข้ามาส่งเสริมเกษตรกร ที่เลี้ยงโค พลักดันสายพันโคไทย ชำแหละ จัดหาตลาดอย่างเช่นตะวันออกกลาง หรือ ประเทศอืนๆ แต่ต้องการจัดหาสายพัน ของไทยทีเป็นที่นิยม เข้ามาไห้ความรู้สนับสนุนวิธีการเลี
สมาชิกหมายเลข 8283285
4 ส่วนเด็ดของ "เนื้อวัว" มือโปรเลือกไม่เคยพลาด สด-นุ่ม-มัน-ลายสวย คุ้มทุกบาททุกสตางค์!
เนื้อวัว 4 ส่วน "อร่อยที่สุด" คนรู้จริงไม่เคยพลาด เคล็ดลับเลือกเนื้อสด นุ่ม มัน ลายสวย! เนื้อวัวเป็นวัตถุดิบยอดนิยมในครัวไทย ไม่ว่าจะเป็นชามก๋วยเตี๋ยวเนื้อร้อนๆ หรือจานเนื้อผัดหอมกรุ่น ล้ว
สมาชิกหมายเลข 2469579
รีวิว ทานชาบู ที่ร้าน Hitori Shabu สาขาสยามพารากอน
เราได้มีโอกาสมาทานชาบูที่ร้าน Hitori Shabu ซึ่งเราได้เลือกเซ็ต เนื้อ Charolais (ชาโรเล่ส์) ใน Truffle Tori Paitan Soup (ซุปทรัฟเฟิล) ซึ่งในเซ็ตนี้โดดเด่นด้วยเนื้อชาโรเล่ส์ เนื้อชั้นดีที่มีไขมันแทรก โด
Matterhorn
BufFeast Review : "Nikiwai Shabu" บุฟเฟ่ต์ปลาดิบและเนื้อชาบูต้มหอมๆ ในตัวเมืองอยุธยา @สะพานปรีดี อยุธยา
พอดีว่าน้องที่ทำงานผมได้งานใหม่ ก็เลยพากันมากินอาหารสั่งลากันในวันที่ไปออกงานต่างจังหวัด โดยแวะกินที่ร้าน Nikiwai Shabu ไม่แน่ใจว่าใช่ Nikiwai เดียวกันกับที่ผมเคยไปกินที่สนามบินน้ำไหมนะ แต่เอาเป็นว่า
TheHeatBufFeast
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารบุฟเฟ่ต์
อาหารญี่ปุ่น
อาหารซีฟู้ด
อาหารปิ้งย่าง
อาหารคาว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 5
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว Guru Gyuu บุฟเฟ่ต์ยากินิคุเจ้าเก่าย่านสะพานควาย เสิร์ฟเนื้อคุณภาพระดับพรีเมี่ยมเพียงคนละ 699 ฿
บรรยากาศภายในร้านค่อนข้างปลอดโปร่งโล่งสบายเพราะเป็นตึกแถวใหญ่ขนาด 2 คูหาที่มีเพดานสูงเป็นพิเศษ ล้อมรอบด้วยหน้าต่างบานกระจกช่วยเปิดรับแสงจากธรรมชาติด้านนอกเข้ามาภายในร้านได้อย่างทั่วถึง พื้นปูหินขัดแบบบ้านคนจีนสมัยโบราณซึ่งให้ความทานทานแต่ก็ค่อนข้างเก่า (เพราะร้านนี้เปิดให้บริการมานานหลายปีแล้ว) โต๊ะก็มีให้เลือกทั้งแบบไม้-ปูนเชื่อมต่อกันเป็นแนวยาวแต่ก็มีฉากพลาสติกคอยกั้นเพื่อเว้นระยะห่าง (ถ้ามากับเพื่อนเยอะก็เอาฉากกั้นออกเชื่อมโต๊ะติดกันได้ง่ายๆ) เตาย่างเจาะรูเป็นวงกลมตรงกลางโต๊ะเชื่อมต่อท่อดูดควันเอาไว้เป็นอย่างดีไม่ต้องกลัวหัวเหม็น ส่วนเก้าอี้ที่ร้านเป็นไม้แท้เนื้อหนาและน้ำหนักมากจึงมั่นคง-นั่งสบาย เดินขึ้นบันไดด้านหลังมาข้างบนเป็นชั้นลอยสามารถมองลงไปเห็นด้านล่างทั้งหมดได้แบบ 180 องศา โทนสีที่เลือกใช้ภายในคือแดง/เหลือง/ขาวใช้โคมไฟสีส้มดูอบอุ่นนั่งสบาย ถึงแม้ว่าโดยรวมๆจะดูค่อนข้างเก่าไปหน่อยแต่ก็มีเสน่ห์ที่ดีไปอีกแบบนึงครับผม
นั่งที่โต๊ะสักพักพนักงานก็นำเล่มเมนูของที่ร้านออกมาให้เราเลือกราคาบุฟเฟ่ต์ในมื้อนี้แบ่งออกเป็น 4 ราคาก็คือ 1. บุฟเฟ่ต์ราคา 399 บาท สั่งได้อาหารทั้งหมด 27 เมนู (สามารถมาทานราคานี้ได้เฉพาะวันอังคารถึงวันศุกร์ตั้งแต่เวลา 11.30-15.00 น.) 2. บุฟเฟ่ต์ราคา 599 บาท สั่งอาหารได้ทั้งหมด 44 เมนู และ 3. บุฟเฟ่ต์ราคา 699 บาท สั่งอาหารได้ทั้งหมด 66 เมนู เฉพาะบุฟเฟ่ต์ 3 ราคาแรกมีน้ำเปล่าให้เติมฟรี ถ้าต้องการดื่มน้ำอีก 10 ชนิดแบบรีฟิลคิดราคาเพิ่มคนละ 55 บาท และเฉพาะบุฟเฟ่ต์ราคา 599 - 699 บาท เลือกรับของหวานได้เพียง 1 ชุดระหว่างผลไม้รวมและมินิพุดดิ้ง ยกเว้นบุฟเฟ่ต์ราคาแพงสุดคือ 4. บุฟเฟ่ต์เนื้อวากิวแท้ราคา 1,999 บาท สั่งอาหารได้ทั้งหมด 80 เมนู เติมน้ำรีฟีลได้ไม่อั้นและสั่งขนมหวานได้ไม่จำกัดจำนวน บุฟเฟ่ต์ทุกราคาสามารถสั่งอาหารพร้อมกับนั่งทานได้ไม่เกิน 2 ชั่วโมง เด็กส่วนสูงต่ำกว่า 100 ซม. ทานฟรี หากมีส่วนสูงตั้งแต่ 100-120 ซม. คิดเพียงครึ่งราคาจากแพ็คเกจบุฟเฟ่ต์ที่เลือก ส่วนสูงตั้งแต่ 120 ซม. ขึ้นไปคิดราคาผู้ใหญ่ ราคาที่เห็นในเล่มเมนูทั้งหมดนี้ไม่มี Vat. หรือ Service Charge มากวนใจ และถ้าทานไม่หมดทางร้านปรับจริงแต่เอาอาหารที่เหลือใส่ถุงให้พร้อมคิดเงินเป็นจาน A La Carte ตามที่เขียนไว้ในเล่มเมนู หากสงสัยว่าจานที่สั่งมาเป็นส่วนไหนของวัวที่ร้านก็มีป้ายกำกับชิ้นส่วนแต่ละจานแบ่งสีพร้อมแบ่งราคากำกับเอาไว้เรียบร้อย เป็นเล่มเมนูที่ละเอียดและอำนวยความสะดวกแก่สายเนื้อดีมากครับ
ระหว่างรอวัตถุดิบและอาหารเมนูต่างๆมาเสิร์ฟบนโต๊ะ ลุกมาเดินเล่นรอบร้านก็มาพบกับป้ายประกาศณียบัตรรับประกันความอร่อยจากหลายหลายสำนักและคอลัมน์นิตยสารชื่อดังถูกตัดแปะใส่กรอบเอาไว้ติดกำแพงหน้าทางเข้าร้านช่วยการันตีความอร่อยระดับตำนานของที่นี่ได้อย่างแท้จริง ข้างๆกันเป็นตู้แช่เย็นเครื่องดื่มและ Gyuu Togo ตู้แช่แข็งเนื้อวัว-เนื้อหมูส่วนต่างๆสำหรับคนที่ติดใจคุณภาพจนอยากนำไปทำเป็นเมนูอื่นๆตามใจตัวเอง ขนาดบรรจุ 100-150 กรัมราคาเริ่มต้นที่ 149-799 บาท ภายในตู้นี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งที่วางโชว์หน้าร้าน ใครอยากดูแคตตาล๊อกเนื้อส่วนต่างๆฉบับเต็มแนะนำให้ไปที่ Facebook : @Gyuutogo สามารถออเดอร์เดลิเวอรี่จัดส่งถึงหน้าบ้านได้อีกด้วย กลับมาที่โต๊ะอย่างที่บอกไปเบื้องต้นแล้วว่าถ้าทานบุฟเฟ่ต์ชุด 1,999 บาท จะสั่งน้ำอะไรก็ได้เลยจัดมาเป็นเอสรสองุ่นกับน้ำส้มเย็นซ่าๆ ดื่มหมดแล้วจะเปลี่ยนเป็นน้ำเขียว/เลมอน/สตอเบอรี่/โคล่า/ชูการ์ฟรี/ชาเขียว/ชามะนาว/น้ำเปล่าได้เรื่อยๆเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเต็ม แนะนำว่าอย่าดื่มน้ำหวานๆมากเกินไปสมองจะสั่งให้อิ่มเร็วกว่าปกตินะครับ
เมื่อเราสั่งชุดบุฟเฟ่ต์ราคาสูงสุดของทางร้านสิ่งที่จะถูกเปลี่ยนไปก็คือจานรองสีดำพลาสติกและถ้วยน้ำจิ้มสีขาวพนักงานจะเก็บออกและนำชุดจานกระเบื้องที่สวยงามออกมาวางให้แทน น้ำจิ้มก็มีให้เลือกมากมายถึง 8 อย่างได้แก่ น้ำจิ้มกิวทาเระ (ยากินิคุ)/น้ำจิ้มซีฟู๊ด/น้ำจิ้มโคชูจัง/น้ำจิ้มแจ่ว/น้ำจิ้มมิโสะ/น้ำจิ้มเกลือน้ำมันงา (สั่งได้เฉพาะบุฟเฟ่ต์ราคา 1,999 เท่านั้น) ส่วนวาซาบิดองอยู่ในหมวดเครื่องเคียงเอาไว้ทานกับเนื้อย่างส่วนเกลือหิมาลายัน-พริกไทยดำมาเป็นกระบอกหมุนด้วยมือเพื่อกลิ่นที่สดใหม่ ขอพริกสด/กระเทียมสับและมะนาวปรุงรสน้ำจิ้มได้ตามใจตัวเองครับ
เนื้อต่างๆที่สั่งไปเริ่มทยอยออกมาเสิร์ฟเป็นเมนูอยู่ในราคา 1,999 บาท จานแรกคือ "เนื้อซุปเปอร์คารูบิวากิว" เป็นเนื้อวัววากิวนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นมีไขมันแทรกละเอียดสวยงามราวกับหินอ่อนบนเนื้อสีชมพู ซึ่งทางร้านได้คัด 3 สายพันธุ์มาเสิร์ฟก็คือ Kobe Wine Beef / Kagoshima และ Miyazaki เฉพาะแทรกไขมันระดับ A4 เท่านั้น (แล้วแต่รอบว่าจะได้ทานเนื้อสายพันธุ์ไหน) ส่วนตัวเคยทาน Kagoshima Wagyu A4 ที่ร้านดองกี้สาขาทองหล่อจานนี้ราคาไม่ต่ำกว่า 1,000 บาทแน่นอน ทานสัก 3 จานก็ถือว่าคุ้มค่าบุฟเฟ่ต์แน่นอนครับ ตามมาด้วย "เนื้อริปอายซุปเปอร์วากิว" จานนี้เป็นเนื้อวากิวพันธุ์ไทยแทรกไขมันรสชาติหอมหวาน-เข้มข้นกว่าเนื้อญี่ปุ่นและได้เคี้ยวมากกว่าเล็กน้อยแต่กลิ่นไม่แรงเท่าพวกออสเตรเลียหรือแองกัสทานง่ายและอร่อยสุดๆ มาต่อกันด้วย "เนื้อคารูบิวากิว" เป็นวากิวไทยส่วนเนื้อติดซี่โครงแทรกไขมันละเอียดสวยงามไม่แพ้เนื้อวากิวนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่น ติดเอ็นกระดูกเคี้ยวหนึบนิดๆรสชาติเข้มข้นดีงาม และ "ลิ้นวัวซุปเปอร์บางกรอบ" ลิ้นวัวไทยวากิวสไตลด์บางแทรกไขมันเต็มลิ้นทานกับเลมอนหั่นซีกสดที่แถมมาในจานบีบลงไปช่วยเพิ่มความเปรี้ยว-หอมตัดความเลี่ยนจากไขมันของลิ้นวัวได้เป็นอย่างดี
เมนูต่อไปก็เป็นเนื้อวัวนำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นคือ "เนื้อซุปเปอร์บูลโกกิวากิว" ไม่แน่ใจว่าเป็นส่วนไหนของวัวแต่ยังคงใช้ 3 สายพันธุ์หลักเหมือนเคยคือ Kobe Wine Beef / Kagoshima และ Miyazaki แทรกไขมันระดับ A4 ถึงแม้จะมีไขมันแทรกไม่ละเอียดเท่าส่วนคารูบิแต่ก็มาจากวัวตัวเดียวกัน ความนุ่มนวลพอๆกันแต่รสชาติเข้มข้นกว่าเล็กน้อยสมกับเป็นเนื้อวัวคุณภาพระดับพรีเมี่ยม เมนูนอกจากนั้นเป็นเนื้อวัววากิวสายพันธุ์ไทยทั้งหมดเริ่มจาก "เนื้อใบพายซุปเปอร์วากิว" เป็นส่วนที่สายเนื้อวัวคุ้นเคยเรื่องความนุ่ม-หอมมีชั้นไขมันแทรกละเอียดเป็นลายหินอ่อนตามธรรมชาติรสชาติเข้มข้นทานง่ายๆสไตล์เนื้อไทย หากอยากทานเนื้อวัวส่วนที่เคี้ยวกรุบกรอบหั่นเสิร์ฟมาหนา-ชิ้นใหญ่เคี้ยวเต็มคำไขมันแทรกคุณภาพสูงให้สั่งเป็น "ลิ้นวัวซุปเปอร์หนานุ่ม" ย่างด้านนอกให้เกรียมๆเนื้อในชุ่มฉ่ำบีบเลมอนหรือโรยแค่เกลือสีชมพู+พริกไทยดำก็อร่อยเด็ดสุดๆ ถ้าอยากสัมผัสรสของเนื้อวัวคุณภาพดีโดยไม่ผ่านความร้อนให้สั่งเป็น "กิวทาทากิ" ยำเนื้อแบบเย็นสไตล์ญี่ปุ่นทานคู่กับกระเทียมสด-ยำต้นหอมบีบมะนาวสดช่วยเพิ่มความสดชื่นตัดไขมันและเลี่ยนของเนื้อเหลือแต่รสชาติอร่อยหอมหวานกับกลิ่นของวากิวคุณภาพดีเต็มปากในทุกๆคำที่เคี้ยวครับ
หมดเมนูเนื้อวัววากิวคุณภาพสูงก็มาต่อกันด้วยซีฟู๊ดระดับพรีเมี่ยมที่เสิร์ฟเฉพาะในบุฟเฟ่ต์ระดับราคา 1,999 บาท เริ่มจาก "ขาปูทาระบะ" เป็นขาปูอลาสก้าหรือทาระบะของแท้ไม่ใช่ปูยักษ์ชิลีขนแหลมราคาถูกๆแล้วมาหลอกว่าเป็นอลาสก้าจริงแบบที่เสิร์ฟตามบุฟเฟ่ต์โรงแรมต่างๆ แต่เกรดที่ทางร้านคัดมาเป็นแบบ Frozen ไม่ใช่ Live จึงมีรสหวานไม่มากเท่าปูเป็นแต่ราคานี้ได้ทานก็ถือว่าคุ้มมากๆแล้วครับ ตามมาด้วย "หอยเชลล์ซุปเปอร์" หรือที่เรียกกันว่าฮอกไกโดสแกลลอปตัวใหญ่เนื้อใสแจ๋วสำหรับเอาไปย่างเนื้อหวานเด้งสู้ฟันสุดๆ (ส่วนใหญ่ร้านอื่นนำมาเสิร์ฟเป็นซูชิและใช้ตัวเล็กกว่านี้) ถือว่าคุณภาพพรีเมี่ยมจริงครับผม จานต่อไปถ้าไปสั่งทานตามร้านอาหารญี่ปุ่นไซส์ขนาดนี้ขายประมาณตัวละ 250-300 บาทคือ "หอยนางรมญี่ปุ่น" ตัวใหญ่เนื้อสีขาวใสเนียนละเอียดจะทานสดหรือย่างให้สุกแล้วบีบเลมอน-ราดน้ำจิ้มซีฟู๊ดก็อร่อยเนื้อหวานฉ่ำไหลลื่นลงคอ ต่อกันด้วย "กุ้งลายกูรู" หรือกุ้งลายเสื้อราคาแพงตัวใหญ่เนื้อเยอะเด้งกรอบสู้ฟันซึ่งความหวานอาจจะไม่เท่าตัวที่เพิ่งตายมาใหม่ๆแต่ก็ถือว่าคุ้มราคาบุฟเฟ่ต์มากครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น