สวัสดีเพื่อนๆ วันหยุดนะครับ สำหรับกระทู้นี้ขอออกตัวไว้ก่อนนะครับ มันจะออกแนวเพ้อๆ ฟุ้งๆ หน่อยนะครับ ประมาณเหงาๆ หาเพื่อนพูดคุยเล่าเรื่องแลกเปลี่ยนมุมมองนะครับ
ทั้งหมดทั้งมวลให้เพื่อนอ่านเป็นนิทานนะครับ คือ แค่ผมเปิดประเด็นให้เพื่อนๆที่รู้เชิงลึก มาแก้มาเสริมให้มีอรรถรสในการสนทนาเท่านั้นครับ

คือต้องยอมรับว่าจีนยุคปัจจุบันมีศักยภาพในด้านธุรกิจ แข่งขันกับประเทศมหาอำนาจหลายๆ ประเทศ โดนเฉพาะอเมริกา สามารถผลิตเอง ดัดแปลง ต่อยอดมาขายแข่งตัดราคาได้ในหลายๆ ธุรกิจ เราจะเห็นว่า หลายๆ ประเทศ หลายๆ ทวีป ถูกกิจการของจีนคืบคลานครอบงำเข้าไปบริหารจัดการ เข้าไปลงทุน เข้าไปทำธุรกิจมากมาย สุดท้ายแล้วเม็ดเงินก็จะดูดเข้าประเทศแม่ของจีน แต่ถามว่ามันแปลกมั้ย ก็ไม่แปลก เพราะญี่ปุ่นก็ทำกับเรามานานแล้ว อย่างเช่น อะไหล่รถยนต์ต่างๆ ก็ให้ประเทศไทย เป็นฐานผลิตชิ้นส่วน ประกอบ แล้วก็ส่งออกไปในนาม ของ ญี่ปุ่น เช่นกัน คนในประเทศได้งาน มีรายได้หมุนเวียน แต่กำไรจากการขายรถยนต์จริงๆ สุดท้ายคือ สร้างความมั่งคั่งให้ประเทศแม่อยู่ดีนั่นเอง
ซึ่งจีนเริ่มจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยในยุคนี้ แต่ญี่ปุ่นเท่าที่ผมสังเกตุเค้าจะทำธุรกิจขยายอาณาจักรไปนอกประเทศที่มีความโดดเด่นเป็นเฉพาะแต่ละธุรกิจแต่ถ้ามาดูฝั่งจีนเหมือนจะเอาทุกทาง ทั้งเทคโนโลยี ยานยนต์ การเกษตร เช่น การเกษตร ก็จะไปลงทุนเช่าที่เพาะปลูกประเทศอื่นๆ ที่กำลังพัฒนา เพื่อเอาผลิตการเกษตรไปขายต่อ ประมาณว่าอะไรที่ประเทศมหาอำนาจฝั่งตะวันตกมี จีนก็แข่งใส่ได้ พร้อมชนทุกด้านอะไรประมาณนั้น
อย่างเรื่องสาธารณูปโภค เห็นได้ข่าวว่า จีนมักจะลงทุนให้ก่อนแต่ละประเทศที่ต้องการ เช่น รถไฟ ผมได้ยินมาอย่างนั้นนะครับ จริงเท็จอย่างไรเพื่อนเสริมได้นะครับ ว่าจีนไปลงทุนให้ประเทศไหนบ้าง
แต่ผมได้ข่าวว่า ไทยเรา เคยมีเจรจากู้เงินจากญี่ปุ่นมาทำรถไฟความเร็วสูง โครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่น เท่าที่ผมไปหามา แต่ไม่รู้ว่าคืบหน้าถึงไหน แต่เหมือนผมเคยได้ยินข่าวว่า ญี่ปุ่นเค้าจะไม่ทำให้ เหมือนญี่ปุ่นบอกประมาณว่า รถไฟฟ้าความเร็วสูงเป็นสมบัติของประเทศที่ประเทศไทยต้องทำกันเอง ญี่ปุ่นจะไม่เข้าไปยุ่งอะไรประมาณนั้น
แต่อย่างของจีน เค้าจะมีเป้าหมายต่อยอด คือ จีนจะลงทุนสร้างทางรถไฟเชื่อมแต่ละประเทศเข้าด้วยกันแล้วเชื่อมไปยังจีน เพราะเขาจะได้ระบายสินค้าส่งสินค้าจากจีนไปได้สะดวกทั่วโลก อะไรประมาณนั้น
มาเข้าประเด็นนะครับว่า สงสัยว่า ประเทศญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน โดนจีนเข้าไปรุกตลาดในประเทศญี่ปุ่นมากน้อยแค่ไหนแล้วครับ หรือว่า จีนไม่เคยเจาะตลาดประเทศญี่ปุ่นได้ง่ายๆ เหมือนประเทศอื่นๆ เช่น มือถือ คนญี่ปุ่น ใช้หัวเหว่ยกันมากน้อยแค่ไหน ใช้ผลิตภัณฑ์ เชี่ยวหมี่ กันบ้างมั้ย คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค ยี่ห้อ เมดอินไชน่ามั้ยครับ ธุรกิจหลักๆ โดนจีนกินส่วนแบ่งการตลาดไปเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ ธุรกิจยานยนต์ ผมเชื่อแน่ว่าจีนเข้าไปเจาะยาก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นอ่ะนะครับ แม้แต่ธุรกิจยานยนต์ฝั่งตะวันตกก็โดนสัญชาติญี่ปุ่นไล่ไปตบฝั่งตะวันตกซะเกือบราบคาบ แม้แต่เจนเนอรัลมอเตอร์ ยังโดนญี่ปุ่นกินส่วนแบ่งตลาด
ซึ่งผมสังเกตจากของในบ้านผมตอนนี้ ผมแทบใช้ทุกอย่างที่มาจากจีนเกือบหมดแล้ว 5555 บ้านผมโดนครอบงำโดนผลิตภันณ์จีน อย่างมือถือ พ่อ แม่ เมีย และผม ใช้มือถือ หัวเหว่ยกันทั้งบ้าน 55555
แต่ผมเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนึง เที่ยวกับทัวร์อ่ะนะครับ เท่าที่สังเกต คือ เข้าจะให้ความสำคัญกับความท้องถิ่นนิยมพอสมควร ทั้งผลิตเอง ใช้เอง อุดหนุนคนในจังหวัด พัฒนาเอง อย่างเรื่องการเกษตร ไกด์เค้าบอกว่า ที่ประเทศญี่ปุ่น คนรุ่นใหม่ที่ต้องการกลับไปทำเกษตรที่บ้าน เค้าจะมีให้กู้ จำไม่ได้ว่าดอกไม่มีหรือดอกต่ำนี่แหละครับ และส่งเจ้าหน้าที่รัฐ ประมาณหน่วยงานเกษตรพื้นที่เข้าไปเทรนนิ่ง เข้าไปเป็นไลฟ์โค้ชให้ตั้งแต่ทำแบบเริ่มต้น จนสามารถทำออกขาย และยืนลำแข้งตัวเองได้ ส่วนพวกอุปกรณ์ต่างๆ เทคโนโลยีการเกษตร รถแทรกเตอร์ เก็บเกี่ยว เค้ามีให้มายืมซึ่งจะมีประจำศูนย์หมู่บ้านในทุกๆ ท้องถิ่น คือ รัฐบาลญี่ปุ่นเหมือนจะสนับสนุนเต็มที่เลยครับเรื่องการเษตร เพราะญี่ปุ่นเขามีแนวคิดว่า คนที่ทำการเษตร คือ คนที่เลี้ยงข้าวปลาอาหารให้กับคนทั้งประเทศ เพราะประเทศญี่ปุ่นเจอภัยธรรมชาติทุกปี พื้นที่เกษตรเสียหายไปก็เยอะ เค้าเลยให้ความสำคัญกับการเกษตรในประเทศ
สิ่งนึงที่ผมคิดว่า จีนไม่สามารถทลายกำแพงเพื่อเข้าไปเจาะตลาดญี่ปุ่นได้ เพราะจุดแข็งคือ ความเป็นท้องถื่นนิยม อนุรักษ์นิยมในการพึ่งพาตัวเอง คือ ประเทศญี่ปุ่นรู้สึกว่าจะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องภาวะเงินฝืด มานานพอสมควร เพราะคนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อยจับจ่ายใช้สอยเงิน รัฐบาลต้องกระตุ้นให้ออกมาใช้เงินบ้างไรบ้างประมาณนั้น
แต่ถามว่าประเทศญี่ปุ่น เป็นชาตินิยม ผมว่าอดีตตอนสงครามโลก ผมมองว่า นั่นคือ ความชาตินิยมแบบบ้าคลั่ง แต่ผมมว่ายุคปัจจุบัน เขาไม่ได้เป็นชาตินิยมแบบนั้น แต่ผมมองว่าเค้าน่าจะประมาณท้องถิ่นนิยม คือ เคารพในส่วนรวมประโยชน์สูงสุดเป็นหลัก สังเกตดูได้จากการเคารพกฏระเบียบของคนญี่ปุ่น
แต่สิ่งหนึ่งตอนผมไปเที่ยวญี่ปุ่น เขาปรับตัวพอสมควรครับ เพราะเค้ามีปัญหาเรื่องเงินฝืด เค้าอยากให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรฐกิจมากขึ้น จากที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศชั้นนำเรื่องเทคโนโลยี ตอนนี้นี้เข้าจะเสริมเรื่องการท่องเที่ยวด้วย คือตอนผมไปขึ้นรถไฟที่ญี่ปุ่นเห็นชัดเลยว่า มีหลากหลายภาษามากขึ้น ผมไปซื้อตั๋วแปลกใจเลยว่า เห็นมีเมนูภาษาไทยให้เลือก ซื้อตั๋วด้วย ภาษาจีนก็มี คือ ถ้าเราเคยได้ยินเมื่อก่อน ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องการท่องเที่ยวเท่าไหร่ ไปที่ไหนก็จะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ แต่เดี๋ยวนี้เค้าส่งเสริมการท่องเที่ยวจริงจังกว่าแต่ก่อนมากขึ้น อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ คนไทยแห่เที่ยวกันเยอะ ทัวร์จีนก็มีนะครับ ผมยังเจอนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนึงตอนไม่รวมตัวกินข้าวแค่ละกลุ่ม นักท่องเที่ยวจีนจะมาหยิบปูที่โต๊ะผมเลย คือ เค้านึกว่าเป็นบุฟเฟ่ หยิบตรงไหนเลยก็ได้ 555 แต่เค้าแยกให้แต่ละกลุ่ม
เพราะการท่องเที่ยวทำให้เงินไหลเข้าประเทศ มีการจับจ่ายมากขึ้นในญี่ปุ่นมาช่วยเรื่องภาวะเงินฝืด ที่คนญี่ปุ่นมักจะระมัดระวังการใช้เงินก็อย่างมีวินัยอย่างเข้มข้น
กลับมาสังเกตบ้านเรา คือ ผมก็ยอมรับนะครับว่าผลิตภัณฑ์ของจีนเข้ามาบ้านเราเยอะมาก ซึ่งอย่างที่บอกว่าผมใช้ของทุกอย่างเกือบจะหมดบ้านแล้วมั้งที่เป็นของจีน อ่อ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า แอร์ ผมจะเลือกใช้สัญชาติญี่ปุ่นไว้ก่อน คือ ผมรู้สึกอุ่นใจกว่า อย่างตู้เย็นผมใช้มาเป็นหลายสิบปี ไม่มีงอแงเลย ยอมรับว่าเค้าดีจริง แต่ยอมรับว่าพวกเทคโนโลยีแปลกใหม่จีนมันเยอะจริง
แม้แต่ แฟลตฟอร์มออนไลน์ ผมก็มักสั่งของออนไลน์ก็ใช้แฟลตฟอร์มของจีนประจำ สังเกตมั้ยครับว่าจีนเขาเอาทุกทางจริงๆ
ผมเคยได้ยินมาว่า รัฐบาลจีน เขาจะให้ทุนแต่ละมณทลแต่ละหมู่บ้านส่งคนจีนไปเรียนที่ต่างประเทศ ประเทศฝั่งตะวันตกที่พัฒนาแล้ว พอเรียนจบเขาจะให้กลับมาเป็นครูสอนที่บ้านเกิด เค้าจะให้เงินเดือนแพงๆ ไปเลย แล้วเน้นไปสอนเด็กให้เก่ง เพราะถ้าได้ครูเก่งยังไงเด็กมันก็จะเก่งตามจากนั้นมันจะทำให้เขามีทรัพกรมันสมองคนที่เพียงพอพัฒนาประเทศ กลับไปแข่งกลับประเทศอื่นๆ อีกที
ผมว่าน่าจะอารมณ์เดียวกับ การใช้ Reverse engineering ซึ่งยุคที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังพัฒนาก็จะใช้วิธีการนี้เหมือนกัน คือ ที่เราเห็นได้ชัดเรื่องนี้ คือ ยุคๆ แรกๆ คนญื่ปุ่นก็ส่งคนไปเรียนพวกวิศกรรมที่อเมริกาก่อน แล้วกลับมา เอารถยนต์ของฝั่งตะวันตกมาแกะชำแหละออกมาเพื่อศึกษาต่อยอด แล้วพัฒนาให้ดีกว่า จนสุดท้ายก็เป็นจ้าวยานยนต์ไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
อย่างที่บอกว่า ญี่ปุ่น พัฒนามาก่อนจีน การที่จีนจะเจาะและแทรกซึมเข้าไปยังสายธุรกิจหลักของญี่ปุ่นเพื่อกินส่วนแบ่งการตลาดอาจจะยากสักหน่อย เพราะประเทศญี่ปุ่น คือ ประเทศที่พึ่งพาตนเอง และมีเส้นเลือดใหญ่หลายๆ ธุรกิจขยายไปทั่วโลกอยู่
เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไร?
ผมสังสัยจังครับว่าทำไมธุรกิจของจีน ถึงไม่สามารถครอบงำและเข้าผูกขาดในประเทศญี่ปุ่นได้ เหมือนที่จีนเข้าไปครอบงำหลายๆประเทศ
ทั้งหมดทั้งมวลให้เพื่อนอ่านเป็นนิทานนะครับ คือ แค่ผมเปิดประเด็นให้เพื่อนๆที่รู้เชิงลึก มาแก้มาเสริมให้มีอรรถรสในการสนทนาเท่านั้นครับ
คือต้องยอมรับว่าจีนยุคปัจจุบันมีศักยภาพในด้านธุรกิจ แข่งขันกับประเทศมหาอำนาจหลายๆ ประเทศ โดนเฉพาะอเมริกา สามารถผลิตเอง ดัดแปลง ต่อยอดมาขายแข่งตัดราคาได้ในหลายๆ ธุรกิจ เราจะเห็นว่า หลายๆ ประเทศ หลายๆ ทวีป ถูกกิจการของจีนคืบคลานครอบงำเข้าไปบริหารจัดการ เข้าไปลงทุน เข้าไปทำธุรกิจมากมาย สุดท้ายแล้วเม็ดเงินก็จะดูดเข้าประเทศแม่ของจีน แต่ถามว่ามันแปลกมั้ย ก็ไม่แปลก เพราะญี่ปุ่นก็ทำกับเรามานานแล้ว อย่างเช่น อะไหล่รถยนต์ต่างๆ ก็ให้ประเทศไทย เป็นฐานผลิตชิ้นส่วน ประกอบ แล้วก็ส่งออกไปในนาม ของ ญี่ปุ่น เช่นกัน คนในประเทศได้งาน มีรายได้หมุนเวียน แต่กำไรจากการขายรถยนต์จริงๆ สุดท้ายคือ สร้างความมั่งคั่งให้ประเทศแม่อยู่ดีนั่นเอง
ซึ่งจีนเริ่มจะเห็นชัดขึ้นเรื่อยในยุคนี้ แต่ญี่ปุ่นเท่าที่ผมสังเกตุเค้าจะทำธุรกิจขยายอาณาจักรไปนอกประเทศที่มีความโดดเด่นเป็นเฉพาะแต่ละธุรกิจแต่ถ้ามาดูฝั่งจีนเหมือนจะเอาทุกทาง ทั้งเทคโนโลยี ยานยนต์ การเกษตร เช่น การเกษตร ก็จะไปลงทุนเช่าที่เพาะปลูกประเทศอื่นๆ ที่กำลังพัฒนา เพื่อเอาผลิตการเกษตรไปขายต่อ ประมาณว่าอะไรที่ประเทศมหาอำนาจฝั่งตะวันตกมี จีนก็แข่งใส่ได้ พร้อมชนทุกด้านอะไรประมาณนั้น
อย่างเรื่องสาธารณูปโภค เห็นได้ข่าวว่า จีนมักจะลงทุนให้ก่อนแต่ละประเทศที่ต้องการ เช่น รถไฟ ผมได้ยินมาอย่างนั้นนะครับ จริงเท็จอย่างไรเพื่อนเสริมได้นะครับ ว่าจีนไปลงทุนให้ประเทศไหนบ้าง
แต่ผมได้ข่าวว่า ไทยเรา เคยมีเจรจากู้เงินจากญี่ปุ่นมาทำรถไฟความเร็วสูง โครงการภายใต้ความร่วมมือระหว่างรัฐบาลไทยและรัฐบาลญี่ปุ่น เท่าที่ผมไปหามา แต่ไม่รู้ว่าคืบหน้าถึงไหน แต่เหมือนผมเคยได้ยินข่าวว่า ญี่ปุ่นเค้าจะไม่ทำให้ เหมือนญี่ปุ่นบอกประมาณว่า รถไฟฟ้าความเร็วสูงเป็นสมบัติของประเทศที่ประเทศไทยต้องทำกันเอง ญี่ปุ่นจะไม่เข้าไปยุ่งอะไรประมาณนั้น
แต่อย่างของจีน เค้าจะมีเป้าหมายต่อยอด คือ จีนจะลงทุนสร้างทางรถไฟเชื่อมแต่ละประเทศเข้าด้วยกันแล้วเชื่อมไปยังจีน เพราะเขาจะได้ระบายสินค้าส่งสินค้าจากจีนไปได้สะดวกทั่วโลก อะไรประมาณนั้น
มาเข้าประเด็นนะครับว่า สงสัยว่า ประเทศญี่ปุ่นยุคปัจจุบัน โดนจีนเข้าไปรุกตลาดในประเทศญี่ปุ่นมากน้อยแค่ไหนแล้วครับ หรือว่า จีนไม่เคยเจาะตลาดประเทศญี่ปุ่นได้ง่ายๆ เหมือนประเทศอื่นๆ เช่น มือถือ คนญี่ปุ่น ใช้หัวเหว่ยกันมากน้อยแค่ไหน ใช้ผลิตภัณฑ์ เชี่ยวหมี่ กันบ้างมั้ย คอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ค ยี่ห้อ เมดอินไชน่ามั้ยครับ ธุรกิจหลักๆ โดนจีนกินส่วนแบ่งการตลาดไปเท่าไหร่ แต่ที่แน่ๆ ธุรกิจยานยนต์ ผมเชื่อแน่ว่าจีนเข้าไปเจาะยาก โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่นอ่ะนะครับ แม้แต่ธุรกิจยานยนต์ฝั่งตะวันตกก็โดนสัญชาติญี่ปุ่นไล่ไปตบฝั่งตะวันตกซะเกือบราบคาบ แม้แต่เจนเนอรัลมอเตอร์ ยังโดนญี่ปุ่นกินส่วนแบ่งตลาด
ซึ่งผมสังเกตจากของในบ้านผมตอนนี้ ผมแทบใช้ทุกอย่างที่มาจากจีนเกือบหมดแล้ว 5555 บ้านผมโดนครอบงำโดนผลิตภันณ์จีน อย่างมือถือ พ่อ แม่ เมีย และผม ใช้มือถือ หัวเหว่ยกันทั้งบ้าน 55555
แต่ผมเคยไปเที่ยวญี่ปุ่นครั้งนึง เที่ยวกับทัวร์อ่ะนะครับ เท่าที่สังเกต คือ เข้าจะให้ความสำคัญกับความท้องถิ่นนิยมพอสมควร ทั้งผลิตเอง ใช้เอง อุดหนุนคนในจังหวัด พัฒนาเอง อย่างเรื่องการเกษตร ไกด์เค้าบอกว่า ที่ประเทศญี่ปุ่น คนรุ่นใหม่ที่ต้องการกลับไปทำเกษตรที่บ้าน เค้าจะมีให้กู้ จำไม่ได้ว่าดอกไม่มีหรือดอกต่ำนี่แหละครับ และส่งเจ้าหน้าที่รัฐ ประมาณหน่วยงานเกษตรพื้นที่เข้าไปเทรนนิ่ง เข้าไปเป็นไลฟ์โค้ชให้ตั้งแต่ทำแบบเริ่มต้น จนสามารถทำออกขาย และยืนลำแข้งตัวเองได้ ส่วนพวกอุปกรณ์ต่างๆ เทคโนโลยีการเกษตร รถแทรกเตอร์ เก็บเกี่ยว เค้ามีให้มายืมซึ่งจะมีประจำศูนย์หมู่บ้านในทุกๆ ท้องถิ่น คือ รัฐบาลญี่ปุ่นเหมือนจะสนับสนุนเต็มที่เลยครับเรื่องการเษตร เพราะญี่ปุ่นเขามีแนวคิดว่า คนที่ทำการเษตร คือ คนที่เลี้ยงข้าวปลาอาหารให้กับคนทั้งประเทศ เพราะประเทศญี่ปุ่นเจอภัยธรรมชาติทุกปี พื้นที่เกษตรเสียหายไปก็เยอะ เค้าเลยให้ความสำคัญกับการเกษตรในประเทศ
สิ่งนึงที่ผมคิดว่า จีนไม่สามารถทลายกำแพงเพื่อเข้าไปเจาะตลาดญี่ปุ่นได้ เพราะจุดแข็งคือ ความเป็นท้องถื่นนิยม อนุรักษ์นิยมในการพึ่งพาตัวเอง คือ ประเทศญี่ปุ่นรู้สึกว่าจะมีปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องภาวะเงินฝืด มานานพอสมควร เพราะคนญี่ปุ่นเค้าไม่ค่อยจับจ่ายใช้สอยเงิน รัฐบาลต้องกระตุ้นให้ออกมาใช้เงินบ้างไรบ้างประมาณนั้น
แต่ถามว่าประเทศญี่ปุ่น เป็นชาตินิยม ผมว่าอดีตตอนสงครามโลก ผมมองว่า นั่นคือ ความชาตินิยมแบบบ้าคลั่ง แต่ผมมว่ายุคปัจจุบัน เขาไม่ได้เป็นชาตินิยมแบบนั้น แต่ผมมองว่าเค้าน่าจะประมาณท้องถิ่นนิยม คือ เคารพในส่วนรวมประโยชน์สูงสุดเป็นหลัก สังเกตดูได้จากการเคารพกฏระเบียบของคนญี่ปุ่น
แต่สิ่งหนึ่งตอนผมไปเที่ยวญี่ปุ่น เขาปรับตัวพอสมควรครับ เพราะเค้ามีปัญหาเรื่องเงินฝืด เค้าอยากให้เงินหมุนเวียนในระบบเศรฐกิจมากขึ้น จากที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศชั้นนำเรื่องเทคโนโลยี ตอนนี้นี้เข้าจะเสริมเรื่องการท่องเที่ยวด้วย คือตอนผมไปขึ้นรถไฟที่ญี่ปุ่นเห็นชัดเลยว่า มีหลากหลายภาษามากขึ้น ผมไปซื้อตั๋วแปลกใจเลยว่า เห็นมีเมนูภาษาไทยให้เลือก ซื้อตั๋วด้วย ภาษาจีนก็มี คือ ถ้าเราเคยได้ยินเมื่อก่อน ประเทศญี่ปุ่นไม่ได้ให้ความสำคัญเรื่องการท่องเที่ยวเท่าไหร่ ไปที่ไหนก็จะเป็นภาษาญี่ปุ่นล้วนๆ แต่เดี๋ยวนี้เค้าส่งเสริมการท่องเที่ยวจริงจังกว่าแต่ก่อนมากขึ้น อำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ คนไทยแห่เที่ยวกันเยอะ ทัวร์จีนก็มีนะครับ ผมยังเจอนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มนึงตอนไม่รวมตัวกินข้าวแค่ละกลุ่ม นักท่องเที่ยวจีนจะมาหยิบปูที่โต๊ะผมเลย คือ เค้านึกว่าเป็นบุฟเฟ่ หยิบตรงไหนเลยก็ได้ 555 แต่เค้าแยกให้แต่ละกลุ่ม
เพราะการท่องเที่ยวทำให้เงินไหลเข้าประเทศ มีการจับจ่ายมากขึ้นในญี่ปุ่นมาช่วยเรื่องภาวะเงินฝืด ที่คนญี่ปุ่นมักจะระมัดระวังการใช้เงินก็อย่างมีวินัยอย่างเข้มข้น
กลับมาสังเกตบ้านเรา คือ ผมก็ยอมรับนะครับว่าผลิตภัณฑ์ของจีนเข้ามาบ้านเราเยอะมาก ซึ่งอย่างที่บอกว่าผมใช้ของทุกอย่างเกือบจะหมดบ้านแล้วมั้งที่เป็นของจีน อ่อ ยกเว้นเครื่องใช้ไฟฟ้าใหญ่ๆ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า แอร์ ผมจะเลือกใช้สัญชาติญี่ปุ่นไว้ก่อน คือ ผมรู้สึกอุ่นใจกว่า อย่างตู้เย็นผมใช้มาเป็นหลายสิบปี ไม่มีงอแงเลย ยอมรับว่าเค้าดีจริง แต่ยอมรับว่าพวกเทคโนโลยีแปลกใหม่จีนมันเยอะจริง
แม้แต่ แฟลตฟอร์มออนไลน์ ผมก็มักสั่งของออนไลน์ก็ใช้แฟลตฟอร์มของจีนประจำ สังเกตมั้ยครับว่าจีนเขาเอาทุกทางจริงๆ
ผมเคยได้ยินมาว่า รัฐบาลจีน เขาจะให้ทุนแต่ละมณทลแต่ละหมู่บ้านส่งคนจีนไปเรียนที่ต่างประเทศ ประเทศฝั่งตะวันตกที่พัฒนาแล้ว พอเรียนจบเขาจะให้กลับมาเป็นครูสอนที่บ้านเกิด เค้าจะให้เงินเดือนแพงๆ ไปเลย แล้วเน้นไปสอนเด็กให้เก่ง เพราะถ้าได้ครูเก่งยังไงเด็กมันก็จะเก่งตามจากนั้นมันจะทำให้เขามีทรัพกรมันสมองคนที่เพียงพอพัฒนาประเทศ กลับไปแข่งกลับประเทศอื่นๆ อีกที
ผมว่าน่าจะอารมณ์เดียวกับ การใช้ Reverse engineering ซึ่งยุคที่ประเทศญี่ปุ่นกำลังพัฒนาก็จะใช้วิธีการนี้เหมือนกัน คือ ที่เราเห็นได้ชัดเรื่องนี้ คือ ยุคๆ แรกๆ คนญื่ปุ่นก็ส่งคนไปเรียนพวกวิศกรรมที่อเมริกาก่อน แล้วกลับมา เอารถยนต์ของฝั่งตะวันตกมาแกะชำแหละออกมาเพื่อศึกษาต่อยอด แล้วพัฒนาให้ดีกว่า จนสุดท้ายก็เป็นจ้าวยานยนต์ไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
อย่างที่บอกว่า ญี่ปุ่น พัฒนามาก่อนจีน การที่จีนจะเจาะและแทรกซึมเข้าไปยังสายธุรกิจหลักของญี่ปุ่นเพื่อกินส่วนแบ่งการตลาดอาจจะยากสักหน่อย เพราะประเทศญี่ปุ่น คือ ประเทศที่พึ่งพาตนเอง และมีเส้นเลือดใหญ่หลายๆ ธุรกิจขยายไปทั่วโลกอยู่
เพื่อนๆ คิดเห็นอย่างไร?