เรื่องมีอยู่ว่าผมคบหากับผู้หญิงคนนึง ซึ่งความสัมพันธ์ของเราก็ดีวันดีคืน ตัวเราทั้งคู่ต่างรักกันและผ่านอะไรๆด้วยกันมาทั้งทางใจและอุปสรรคต่างๆความเข้าใจผิดต่างๆ ผมพูดได้เต็มปากว่าผมไม่เคยมั่นใจในความรักครั้งไหนในชีวิตเท่าครั้งนี้และมันเหมือนมีอะไรบางอย่างบอกเราว่า นี้แหละคือคู่ของเรา เราทั้งคู่เป็นตัวของตัวเอง รสนิยมทุกๆเรื่องเราคล้ายกัน มุมมองต่างๆเราคล้ายกัน และไหนจะเรื่องเล็กๆน้อยๆทางนิสัยที่เราต่างเข้าใจและไม่ใส่หน้ากากหากัน.
มีก็แต่ว่าเรื่องเดียวที่หนักใจสำหรับเราทั้งคู่คือ ครอบครัวฝ่ายหญิงที่ไม่ยอมแม้กระทั้งจะเปิดโอกาสได้คุยหรือเจอหน้าผมเลย แต่มองผมว่าผมไม่มีศักยภาพพอจะดูแลลูกเขาและเหมาะสมกับลูกเขาแล้ว เพียงเพราะ เข้าไปดูผมในโซเชียลซึ่งพูดตรงๆผมมีไว้อ่านข่าวและไม่ลงอะไรทั้งนั้น เพราะชีวิตหน้าที่ในช่วงเวลาทำงานก็ตั้งใจทำอจ่างเต็มที่มาตลอด ไม่มีเวลามานั่งเล่นโซเชียลใดๆทั้งสิ้น หรือลงอะไรให้ใครดูไลฟ์สไล์ของเรา
พ่อของแฟนผมเขาก็มองผมแต่ว่าไม่ได้ลงอะไร ถามมาทางแฟนผมว่าทางบ้านทำธุรกิจอะไร อาชีพผมทำอะไร ขับรถอะไร แต่งตัวยังไง และเข้าไปแอบส่องผม แต่ไม่เรียกผมไปพบหรือได้เห็นจริงๆว่าเราเป็นยังไง
เป็นคำถามที่ผมแอบงงเหมือนกันว่า: เอะ เราพร้อมจะเข้าไปหาและรอจังหวะกีๆมาตลอด แต่มองเราในโลกออนไล์แต่ไม่มองเราในโลกความจริง ?
*** ผมต้องบอกก่อนว่สผมเป็นเชฟมืออาชีพ(เงินเดือนดูแลครอบครัวและอขากจะซื้ออะไรก็ได้ มีเงินเก็บเยอะมากๆ แต่ไม่เคยใช้เพราะทำแต่งาน วันหยุดหรือเลิกงานก็ใช้เวลากับคนรัก) ทางบ้านผมทำบริษัทจัดหาแรงงานมานับ25ปี และมีฐานะดีเลยก็ว่าได้ รายได้ตาอเดือนที่บ้านเราทำกันก็อยู่ 8 หลักมาตลอด งานเสริมอื่นๆของผมก็ลงทุนตลาดหลักทรัพย์ ขายรถมือสอง สอนทำอาหาร ฟรีแลนซ์ที่ปรึกษาการเปิดร้านอาหาร กาแฟ ขนม ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการธุรกิจอาหารและบริการ
ผมจะทำยังไงให้ครอบครัวฝ่ายหญิงเปิดใจและเปิดโอกาสให้ผมได้ทำความรู้จักกันสักทีครับ เพราะเราพร้อมจะทำความรู้จักและมั่นใจว่ามีศัยภาพพอจะดูแลลูกสาวของเขาได้สบายไม่ลำบาก
สถานการณ์ปัจจุบัน ผมส่งอาหารและขนมที่แฟนอยากทานไปให้ นางก็มีความสุขและชอบมากๆกับสิ่งที่ผมทำที่หาไปให้นาง แต่พ่อแม่นางก็บอกว่าไม่ชอบให้ส่งมา น่ารังเกียจ และ บอกนางว่านางไม่มีสิทธิจะเลือกคู่ครองเอง เพราะร่างกายของนางจิตใจของนางเป็นของพ่อและแม่ ยอมรับว่าโกรธมากกับคำพูดที่คนเป็นพ่อเป็นแม่พูดกับคนรักผมแบบนี้ แต่ก็ได้อต่กัดันและปรอบใจที่รักของผม และจับมือผ่านไปด้วยกัน
ขอความเห็นและคำแนะนำหน่อยนะครับทุกๆท่าน
จาก Chefsteps.TH
จะทำอย่างไรหากครอบครัวฝ่ายหญิงไม่เปิดรับผมเลยแม้แต่จะคุย แต่กลับมองผมผ่านสื่อโซเชียลและประเมินจากภาพลักษณ์ในออนไลน์
มีก็แต่ว่าเรื่องเดียวที่หนักใจสำหรับเราทั้งคู่คือ ครอบครัวฝ่ายหญิงที่ไม่ยอมแม้กระทั้งจะเปิดโอกาสได้คุยหรือเจอหน้าผมเลย แต่มองผมว่าผมไม่มีศักยภาพพอจะดูแลลูกเขาและเหมาะสมกับลูกเขาแล้ว เพียงเพราะ เข้าไปดูผมในโซเชียลซึ่งพูดตรงๆผมมีไว้อ่านข่าวและไม่ลงอะไรทั้งนั้น เพราะชีวิตหน้าที่ในช่วงเวลาทำงานก็ตั้งใจทำอจ่างเต็มที่มาตลอด ไม่มีเวลามานั่งเล่นโซเชียลใดๆทั้งสิ้น หรือลงอะไรให้ใครดูไลฟ์สไล์ของเรา
พ่อของแฟนผมเขาก็มองผมแต่ว่าไม่ได้ลงอะไร ถามมาทางแฟนผมว่าทางบ้านทำธุรกิจอะไร อาชีพผมทำอะไร ขับรถอะไร แต่งตัวยังไง และเข้าไปแอบส่องผม แต่ไม่เรียกผมไปพบหรือได้เห็นจริงๆว่าเราเป็นยังไง
เป็นคำถามที่ผมแอบงงเหมือนกันว่า: เอะ เราพร้อมจะเข้าไปหาและรอจังหวะกีๆมาตลอด แต่มองเราในโลกออนไล์แต่ไม่มองเราในโลกความจริง ?
*** ผมต้องบอกก่อนว่สผมเป็นเชฟมืออาชีพ(เงินเดือนดูแลครอบครัวและอขากจะซื้ออะไรก็ได้ มีเงินเก็บเยอะมากๆ แต่ไม่เคยใช้เพราะทำแต่งาน วันหยุดหรือเลิกงานก็ใช้เวลากับคนรัก) ทางบ้านผมทำบริษัทจัดหาแรงงานมานับ25ปี และมีฐานะดีเลยก็ว่าได้ รายได้ตาอเดือนที่บ้านเราทำกันก็อยู่ 8 หลักมาตลอด งานเสริมอื่นๆของผมก็ลงทุนตลาดหลักทรัพย์ ขายรถมือสอง สอนทำอาหาร ฟรีแลนซ์ที่ปรึกษาการเปิดร้านอาหาร กาแฟ ขนม ที่ปรึกษาด้านการบริหารจัดการธุรกิจอาหารและบริการ
ผมจะทำยังไงให้ครอบครัวฝ่ายหญิงเปิดใจและเปิดโอกาสให้ผมได้ทำความรู้จักกันสักทีครับ เพราะเราพร้อมจะทำความรู้จักและมั่นใจว่ามีศัยภาพพอจะดูแลลูกสาวของเขาได้สบายไม่ลำบาก
สถานการณ์ปัจจุบัน ผมส่งอาหารและขนมที่แฟนอยากทานไปให้ นางก็มีความสุขและชอบมากๆกับสิ่งที่ผมทำที่หาไปให้นาง แต่พ่อแม่นางก็บอกว่าไม่ชอบให้ส่งมา น่ารังเกียจ และ บอกนางว่านางไม่มีสิทธิจะเลือกคู่ครองเอง เพราะร่างกายของนางจิตใจของนางเป็นของพ่อและแม่ ยอมรับว่าโกรธมากกับคำพูดที่คนเป็นพ่อเป็นแม่พูดกับคนรักผมแบบนี้ แต่ก็ได้อต่กัดันและปรอบใจที่รักของผม และจับมือผ่านไปด้วยกัน
ขอความเห็นและคำแนะนำหน่อยนะครับทุกๆท่าน
จาก Chefsteps.TH