โดนหมอดูถูก ทำอะไรได้บ้าง

#####
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
เราเกือบลืมเรื่องนี้ไปเลยค่ะ จากที่อ่านคห.แล้วเราขอพูดอะไรหน่อยนะคะ  เราขอโทษที่มีมุมมองแคบและไม่เข้าใจห้องฉุกเฉินนะคะ ตอนนั้นเราอ่อนต่อโลก ไม่ทราบว่าห้องฉุกเฉินเป็นแบบนั้น พอโดนมองไม่ดีเราก็โมโหไม่โอเคคิดอคติไปบ้าง รวมถึงการคำถามหรือคำพูดต่างๆที่เราคิดว่าไม่เหมาะสม คงเพราะเราอายคนตรงนั้นด้วยค่ะ รวมถึงเรื่องประจำเดือน เราบอกหมอไปแล้ว ว่าเดือนที่แล้วก็ยังมีประจำเดือนมา แต่เราก็ผิดจริงๆที่จำวันไม่ได้ รวมทั้งมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน ทำให้ในใจเราก็กังวลว่าเราจะท้องเหมือนกันค่ะ ถึงได้กลับไปตรวจขนาดนั้น ค่อนข้างเป็นประสบการณ์ชีวิตเลยค่ะ
แต่สาเหตุที่เราจะบอกก็คือ เราท้องเสีย เหนื่อยล้าไม่มีแรงมากๆ ซึ่งอาการมีตอนเช้า จนถึงตีหนึ่งในวันนั้น ก่อนหน้านั้นเราปกติดี แล้วเราก็อ้วกจนนอนไม่ได้ ตอนนี้ยังจำได้ขึ้นใจเลย และคุณหมอ ก็วินิฉัยโรคของเราผิด ซึ่งมันเข้าใจได้ค่ะ หมอก็เป็นคนเหมือนกันไม่ได้รู้ทุกอย่าง แต่เราคิดว่าหมออคติกับเราจริงๆ หมอไม่ถามถึงอาหารที่กิน หรือพูดถึงอาการท้องเสียของเราเลย ถ้าไม่ได้ยาจากคลีนิคคงต้องกลับไปที่รพ.อีกแน่ๆค่ะ เสียเวลาเราแล้วเราก็อยู่คนเดียวด้วยไม่มีรถเพราะมาเรียนตจว.แถมอาภัพเรื่องเพื่อน พูดละก็ชีวิตจริงมันเป็นแบบนี้แหละค่ะ ถ้าไม่มีแฟนเราคงลำบากกว่านี้  ขอโทษทุกความคิดเห็นด้วยนะคะ  เราจะปรับปรุงคำพูดทัศนคติให้เปิดกว้างกว่านี้ค่ะ

ปล.เราไม่ได้แค้นใจอะไรคุณหมอแล้วละค่ะ แต่ช่วงอาทิตย์นั้นที่เราเครียดเพราะเรากลัวท้องอย่างที่คุณหมอว่าจริงๆ เรายังเรียนอยู่ทำให้ช่วงนั้นเครียดหนักมากๆ ทำเอาใช้ชีวิตไม่เป็นสุขเลย เราเลยแค้นใจคุณหมอไปช่วงนึงค่ะ  เราไม่ได้เป็นโรคเครียดอะไรนะคะ 🥹 ตอนนั้นมันเครียดจริงๆค่ะ

จากที่อ่านคห.แล้วเรารู้สึกไม่ดีค่ะ เราเลยมาตอบคอนเมนท์ตรงนี้ เพื่อความสบายใจของเรา ขอบคุณคหสต.ที่แปะช่องทางร้องเรียนมาให้เรานะคะ แต่เราไม่อะไรแล้วละค่ะ ขอบคุณที่เข้าใจกันนะคะ ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านด้วยค่ะ
ความคิดเห็นจาก Expert Account
ความคิดเห็นที่ 4
เขียนจดหมายต้องเรียนผู้อำนวยการโรงพยาบาลค่ะ
เขียนตามที่เล่ามานี่แหละ
ลงชื่อ นามสกุลจริง พร้อมเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อได้
บอกวันเวลาที่เกิดเหตุการณ์  ไม่ต้องบอกชื่อหมอก็ได้
เพราะสามารถค้นจากเวชระเบียนได้ว่า ใครคือหมอคนนั้น
ส่งเป็นจดหมายลงทะเบียน หรือ EMS ก็ได้ จะได้ติดตามสถานะของจดหมายได้

ถ้าโรงพยาบาลมี Website และ Facebook
รายงานไปด้วยทั้งสองที่  สื่อโซเชี่ยลจะเกิดผลกระทบมากกว่า ได้รับความสนใจมากกว่า
ไม่ต้องใส่ชื่อ นามสกุล เบอร์โทรก็ได้ เพราะเป็นการเปิดเผยเกินไป อาจอันตรายกับตัวเอง
บอกวันเวลา และเล่าตามที่เล่ามานี่ละ
เพราะเขาติดต่อกลับทาง inbox ได้ ถ้าเขาสนใจ

ให้เวลา 2 สัปดาห์ ถ้าไม่มีติดต่อกลับ จขกท ติดต่อกลับไปเองเลยอีกที
โรงพยาบาลที่แคร์ผู้ป่วย และต้องการพัฒนาคุณภาพโรงพยาบาล จะมีคณะกรรมการดูแลเรื่องคำร้องเรียนผู้ป่วย
เรื่องของหมอจะมีองค์กรแพทย์ดูแล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่