สวัสดีครับ  กระทู้นี้เป็นกระทู้ที่ 3 ในการรีวิวสถานที่ท่องเที่ยวแล้วครับ หลังจากหายไปนานมาก ปีกว่าเลยแหละ เนื่องจากวิกฤต โควิด-19 ทำให้เดินทางไปไหนไม่ค่อยได้ แต่เราก็หาช่วงเวลาที่สามารถเดินทางได้ 

กระทู้แรก --------------> https://pantip.com/topic/39036595
กระทู้ที่ 2 --------------> https://pantip.com/topic/39237947

"แร่หมื่นล้าน บ้านกลางน้ำ ถ้ำงามตา ภูผาแปลก แมกไม้จำปูน บริบูรณ์ทรัพยากร" นี่คือคำขวัญของจังหวัดพังงา 
ครั้งนี้เราจับสลากได้ "จังหวัดพังงา" ครับ ซึ่งจังหวัดนี้ได้ชื่อว่า เป็นจังหวัดที่จำนวนเกาะมากที่สุดในประเทศไทย มีจำนวนเกาะทั้งสิ้น 155 เกาะเลยทีเดียว 

งั้นจะช้าอยู่ไย ออกเดินทางกันเลย  Let's Go....

วันแรกของทริป
เราได้เดินทางในวันที่ 18 - 21 ธ.ค. 63 ครับ หน้าหนาวพอดี แต่อากาศไม่หนาวเลย 555

ทริปนี้เราเดินทางด้วยสายการบิน vietjet air ครับ ซื้อช่วงโปรถูกอยู่ครับ ไป กลับ ตกคนละ 800 กว่าบาท แต่ก็ต้องเปลี่ยนแปลงวันเดินทางจากที่วางแผนไว้ครั้งแรก เพราะถูกยกเลิกเที่ยวบิน ปวดหัวเลยครับ - -"

เราเดินทางออกจากสุวรรณภูมิ เวลา 2 ทุ่ม ถึงสนามบินภูเก็ต ประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ ครับ 

พอถึงสนามบินแล้วเราได้เช่ารถจาก "MK Carrental Phuket" ครับ เป็นรถ yaris ปี 2011 ค่าเช่าวัน 550 บาท ครับ รถอาจจะรุ่นเก่า แต่เราเน้นประหยัดครับ 5555
ปล. ลืมถ่ายรถตอนที่อยู่สนามบิน เพิ่งมาถ่ายตอนกลางวันอีกวันนึงครับ 555 

หลังจากเช่ารถเสร็จ เราก็ขับรถตรงไปยังที่พักของเราเลยครับ บรึ้นน... 

คืนแรกเราพักที่ "เล เฟลอร์ เฮาส์"  เราจองกับทาง Agoda คืนละ 300 กว่าบาท ถูกมากกกกก... ครับ ตั้งอยู่แถวๆ เขาหลักครับ
ถึงที่พักประมาณ 4 ทุ่มครึ่ง ใช้เวลาเดินทางจากสนามบินประมาณ 1 ช.ม. จ้าาาาครับ
ปล. ลืมถ่ายรูปที่พักอีกแล้ว วันแรกรีบไปหน่อยกลัวจะถึงที่พักดึก 

วันที่ 2 ของทริปนี้
เราเดินทางไปดำน้ำที่หมู่เกาะสุรินทร์ครับ ใช้เวลาจากที่พักประมาณ 10 นาที จะถึง "ท่าเรือทับละมุ" โดยทัวร์ที่เราจองจะขึ้นที่ท่านี้ครับ
เราใช้บริการทัวร์ของ Love Andaman ราคาอยู่ที่คนละ 1111 บาท ถูกมากๆ ครับ
ซึ่งราคานี้เราได้โปรมาจากเพจ sneak out หนีเที่ยว  


ไกด์ที่นี่ดูแลดีมากครับ ให้ความรู้หลายๆ อย่างเลย เรือที่เรานั่งจะเป็นสปีดโบ๊ตนะครับ เรือออกประมาณ 10 โมง ใช้เวลาถึงหมู่เกาะสุรินทร์ประมาณ 2 ช.ม. ครับ 
นานมาก ไกด์บอกว่าถ้านั่งมาที่นี่ ไปเกาะที่ไหนก็รู้สึกใกล้หมดเลยครับ เพราะไม่มีที่ไหนไกลกว่านี้อีกแล้ว 5555 
ใครที่ชอบเมาเรือ แนะนำให้ทานยาก่อนขึ้นเรือเลยนะครับ เพราะเรือโคลงมาก บวกกับระยะเวลาที่เดินทางอีก ขนาดผมไม่เคยเมาเรือมากก่อน ยังรู้มึนๆหัวเลย 

หลังจากที่เราเดินทางกันมาอย่างยาวนาน ก็มาถึงแล้วครับ ที่แวะที่แรกของเรา หมู่บ้านชาวมอร์แกน เป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ที่เกาะสุรินทร์
ส่วนใหญ่บ้านที่นี่จะสร้างใหม่เกือบหมด เนื่องจากเกินไฟไหม้ครั้งใหญ่เมื่อปี 2562 เพราะว่าบ้านทำจากไม้ทั้งหลัง ทำให้เกิดการติดไฟได้ง่ายมาก

และนี่คือแมวทะเล ได้ว่ายน้ำจากฝั่งแผ่นดินใหญ่ กว่าจะขึ้นมาบนเกาะนี้ได้
หยอกๆ ครับ 55555 

คนส่วนใหญ่ที่นี่จะขายเครื่องประดับที่ทำเองจากไม้ มีขายแทบทุกหลังเลย แต่สินค้าก็จะคล้ายๆกันหมด

นี่คือศาลที่คนในหมู่บ้านบูชาผีกันครับ ไกด์บอกว่าที่นี่คือ Landmark ในหมู่บ้านเลย มาแล้วต้องถ่าย 

มีแมวทะเลแล้ว ก็ต้องมีไก่ทะเลสินะ 

หลังจากเดินชมหมู่บ้านเสร็จแล้วเราก็ไปดำน้ำกันต่อเลยครับ 

ลืมเอากล้องถ่ายใต้น้ำมาด้วย เศร้ามากเลยครับ ไม่ได้ถ่ายใต้น้ำให้ดูเลย 
สัตว์น้ำและปะการังที่นี่สวยมากๆ เลยครับ 

ดำน้ำเสร็จแล้ว ก็หิวแล้วสิ 
ไปทานข้าวกันครับ ทัวร์ของเรามีเลี้ยงอาหารกลางวันจัดในตรงที่ทำการอุทยานแห่งชาติบุฟเฟ่ต์กันไปเลยครับ 

แค่นี้ก็อิ่มแล้วครับ ทานไม่หมดแล้ว 5555

ทานเสร็จเราก็มาเดินเล่นเก็บบรรยากาศบนเกาะกันครับ 

ที่ไปรษณีย์ณบัตรจำหน่าย และบริการส่งไปรษณีย์บนเาะด้วยครับ 
ใช้เวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ไปรษณย์ก็ส่งมาถึงบ้านผมแล้วครับ 

หลังจากทานข้าวเสร็จ เราก็จะกลับแผ่นดินใหญ่กันแล้วครับ 
ขากลับไกด์บอกว่าจะเร็วกว่ามาหน่อยนึง เพราะไม่ได้ขับทวนคลื่นเหมือนตอนขามา ใช้เวลาประมาณ 1 ช.ม. 40 นาที ครับ 
ถึงฝั่งที่ ท่าเรือทับละมุ ประมาณ 5 โมงเย็น

หลังจากเรือถึงฝั่งแล้ว เราก็รีบซิ่งรถไปที่ตัวจังหวัดพังงากันเลยครับ 
เพราะต้องรีบไปวิ่งงาน "Khao Chang Night Run" กันครับ ฟิตมากๆ
ตอนวื่งก็คิดในใจว่าทำเพื่ออะไร ทำไมไม่กลับมานอนพัก 555555


หลังจากวิ่งเสร็จแล้ว ก็ไปที่พักสิครับ 
ต้องรีบไปอาน้ำ ไม่ไหวแล้วเหนียวตัวไปหมด 55555
ที่พักคืนที่สองของเรา ชื่อที่พักว่า "ตามบาย รีสอร์ท" คืนละ 500 บาท หาแบบเดี๋ยวนั้นเลย แบบไฟลนก้น แบบไม่มีแผนใดๆทั้งสิ้น 5555

รวมๆแล้วก็ถือว่าโอเครอยู่นะครับ แต่ทางที่มาอาจจะมืดหน่อยๆ 

หลังจากอาบน้ำเสร็จกันแล้วก็ไปหาอะไรกินกันครับ 
แฟนผมเลือกหมูกะทะครับ สุดยอดไปเลย 5555 
หาแบบสุ่มๆ เหมือนเดิม เจอร้านไหนก็แวะเลย 

ชื่อร้าน "P&P หมูกะทะ" ราคาหัวละ 199 บาทครับ อิ่มเลยทีเดียว 
ทานเสร็จแล้วก็กลับห้องนอนเถอะครับ เหนื่อยมาก ไม่ไหวแล้วจริงๆ 555
 
วันที่ 3 ของทริปนี้
ที่แรกวันนี้ของเรา เราจะพาไปเที่ยวถ้ำกันครับ ซึ่งถ้ำที่นี่มีชื่อว่า "ถ้ำพุงช้าง" ครับ 

นอกจากชื่อจังหวัดแล้ว รูปปั้นที่นี่ก็ไม่ค่อยเป็นมิตรกับช้างเหมือนเดิมนะครับ 5555
ถ้ำที่นี่จะเป็นถ้ำที่มีลำธารไหลผ่านภายในถ้ำ เข้าไปเองไม่ได้ ต้องจ้างไกด์ท้องถิ่นพาพายเรือยางเขาไปครับ 
ใช้เวลาข้างในประมาณ 1 ช.ม. ครับ 
และที่นี่ไม่อนุญาติให้ถ่ายรูปในถ้ำด้วย เสียดายมากครับ 
ด้านในจะมีสิ่งที่ Unseen ที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดพังงาเลยครับ คือหินงอกภายในถ้ำมีรูปร่างลักษณะคล้ายจากช้างเลย 

ซึ่งรูปนี้ผมก็ได้ก๊อปมาจาก google ครับ 5555

นี่คือเรือยาวที่ไกด์พายพาเราเข้าไปครับ 

และที่นี่นอกจากช้างแล้ว ก็มีลิงอยู่เยอะมากเหมือนกันครับ 

พญาวานรที่เขาตามหากันชัดๆ 5555

หลังจากเที่ยวถ้ำกันเสร็จแล้วก็ไปหาอะไรทานกันครับ หิวแล้ววว 
 
มื้อเที่ยงวันนี้ผมได้สอบถามไกด์ที่นำเที่ยวในถ้ำดูเขาบอกว่าดังมาก 
นั่นก็คือร้าน "ขนมจีนหน้าศาลเจ้า" ครับ 

นี่คือผักที่วางไว้ให้ตามโต๊ะครับ คือหลากหลายมาก ทานไม่หมดครับ 5555

อร่อยและถูกมาก ราคาสนนราคาต่อจานตกอยู่ที่จานละ 30 บาทเท่านั้นเอง 

<หลังจากนี้ขอไปต่อในช่องข้อความนะครับ เนื่องจากพืมพ์ตัวอักษรเกินแล้ว 55555>