คิดเห็นกันยังไงบ้าง ใครที่เจอประสบการณ์แย่ๆกับชีวิตคู่ สามีอายุ 45 แล้วแต่เจ้าชู้ ป้อผู้หญิงทุกคนในที่ทำงานไม่เลือก ใครก็ได้ขอให้ผ่านเข้ามา ทั้งๆที่คนที่ทำงานรู้ว่าแต่งงานแล้ว แต่ที่แปลกกว่า มีผู้หญิงบางคนก็ไม่แคร์ ยอมเป็นเมียน้อยเพราะแค่เงิน พอจับได้อ้างว่าไม่รู้ว่าแต่งงานและจดทะเบียนแล้ว คิดว่าแค่อยู่ด้วยกันเฉยๆ
คนเราถ้ามีจิตสำนึก คนสองคนอยู่ด้วยกัน เรายังมีสิทธิ์แย่ง....จริงหรือ ถูกต้องใช่ไหม
คำถามคือ ความคิดนี้ ถูกไหมในสังคมปัจจุบัน ถ้าไม่จดทะเบียนสมรส ชั้นยังมีสิทธิ์แย่งได้ แค่อยู่ด้วยกันเอง
แต่พอสืบกำพืดผู้หญิงคนนี้ ก็เพิ่งรู้ว่า เทอเป็นคนตจว อายุแค่ 27 บ้านมีฐานะปานกลางถึงต่ำ พ่อแม่เป็นครู รร ประถมแห่งหนึ่งใน จ.อยุธยา เทอไม่ได้เป็นคนสวย มีผิวดำ หน้าตาไม่ดี เลยต้องทำศัลยกรรม หาทุกวิธีให้ตัวเองขาวและถีบตัวเองเรียนจบถึงปริญญาโท แต่งานที่ทำ ก็ไม่รุ่ง ซ้ำยังโดนแต่ผู้ชายหลอกมาหลายต่อหลายคน ได้แล้วทิ้งไป (อันนี้เทอเล่าเองหลังจากจับได้แล้ว)
เทอพยายามจับผู้ชายหลายต่อหลายคนในเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เพราะแค่อยากรวยทางลัด หลอกผู้ชายซื้อบ้านเตรียมแต่งาน แต่โชคร้าย ผู้ชายหนี!!!! ทิ้งหนี้ก้อนใหญ่ไว้ให้ เพราะกู้ร่วม นางก็เลยจำเป็นต้องคว้าใครก็ได้ มาร่วมรับผิดชอบหนี้สิน จนยอมเป็นเมียน้อย เพราะเงินเดือนไม่พอจ่ายค่าบ้าน เลยต้องย้ายไปอยู่คอนโดราคาถูก ใกล้ออฟฟิต และเป็นรังรักได้ง่ายๆเพื่อดึงสามีคนอื่นมาแวะก่อนกลับบ้าน
พอเราจับได้ ทั้งสามีและผู้หญิงคนนี้ ช่วยกันทำลายหลักฐาน ลบแชทไลน์ที่คุยกันมาเป็นปีๆ ลบอีเมล์บริษัท ลบ MS team chat & call ลบทุกสิ่งที่ทำได้
และกลับมาใช้ชีวิตปกติ ก็ยังทำงานด้วยกันเหมือนเดิม เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นทำตัวเหมือนชั้นไม่เคยทำผิด
มิหนำซ้ำสามีโยนความผิดให้เราทั้งหมด เพราะอยู่กับเราไม่มีความสุข เราทำแต่งาน เค๊าเลยต้องหาไปเรื่อยๆ
เราขอหย่าโดยไม่ขออะไรเลย หวังว่าเค๊าทั้งสองจะได้มีความสุข เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน เราพร้อมที่จะเดินคนเดียว เพราะเตรียมตัวมาเสมอ รู้ว่าต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก เพระานี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็แปลกเค๊าไม่ยอมหย่าและขอกลับมาเพื่อแก้ไขตัวเอง...อีกแล้ว
ชีวิตแย่ๆจะยังวนเวียนอยู่แบบนี้ต่อไปตลอดทั้งชีวิต
....สุดท้าย ใครเหรอที่รับกรรมล่ะ เราคนเดียว
เราควรทำยังไงต่อดี ...เราจะเดินยังไงต่อดี ใครก็ได้ ช่วยให้ความเห็นทีค่ะ
คิดยังไงกะผู้หญิงที่รู้ว่าผู้ชายอยู่กินกับแฟน แต่ชั้นไม่แคร์..ชั้นจะเอา
คนเราถ้ามีจิตสำนึก คนสองคนอยู่ด้วยกัน เรายังมีสิทธิ์แย่ง....จริงหรือ ถูกต้องใช่ไหม
คำถามคือ ความคิดนี้ ถูกไหมในสังคมปัจจุบัน ถ้าไม่จดทะเบียนสมรส ชั้นยังมีสิทธิ์แย่งได้ แค่อยู่ด้วยกันเอง
แต่พอสืบกำพืดผู้หญิงคนนี้ ก็เพิ่งรู้ว่า เทอเป็นคนตจว อายุแค่ 27 บ้านมีฐานะปานกลางถึงต่ำ พ่อแม่เป็นครู รร ประถมแห่งหนึ่งใน จ.อยุธยา เทอไม่ได้เป็นคนสวย มีผิวดำ หน้าตาไม่ดี เลยต้องทำศัลยกรรม หาทุกวิธีให้ตัวเองขาวและถีบตัวเองเรียนจบถึงปริญญาโท แต่งานที่ทำ ก็ไม่รุ่ง ซ้ำยังโดนแต่ผู้ชายหลอกมาหลายต่อหลายคน ได้แล้วทิ้งไป (อันนี้เทอเล่าเองหลังจากจับได้แล้ว)
เทอพยายามจับผู้ชายหลายต่อหลายคนในเวลา 3 ปีที่ผ่านมา เพราะแค่อยากรวยทางลัด หลอกผู้ชายซื้อบ้านเตรียมแต่งาน แต่โชคร้าย ผู้ชายหนี!!!! ทิ้งหนี้ก้อนใหญ่ไว้ให้ เพราะกู้ร่วม นางก็เลยจำเป็นต้องคว้าใครก็ได้ มาร่วมรับผิดชอบหนี้สิน จนยอมเป็นเมียน้อย เพราะเงินเดือนไม่พอจ่ายค่าบ้าน เลยต้องย้ายไปอยู่คอนโดราคาถูก ใกล้ออฟฟิต และเป็นรังรักได้ง่ายๆเพื่อดึงสามีคนอื่นมาแวะก่อนกลับบ้าน
พอเราจับได้ ทั้งสามีและผู้หญิงคนนี้ ช่วยกันทำลายหลักฐาน ลบแชทไลน์ที่คุยกันมาเป็นปีๆ ลบอีเมล์บริษัท ลบ MS team chat & call ลบทุกสิ่งที่ทำได้
และกลับมาใช้ชีวิตปกติ ก็ยังทำงานด้วยกันเหมือนเดิม เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้นทำตัวเหมือนชั้นไม่เคยทำผิด
มิหนำซ้ำสามีโยนความผิดให้เราทั้งหมด เพราะอยู่กับเราไม่มีความสุข เราทำแต่งาน เค๊าเลยต้องหาไปเรื่อยๆ
เราขอหย่าโดยไม่ขออะไรเลย หวังว่าเค๊าทั้งสองจะได้มีความสุข เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยกัน เราพร้อมที่จะเดินคนเดียว เพราะเตรียมตัวมาเสมอ รู้ว่าต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก เพระานี่ไม่ใช่ครั้งแรก แต่ก็แปลกเค๊าไม่ยอมหย่าและขอกลับมาเพื่อแก้ไขตัวเอง...อีกแล้ว
ชีวิตแย่ๆจะยังวนเวียนอยู่แบบนี้ต่อไปตลอดทั้งชีวิต
....สุดท้าย ใครเหรอที่รับกรรมล่ะ เราคนเดียว
เราควรทำยังไงต่อดี ...เราจะเดินยังไงต่อดี ใครก็ได้ ช่วยให้ความเห็นทีค่ะ