ชอบหมอ ขอบคุณโชคชะตาที่ครั้งนึงได้พบกัน

กระทู้สนทนา
เรามีประสบการณ์ตรง เป็นเรื่องราวที่ครั้งนึงทำให้เรารู้สึกหัวใจเต้นรัว มาเล่าให้เพื่อน ๆได้ฟังกัน
  เราได้มีโอกาสร่วมงานกับอาจารย์หมอท่านนึง ซึ่งเราได้รับบทบาทเป็นผู้ป่วยสมมติ เป็นบทบาทเกี่ยวกับผู้หญิงที่มีปัญหาเกี่ยวกับมดลูกเพื่อทดสอบแพทย์ที่ใกล้จบ  ทำให้เราได้เจอหมอท่านนึงซึ่งตอนแรกเรารู้สึกเฉยๆ นะ  เริ่มแรกเราเริ่มทักทายกันปกติซ้อมบทพูดจาซักถามด้วยกัน ต่อมาเรามีบทที่ต้องตรวจบริเวณท้องซึ่งหมอก็บอกเราและกดให้ดูว่านิสิตแพทย์จะกดท้องตรงไหนบ้าง  จนถึงตอนที่หมอกดท้องน้อยเรา ตอนนั้นเราปวดปัสสาวะอยู่หมอกดแล้วมองหน้าเรา ถามเราว่า "ปัสสาวะรึยัง" ในใจเราตอนนั้นคิดว่า เฮ้ยรู้ได้ไงวะ!! นึกอีกทีเออเค้าก็เป็นหมอนี่หว่า เราเขินมาก ก็ตอบไปตามตรงนั่นแหละว่า "ยังค่ะ" หลังจากนั้นเราก็ไปห้องน้ำเรียบร้อย  พอกลับมายังไม่ถึงเวลาที่จะต้องทดสอบนิสิตแพทย์
เราเลยมีโอกาสได้นั่งคุยกับหมอ หมอถามเราว่า "เรียนอยู่หรอ " เราบอกว่า "เปลาค่ะ ทำงานแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล" (เราทำงานเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์) หมอถามเราเกี่ยวกับงานที่ทำ เราจึงได้โอกาสถามอายุหมอ  ปรากฎว่าหมออายุเท่าเราเลย 30 ปี ทำให้เราผ่อนคลายมากขึ้น หมอเล่าเรื่องราวในการเรียนให้เราฟัง  ว่าทำไมมาเป็นหมอด้านสูติฯ  ประสบการณ์ในการทำงานต่าง ๆ ของหมอ เรื่องตื่นเต้นเวลาหมอทำเคส ต่าง ๆ ตอบข้อสงสัยสำหรับคำถามเราทุกอย่างเลย (ปกติที่เราร่วมงานกับหมอในโงพยาบาล ส่วนใหญ่ก็มักจะเคร่งเครียดแล้วก็ไม่เป็นกันเองอย่างนี้นะ) >>> เวลาเริ่มผ่านไปไวขึ้น เหมือนกับใจของเรานี่แหละที่เริ่มชอบหมอและชื่นชมหมอมากขึ้นเรื่อยๆ  +++ชอบมองตาที่ซ่อนอยู่ข้างหลังแว่น ชอบน้ำเสียง ชอบการตอบคำถามที่เป็นกันเอง ชอบมือที่จับปากกาเขียนข้อมูลต่าง ๆ อย่างตั้งใจ ชอบส่วนสูง ชอบแผ่นหลัง ชอบ ๆๆๆๆๆ ชอบทุกอย่างที่เป็นหมอในตอนนี้เลย ^^  และหมอก็ยังถามอาการเราด้านสูติฯ ด้วย เช่น มีปัญหาปวดท้องประจำเดือนไหมครับ  แล้วมีเทศสัมพันธ์รึยัง  เคยตรวจภายในบ้างไหม บลา ๆ  55555+ ตอนนั้นก็อายหลายอย่างนะ แต่ก็ตามนั้นแหละก็เค้าเป็นหมอสูตินี่เนอะ 
         จนถึงเวลาที่นิสิตแพทย์ต้องเข้ามาทดสอบ ทุกคนจะมีเวลาแค่ 10 นาทีในการวินิจฉัยโรค เราก็ตอบคำถามตามบทที่ได้รับมา ระหว่างการทำงานมักจะมีถามแปลก ๆนอกเหนือบทตามความสงสัยในอาการที่นิสิตแพทย์จะต้องวินิจฉัยโรค ในบางครั้งเราก็จะมีมึน ๆ คิดคำตอบไม่ทันบ้าง ซึ่งพอมองหน้าหมอ  หมอก็มักจะสงสายตาแห่งความช่วยเหลือมาตลอด เราอุ่นใจ ดีใจ และก็ปลื้มหมอมากขึ้นเรื่อย ๆ ช่วงเช้าเมื่อสอบ 5 คนก็จะเบรครอบนึง เวลาผ่านไปไวมากจนถึงพักกลางวัน  หมอถามเราว่าตอนบ่ายจะเป็นเราไหม  เราเองก็ตอบไม่ได้เลย  ในใจระหว่างไปกินข้าวที่ทางทีมคุมสอบจัดเตรียมไว้ให้ก็ภาวนาให้เราได้กลับมาเจอหมอนะ ^^
           ในที่สุดก็เป็นไปตามคาดไม่มีการเปลี่ยนตัวสำรอง เราดีใจมากที่ได้กลับมาเจอหมอในอีกครึ่งวัน ซึ่งช่วงบ่ายความรู้สึกก็คุ้นเคยมากขึ้น เรานี่แหละที่บอกได้เลยว่าไม่อยากให้เวลาผ่านไปเลยอยากจะหยุดเวลาไว้  เรารู้สึกว่าหมอพยายามเซฟเราตลอด ไม่ว่าจะเป็นการบอก past เวลาที่นิสิตแพทย์จะตรวจความซีดที่ตา กดตับเคาะปอด ซึ่งไม่เกี่ยวกับโรคในบท  เรารู้สึกเจ็บนะที่โดนกดแรง ๆ และหลายครั้ง  แต่เรารู้ว่าหมอรู้สึกได้ถึงความเจ็บของเราแล้วก็พยายามเซฟ ให้  พอพักเบรคเราก็จะพูดคุยเรื่องต่าง ๆกัน  จนในที่สุดบทบาทการเป็นผู้ป่วยสมมติของเราก็จบลง  พร้อมกับใจดวงน้อย ๆ ของเราที่ต้องรับรู้ถึงการจากลา  หมอถามอาการเราว่าเจ็บไหม  "พยายามจะไม่ให้น้องหมอกดบริเวณตับ  ตรงนั้นเจ็บ" เราก็ตอบหมอว่า "เจ็บมากค่ะ"  หมอถามเราว่า "กลับยังไง" เราตอบ "เอารถมาจอดไว้ที่อาคารด้านหลังค่ะ"  ส่วนหมอบอกเราว่ามากับรถตู้ของทางโรงพยาบาล (หมอเป็นหมออยู่ที่ รพ.พิจิตร ) แล้วกรรมการคุมสอบก็มาบอกเราว่าเสร็จงานแล้วเชิญด้านล่างค่ะ   เรากับหมอจากกันด้วยการสวัสดี!!  ในใจเรานะอยากจะขอเวลาอีกสักหน่อย  อยากจะอยู่ให้นานกว่านี้  ทำไมนอกจาก รพ.ที่หมอทำงาน ชื่อของหมอ เราก็ไม่รู้อะไรอีกเลย การหาหมอในโลกอินเตอร์เน็ทไม่ใช่เรื่องยาก  แต่โอกาสของเราในการพูดคุยกันคงยากกว่างมเข็มในมหาสมุทรซะอีก เรารู้ว่าหมอคงไม่คิดอะไรหรอกกับเหตุการณ์ในวันนั้น  แต่เรานี่สิทำไง!!  ต้อง MOVE ON คนเดียว  เหนื่อยนะกับภาพของหมอที่ตามมาอยู่ในสมองของเรา  นอนไม่หลับในหัวก็มีแต่หน้าหมอ นึกถึงเรื่องราวต่าง ๆในวันนั้นตลอดเวลา  การแอบนั่งส่องเฟสเพื่อได้เห็นหน้าหมอไปวัน ๆ เห้อ  (บางครั้งเราก็แอบเศร้ากับฐานะ  สังคม  การศึกษาของเราที่ไม่แม้แต่เป็นเพื่อนกับหมอได้เลย  คนระดับหมอคงไม่คงไม่มีเราอยู่ในความทรงจำหรอก ผิดกับเราที่จำได้ทกอย่างที่เป็นหมอ ) ทำไงได้คนแพ้ก็ต้องดูแลหัวใจตัวเองต่อไป  อย่างน้อยการเจอหมอในครั้งนี้ก็ทำให้เราได้ลุกขึ้นมาเขียนเรื่องราวในนี้ เป็นครั้งแรก  เป็นแรงบันดาลใจในการคิดที่จะพัฒนาตนเองในหลาย ๆ ด้าน สุดท้ายก็ขอบคุณโชคชะตาละกันที่ ***ครั้งนึงเราได้รู้จักกับหมอ***
**ขอบคุณสำหรับความทรงจำที่ดี>>ขอบคุณที่ทำให้ ใจบันดาลแรง นะคะ**
 
           อยากทราบว่ามีใครเคยมีประสบการณ์แบบเราไหม  สมหวังรึป่าว  คนระดับธรรมดาอย่างเรากับหมอเคยมีใครไปด้วยกันได้ไหม???
 แล้วคนที่เป็นหมอเค้าเคยผิดหวังกับความรักบ้างรึป่าว  แบบถูกคนธรรมดาปฏิเสธ  ^^
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่