ผมเจอหน้าน้องครั้งแรก
จำได้ว่าเป็นเย็นวันหนึ่งใน
ช่วงหน้าหนาว ตอนนั้นผม
อยู่ป.1
พ่อไปรับผมที่ร.ร.ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เราเดินจูง
มือกันอย่างมีความสุข
แล้วพ่อก็ถามว่า
"รบ คิดออกหรือยังลูกว่า
อยากได้น้องผู้หญิงหรือผู้ชาย"
จริงๆ ผมคิดคำตอบได้มาสักพักแล้ว เพราะไปเที่ยวบ้านเพื่อนและเห็นน้องผู้หญิงของเขา
แก้มป่องๆ ปากเล็กๆ เห็นแล้วอยากตกหลุมรักเป็น
ที่สุด
"อยากได้น้องผู้หญิงครับ"
ผมตอบพ่ออย่างมั่นใจ
พ่อหัวเราะแล้วลูบหัวผม
"งั้นก็รีบเดิน จะได้ไปลุ้นน้องกัน ว่าได้อย่างที่ฝันไหม"
ยายแก้มป่องของผมตามจินตนาการ หายวับไปกับตา เมื่อชะโงกหน้าเข้าไปเห็นครั้งแรก ตายิบหยีเล็ก
เท่าเม็ดกวยจี๊ หน้าแดงๆ
ยับยู่ยี่เหมือน.....
"แม่แน่ใจนะครับ ว่าไม่มีใครแอบเอาลิงมาเปลี่ยน
น้องไป"
แม่ทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง
แต่พ่อน่ะหัวเราะก๊าก
"เด็กเล็กๆ เพิ่งคลอดก็แบบนี้แหละลูก หน้ายังไม่เข้ารูปก็จะยับๆหน่อย เดี๋ยวพอได้สักเดือนจะน่ารักจน
หนูไม่อยากห่างเลยละลูก"
ต่อจากนั้นบ้านเราก็มีแขก แวะเวียนมาแทบทุกวัน บ้านปากซอย บ้านข้างๆ บ้านป้า
ร้านค้า บ้านท้ายซอย
บ้านลุงทีป (เพื่อนพ่อ) บ้านน้ากิ่ง (เพื่อนแม่)
แม้แต่เพื่อนๆ และครูที่ร.ร.
ก็เหมือนทุกคนจะพร้อมใจ
กันมาดูน้องผม
และแน่นอนคำพูดหนึ่งที่
ทุกคนชอบก็คือ
"แม่มีน้องใหม่แล้วรบเอ๊ย
กลายเป็นหมาหัวเน่าแล้วเอ็ง"
ตอนคนที่1พูดก็ยังไม่คิด
อะไรมากหรอกครับ
แต่พอ2,3,4,ผมก็ชักทนไม่ไหว
เมื่อแขกคนสุดท้ายกลับไป
ผมก็รีบเข้าไปอาบน้ำสระผมจนสะอาดเอี่ยม ก่อนจะเดินเข้าไปหาพ่อ
"พ่อครับ...ช่วยดมหัวรบ
หน่อย หอมหรือยัง"
"อือ หอมมาก..ก..ก..ว่าแต่
เมื่อวานรบก็สระไปแล้วนี่ลูก"
"ก็อาชาติบอกว่ารบหัวเน่า
อ่ะ"
"โธ่...อาเค้าพูดเล่นน่ะลูก
หัวรบหอมจะตาย แต่ถึง
เหม็น พ่อก็หอมได้"
หลังจากนั้นก่อนไป ร.ร.
ผมจะมาเฝ้าดูน้องทุกวัน
น้องกินจุ หลับง่าย ไม่งอแง และก็เป็นจริงอย่างที่
พ่อบอก ไม่นานแก้มน้อง
ก็ป่องขึ้น ปากแดง ขนตา
งอนเช้ง
พอผมยื่นนิ้วไป น้องก็จะจับและกำแน่น ในตอนนั้น
ถ้าใครมาถามผมว่ารักใคร
ที่สุด ผมคงตอบได้ในทันที
เลยว่า รักน้อง รักสุดหัวใจที่มีเลยละ
พอน้องหัดพูด ชื่อแรกที่น้องเรียกได้ก็คือผม ถึงไม่ชัด แต่ผมก็รู้ว่าน้องเรียก
พอเริ่มเดินได้ น้องก็เดินตามผมอีก ตอนนั้นผมแทบ
ไม่อยากแยกจากน้องไปไหน
วันแรกที่น้องเข้าร.ร.
น้องไม่ร้องไห้เลยครับ
ผมแอบไปดูน้องเป็นช่วงๆ
(เพราะศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
อยู่ติดกับร.ร.ใหญ่เดินลัดไปไม่ถึง5นาที)
พอผมอยู่ป.5 พ่อก็เลิกไปรับไปส่ง
เพราะพ่อบอกว่าผมโต
และดูแลน้องได้แล้ว ประกอบกับร.ร.ก็อยู่ไม่ไกลและไม่
ต้องข้ามถนน ดังนั้นเราสองคนจึงเดินไปกันเอง
ผมไม่เคยขัดใจน้องแม้แต่
ครั้งเดียว และน้องก็ไม่เคย
ดื้อกับผม เราเป็นคู่พี่น้องที่ติดกันมาก แม้ว่าตอนนอน
น้องจะแยกไปนอนกับพ่อแม่ ส่วนผมนอนคนเดียวในห้องเล็กใต้บันได
แต่แล้วก็มีวันหนึ่งที่เกิดเหตุ
ไม่ดีขึ้นจนได้ ตอนนั้นผมอยู่ม.3แล้ว น้องแอบหนีไป
กินข้าวกลางวันข้างนอก
กับเพื่อนโดยไม่บอก
ผมโกรธมาก ไม่ยอมพูด
ไม่มองหน้าน้อง เลิกเรียน
ก็เดินกลับบ้านไม่รอ
น้องวิ่งตามมาก็ไม่มอง
แม้ตอนเดินผ่านบ้านกลาง
ซอยที่เลี้ยงหมาหลายตัว
และวันนี้ประตูรั้วก็ถูกเปิดไว้
แต่ผมก็เดินผ่านไปอย่างเฉยเมย ยังไม่ทันพ้นดี หัวใจผมก็กระตุกวูบ
"โฮ่ง..."
"ว้าย..."
ผมหันขวับมาก็เห็นน้องล้ม
กลิ้งอยู่กับพื้นถนน ส่วนไอ้
ตัววายร้าย ถอยเข้าไปตั้ง
หลักเกือบถึงรั้ว
"ป้าแจน...หมากัดน้องผม
ป้าแจนครับ"
ผมร้องสุดเสียงก่อนถลาเข้าหาน้อง
"น้องรัก....เป็นไงบ้าง"
"หนูเจ็บ..."
พอเห็นน้ำตาน้องผมก็ไม่ดู
แล้วครับว่าน้องถูกกัดตรงไหน รีบประคองน้องให้
ขึ้นขี่หลัง จากนั้นก็ใส่เท้า
ม้า(ไม่อยากเป็นหมาครับ.)
ห้อแนบกลับบ้านแบบไม่คิด
ชีวิต แค่เข้าเขตรั้วบ้าน
ผมก็ตะโกนเรียกแม่เสียง
สั่น
"แม่คร้าบ...แม่...น้องรัก
ถูกหมากัด"
เสียงอะไรหล่นโครมคราม
อยู่ในครัว พร้อมๆกับแม่
วิ่งพรวดพราดออกมา
"ตายละ...หมาใคร..รบดูน้องยังไง"
แม่ไม่สนใจคำตอบ รีบมารับน้องลงจากหลังผม
แล้วรีบหาร่องรอยบาดแผล
บนตัวน้องอย่างเร่งด่วน
"โดนกัดตรงไหนลูก เจ็บ
มากไหม"
"เจ็บค่ะ หนูเจ็บที่ขา"
น้องมีรอยถลอกที่หัวเข่า
ทั้งสองข้างแต่......
"ไหนละลูก มันกัดหนูตรง
ไหน"
"มันไม่ได้กัดหนูค่า มันวิ่งเข้ามา หนูตกใจก็เลย...
เอาร่มฟาดหัวมัน ไม่รู้หัวแตกรึเปล่า ส่วนรอยถลอก
นี่ หนูล้มเองค่า"
โถๆๆๆๆ...แม่คุณของพี่
ไม่โดนกัดก็ไม่บอก ปล่อยให้พี่แบกวิ่งมาด๊าย ตั้งหลายร้อยเมตร โอย....
จะเป็นลม.....
น้องรัก.....
จำได้ว่าเป็นเย็นวันหนึ่งใน
ช่วงหน้าหนาว ตอนนั้นผม
อยู่ป.1
พ่อไปรับผมที่ร.ร.ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม เราเดินจูง
มือกันอย่างมีความสุข
แล้วพ่อก็ถามว่า
"รบ คิดออกหรือยังลูกว่า
อยากได้น้องผู้หญิงหรือผู้ชาย"
จริงๆ ผมคิดคำตอบได้มาสักพักแล้ว เพราะไปเที่ยวบ้านเพื่อนและเห็นน้องผู้หญิงของเขา
แก้มป่องๆ ปากเล็กๆ เห็นแล้วอยากตกหลุมรักเป็น
ที่สุด
"อยากได้น้องผู้หญิงครับ"
ผมตอบพ่ออย่างมั่นใจ
พ่อหัวเราะแล้วลูบหัวผม
"งั้นก็รีบเดิน จะได้ไปลุ้นน้องกัน ว่าได้อย่างที่ฝันไหม"
ยายแก้มป่องของผมตามจินตนาการ หายวับไปกับตา เมื่อชะโงกหน้าเข้าไปเห็นครั้งแรก ตายิบหยีเล็ก
เท่าเม็ดกวยจี๊ หน้าแดงๆ
ยับยู่ยี่เหมือน.....
"แม่แน่ใจนะครับ ว่าไม่มีใครแอบเอาลิงมาเปลี่ยน
น้องไป"
แม่ทำหน้ากึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง
แต่พ่อน่ะหัวเราะก๊าก
"เด็กเล็กๆ เพิ่งคลอดก็แบบนี้แหละลูก หน้ายังไม่เข้ารูปก็จะยับๆหน่อย เดี๋ยวพอได้สักเดือนจะน่ารักจน
หนูไม่อยากห่างเลยละลูก"
ต่อจากนั้นบ้านเราก็มีแขก แวะเวียนมาแทบทุกวัน บ้านปากซอย บ้านข้างๆ บ้านป้า
ร้านค้า บ้านท้ายซอย
บ้านลุงทีป (เพื่อนพ่อ) บ้านน้ากิ่ง (เพื่อนแม่)
แม้แต่เพื่อนๆ และครูที่ร.ร.
ก็เหมือนทุกคนจะพร้อมใจ
กันมาดูน้องผม
และแน่นอนคำพูดหนึ่งที่
ทุกคนชอบก็คือ
"แม่มีน้องใหม่แล้วรบเอ๊ย
กลายเป็นหมาหัวเน่าแล้วเอ็ง"
ตอนคนที่1พูดก็ยังไม่คิด
อะไรมากหรอกครับ
แต่พอ2,3,4,ผมก็ชักทนไม่ไหว
เมื่อแขกคนสุดท้ายกลับไป
ผมก็รีบเข้าไปอาบน้ำสระผมจนสะอาดเอี่ยม ก่อนจะเดินเข้าไปหาพ่อ
"พ่อครับ...ช่วยดมหัวรบ
หน่อย หอมหรือยัง"
"อือ หอมมาก..ก..ก..ว่าแต่
เมื่อวานรบก็สระไปแล้วนี่ลูก"
"ก็อาชาติบอกว่ารบหัวเน่า
อ่ะ"
"โธ่...อาเค้าพูดเล่นน่ะลูก
หัวรบหอมจะตาย แต่ถึง
เหม็น พ่อก็หอมได้"
หลังจากนั้นก่อนไป ร.ร.
ผมจะมาเฝ้าดูน้องทุกวัน
น้องกินจุ หลับง่าย ไม่งอแง และก็เป็นจริงอย่างที่
พ่อบอก ไม่นานแก้มน้อง
ก็ป่องขึ้น ปากแดง ขนตา
งอนเช้ง
พอผมยื่นนิ้วไป น้องก็จะจับและกำแน่น ในตอนนั้น
ถ้าใครมาถามผมว่ารักใคร
ที่สุด ผมคงตอบได้ในทันที
เลยว่า รักน้อง รักสุดหัวใจที่มีเลยละ
พอน้องหัดพูด ชื่อแรกที่น้องเรียกได้ก็คือผม ถึงไม่ชัด แต่ผมก็รู้ว่าน้องเรียก
พอเริ่มเดินได้ น้องก็เดินตามผมอีก ตอนนั้นผมแทบ
ไม่อยากแยกจากน้องไปไหน
วันแรกที่น้องเข้าร.ร.
น้องไม่ร้องไห้เลยครับ
ผมแอบไปดูน้องเป็นช่วงๆ
(เพราะศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
อยู่ติดกับร.ร.ใหญ่เดินลัดไปไม่ถึง5นาที)
พอผมอยู่ป.5 พ่อก็เลิกไปรับไปส่ง
เพราะพ่อบอกว่าผมโต
และดูแลน้องได้แล้ว ประกอบกับร.ร.ก็อยู่ไม่ไกลและไม่
ต้องข้ามถนน ดังนั้นเราสองคนจึงเดินไปกันเอง
ผมไม่เคยขัดใจน้องแม้แต่
ครั้งเดียว และน้องก็ไม่เคย
ดื้อกับผม เราเป็นคู่พี่น้องที่ติดกันมาก แม้ว่าตอนนอน
น้องจะแยกไปนอนกับพ่อแม่ ส่วนผมนอนคนเดียวในห้องเล็กใต้บันได
แต่แล้วก็มีวันหนึ่งที่เกิดเหตุ
ไม่ดีขึ้นจนได้ ตอนนั้นผมอยู่ม.3แล้ว น้องแอบหนีไป
กินข้าวกลางวันข้างนอก
กับเพื่อนโดยไม่บอก
ผมโกรธมาก ไม่ยอมพูด
ไม่มองหน้าน้อง เลิกเรียน
ก็เดินกลับบ้านไม่รอ
น้องวิ่งตามมาก็ไม่มอง
แม้ตอนเดินผ่านบ้านกลาง
ซอยที่เลี้ยงหมาหลายตัว
และวันนี้ประตูรั้วก็ถูกเปิดไว้
แต่ผมก็เดินผ่านไปอย่างเฉยเมย ยังไม่ทันพ้นดี หัวใจผมก็กระตุกวูบ
"โฮ่ง..."
"ว้าย..."
ผมหันขวับมาก็เห็นน้องล้ม
กลิ้งอยู่กับพื้นถนน ส่วนไอ้
ตัววายร้าย ถอยเข้าไปตั้ง
หลักเกือบถึงรั้ว
"ป้าแจน...หมากัดน้องผม
ป้าแจนครับ"
ผมร้องสุดเสียงก่อนถลาเข้าหาน้อง
"น้องรัก....เป็นไงบ้าง"
"หนูเจ็บ..."
พอเห็นน้ำตาน้องผมก็ไม่ดู
แล้วครับว่าน้องถูกกัดตรงไหน รีบประคองน้องให้
ขึ้นขี่หลัง จากนั้นก็ใส่เท้า
ม้า(ไม่อยากเป็นหมาครับ.)
ห้อแนบกลับบ้านแบบไม่คิด
ชีวิต แค่เข้าเขตรั้วบ้าน
ผมก็ตะโกนเรียกแม่เสียง
สั่น
"แม่คร้าบ...แม่...น้องรัก
ถูกหมากัด"
เสียงอะไรหล่นโครมคราม
อยู่ในครัว พร้อมๆกับแม่
วิ่งพรวดพราดออกมา
"ตายละ...หมาใคร..รบดูน้องยังไง"
แม่ไม่สนใจคำตอบ รีบมารับน้องลงจากหลังผม
แล้วรีบหาร่องรอยบาดแผล
บนตัวน้องอย่างเร่งด่วน
"โดนกัดตรงไหนลูก เจ็บ
มากไหม"
"เจ็บค่ะ หนูเจ็บที่ขา"
น้องมีรอยถลอกที่หัวเข่า
ทั้งสองข้างแต่......
"ไหนละลูก มันกัดหนูตรง
ไหน"
"มันไม่ได้กัดหนูค่า มันวิ่งเข้ามา หนูตกใจก็เลย...
เอาร่มฟาดหัวมัน ไม่รู้หัวแตกรึเปล่า ส่วนรอยถลอก
นี่ หนูล้มเองค่า"
โถๆๆๆๆ...แม่คุณของพี่
ไม่โดนกัดก็ไม่บอก ปล่อยให้พี่แบกวิ่งมาด๊าย ตั้งหลายร้อยเมตร โอย....
จะเป็นลม.....