ขอกำลังใจเพื่อใช้ในการดำรงชีวิตกับคนที่เกลียดกันสุดๆ 2 คนกับคนที่บ่นอยากตายตลอดเวลาอีกคนหน่อยค่ะ

สวัสดีค่ะ เรามาระบายในนี้อีกแล้ว 😆

เราเริ่มหมดแรงในการมีชีวิตอย่างจริงจังแล้วค่ะ เราเหนื่อยกับการใชัชีวิตอยู่ในบ้านเดียวกับคนที่บอกว่า รักและหวังดีกับเรา แต่สุดท้ายเราก็ได้แต่สงสัยว่า นี่คือการกระทำของคนที่รักและหวังดีต่อกันจริงๆ เหรอ

คนสองคนที่เกลียดกัน คือ แม่เรา กับ แฟนเก่าเรา
คนที่บ่นอยากตายตลอดเวลา คือ พ่อเราเอง

เราเห็นเหตุและผลของสิ่งที่เกิดขึ้น สมองประมวลผลได้หมด แต่ความรู้สึกเรานี่เอาไม่อยู่จริงๆ ค่ะ จนเราเริ่มจะเชื่อว่า เรามันอ่อนเกินไปสำหรับการใช้ชีวิตบนโลก (แฟนเก่าเราบอกว่า เราไม่ได้อ่อนเกินไปหรอก ใครที่โดนอะไรซ้ำๆ แบบนี้แล้วยังไหวอยู่ก็หาได้ยากแล้ว)

แม่เราเกลียดแฟนเก่าเรา บนพื้นฐานของความรักเรา เพราะพอเค้าเข้ามาแล้ว เค้ามาเอาเวลาที่เราเคยให้แมเราไปแทบหมด​ (เราโง่เองค่ะ เราแบ่งเวลาไม่ดีเอง เรา manage ไม่ดี) แบบเด็กโดนแย่งของเล่น อีกอย่างคือ แม่เราเห็นว่า เราเหนื่อยช่วยแฟนเก่าเราทำงานสารพัด แต่ไม่เห็นแฟนเก่าเราจะช่วยอะไรเราซักเท่าไหร่เลย

แฟนเก่าเราเกลียดแม่เรา เพราะแม่เราเป็นสายไม่กล้าเผชิญหน้า มีอะไรก็จะไปบ่นลับหลัง ต่อหน้าทำดีด้วย(เพราะแม่เรากลัวเราไม่โอเคถ้าเค้าไม่ทำตัวดีกับแฟนเก่าเรา)ลับหลังเอาไปด่าสารพัด จริงบ้าง ไม่จริงบ้าง (อันนี้เรารู้ เพราะพี่สาวเรามาเล่าให้เราฟังว่า แม่เราไปด่าแฟนเก่าเราให้หลานฟังยังไง) ตอนหลานเรากรีดรถแฟนเก่าเรา (นางเป็นคนรักรถมาก รักขนาดที่เห็นรอยกรีด(ที่โดนรอบสอง)แล้วนั่งร้องไห้ ร่วง ทำงานไม่ได้ไปเป็นหลักเดือน) แม่เราปกป้องหลาน บอกว่า หลานมันไม่ปกติ (เคยได้รับการวินิจฉัยว่า เป็น Asperger syndrome) หลานเครียด อย่าไปว่าหลาน (ประมาณหลานไม่ผิด)

พ่อเราเค้ามีความทรมานกายเป็นทุนเดิม งานหลักเค้าคืองานนั่งโต๊ะ ไม่ออกกำลังกายมาตลอด ตั้งแต่อายุ 19 จนตอนนี้ 86 ทำให้ร่างกายไม่ค่อยมีแรง แต่ยังเดินเองได้ มีเซบ้าง ใช้ไม้เท้าช่วย ยังไม่ติดเตียง...​แต่ถ้าวันไหนเค้าตื่นมาปวดเมื่อยตัว เย็นขาจนปวดขา วันนั้นเค้าจะดราม่า บ่นอยากตายด้วยสารพัดวิธี 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แล้วเค้าจะมีสกิลในการพ่นพิษ หรือเรามันอ่อนเองจนรับรู้อะไรพวกนี้ได้ไม่รู้ เพราะแม่เรากับพี่เรา ไม่เห็นมีใครได้รับผลกระทบอะไร พอเราฟังมากๆ เราก็อยากตายไปกับเค้าด้วย... แต่ติดที่ห่วงหนี้บ้าน แต่ตอนนี้ก็เริ่มช่างหัวมันละ คนที่อยู่ข้างหลังรับผิดชอบกันไปละกัน อยากให้เราซื้อบ้านเพื่ออยู่ด้วยกัน แต่พออยู่ด้วยกันก็ดันมาเป็นแบบนี้... ตัวใครตัวมันละกัน กับหมา 2 ตัว... ​เอ็นดูนาง ถ้าเราไม่อยู่ไม่รู้เจ้าของเดิมเค้าจะรับกลับไปอยู่ด้วยมั้ย เอาไว้ที่บ้านไม่ได้แน่ๆ เพราะที่บ้านเลี้ยงหมาแบบตามใจฉัน บอกว่า ห้ามให้อาหารคน มีเย็นวันนึงกลับมา เจอคราบอ้วกหมาที่มีหน้าตาเหมือนกุ้งแห้ง....

นี่เราไปหาหมอซึมเศร้ามา 2 รอบละ จนหมอฟันธงว่า ให้เลือกว่า ให้ย้ายออกจากบ้านถ้าอยากหาย ถ้าไม่ย้ายก็กินยาแก้ซึมเศร้าไปตลอดชีวิต 
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
 
พี่เราเคยเปรยๆ ประมาณ แม่เรารักเรามากกว่ามัน เราก็แอบคิดในใจ แหงสิ เราไม่ได้มีลูก 2 ที่จะโยนมาให้แม่ช่วยเลี้ยง (เราโสด) หรือเวลามีอะไร เราก็เป็นคนขับรถพาแม่ไปหาหมอ พาไปชอปปิ้ง พาไปกินข้าว ในขณะที่พี่เราที่แยกบ้านออกไปแล้ว แทบไม่เคยทำอะไรพวกนี้เลย ... จนเราคิดว่า ไอ้ที่แม่แสดงว่า รักเรา เป็นเพราะส่วนหนึ่งหวังพึ่งเรายามแก่มากกว่านี้ เพราะตอนนี้ก็ชัดแล้วว่า พึ่งพี่และครอบครัวมันไม่ได้เท่าพึ่งเรา
แม่เราบอกว่า มีอะไรเราไม่บอก .... เราเคยบอก ผลของการบอกเหรอ .... ขอโทษนะ เหมือนสีซอให้ควายฟัง พูดอะไรไป ถ้าดูจะเข้าตัวว่า ชั้นผิด แม่เราก็จะดราม่าเรื่องอื่น ดึงเราไปเรื่องอื่น เปลี่ยนเรื่องพูดเสมอ และเมื่อเค้าเกลียดแฟนเก่าเรา เวลาดราม่าเปลี่ยนเรื่อง เค้าก็จะดราม่าว่า แฟนเราทำให้เราเปลี่ยนไป เอะอะอะไรเราก็เอาแต่แฟนเรา ไม่สนใจพ่อแม่ ไม่ดูแลพ่อแม่ (เจอประโยคนี้ไปเราทรุดเลย เราบอกไปเลยว่า ได้ ถ้าสิ่งทีทำมาทั้งหมดเรียกว่า ไม่ดูแล เราก็จะทำตัวไม่ดูแลให้ดู และถือว่า สิ่งที่เคยทำไปมันไม่เคยเกิดขึ้น ถึงเราจะพูดอย่างนั้น เราก็ยังดูแลเค้าอยู่บ้าง ไม่ได้ละเลยซะทีเดียว) และเวลาถามอะไร ก็จะไไม่รู้ ไม่ได้ทำ... อย่างเวลาเค้าให้แม่บ้านมาทำความสะอาด หลานเราชอบมาวุ่นวายในห้อง ข้าวของในห้องเราย้ายที่ตลอด เราบอกเค้า เค้าก็บอกว่า เปล่า หลานไม่ได้เข้า.... เป็นคนทำความสะอาดรึเปล่า... คนทำความสะอาดย้ายของ กับข้าวของที่มันอยู่ผิดที่ด้วยฝีมือคน มันไม่ได้แยกไม่ออกขนาดนั้น พอเราเจอ "เปล่า" ไม่รู้ไม่เห็นหนักๆ เข้า สรุป ตอนนี้เราเปลี่ยนลูกบิดประตู ข้าวของไม่เคยย้ายที่อีกเลย

แฟนเก่าเราเกลียดแม่เราขนาดที่ว่า ทนเห็นหน้าไม่ได้ (แม่เราก็คือๆ กัน) พยายามจะออกจากบ้านให้ไม่ต้องเจอหน้ากัน ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับเรา ก็จะพูดประมาณว่า เพราะแม่เราอย่างโน้น แม่เราอย่างนี้ หลายๆ สิ่งเราเห็นด้วย (คนที่ชี้ให้เราเห็นว่า พออะไรที่แม่เราเถียงไม่ออก แม่เราจะดราม่าเปลี่ยนเรื่อง ก็คือแฟนเก่าเราเอง) แต่อันไหนไม่เห็นด้วย เราก็ค้านไป จนหลังๆ เลิกค้าน เหนื่อย อยากพูดอะไรพูดไป แต่เราก็ต้องมาประสาทหวาดระแวงว่า ถ้าสองคนนี้เจอหน้ากันจะยังไง เพราะแม่เราเคยเป็นฝ่ายพุ่งเข้าใส่ พ่นโน่นนี่นั่นใส่ ด่าอย่างโน้น ว่าอย่างนี้ (วีรกรรมแม่เราเยอะ แฟนเก่าเรายอมตลอด มาหลังๆ ที่สวนกลับบ้าง เพราะสุดจะทน)

อาจจะมีคนงงว่า อ้าว แฟนเก่ายังอยู่ที่บ้านเหรอ ใช่ค่ะ แฟนเก่าเรายังอยู่บ้านเรา ใช้ชีวิตด้วยกันเหมือนเดิม เพราะเรารู้สึกติดค้าง เราเคยแพลนจะคุยให้ย้ายออก ปรากฎว่า วันรุ่งขึ้นรถโดนกรีดเป็นรอยลึกแทบจะทั่วคัน วันนั้นแฟนเก่าเราร่วงเลย การงานพินาศหมด เราเลยรู้สึกว่า เราติดค้างเค้า เราต้องชดใช้เค้าแทนสิ่งที่แม่กับหลานเราทำไป (แบบนี้มันคือ กัมมะพันธุ ใช่มั้ยคะ คือ พ่อแม่ทำ แต่ลูกชดใช้แทน) อย่างน้อยๆ ให้เค้าดีขึ้นก่อน... แต่พอเค้าดีขึ้น เราพูดเรื่องย้ายออก เค้าก็วนมาร่วงอีก... สรุป เราพูดอะไรไม่ได้เลย กระทบหมด

ส่วนพ่อเรา อย่างที่บอก วันไหนร่างกายไม่โอเค วันนั้นจะดราม่าด้วยวิธีตายแบบนั้นโน้นนี้ เราพยายามหาวิธีช่วยสารพัดวิธี เราลองด้วยการรักษาทางเลือกทั้งหลาย แต่สุดท้าย เราก็ไม่กล้า follow up ผลว่า การรักษาทางเลือกนั้นได้ผลลัพธ์เป็นยังไงบ้าง เพราะเรากลัวคำตอบที่ออกมาจากปากเค้าค่ะ เพราะถ้าสมมติตอนเราไปถาม เค้าทรมานจากการปวดเมื่อยเนื้อตัวพอดี คำตอบเค้าก็จะเข้าโหมดดราม่า บ่นเรื่องอยากตายและอธิบายวิธีจะตายอย่างละเอียด ซึ่งเราทนฟังไม่ได้ ล่าสุด แค่เกริ่นมา เราขึ้นเสียงและตัดบทเลยว่า เราไม่ฟังเรื่องนี้

บทเค้าจะพูดรู้เรื่อง ก็ดูรู้เรื่องดี ขอโทษขอโพยเราที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ รักเรา เห็นใจเรา (ตอนเราปะทะกับแม่ เค้าก็ดูจะเห็นใจเรา ดูจะรักเรา) เราเคยบอกว่า เราไม่ชอบฟังเค้าพูดแบบนี้ เค้าก็ ซอรี่ หลบตา ทำหน้าแบบ... เออ ก็เป็นแบบนี้ ทำไงได้ แล้วพอมีจั้งหวะ เค้าก็จะวนมาพูดเรื่ิองเดิมๆ ที่เราไม่อยากฟังอีก.... น่าจะเป็นอาการของคนสมองเสื่อม
เค้าทุกข์ เพราะจิตของเค้าไปผูกอยู่กับตัวเองในช่วงชีวิตที่รุ่งโรจน์ อยากทำอะไรก็ทำ ร่างกายแข็งแรงดี(กว่าตอนนี้) 
ตอนนี้เวลาเค้าบ่นอะไร เราก็บอกเค้าไปว่า ก็แก่แล้ว มันก็เสื่อมตามสภาพ.... เราเคยพยายามบอกว่า เอ้ย อายุแบบนี้ได้แบบนี้เรียกว่าดีมากแล้ว เค้าก็จะทำหน้าดราม่าว่า มันไม่ดี โน่นนี่นั่น... พยายามปรับวิธ๊พูด วิธีคุย วิธีตะล่อมมาหมดแล้ว....

ตอนนี้เลยสรุปว่า เราหลีกเลี่ยงการพบเจอและพูดคุยกับทั้งพ่อและแม่เรา เพราะเราไม่รู้ว่า เราจะได้ยินอะไรที่กระทบใจเราในเรื่องไหนบ้าง

นี่เราได้รอบกลับไปจากจิตแพทย์อีกทีรึยังคะ? แต่ถ้ากลับไปก็คงได้ยาตัวเดิมๆ คำแนะนำเดิมๆ เราก็เลยไม่รู้จะกลับไปทำไม แถมถ้ากินยาก็บริจาคเลือดไม่ได้ (เราอยากทำบุญเยอะ เผื่อถ้าทำบุญมากพอจะได้เกื้อหนุนให้เราจบๆ ไป)

ตอนนี้เราใช้ชีวิตอยู่ด้วยชุดความคิดว่า "เราเกิดมาใช้เค้า​ (ทั้งพ่อ แม่ และแฟนเก่า)" ไม่ต้องหาคำตอบอื่นใดแล้ว ทนใช้ชีวิตแบบทุกข์ๆ แบบนี้ไป ใช้สิ่งที่ติดค้างเค้าให้หมด เราจะได้จบๆ กันในชาตินี้ ชาติหน้าจะได้ไม่ต้องมาพบมาเจอกันอีก 

แต่เรายิ้มก็โคตรทุกข์ ทุกข์จนหมดแรงแล้ว

ตอนนี้ทุกข์เรามันล้น เราเลยมาหาที่ระบายและขอกำลังใจ
ขอบคุณที่อ่านจบจบค่ะ 🙏

ป.ล.นี่คิดๆ แล้วก็ดีใจที่มีพันติ๊บไว้ให้ได้ระบาย เพราะเราบ่นในเฟซจนเพื่อนน่าจะ unfriend/unfollow ไปซะแทบจะหมดละ 😆

เพิ่มเติม กับคำว่า "แฟนเก่า"
ในสมการชีวิตนี้ เหมือนถ้าตัดตัวแปร 1 ตัวออกแล้วชีวิตเราจะง่ายดาย ก็คือ ตัวแปรนี้แหล่ะ แต่ถ้า "ตอนนี้"​ มันตัดออกไม่ได้ล่ะคะ?
ไม่ได้ตัดออกไม่ได้เพราะยังรักเค้าอยู่หรือว่าอะไร ตอนนี้ที่ตัดไม่ได้ เพราะ "รู้สึกผิด" ที่ทางบ้านมีส่วนทำให้เค้าทุกข์ สภาพจิตเสีย (จากการที่หลานเรากรีดรถเค้า) บวกกับรู้สึกว่า ตอนแรกไม่น่าชวนมาอยู่บ้านด้วยกันเลย .... และถ้าการรับผิดชอบตรงนี้คือการให้เค้ายังอยู่ในชีวิตเราในบ้านเรา เราก็กำลังทำส่วนนี้อยู่ค่ะ
ตอนนี้ โจทย์ของเรา คือการเข้ามาขอกำลังใจในขณะที่สมการชีวิตยังเป็นแบบนี้ ส่วนอนาคตถ้าสมการชีวิตเปลี่ยน ก็คงเป็นอีกเรื่องนึงค่ะ
ขอบคุณค่ะ 🙏
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่