สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะคะ เราไม่เคยเที่ยวต่างจังหวัดคนเดียวมาก่อนเลย เราได้รับแรงบันดาลใจจากเพื่อนเราเองค่ะ นั่นคือตาล(เค้าทำเพจ ชื่อ ตามตาลมาไปฟอลกันได้ในเฟสบุ๊คเลยค่าา
https://www.facebook.com/tanXtravel/ ) เค้าเที่ยวคนเดียวบ่อยมาก
เริ่มแรกเราอยากโดดบันจี้จัมพ์ตั้งแต่ช่วงตุลาคมปีที่แล้ว แต่นั่นก็เป็นเพียงความรู้สึกอยาก ไม่ได้เป็นแพลนจริงจัง พอปีใหม่ เราตั้ง New year resolution ว่าต้องโดดบันจี้จัมพ์ภายในปีนี้นะ แต่ตัวเองก็แอบคิดทำไม่ได้แน่เลย แต่พอข่วงสอบมิดเทอมเราก็นัดกับเพื่อนว่าหลังสอบจะไปเที่ยวกัน แต่สุดท้ายเพื่อนไม่ว่าง ทริปล่ม ก็เลยนั่งไล่ถามเพื่อนในกลุ่ม ไม่มีใครว่างเลย แอบเศร้านะ เราเลยนั่งคิด หรือเราจะไปโดดบันจี้จัมพ์พัทยาดี เลยโทรปรึกษาตาล ตาลบอกไปเลยยยย ไอเราก็หาวินรถตู้เลยค่ะ ว่าต้องขึ้นที่ไหน อะไรยังไง ตอนแรกเราไม่ได้แพลนที่จะค้างคืนเลย แต่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดทำให้เราต้องค้างอย่างเลี่ยงไม่ได้
กลับมาเช้าวันออกเดินทางเราออกจากศาลายาตั้งแต่ 6.45น. ถึงหมอชิตประมาณ 8.15 ก็เดินเข้าไปในอาคาร C ก็จะมีพนักงานตะโกนพัทยา ระยอง ราชบุรี เสียงดังมาก จนเราแอบตกใจ พอพนักงานเห็นเราเดินเข้ามาก็ถาม หนูไปไหน เราก็ตอบไปว่า พัทยา เค้าก็บอกมานี่ๆ 140฿ พร้อมกับยื่นนามบัตรสีเหลืองที่เขียน ว่า 9.00 พร้อมกับพูดว่าของหนูรอบ 9 โมงนะ เราก็โอเคนั่งรอจน9โมงรถก็ยังไม่มา 10 โมงก็ยังไม่มา จน10.30 พึ่งได้ออกจากหมอชิต ซึ่งจุดหมายปลายทางเราคือแหลมบาลีฮาย

ระหว่างทาง เราต้องเลื่อนนัดโดดบันจี้จัมพ์ไปตอนบ่าย จากตอนแรกจองไว้ตอน 11.30 (ก่อนไปโดดควรจองในเพจก่อน เราโดดที่พัทยา สูงที่สุดในไทยอยู่ที่60เมตร ราคา2000บาท จากราคา 2500บาท ปลายเดือนเมษาจะย้ายไปที่ตั้งใหม่สูง62เมตร) จากนั้นเราก็คำนวณเวลากว่าจะโดดเสร็จ ไปหาดก็บ่าย2นิดๆแล้ว อีกแปปเดียวก็ต้องกลับ เลยตัดสินใจจองโรงแรมผ่านแอป agoda แต่เราไม่รู้เลยว่าแถวนั้นจะมีแต่ผับบาร์ และร้านนวด กลับมาบนรถ ตอนบ่ายโมงเศษๆคนขับรถก็ให้เราลง แล้วไปขึ้นอีกคันเพื่อต่อไปแหลมบาหลีฮาย แต่เราเปิด google map พบว่าจุดที่เราลงใกล้ที่เราจะไปโดดบันจี้จัมพ์มากกว่าที่แหลมบาหลีฮาย เราเลยบอกคนขับว่าขอลงตรงนี้เลยละกัน แล้วจึงกดแกรป บังเอิญเป็นแกรปที่จอดซื้อกาแฟตรงนั้นพอดี เราโดนค่าแกรปไป 177฿ (ราคาแอบแรงแต่ก็ยอมเพราะร้อนมากและรีบ) ก็นั่งไปถึงที่โดดบันจี้จัมพ์ นั่นก็คือที่ X bungyjump Pattaya พอถึง สตาฟก็ถามว่าพี่แกรปจะโดดหรอ เราก็บอกว่าป่าวค่ะ555555 หนูโดดค่ะ ถึงตอนนั้นเรายังไม่กลัวเลย ความกลัวหายไปไหนไม่รู้ สตาฟก็ให้เราไปช่างน้ำหนัก ติดตั้งอุปกรณ์แล้วก็ขึ้นไป ระหว่างทางขึ้นไป สตาฟก็ใช้เชือกผูกขาเราตอนนั้นเริ่มกลัวเพราะ เชือกมันหนักมากเหมือนจะดึงตัวเราลงไปเลย พอถึงจุดสูงสุด สตาฟให้เราลุกขึ้น กระดึ๊บไปตรงปลายตอนนั้นหวิวมาก เราก้มมองข้างล่างอย่างเดียวสตาฟให้เราเกาะแขนเค้าเราก็เกาะ สั่งให้เรามองตรงไปข้างหน้า เราก็มองตาม และสตาฟก็ผลักเราเลย มันเป็นความรู้สึกเหมือนนั่งรถไฟเหาะที่ไม่มีอะไรยึดเราไว้ มีแค่เชือกที่ผูกขาเราไว้ แต่พอช่วงท้ายเริ่มแกว่งไปจนเริ่มเวียนหัว พอลงไปขายังสั่นอยู่เลย แล้วสตาฟก็แอดไลน์ส่งรูปและคลิปมาให้

แล้วเราก็หาทางกลับ เจอแกรปที่จอดรออยู่ทั้งๆที่เราไม่ได้บอกให้รอแต่รอ ก็นั่งไปหาดพัทยา โดนไป180 บาท แต่ก็ยอมเพราะร้อนมาก และหิวมาก เราก็ตั้งใจจะหาไรกินเป็นข้าวเที่ยงตอนประมาณบ่าย 2 แต่ด้วยที่อากาศร้อนมากเห็น mcdonald เลยเข้าไปนักพัก พร้อมกับซื้อเบอเกอร์หมู และเฟรนช์ฟรายด์มากิน พร้อมกับเปิดแมพหาที่พัก เดินไปไม่ไกลจาก mcdonald พอถึงก็เช็คอินเข้าไปพักก่อน

แต่นึกขึ้นได้ว่าเราไม่ได้เตรียมอะไรมาค้างคืนจึงลงไปซื้อข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้ามา แล้วก็แต่งหน้าใหม่ลงไปเดินเล่นริมทะเล ระหว่างเดินไปก็มีแม่ค้าถามว่านั่งเตนท์มั้ย 50 บาทเราก็ไม่ลังเล เดินไปนั่งเลย เราก็เอาของวางไปถ่ายรูปเล่น

วันก่อนมาเราดูคลิปคนเล่นพาราเซลลิ่ง ก็รู้สึกอยากเล่น จึงเดินไปถามที่เตนท์เค้าบอก 800 บาท เราก็ลังเลเพราะทริปนี้มันจะเกินงบแล้ว แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่ไปละกัน เลยนั่งดูพระอาทิตย์ตกแล้วรีบกลับห้องเพราะแถวนั้นดึกแล้วน่ากลัว พอตื่นเช้ามาเราก็เช็คเอาท์เลยตอน 9โมง แล้วไปนั่งริมหาดเหมือนเดิมพร้อมกับกินข้าว + ต้มยำทะเล

พอกินเสร็จเริ่มมีความคิดไหนๆก็มาแล้วหรือเราจะไปเล่นพาราเซลลิ่งดีกว่า เลยเดินไปบอกเต้นท์ เค้าก็พาเราไปหาเรือ เราก็ขึ้นเรือไปบนนั้นมีครอบครัวชาวฟิลิปปินส์ 4 คน แต่เล่นแค่ 2 คนพ่อลูก พอไปถึงกลางทะเลสตาฟก็เริ่มปล่อยร่มให้ฝรั่งขึ้น พอขึ้นไปเครื่องดับฝรั่งติดอยู่ 7-8 นาที จนเครื่องกลับมาทำงาน คนสองขึ้นไป แล้วลงมา พอถึงตาเราจะขึ้นเครื่องก็ดับอีกรอบ เลยวนเรือกลับเข้าฝั่งไปซ่อมแล้วรับลูกค้าคนอื่นขึ้นมา พอซ่อมเสร็จ วนเรือกลับไปกลางทะเล (แอบโชตดีเพราะได้นั่งเรือวนไปมาเกือบชั่วโมงฟรีๆ) ตาเราขึ้น ขึ้นไปสวยมาก เหมือนนกเลย เป็นวิวอีกมุมที่เราไม่เคยเห็นมาก่อนมันดีมากๆ พอเราก็มองกลับไปที่เรือเห็นสตาฟวิ่งไปมาเปิดท้ายเรือเราก็รู้เลยเครื่องขัดข้องอีกแน่เลย แต่ก็ไม่สนใจอะไรเพราะอย่างมากก็ลงทะเล ใช้เวลาก็ดื่มด่ำกับบรรยากาศต่อพอเครื่องติด สตาฟก็แกล้งปล่อยเราลงให้เอาเท้าแตะน้ำนิดหน่อย แล้วเราก็ลงอย่างปลอดภัย ก็นั่งรอคนอื่นเล่นแล้วกลับเข้าฝั่ง

พอเข้าฝั่งเราก็รูสึกว่าคอมพลีทละทริปนี้ คุ้มกับเงินที่เสียไป เลยตั้งใจจะกลับเลย เลนเดินไปขึ้นวินรถตู้กลับหมอชิตแถว วัดชัยมงคล กว่าจะถึงหมอชิตก็บ่าย3ละ เลยรีบนั่งรถกลับศาลายา เพราะวันถัดไปมีเรียนเช้าต้องกลับไปนั่งเรียนแลปทิพย์(แลปออนไลน์) เป็นอันจบทริปงงๆค่ะ
[CR] รีวิวเที่ยวพัทยาคนเดียว 2 วัน 1 คืน พาไปโดดบันจี้จัมพ์ และเล่นพาราเซลลิ่ง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้