ผู้หญิงตัวคนเดียว ที่อยากวางแผนเริ่มต้นชีวิตใหม่ ที่ไหนดีคะ

สวัสดีค่ะทุกคน ตอนนี้เราต้องการวางแผนเพื่อไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ตามลำพังค่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหน และไปอยู่ที่ไหนดีค่ะ
หากใครมีคำแนะนำ รบกวนด้วยนะคะ

นานาเงินหมด

     ขอเล่าเกี่ยวกับชีวิตส่วนตัวสักหน่อยนะคะ
     เราอายุ 26 มีเชื้อสายจีน อาศัยอยู่ภาคอีสานค่ะ ตั้งแต่เล็กจนโต เราอาศัยอยู่กับคุณตาคุณยาย ทางบ้านมีฐานะพอสมควรค่ะ คุณตาคุณยายมีลูกหลายคน มีหลานหลายคน แต่เราเป็นคนโปรดที่สุดของคุณยาย เพราะเป็นเด็กที่อยู่ใกล้ท่านมากที่สุด เป็นเด็กดี ช่างพูดและร่าเริง เวลาที่พวกท่านป่วย ไม่ว่าจะเบาหรือหนัก เราเป็นเพียงคนเดียวที่คอยดูแลแบบ 24 ชม. ทั้งที่บ้านและโรงพยาบาล ลูกหลานคนอื่นๆเพียงแวะมาเยี่ยมบ้างเป็นครั้งคราว รวมถึงพี่สาวแท้ๆของเราด้วยนะคะ  เป็นแบบนี้มาตั้งแต่เราอยู่ประถม ซึ่งเราก็ทำมาด้วยเพราะว่าเรารักพวกท่านมาก ท่านทั้งสองเป็นคนชุบเลี้ยงเราแทนพ่อแม่ 
     
     แต่เมื่อเราเรียนจบป.ตรี เราทำงานบริษัทได้เกือบ 1 ปี คุณยายเราล้มป่วยหนักมาก เป็นโรคที่ต้องรักษาตลอดชีวิตของท่าน ตรงนี้คือจุดเปลี่ยนชีวิตเราเลยค่ะ ตอนนั้นเป็นช่วงที่เรากลับมาที่บ้านพอดี เราก็อยู่ดูแลท่านที่โรงพยาบาลเป็นเวลาหลายเดือน อยู่แบบ 24 ชม.คนเดียวอีกเช่นเคย จนกระทั่งญาติๆของเราเขาบอกให้เราลาออกจากงานมาเพื่ออยู่ดูแลพวกท่านที่บ้าน มีคำพูดทำนองทวงบุญคุณที่พวกเขาพูดใส่เราบ่อยมาก เราจำจนตายทุกประโยค

เช่น...

     "ถ้าไม่ได้อากงอาม่าเลี้ยงดูพวกเธอมา(เขาพูดเหมารวมพี่สาวเราด้วย) ป่านนี้พวกเธอคงxxxxxxแล้วก็ไม่รู้"

     "เธอต้องสำนึกบุญคุณของอาม่านะ"

     "พวกฉันก็เลี้ยงดูพวกเธอมา"

     คือมันแบบบลาๆจนจะอ้วกเลยค่ะ นี่ยังไม่นับสถานการณ์อื่นๆนะคะ ตอนนั้นเองเราก็ชั่งใจหนักมาก และเริ่มมองเห็นความเห็นแก่ตัวของทุกคน และความดีของบางคนได้มากขึ้นเรื่อยๆ แต่เราก็ตัดสินใจทำอย่างที่พวกเขาต้องการไปก่อน เพราะเราเป็นห่วงคุณยายของเรามากจริงๆ และเราก็รู้ตัวว่ามีแค่เรานี่แหละที่จะฮีลท่านได้ ตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ ก็ผ่านไปประมาณ 2 ปีแล้วค่ะ

     ตลอดระยะเวลาทั้ง 2 ปีที่ผ่านมา เราดูแลท่านอย่างเต็มที่ อาจจะไม่ดีที่สุด แต่เต็มที่ในแบบของเราแล้วจริงๆ ลูกๆของคุณยายคนอื่นๆก็ส่งเงินให้เราทุกเดือนนะคะ รวมกันเป็นเงินจำนวนหนึ่งค่ะ คุณยายก็ให้เราทุกเดือนเหมือนกันค่ะ ซึ่งถ้ารวมของทุกคนคือเราได้เงินหมื่นต้นๆในการอยู่บ้านดูแลท่าน บางท่านอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องที่น่าอิจฉา ก็ดีแล้วนี่แค่อยู่บ้านดูแลผู้สูงวัยเอง แต่ที่จริงแล้ว...สำหรับเรา แค่การดูแลผู้สูงวัยที่ป่วยกันทั้งคู่มันไม่ใช่ง่ายๆเลยนะคะ โดยเฉพาะต้องอยู่ท่ามกลางญาติๆแบบนี้อีกด้วย ทั้งเราก็ต้องแลกมาด้วยการยอมเป็นคนว่างงาน อนาคตจะไปซ้ายขวายังไงก็ไม่รู้ เวลาพยายามรับงานนั้นนี้มาทำ ก็จะโดนพวกญาติๆพูดไม่ดีใส่(แต่เราก็พยายามไม่สนใจ มองโบ๋ไป) เวลาที่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับคุณตาคุณยาย ทุกคนก็มาลงที่เราหมดเลยค่ะ แต่ละเวฟนี่ไม่ใช่เล่นๆเลยนะคะ

     นั่นแหละค่ะ...

     ใดๆที่ผ่านมาสำหรับเราคือหนักหนามากจริงๆ จนเรามีความคิดถึงขึ้นอยากฆ่าตัวตายหลายครั้งเลยนะคะ แต่พยายามคิดสวนกลับไปว่ายังไม่ทันมีความสุขเลย จะเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตง่อยๆเยี่ยงทาส แล้วตายไปง่ายๆไม่ได้! หลายครั้งที่เราคิดจะไปซะให้พ้นๆ แต่ก็ติดตรงที่สงสารคุณยาย เพราะถ้าเราไม่อยู่ ท่านต้องเศร้ามากแน่นอน

     ทุกวันเราต้องคอยสแตนบาย 24 ชั่วโมง ดีที่ตอนกลางวันยังพอมีลูกจ้างที่ญาติๆจ้างมาช่วยเราอยู่บ้าง แต่ตอนกลางคืนนี่สิคะ ต้องคอยลุ้นคอยสแตนบายตลอด เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้จริงๆค่ะ เกิดขึ้นหลายครั้งจนเราท้อ

     เราเคยบอกให้ญาติๆจ้างพยาบาลมาดูแลจริงๆจังๆ โดยมีเราเป็นแบล็กอัพให้ เราจะได้มีเวลาให้ตัวเองบ้างสักนิด นี่จะไปเที่ยวหรือค้างคืนที่ไหนแค่สักคืนยังยากเลยค่ะ ห้ามป่วยห้ามตายเลยด้วย ขยับตัวลำบากมากค่ะ ทั้งๆที่ก็มีฐานะพอสมควร ไม่รู้ว่าพวกเขาไปเกลียดเรามาจากไหน ถึงทำกับเราแบบนี้ ตัวพี่สาวเราเองเขาก็ไปทำงานไปมีชีวิตตัวเองได้ปกติ มีแต่เราที่คอยแบกอะไรแบบนี้ไว้คนเดียว

     เราเคยพูดกับทุกคนแล้วนะคะ พูดจนพูดไม่ไหวแล้วค่ะ เพราะมันเปล่าประโยชน์จริงๆ เอาเข้าจริง ถ้าไม่มีเราสักคน พวกเขาก็จ้างพยาบาลมาดูแลแทนแน่นอนอยู่แล้วค่ะ ร้อยล้านเปอร์เซ็นต์ หลายท่านอาจมองว่าเราหรือเปล่าที่เห็นแก่ตัว เพราะคุณยายเลี้ยงดูเรามานะ แต่เราไม่มีทางออกอื่นให้ชีวิตแล้วค่ะ ยิ่งอยู่ที่นี่เหมือนจะยิ่งซึมเศร้า เข้าใกล้โรคประสาทมากขึ้นทุกที

     จนพักหลังๆเรามีความคิดอยากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่จริงๆจัง เราเก็บออมจากเงินที่ทุกคนให้มาได้เป็นก้อนนึง แต่ก็กะว่าถ้าออกไปจริงๆคงจะเริ่มจากงานบริษัทเหมือนที่เคยทำไปก่อน ให้ได้มีเงินเดือน และค่อยๆขยับขยายหาแนวทางใช้เงินเก็บให้คุ้มค่า แต่ยังไม่รู้ว่าจะไปเริ่มที่ไหนดีเลยค่ะ แหล่งงานสาขาที่เราจบมา หลักๆเลยคือ กทม. และเมืองใหญ่ๆรองลงมาค่ะ

     เราคุยกับเพื่อนสนิท ถ้าไม่เอาตัวเองออกมาแบบนี้ ก็มีแต่ต้องหาเรื่องแต่งงานเพื่ออ้างออกบ้าน จะได้จบแบบมองหน้ากันได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคือใช่ว่าคนเราจะได้แต่งงานกันง่ายๆน่ะสิคะ อีกทั้งเราก็เลิกกับแฟ่นเก่ามาเป็นปีๆแล้วด้วย แล้วก็ยังไม่มีเวลาไปจีบผู้ชายใหม่อีกเลย 55555555

     ซึ่งถ้าเราจะไปจริงๆ สิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่การเริ่มต้นใหม่ แต่เป็นการเลิกดูแลคุณตาคุณยายในแบบเดิม

เราตัดสินใจยากมากเลยค่ะ ระหว่าง...
   
     - พวกท่านอายุเยอะแล้วนะ ไม่รู้ว่าพวกท่านจะอยู่กับเราไปอีกนานแค่ไหน ให้ถึงตอนนั้นแล้วค่อยว่ากันใหม่ดีกว่าไหม

หรือ...

     - เราเองก็มีชีวิตที่ต้องใช้นะ ถ้าเราอยู่กับพวกท่านไปจนสุดทาง ถ้าถึงตอนนั้นแล้วชีวิตเราจะเป็นที่เป็นทางเมื่อไร เมื่อไรเราจะได้ใช้ชีวิตของเรานะ

     ถ้าทุกคนยอมเราคนละครึ่งทาง ยอมฟังที่เราขอให้จ้างพยาบาลมาช่วยเรา ทั้งๆที่มีฐานะรับผิดชอบตรงนี้ไหว เราจะไม่เป็นแบบนี้แน่ๆค่ะ ตอนนี้เรามีปัญหาทางสุขภาพร่างกายด้วยค่ะ ทั้งโรคหลอดลมตีบ เลือดจาง ไทรอยด์ โรคเริ่มรุมเร้าเข้ามาเรื่อยๆ เราพักผ่อนน้อยมาก อยากไปเที่ยวกับเพื่อน ไปค้างคืนชิลๆสักคืนก็ทำไม่ได้ แค่นี้ก็ว่าแย่แล้ว แต่เราคิดว่าเราน่าจะเริ่มมีปัญหาทางสุขภาพจิตตามมาด้วยค่ะ หรืออาจจะเป็นสุขภาพกายก็ได้นะคะที่ตามมาทีหลัง

เราไม่เคยตั้งกระทู้อะไรแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ ตั้งกระทู้อื่นๆล่าสุดก็เมื่อนานมาแล้ว ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เราน้อบรับทุกคำแนะนำค่ะ
ไม่รู้ว่าเราจะเขียนอธิบายได้ดีแค่ไหน เราไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้จริงๆค่ะ ถ้าเขียนดูงงๆเราต้องขออภัยนะคะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่