สวัสดีคือเราอ่ะ เราอายุ 18 ปีนะ อยากมาระบาย เราไม่อยากอยู่กับครอบครัวที่แม่ไม่เข้าใจเราแบบนี้ เข้าเรื่องเลยล่ะกัน
แม่เราเป็นคนที่ค่อนข้างหัวโบราณแล้วเราก็รำคานเวลาแกบ่น แกด่า เราก็จะทำเป็นไม่พอใจ ซึ่งเราก็ทำหน้าแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว มีอยู่วันหนึ่งเราขอแม่ไปกินวันเกิดเพื่อนแล้วเราหยุดทำงานเพื่อจะไปกินวันเกิดเพื่อน แม่พูดกับเราว่า มันสำคัญกับชีวิตถึงขนาดต้องหยุดงานไปเลยหรือไง เรานี่แบบโห่ไอ้

เพื่อนเข้าใจเรามากกว่าคนในครอบครัวอีก ระบายกับมันได้
พูดคุยกับเพื่อนได้ แต่กับครอบครัวเราแทบจะไม่เคยบอกหรือเล่าอะไรให้แกฟังเลย แล้วก็บ่นเราแบบ ไปจะกลับกี่ทุ่มกี่ยามเราก็บอกไป 2-3 ทุ่ม กินเสร็จก็กลับแต่แม่เราก็มาคำมาด่าสารพัดแบบเห็นในข่าวบ้างมั้ยต้องให้เกิดกับตัวก่อนใช่มั้ย เรางงนะ อ้าว เราแค่ไปกินข้าว ไม่ได้ไปมั่วสุ่มอะไรเลย แล้วอีกอย่างเราทำงานแล้วอ่ะ เงินที่เราใช้อยู่มันก็เป็นเงินที่เราทำงาน เก็บเงินมาใช้เอง เดี๋ยวนี้คือไม่ได้ขอเงินแกใช้เลย จนเราต้องแบบโกหกว่าจะไปทำงานเพื่อให้ได่ไปกินวันเกิดเพื่อน พอหลังจากวันนั้น ความรู้สึกที่เรามีให้แม่ก็เปลี่ยนไป เริ่มเกลียดแม่ตัวเองมากขึ้น แค่แบบเห็นแม่สีหน้าเราก็เริ่มไม่พอใจ หลังจากนั้น เราก็ไปทำงานตามปกติ ถึงเวลาเลิกงานเราก็ โทรหาแต่พ่อว่าเราไปกินข้าวนะ พ่อบอกว่า โอเคๆขับรถดี โทรบอกแม่รึยัง พ่อไม่ได้อยู่บ้านนะ เราแบบเลี่ยงที่จะโทรหาแม่ ส่งไลน์ไปแทน เราบล็อคเบอร์แม่ไปเลย จำได้วันนั้นเรากลับบ้านเที่ยงคืน พ่อไม่โทรตามเลยเรารู้สึกโอเคที่พ่อไว้ใจเรา แล้วมาถึงวันนี้เราเกลียดแม่หนักกว่าเดิม ถึงขั้นคิดที่จะกูจะไม่คุยกับมันอีกเลย เราโมโหมากเรากลับมาจากที่ทำงานแล้วแม่ก็ทำน้ำหมักอะไรของเขาไปแต่กลิ่นมันเหม็นมากเว้ย แบบมากอ่ะ เราเกรงใจคนในซอยเราด้วยแหละ เราก็ถามไปว่าทำไมไม่ไปทำที่สวนแม่ก็บอกว่า พ่อไม่อยู่ เราก็พูดออกไปแบบ วุ้ยยย แม่ก็เลยด่าเราเลยแบบ วุ้ยอะไร ไม่พอใจอะไร เราก็ไม่พูดนะ ถ้าเราพูดออกไปมันจะทะเลาะกันหนักกว่านี้อีก เราเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์ร้อนประมาณนึงเลย เราเลยเดินเข้าบ้าน แกก็ยังมาด่าเราในบ้านอีก เสียงดังด้วยซึ่งเราก็อายคนอื่นเขาเป็นนะเว้ย อายุ 18 แล้วยังโดนแม่ด่าอยู่อีก เขาก็ด่ามาว่า รู้ความหมายมันมั้ยที่พูดมาอะนะ,ทำตัวเหมือนจบป.5-ป.6มา เราก็แบบพูดในใจ จบสูงกว่าค่ะ และอีกหลายๆคำที่พูดออกมา
แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่ง ที่ทำให้เราเริ่มเกลียดแม่ คือก่อนปีใหม่พ่อเราสัญญากับเราว่าจะซื้อโทรศัพท์ให้ แล้วพ่อเราก็พาเราไปซื้อ รุ่นที่เราจะซื้อมันไม่ค่อยมีขายแล้ว เราก็ไปห้างแรกไม่มีเราก็เดินตามหาตามบูทต่างๆเครือข่ายต่างๆจนเราเข้าไปถามพี่พนักงานว่าพี่ค่ะมีโทรศัพท์รุ่นนี้มั้ยค่ะ พี่เขาก็บอกว่าไม่มีแล้วครับ มันตั้ง 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งแม่เราทำเสียงแบบ วุ้ยย 2-3 ปีนานก็แล้วจะซื้อไปทำอะไร เราก็งงเอ้า ก็กูชอบรุ่นนี้อ่ะ แล้วเงินที่มาซื้อเป็นเงินพ่อเรา ไม่มีเงินแม่ซักบาท เราอายมากแกพูดต่อหน้าพี่พนักงานเลย เราเดินหนีแม่ออกมาเลย
อีกอย่างแม่เราเหมือนจะด่าแค่เราคนเดียวอะไรๆก็เรามีวันหนึ่งก็เราหยุดงานแล้วอยู่บ้าน อยู่แต่ในห้องจนมืดอยู่ๆแม่เราก็ตะโกนว่า พวกจะ-กันมั้ยอ่ะข้าวอ่ะ หม้อขงหม้อข้าวก็ปล่อยให้เน่าคาหม้อ เรางงนะว่า งานในครัวเป็นของน้องเราแล้วงานบ้านเป็นของเรา แต่มาด่ารวมงี้เป็น

ไรก่อน
ระหว่างที่เราเล่ามาคือน้ำตาไหลไม่หยุด ไม่ใช่เพราะเสียใจนะ มันคือความโกรธความเกลียดอ่ะ รู้สึกโล่งมาก
เกลียดแม่
แม่เราเป็นคนที่ค่อนข้างหัวโบราณแล้วเราก็รำคานเวลาแกบ่น แกด่า เราก็จะทำเป็นไม่พอใจ ซึ่งเราก็ทำหน้าแบบนี้เป็นปกติอยู่แล้ว มีอยู่วันหนึ่งเราขอแม่ไปกินวันเกิดเพื่อนแล้วเราหยุดทำงานเพื่อจะไปกินวันเกิดเพื่อน แม่พูดกับเราว่า มันสำคัญกับชีวิตถึงขนาดต้องหยุดงานไปเลยหรือไง เรานี่แบบโห่ไอ้
พูดคุยกับเพื่อนได้ แต่กับครอบครัวเราแทบจะไม่เคยบอกหรือเล่าอะไรให้แกฟังเลย แล้วก็บ่นเราแบบ ไปจะกลับกี่ทุ่มกี่ยามเราก็บอกไป 2-3 ทุ่ม กินเสร็จก็กลับแต่แม่เราก็มาคำมาด่าสารพัดแบบเห็นในข่าวบ้างมั้ยต้องให้เกิดกับตัวก่อนใช่มั้ย เรางงนะ อ้าว เราแค่ไปกินข้าว ไม่ได้ไปมั่วสุ่มอะไรเลย แล้วอีกอย่างเราทำงานแล้วอ่ะ เงินที่เราใช้อยู่มันก็เป็นเงินที่เราทำงาน เก็บเงินมาใช้เอง เดี๋ยวนี้คือไม่ได้ขอเงินแกใช้เลย จนเราต้องแบบโกหกว่าจะไปทำงานเพื่อให้ได่ไปกินวันเกิดเพื่อน พอหลังจากวันนั้น ความรู้สึกที่เรามีให้แม่ก็เปลี่ยนไป เริ่มเกลียดแม่ตัวเองมากขึ้น แค่แบบเห็นแม่สีหน้าเราก็เริ่มไม่พอใจ หลังจากนั้น เราก็ไปทำงานตามปกติ ถึงเวลาเลิกงานเราก็ โทรหาแต่พ่อว่าเราไปกินข้าวนะ พ่อบอกว่า โอเคๆขับรถดี โทรบอกแม่รึยัง พ่อไม่ได้อยู่บ้านนะ เราแบบเลี่ยงที่จะโทรหาแม่ ส่งไลน์ไปแทน เราบล็อคเบอร์แม่ไปเลย จำได้วันนั้นเรากลับบ้านเที่ยงคืน พ่อไม่โทรตามเลยเรารู้สึกโอเคที่พ่อไว้ใจเรา แล้วมาถึงวันนี้เราเกลียดแม่หนักกว่าเดิม ถึงขั้นคิดที่จะกูจะไม่คุยกับมันอีกเลย เราโมโหมากเรากลับมาจากที่ทำงานแล้วแม่ก็ทำน้ำหมักอะไรของเขาไปแต่กลิ่นมันเหม็นมากเว้ย แบบมากอ่ะ เราเกรงใจคนในซอยเราด้วยแหละ เราก็ถามไปว่าทำไมไม่ไปทำที่สวนแม่ก็บอกว่า พ่อไม่อยู่ เราก็พูดออกไปแบบ วุ้ยยย แม่ก็เลยด่าเราเลยแบบ วุ้ยอะไร ไม่พอใจอะไร เราก็ไม่พูดนะ ถ้าเราพูดออกไปมันจะทะเลาะกันหนักกว่านี้อีก เราเป็นคนที่ค่อนข้างอารมณ์ร้อนประมาณนึงเลย เราเลยเดินเข้าบ้าน แกก็ยังมาด่าเราในบ้านอีก เสียงดังด้วยซึ่งเราก็อายคนอื่นเขาเป็นนะเว้ย อายุ 18 แล้วยังโดนแม่ด่าอยู่อีก เขาก็ด่ามาว่า รู้ความหมายมันมั้ยที่พูดมาอะนะ,ทำตัวเหมือนจบป.5-ป.6มา เราก็แบบพูดในใจ จบสูงกว่าค่ะ และอีกหลายๆคำที่พูดออกมา
แล้วมีอีกเหตุการณ์หนึ่ง ที่ทำให้เราเริ่มเกลียดแม่ คือก่อนปีใหม่พ่อเราสัญญากับเราว่าจะซื้อโทรศัพท์ให้ แล้วพ่อเราก็พาเราไปซื้อ รุ่นที่เราจะซื้อมันไม่ค่อยมีขายแล้ว เราก็ไปห้างแรกไม่มีเราก็เดินตามหาตามบูทต่างๆเครือข่ายต่างๆจนเราเข้าไปถามพี่พนักงานว่าพี่ค่ะมีโทรศัพท์รุ่นนี้มั้ยค่ะ พี่เขาก็บอกว่าไม่มีแล้วครับ มันตั้ง 2-3 ปีที่แล้ว ซึ่งแม่เราทำเสียงแบบ วุ้ยย 2-3 ปีนานก็แล้วจะซื้อไปทำอะไร เราก็งงเอ้า ก็กูชอบรุ่นนี้อ่ะ แล้วเงินที่มาซื้อเป็นเงินพ่อเรา ไม่มีเงินแม่ซักบาท เราอายมากแกพูดต่อหน้าพี่พนักงานเลย เราเดินหนีแม่ออกมาเลย
อีกอย่างแม่เราเหมือนจะด่าแค่เราคนเดียวอะไรๆก็เรามีวันหนึ่งก็เราหยุดงานแล้วอยู่บ้าน อยู่แต่ในห้องจนมืดอยู่ๆแม่เราก็ตะโกนว่า พวกจะ-กันมั้ยอ่ะข้าวอ่ะ หม้อขงหม้อข้าวก็ปล่อยให้เน่าคาหม้อ เรางงนะว่า งานในครัวเป็นของน้องเราแล้วงานบ้านเป็นของเรา แต่มาด่ารวมงี้เป็น
ระหว่างที่เราเล่ามาคือน้ำตาไหลไม่หยุด ไม่ใช่เพราะเสียใจนะ มันคือความโกรธความเกลียดอ่ะ รู้สึกโล่งมาก