ลิลิตพระลอ ตำนานนิทานพื้นบ้านในจังหวัดแพร่ สู่วรรณคดีไทยสมัยกรุงศรีอยุธยา ซึ่งเป็นเรื่องราวของ"พระลอ"กษัตริยหนุ่มรูปงามแห่งเมืองสรวง กับ "พระเพื่อนพระแพง"สองธิดาฝาแฝดผู้มีสิริโฉมงดงามของ"ท้าวพิษณุกร"แห่งเวียงสรองหรือเมืองสอง ซึ่งทั้งสองเมืองนี้ได้เป็นศัตรูคู่อาฆาตกันในอดีตกาล จนกลายมาเป็นเหตุการณ์โศกนาฎกรรมความรักที่ตรึงตาตรึงใจให้แก่ผู้อ่านมาอย่างช้านาน
สำหรับ วัดพระธาตุพระลอ อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ซึ่งสร้างขึ้นติดกับแนวกำแพงโบราณเวียงสองหรือเมืองสอง และเชื่อกันว่าเป็นเมืองของพระเพื่อนพระแพงในอดีต ซึ่งจากเดิมชาวบ้านเรียกกว่าพระธาตุหินส้ม ถูกทิ้งร้างมานานกว่าร้อยปี ก่อนได้รับการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2495 และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระธาตุพระลอ เพราะเชื่อว่าเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสามพระองค์ บริเวณใกล้กันนั้น มีอนุสาวรีย์พระลอ พระเพื่อนและพระแพง ต้องธนูเสียชีวิตอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน มีขนาดเท่าคนจริง อยู่บนแท่นสูงประมาณ 1.5 เมตร โดยมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนำพวงมาลัยมากราบไว้เป็นประจำ
นอกจากนี้ ยังมีถ้ำปู่เจ้าสมิงพราย ตัวละครเอกในนิทานพื้นบ้านเรื่องนี้ให้เข้าไปสักการะด้วย และจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์และตำนานที่เกี่ยวเนื่องกันมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ เมื่อปีพ.ศ. 2548 ชาวอำเภอสอง ได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดสร้างอุทยานลิลิตพระลอขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ แหล่งเรียนรู้ และคนคว้าเกี่ยวกับวรรณคดีลิลิตพระลอ ที่เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ในช่วงเทศกาศวาเลนไทน์ปี 2559 จังหวัดแพร่ ขอเชิญชวนทุกท่านไปสัมผัสความรัก ณ ดินแดนแห่งความรัก ในเดือนแห่งความรัก กับกิจกรรม "สัมผัสรักนิรันดร์ ตำนานพระลอ ตอน สองเราคู่กัน" ในระหว่างวันที่ 13 - 14 กุมภาพันธ์นี้
(ขอบคุณบทความจาก ติวฟรี คอม. ค่ะ
https://www.tewfree.com/)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับลิลิตพระลอ
ลิลิตพระลอที่ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสร เมื่อ พ.ศ. 2459 ให้เป็นยอดแห่งลิลิต เข้าใจกันว่าเป็นเรื่องจริงที่เล่ากันเรื่อยมา ของท้องถิ่นไทยภาคเหนือ สถานที่ในเรื่องคือแถวๆ จังหวัดแพร่และลำปาง เมืองสรองสันนิษฐานว่าคงจะอยู่ที่อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ส่วนเมืองสรวงน่าจะอยู่ที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง นิยายเรื่องจริงเรื่องนี้น่าจะเกิดในช่วง พ.ศ. 1616-1693 จะแต่งในสมัยพระบรมไตรโลกนาถสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (พระเชษฐา) หรือในสมเด็จพระนารายณ์ก็ไม่ทราบแน่ชัด
ผู้แต่ง : ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง แต่คงจะเป็นกวีชั้นนักปราชญ์ ส่วนทำนองแต่ง แต่งเป็นลิลิตสุภาพ ซึ่งประกอบด้วยร่ายสุภาพ และโคลงสุภาพ อีกทั้งมีบางตอนก็เป็นร่ายดั้นและร่ายโบราณ
อาจอาศัยเนื้อเรื่องที่ระบุถึงสงครามระหว่างไทยและเชียงใหม่มาเป็นจุดอ้างอิง ซึ่งเดิมนั้นเชื่อว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2231) แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน และเป็นที่ถกเถียงกันมาจวบจนปัจจุบัน นักจารณ์วรรณคดีส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า ลิลิตพระลอแต่งขึ้นในสมัยอยุธยาแน่ แต่ยังมีบางท่านเสนอเวลาที่ใหม่กว่านั้น ว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่ยังมีผู้คล้อยตามไม่มากนัก
(ขอบคุณบทความจาก ครูบ้านนอกบล็อก
http://www.kroobannok.com/blog/index.php)
อนุสาวรีย์พระลอ
ตำนานพื้นบ้านที่ผู้เขียนนำมาเป็นแรงบันดาลใจเขียนนิยายเรื่อง อลเวงรักสองภพ ขึ้นมา
จะขอนำนิยายเรื่องนี้ที่รีไรท์เสร็จสมบูรณ์แล้วมาให้ท่านผู้อ่านได้อ่านกันอีกสักครั้งนะคะ
ด้วยมิตร ล. วิลิศมาหรา
ตำนานพื้นบ้าน พระลอตามไก่ มาเป็นนวนิยาย 'อลเวงรักสองภพ'
สำหรับ วัดพระธาตุพระลอ อายุเก่าแก่กว่า 400 ปี ซึ่งสร้างขึ้นติดกับแนวกำแพงโบราณเวียงสองหรือเมืองสอง และเชื่อกันว่าเป็นเมืองของพระเพื่อนพระแพงในอดีต ซึ่งจากเดิมชาวบ้านเรียกกว่าพระธาตุหินส้ม ถูกทิ้งร้างมานานกว่าร้อยปี ก่อนได้รับการบูรณะขึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2495 และเปลี่ยนชื่อเป็นวัดพระธาตุพระลอ เพราะเชื่อว่าเป็นอนุสรณ์แห่งความรักของทั้งสามพระองค์ บริเวณใกล้กันนั้น มีอนุสาวรีย์พระลอ พระเพื่อนและพระแพง ต้องธนูเสียชีวิตอยู่ในอ้อมกอดของกันและกัน มีขนาดเท่าคนจริง อยู่บนแท่นสูงประมาณ 1.5 เมตร โดยมีชาวบ้านและนักท่องเที่ยวนำพวงมาลัยมากราบไว้เป็นประจำ
นอกจากนี้ ยังมีถ้ำปู่เจ้าสมิงพราย ตัวละครเอกในนิทานพื้นบ้านเรื่องนี้ให้เข้าไปสักการะด้วย และจากข้อมูลทางประวัติศาสตร์และตำนานที่เกี่ยวเนื่องกันมาอย่างยาวนาน
ทั้งนี้ เมื่อปีพ.ศ. 2548 ชาวอำเภอสอง ได้ร่วมแรงร่วมใจกันจัดสร้างอุทยานลิลิตพระลอขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ แหล่งเรียนรู้ และคนคว้าเกี่ยวกับวรรณคดีลิลิตพระลอ ที่เปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น
ในช่วงเทศกาศวาเลนไทน์ปี 2559 จังหวัดแพร่ ขอเชิญชวนทุกท่านไปสัมผัสความรัก ณ ดินแดนแห่งความรัก ในเดือนแห่งความรัก กับกิจกรรม "สัมผัสรักนิรันดร์ ตำนานพระลอ ตอน สองเราคู่กัน" ในระหว่างวันที่ 13 - 14 กุมภาพันธ์นี้
(ขอบคุณบทความจาก ติวฟรี คอม. ค่ะ https://www.tewfree.com/)
เกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับลิลิตพระลอ
ลิลิตพระลอที่ได้รับยกย่องจากวรรณคดีสโมสร เมื่อ พ.ศ. 2459 ให้เป็นยอดแห่งลิลิต เข้าใจกันว่าเป็นเรื่องจริงที่เล่ากันเรื่อยมา ของท้องถิ่นไทยภาคเหนือ สถานที่ในเรื่องคือแถวๆ จังหวัดแพร่และลำปาง เมืองสรองสันนิษฐานว่าคงจะอยู่ที่อำเภอร้องกวาง จังหวัดแพร่ ส่วนเมืองสรวงน่าจะอยู่ที่อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง นิยายเรื่องจริงเรื่องนี้น่าจะเกิดในช่วง พ.ศ. 1616-1693 จะแต่งในสมัยพระบรมไตรโลกนาถสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 (พระเชษฐา) หรือในสมเด็จพระนารายณ์ก็ไม่ทราบแน่ชัด
ผู้แต่ง : ไม่ปรากฏนามผู้แต่ง แต่คงจะเป็นกวีชั้นนักปราชญ์ ส่วนทำนองแต่ง แต่งเป็นลิลิตสุภาพ ซึ่งประกอบด้วยร่ายสุภาพ และโคลงสุภาพ อีกทั้งมีบางตอนก็เป็นร่ายดั้นและร่ายโบราณ
อาจอาศัยเนื้อเรื่องที่ระบุถึงสงครามระหว่างไทยและเชียงใหม่มาเป็นจุดอ้างอิง ซึ่งเดิมนั้นเชื่อว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2199-2231) แต่ไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน และเป็นที่ถกเถียงกันมาจวบจนปัจจุบัน นักจารณ์วรรณคดีส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า ลิลิตพระลอแต่งขึ้นในสมัยอยุธยาแน่ แต่ยังมีบางท่านเสนอเวลาที่ใหม่กว่านั้น ว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่ยังมีผู้คล้อยตามไม่มากนัก
(ขอบคุณบทความจาก ครูบ้านนอกบล็อก http://www.kroobannok.com/blog/index.php)