" STAND BY ME DORAEMON 2 " ภาพสวยกรี๊ดสลบ อบอุ่นกินใจ น้ำตาไหลริน -8/10- [No Spoil]



***** ไม่ได้มีการสปอยล์ทั้งภาคหนึ่งและภาคสองนะครับ.....อ่านได้สบายใจ *****

สำหรับคนที่เคยดู STAND BY ME เพื่อนกันตลอดไป ที่เป็นภาคแรกเมื่อหลายปีก่อน ผมคิดว่าคนที่มีความชอบหลังรักแนวนี้ ก็คงจะเฝ้าหน้าเฝ้าตารอการมาของภาคสองนี่แหละซึ่งผมจำได้ว่า ภาพแรก(ของภาค 2) ที่เปิดออกมาเป็นรูปของโนบิตะที่หนุนตักของคุณย่า 👵🏻  ซึ่งคนที่เค้าติดตามนั้นดูแค่นี้ก็รู้สึกว่ามันจะต้องมีเรื่องซึ้งน้ำตาไหลเหมือนภาคแรกแน่นอน แล้วก็เป็นจริงดังว่านั่นแหละครับ 😢😭

จริงๆ แล้ว ภาพยนต์เรื่องนี้เข้าฉายวันที่ 6 เมษายน 2564 แต่มีรอบพิเศษ 1-5 เมษายน เลยได้มีโอกาสได้ดูก่อนนะ ^^



ความน่าสนใจของซีรีส์ STAND BY ME ผมว่าน่าจะเป็นเรื่องของภาพ ที่เป็นแนวสามมิติ แล้วก็เนื้อหาที่มันต้องมีซักอย่างนี่ละ ที่ทำให้เราซึ้งน้ำตาไหลพรากๆ นั่นแหละพร้อมกับการดูไปแล้วก็รู้สึกว่าอบอุ่นไปกับหนังด้วยนั้น ผมว่าภาคสองนี้ก็ทำได้ดีไม่แพ้กันเลย ความเห็นส่วนตัวผมก็ชอบภาคแรกมากกว่านิดหน่อยนะ 🥰

ในส่วนของภาคสองนี้ เป็นเรื่องราวที่ต่อกันมาจากภาคแรก ซึ่งหากถามว่า ถ้าไม่ได้ดูภาคแรกแล้วดูภาคสองจะรู้เรื่องไหมตอบได้เลยว่า “มันก็รู้เรื่องประมาณนึงแหละครับไม่ได้รู้สึกติดขัดอะไรมาก” แต่ถ้าหากว่าคุณได้ดูภาคแรกมาแล้วเนี่ย ผมว่า มันจะทำให้เราได้เติมเต็มแล้วก็อิ่มเอมไปกับหนังเรื่องนี้ด้วยเลย 😁



ด้วยความที่เราเป็นคนเอเชียเหมือนกันทั้งไทยทั้งญี่ปุ่น สิ่งที่เราเด่นมากกว่าทางฝั่งตะวันตกนั้น ก็คือเรื่องของความรักครอบครัว ความผูกพันธ์ของครอบครัวใหญ่ ผมว่าในภาพยนตร์เรื่องนี้เอาเรื่องนี้มาเล่นแล้วก็ได้ผลออกมาดีทีเดียว โดยเฉพาะชายหนุ่มชาวไทยเดินดินกินข้าวแกงอย่างผม ก็จะรู้สึกซึ้งไปกับความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว เข้าใจเหตุผลและที่มาที่ไปว่าทำไมต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้เป็นต้น ถึงเวลาขยี้ ก็ขยี้จั๊งงงงง หาผ้าซับน้ำตาไม่ทัน
ข้อดีมากๆ ก็แบบที่เล่ามา นั่นแหละครับ ส่วนข้อเสียนั้นผมรู้สึกว่าก็จะรู้สึกขัดใจกับการตัดสินใจของตัวละครในบางเรื่อง ก็เลย รู้สึกติดขัดนิดๆ หน่อยๆ ปม การคลายปม หรือบท ในบางส่วนก็รู้สึกขัดหูขัดตานิดๆ แต่ถ้ามองข้ามส่วนนี้ไป (ซึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร) ผมว่ามันก็โอเคมากๆ เลย 😊

 
องค์ประกอบอื่นๆ ก็ดูดีนะ เพลง ดนตรีประกอบ ซึ่งถึงแม้ผมจะฟังภาษาญี่ปุ่น ไม่รู้เรื่องแต่ก็อิ่มไปกับทำนองและน้ำเสียงของนักร้อง ผมก็อินซะงั้น 😁

บทสรุป : ผมถือว่าก็เป็นการกลับมาที่ค่อนข้างจะสมหวังที่รอคอยนะ ภาคแรกทำดีอย่างไรภาคสองก็ทำดีได้พอกัน ผมไม่แน่ใจว่าภาคแรกทำดีกว่า หรือว่าผมหลงรักภาคแรกไปแล้ว เลยทำให้รู้สึกว่าภาคสองมันไม่ได้ดีเท่าเดิมมากมายขนาดนั้น แต่ทว่ามันก็มีความดีในตัวของมันซึ่งถือว่ายอดเยี่ยมเลยทีเดียวล่ะ #ไม่คาดหวังมากไม่ผิดหวัง


ปล. ตอนท้ายก็มีภาพประกอบเพลงหลังหลังจบนิดนิดหน่อยหน่อยเสร็จแล้วก็ออกจากโรงหนังได้เลยจ้า

*****คำเตือน : เตรียมทิชชู่ ผ้าเช็ดหน้า ไว้ซับน้ำตา ก็ดีนะ*****

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่