คิดถึง 2 บทที่ 46

กระทู้สนทนา

.

               ไดอารี่ความคิดถึง

                วันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน พ่อกับแม่จะหยุดขายกับข้าว ไม่ได้หยุดซื้อหวยแต่เพราะมันขายไม่ดีต่างหาก ของเหลือกลับมาเยอะตลอดเลย เพราะฉะนั้นพ่อกับแม่จึงเลือกที่จะหยุดพักผ่อนแทน บ้างก็หยุดสองวันสามวันติดก็ว่ากันไป

               วันนี้วันที่ 16 พ่อกับแม่หยุดเช่นปกติที่เคยหยุด แต่รอบนี้ไม่ได้อยู่บ้าน พวกเธอจะไปเที่ยวทำบุญที่วัดหลวงพ่อโสธรกัน ตอนแรกนัดกันกับญาติ ๆ ฝั่งพ่อไว้ถึงวันก็ไม่มีใครไปด้วยสักคน มีเพียงพวกเธอที่ไป นอกนั้นออกขายกับข้าวกันหมด และแม่ก็ไม่ลืมที่จะขับรถไปรับพี่แป้งที่สมุทรปราการด้วย

                บอสกับน้องบีมดีใจมาก ๆ ที่จะได้ออกข้างนอก ตั้งแต่มาอยู่กับแม่ยังไม่ได้ไปไหนเลย ยกเว้นห้างบิ๊กซีที่แอบไปกับน้องบีมตอนแม่ไม่อยู่ วันนี้ได้ไปเที่ยวจึงดีใจสุด ๆ โดยเฉพาะน้องบีมขาประจำ ชอบดีใจเกินหน้าเกินตา ตื่นก่อนใคร แต่งตัวเสร็จก่อนใคร ๆ กันเลย รบเร้าให้ออกเดินทางเร็ว ๆ เสมอ

                หลังทานข้าวเช้าเสร็จพวกเธอก็ออกเดินทาง แปดโมงเช้าพอดีล้อหมุน ต้องไปรับพี่แป้งด้วย ระหว่างนั่งรถไปรับพี่สาวพ่อแม่ก็คุยกันไป พวกเธอสองคนพี่น้องก็เล่นกันไปที่เบาะด้านหลังคนขับ

                พ่อไม่ได้เก็บอะไรลงจากรถเลย แค่ดึงผ้าลงมาปิดท้ายรถไว้กันฝุ่นเข้าก็พอ เพราะหยุดแค่วันเดียว การที่จะยกหลังคารถลงมันยุ่งยากคนอื่น ยกขึ้นยกลงมันลำบาก แต่หากเป็นการกลับบ้านหยุดยาว ๆ พ่อถึงจะเก็บของออกจากรถ ขับรถเปล่ากลับ วันนี้พวกเธอก็มากันทั้งพุ่มพวงเลย ขายของไปในตัว

                เกือบชั่วโมงที่มาถึงที่พักของพี่แป้ง เป็นตึกหลายชั้นมาก ๆ  ลุงกับป้ายังเช่าห้องอยู่ บอสกดโทรศัพท์โทรหาพี่สาวให้ลงมา จอดรถรอที่หน้าตึกแล้ว มีป้ายเขียนคำว่าแมนชั่นเอาไว้ตัวใหญ่มาก ด้วยความขี้เกียจจึงไม่อยากขึ้นไป ขากลับค่อยขึ้นไปก็ได้

                พี่แป้งรีบลงมาทันทีที่โทรตาม ป้ากับลุงก็ขอตามไปด้วย วันนี้ก็ไม่ได้ออกขายผลไม้เช่นกัน พูดเป็นเสียงเดียวกับพ่อแม่ว่าวันหวยออกขายไม่ดีจึงไม่อยากออกขาย

                ลุงกับป้าก็ทำอาชีพค้าขาย ทว่าขายผลไม้อย่างเดียว ไปรับที่ตลาดไทย ไม่ใช่ตลาดสี่มุมเมืองเหมือนพ่อแม่ของเธอ เมื่อทุกคนพร้อมก็ออกเดินทางกันได้ มุ่งหน้าไปยังวัดหลวงพ่อโสธรที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ระหว่างทางนั่งรถลุงป้าก็คุยกันกับพ่อแม่ ส่วนพวกเธอก็คุยกันสามคนพี่น้อง ไม่รู้นำเรื่องอะไรมาจากไหนมาคุยกัน คุยได้ตลอดทาง

                น้องบีมดูคึกคักสดใสกว่าใคร ๆ แต่งตัวก็สวย ใส่กระโปรงด้วย แม่บอกให้เธอใส่กระโปรงเหมือนกัน เป็นชุดเดรสยาวเกือบถึงเข่า แม่ซื้อมาให้บอกว่าเห็นลูกค้าวัยรุ่นใส่สวยดี จึงซื้อมาให้เธอกับน้องบีมคนละชุด ส่วนพี่แป้งใส่กางเกงยีนส์เสื้อยืดคอกลม มองภาพรวมก็น่ารักเหมือนกัน

                “พ่อบีมอยากแวะเซเว่น หิวน้ำ” จู่ ๆ น้องบีมบอกพ่อให้แวะร้านสะดวกซื้อ บอสนึกในใจทำดีมากน้องบีม แอบยิ้มนิดหน่อย

              “นี่ไงน้ำ ป้าพกมาอยู่” ป้าหนูแม่พี่แป้งตอบ พร้อมหยิบขวดน้ำออกมาจากกระเป๋ายื่นให้น้องบีม แต่น้องบีมไม่เอา อยากเข้าเซเว่นมากกว่า

              “ไม่เอามันไม่เย็น น้องบีมอยากกินน้ำที่มันเย็น ๆ อ่ะ” พอน้องบีมพูดแบบนี้เท่านั้น ทุกคนหัวเราะลั่นกันเลย ด้วยความชอบใจและเอ็นดูในความไร้เดียงสาของน้องบีม

                แม่หันมามองก่อนจะเอ็ดน้องบีมเล็กน้อย “ไม่ได้เสียเงิน มันไม่อร่อย แวะให้มันหน่อยพ่อ”

             “แวะก็ดีนะแม่บอสอยากกินน้ำอัดลม” เธอสนับสนุนข้อเรียกร้องของน้องสาว

             “แป้งด้วย แป้งก็อยากกิน” พี่แป้งอีกคน เมื่อโดนลูก ๆ และหงายเรียกร้องขนาดนี้ พ่อจึงยอมแวะให้อย่างง่ายดาย

              เมื่อมีหลายเสียงพ่อจึงพาแวะร้านสะดวกซื้อให้ พอจอดรถได้เท่านั้น พวกเธอสามคนพี่น้องก็พากกันกรูเข้าไปในเซเว่นเลย เพราะมีเงินติดตัวกันอยู่แล้ว บอสเดินไปกดน้ำอัดลมที่อยู่อีกฝั่งของร้าน เลือกไซส์แก้วขนาดใหญ่สุด กดให้น้องบีมด้วย

             “พี่ด้วยบอส พี่ก็จะกินน้ำแดง” พี่แป้งเลือกกดน้ำแดง เธอและน้องบีมกดน้ำโค๊ก ส่วนเจ้าตัวเดินเลือกซื้อขนมอยู่

                “บีมเอาสาหร่ายให้พี่ด้วย เนี่ยซองนี้ พี่แป้งเอาไรมั้ย” บอสถือแก้วน้ำอัดลมไปไว้ทั้งสองข้าง ไม่มีมือที่จะหยิบจึงสั่งให้น้องบีมหยิบให้ พร้อมหันไปถามพี่แป้ง

                “พี่เอาโก๋แก่ บีมหยิบให้พี่ด้วย” น้องบีมก็หยิบขนมให้พี่แป้ง หอบมาจ่ายเงินหน้าเคาน์เตอร์ พอทำทุกอย่างเสร็จก็ออกเดินทางกันต่อ เมื่อมีขนมและน้ำมาทานในรถด้วยพวกเธอสามคนพี่น้องก็สงบปากสงบคำ ไม่ค่อยพูดกันเหมือนช่วงแรก ๆ  กินขนมอย่างเดียว

               “เราไปวัดหลวงพ่อโสธรเสร็จ ไปต่อวัดสมานเนอะป้า” แม่หันไปคุยกับป้าหนูที่เบาะหลัง “ไปกระซิบหูหนู ฮา”

                “ไปก็ไป ไปกราบหลวงพ่อโสธรแล้ว อย่าลืมกระซิบหูหนูนะเด็ก ๆ “ ป้าแนะนำพวกเธอ ส่วนลุงก็คุยกันกับพ่อตามประสาผู้ชาย

               “แม่ ! แม่พาบอสไปทะเลด้วยนะ ก่อนกลับสงกรานต์ นะแม่” บอสขอแม่ อยากไปทะเลก็อยากไป อยากไปก่อนที่จะได้กลับบ้าน เพราะหลังจากที่กลับสงกรานต์ เธอไม่กลับมากรุงเทพกับพ่อแม่อีก อยู่บ้านกับตายายรอเปิดเทอม

               “พุ้น ! พามาวัดอยากไปทะเลอยู่” แม่บ่น แต่ก็ไม่ได้ดุอะไร

                “แม่น้องบีมก็อยากไปทะเล อยากไปเล่นน้ำทะเล ก่อนมาพี่เจี๊ยบก็พาไปเล่นน้ำเขื่อนลำปาว สนุกมาก!! น้องบีมกินน้ำไปตั้งหลายอึก ฮา” พอน้องบีมพูดถึงตรงนี้ทุกคนในรถหัวเราะ ป้ายกมือขึ้นมาลูบผมน้องบีมด้วยความเอ็นดู

               “อร่อยมั้ยบีม ฮา” พี่แป้งถาม พร้อมหัวเราะชอบใจใหญ่

                 “หื้อ ! จืด น้องบีมกินไปตั้งหลายอึก น้ำมันเข้าปากน้อ” น้องบีมตอบแบบภูมิใจ ไม่คิดอะไร น้ำก็คือน้ำ ไม่ได้คำนึงถึงความสกปรกเพราะยังเด็กเกินกว่าที่จะคิดลึกลงไปเกินกว่าความสนุกเพลิน

                “อย่าไปกินอีกนะลูก มันสกปรก” แม่พูดสอนน้องบีม “ไปเล่นน้ำที่ไหนก็ช่าง มันเข้าปากก็อย่ากลืนคายทิ้ง” แม่สอนน้องบีม น้องบีมก็พยักหน้ารับคำ

                  “ก็มันเข้าปากน้องบีมอ่ะแม่ น้องบีมก็กลืนเลย ฮา” ยังหัวเราะขบขันเป็นเรื่องตลกไป แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่สอนว่าครั้งต่อไปอย่ากินอีก

                “ก็คายออก” ป้าหนูหัวเราะน้องบีม และก็พูดแนะนำอีกคน “มันเข้าปากก็ปู๊ดทิ้งโลดตั้ว”

                “น้าฝนถ้าไม่ไปบางแสน ไปสวนน้ำก็ได้ ไปมั้ยบอส” พี่แป้งขอแม่อีกคน มีแต่คนอยากไปเล่นน้ำกันทั้งนั้น

                “บอสอยากไปเล่นน้ำทะเลมากกว่า นะแม่ ก่อนกลับบ้าน”

                “ไปก็ไป !” แม่ตอบตกลงอย่างง่ายดาย พวกเธอดีใจกันยกใหญ่ พูดคุยถึงเรื่องไปทะเลกันเลยคราวนี้ ว่าเป็นแบบไหน มีอะไรบ้าง ซึ่งคนที่สปอยล์ให้ฟังคือพี่แป้ง เพราะเคยไปมาแล้ว

                พ่อขับรถมาได้สักพักก็ถึงวัดหลวงพ่อโสธร เป็นวัดขนาดใหญ่ สวยงามมาก ๆ พ่อจอดรถที่ลานจอดรถฝั่งตรงข้ามวัด เสียค่าดูแลด้วย ทุกคนลงมาจากรถยืดเส้นยืดสายกันเสียก่อน ก่อนที่จะเดินเข้าไป

                มีผู้คนมากราบไหว้สักการะไม่เยอะเท่าไหร่นัก เนื่องจากไม่ใช่วันหยุดและวันนักขัตฤกษ์ พวกเธอเดินเข้ามาข้างในก็ให้ความรู้สึกร่มรื่นมาก ๆ เงียบสงบ
               
                พวกเธอเดินกราบพระทั่ววัด เก็บภาพถ่ายรูปให้พวกเธอเสร็จแม่ก็ชวนไปต่อที่วัดสมาน ซึ่งตื่นตาตื่นใจกว่า มาถึงวัดสมานทางเข้าวัดก็เจอรูปปั้นองค์ราหูอมจันทร์สีดำตัวใหญ่มาก ๆ และมีพระพิฆเนศสีชมพูนอนอยู่ องค์ใหญ่มากเหมือนกัน และก็มีเหมือนกระทงลอยอยู่กลางแม่น้ำ

                บอสกับพี่แป้งและน้องบีมตื่นตาตื่นใจกันมาก ๆ มีรูปปั้นสัตว์ที่เป็นบริวารของพระพิฆเนศมากมาย หนึ่งในนั้นมีรูปปั้นหนูที่แม่พูดถึงด้วย พอมาถึงวัดแม่ก็พาไปไหว้พระขอพรก่อน พร้อมถ่ายรูปพวกเธอแต่ละคนเก็บไว้

                “บอสขอพรลูก กระซิบหูหนูเลย อยากได้อะไรขอเอานะ ห้ามบน ห้ามบอกว่าจะนำอะไรมาถวายอ่ะ ขอเฉย ๆ “ แม่บอกเธอ “น้องบีมด้วย น้องแป้งไปกระซิบหูหนูแหมะ”

                บอสทำตามที่แม่บอก เธอตัวเล็กจึงต้องเขย่งสุด ๆ ถึงจะกระซิบได้ ลำบากเสียจริง ใครช่างปั้นหนูตัวสูงนัก ส่วนน้องบีมไม่ต้องพูดถึง แม่ต้องเป็นคนอุ้มให้น้องบีมกระซิบกันเลย

                 “หนูจ๋า ช่วยไปบอกพระพิฆเนศทีว่าให้บอสสอบได้เกรดสี่ทุกวิชานะ สาธุ !ให้ครอบครัวบอสสุขภาพร่างกายแข็งแรงทุกคน ให้แม่ขายของได้กำไรเยอะ ๆ และขอให้แม่ถูกหวยสาธุ “ บอสกระซิบหูหนูขอพรไปหลายอย่าง ที่หวังให้เป็นจริงที่สุดคือ ขอให้ได้เกรดสี่ทุกวิชาเลย

                เมื่อขอพรเสร็จก็เดินหาของกินรองท้องไปก่อน และพวกเธอก็พากันเดินไปที่กระทง มีรูปปั้นพญานาคสองตัวหันหน้าเข้าหากัน น่ากลัวมาก เธอเป็นคนกลัวพญานาคมาก ๆ ทว่าต้องข่มใจไว้มันก็แค่รูปปั้น และมาเที่ยวจำใจต้องเผชิญหน้าด้วย เก็บความกลัวไว้ในใจ กลัวแม่บ่นว่าโตแล้วกลัวรูปปั้น พญานาค ในวัดเธอก็กลัว แต่ก็ต้องจำใจ เพราะเวลาทำบุญก็ต้องไปวัดอยู่ดี

               ในกระทงจะมีพระให้เดินวนทำบุญรอบ ๆ กระทงกันเลย พวกเธอสามพี่น้องก็ผลัดกันถ่ายรูปให้กันและกัน เสียดายก็แต่พี่ปาวพี่บอมและพี่บอลไม่ตามมากรุงเทพด้วย ก็อดกันไป กลับไปบ้านสงกรานต์นี่แหละจะเอารูปอวดให้อิจฉาเล่น ๆ เลย

               แค่มาเที่ยวทำบุญสองวัดก็กินเวลาเกือบทั้งวัน เมื่อครบที่ตั้งใจจะมาแล้วแม่ก็พาไปกินข้าว โดยหาร้านส้มตำไก่ย่างแถว ๆ วัดนั่นแหละทาน ก่อนจะพากันเดินทางกลับ มื้อนี้แม่เป็นเจ้ามือเอง

               พวกเธอมีความสุขกันมาก พากันดูรูปในโทรศัพท์ที่ถ่ายเก็บเอาไว้ ส่วนในกล้องของแม่ก็มี ดูแล้วก็พูดคุยกันหัวเราะกันตามประสาสามคนพี่น้อง ส่วนผู้ใหญ่ก็คุยกันไประหว่างรอกับข้าว

              เป็นร้านส้มตำไก่ย่างวิเชียรบุรีข้างทาง จะด้วยความหิวหรือความอร่อยฝีมือแม่ค้าก็ไม่แน่ใจ พวกเธอทานไปเยอะมาก ๆ

            “นอนกับพี่แป้งมั้ยบอสบีม สงกรานต์ค่อยกลับพร้อมกัน” ลุงปานถามพวกเธอ

               “แม่น้องบีมนอนกับพี่แป้งนะ” น้องบีมหันไปถามแม่ เพราะอยากเล่นกับพี่แป้ง เธอก็เหมือนกัน แต่โดนแม่ปฏิเสธเพราะเกรงใจ เนื่องจากลุงอยู่เป็นห้องเช่า อยู่เป็นบ้านเหมือนแม่ก็ว่าไปอีกอย่าง

                 “เขามูนั่นเป็นจังใด ขายดีบ่” แม่ถามถึงพี่ชายอีกคน ซึ่งเป็นพ่อของพี่บอมพี่บอลนั่นแหละ ชวนแล้วแต่ไม่มาด้วย ก็ไม่บังคับ ลุงป้าก็ขายผลไม้เหมือนกัน

               “ขายดี เขาแล่นขายเมิดมื้อน้อ กูบ่ายสองกะเข้าบ้านล่ะ มาบีบน้ำบักนาวส่งร้านส้มนำจังสิล่ะ” สองพี่น้องคุยกัน ผู้ใหญ่ก็คุยกันไป ส่วนพวกเธอสามคนพี่น้องก็คุยกันไป ทานข้าวกันไปด้วย เวลาก็เกือบหมดวันแล้ว

             “น้าฝนถ้าไปบางแสนอย่าลืมมารับแป้งด้วยนะ ไปวันไหนบอส” พี่แป้งคุยกับแม่ ที่จริงแม่เป็นอา แต่พี่แป้งเรียกน้า ตระกูลเธอเรียกเพี้ยน ๆ กันไปหมด ไม่มีใครถือกันแล้ว

               “ไปวันไหนแม่ !” บอสหันมาถามแม่

              “ไปวันไหนแม่ก็จะพาไปหรอก”

              “ก่อนกลับบ้านนะ”

              “เอ้อ ! สิพาไปหรอก” และก็หัวเราะ แม่พูดติดตลก บอสไม่ค่อยจะเชื่อใจในคำมั่นสัญญาของแม่เลย ฟังดูแล้วมันไม่ค่อยน่าไว้ใจสักเท่าไหร่

              พอทุกคนอิ่มกันหมดแล้ว ก็เดินทางกลับ แวะไปส่งลุงป้าที่สมุทรปราการก่อนก็ขอตัวกลับ เนื่องจากมันค่ำมากแล้ว บอสกับน้องบีมนอนหลับล้มหัวไปคนละทางกันเลย ถึงบ้านแม่ก็ปลุกให้ลง...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่