แรงน้ำขึ้นน้ำลงนั้น เกิดขึ้นจากแรงที่เรียกว่าแรงไทดัล ซึ่งก็มาจากแรงโน้มถ่วงนั่นเอง
เนื่องจากแรงโน้มถ่วงนั้นจะเปลี่ยนแปลงตามระยะห่าง
พื้นโลกส่วนที่อยู่ใกล้ดวงจันทร์จะได้รับแรงโน้มถ่วงจากดวงจันทร์มากกว่าศูนย์กลางของโลก
ของเหลวจึงมักจะถูกดึงโย้ไปกองรวมกันส่วนที่ใกล้ดวงจันทร์มากกว่า เกิดเป็นน้ำขึ้น
ในขณะเดียวกัน ด้านตรงข้ามดวงจันทร์ได้รับแรงโน้มถ่วงจากดวงจันทร์น้อยกว่าศูนย์กลางของโลก
น้ำในบริเวณตรงข้ามดวงจันทร์จึงเปรียบได้กับการยืนอยู่บนพื้นที่กำลังตกลงด้วยอัตราสูงกว่า จึงมีระดับที่สูงกว่า เป็นเหตุให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลงวันละสองรอบ
แต่นอกจากดวงจันทร์แล้ว อีกวัตถุท้องฟ้าหนึ่งที่ส่งแรงไทดัลต่อโลกด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ ดวงอาทิตย์
แม้ว่าดวงอาทิตย์จะมีมวลมากกว่าดวงจันทร์เป็นอย่างมาก แต่ว่าดวงอาทิตย์นั้นอยู่ไกลกว่าดวงจันทร์มาก
แรงไทดัลที่มาจากดวงอาทิตย์จึงอ่อนกว่าจากดวงจันทร์ โดยมีแรงเพียงประมาณ 1 ใน 3
แต่สิ่งที่ทำให้ซับซ้อนขึ้นไปอีกก็คือ แรงไทดัลจากวัตถุทั้งสองนี้นั้นไม่ได้ออกแรงไปในทิศทางเดียวกันเสมอ
เปรียบได้กับเด็กสองคนที่พยายามจะดึงหนังยางไปในคนละทาง เมื่อไหร่ก็ตามที่แรงไทดัลจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เสริมกัน
ก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "น้ำเกิด" (spring tide) ซึ่งจะเกิดน้ำขึ้น-น้ำลงได้สูงสุด
แต่หากแรงไทดัลทั้งสองนั้นกระทำในทิศตั้งฉากกัน แรงไทดัลก็จะหักล้างกันในบางส่วน ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "น้ำตาย" (neap tide)
ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับน้ำขึ้น-น้ำลงต่างจากค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด
ปรากฏการณ์ "น้ำเกิด" จะเกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ อยู่ในทิศทางเดียวกัน หรือตรงข้ามกันพอดี
เช่น ในวันเพ็ญที่ดวงจันทร์อยู่ ตรงกันข้ามกับ ดวงอาทิตย์พอดี ................
สงสัย ตรงที่ ตรงที่ว่า ตรงกันข้าม... ทำไม ตรงข้าม ถึงดึงให้น้ำเกิด ได้เหมือน ทิศทางเดียวกัน ครับ
สงสัย ครับ จาก เวบ ของNARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เรื่อง แรงน้ำขึ้นน้ำลง
เนื่องจากแรงโน้มถ่วงนั้นจะเปลี่ยนแปลงตามระยะห่าง
พื้นโลกส่วนที่อยู่ใกล้ดวงจันทร์จะได้รับแรงโน้มถ่วงจากดวงจันทร์มากกว่าศูนย์กลางของโลก
ของเหลวจึงมักจะถูกดึงโย้ไปกองรวมกันส่วนที่ใกล้ดวงจันทร์มากกว่า เกิดเป็นน้ำขึ้น
ในขณะเดียวกัน ด้านตรงข้ามดวงจันทร์ได้รับแรงโน้มถ่วงจากดวงจันทร์น้อยกว่าศูนย์กลางของโลก
น้ำในบริเวณตรงข้ามดวงจันทร์จึงเปรียบได้กับการยืนอยู่บนพื้นที่กำลังตกลงด้วยอัตราสูงกว่า จึงมีระดับที่สูงกว่า เป็นเหตุให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลงวันละสองรอบ
แต่นอกจากดวงจันทร์แล้ว อีกวัตถุท้องฟ้าหนึ่งที่ส่งแรงไทดัลต่อโลกด้วยเช่นกัน นั่นก็คือ ดวงอาทิตย์
แม้ว่าดวงอาทิตย์จะมีมวลมากกว่าดวงจันทร์เป็นอย่างมาก แต่ว่าดวงอาทิตย์นั้นอยู่ไกลกว่าดวงจันทร์มาก
แรงไทดัลที่มาจากดวงอาทิตย์จึงอ่อนกว่าจากดวงจันทร์ โดยมีแรงเพียงประมาณ 1 ใน 3
แต่สิ่งที่ทำให้ซับซ้อนขึ้นไปอีกก็คือ แรงไทดัลจากวัตถุทั้งสองนี้นั้นไม่ได้ออกแรงไปในทิศทางเดียวกันเสมอ
เปรียบได้กับเด็กสองคนที่พยายามจะดึงหนังยางไปในคนละทาง เมื่อไหร่ก็ตามที่แรงไทดัลจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์เสริมกัน
ก็จะเกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "น้ำเกิด" (spring tide) ซึ่งจะเกิดน้ำขึ้น-น้ำลงได้สูงสุด
แต่หากแรงไทดัลทั้งสองนั้นกระทำในทิศตั้งฉากกัน แรงไทดัลก็จะหักล้างกันในบางส่วน ทำให้เกิดปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "น้ำตาย" (neap tide)
ซึ่งเป็นช่วงที่ระดับน้ำขึ้น-น้ำลงต่างจากค่าเฉลี่ยน้อยที่สุด
ปรากฏการณ์ "น้ำเกิด" จะเกิดขึ้นเมื่อดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ อยู่ในทิศทางเดียวกัน หรือตรงข้ามกันพอดี
เช่น ในวันเพ็ญที่ดวงจันทร์อยู่ ตรงกันข้ามกับ ดวงอาทิตย์พอดี ................
สงสัย ตรงที่ ตรงที่ว่า ตรงกันข้าม... ทำไม ตรงข้าม ถึงดึงให้น้ำเกิด ได้เหมือน ทิศทางเดียวกัน ครับ