ฉีซีกง เป็นเจ้าแคว้นฉีที่ครองเมืองอยู่ในช่วง 730-698 ปี ก่อนคริสตกาล เขามีชื่อจริงว่า หลูฝุ เรียกตามซื่อว่า กงจื่อหลูฝุ หรือ หลู่ย์หลูฝุ แต่ถ้าเรียกตามคติยุคใหม่ที่ใช้แซ่นำหน้า ก็เรียกว่า เจียงหลูฝุ ก็ได้
ฉีซีกง เป็นบุตรของ ฉีจวงกง ผู้ซึ่งครองแคว้นฉียาวนานถึงหกสิบกว่าปี เมื่อฉีจวงกงจะตายก็ได้สั่งเสียแก่ ฉีซีกงว่า
"ลูกเอ๋ย บัดนี้บิดากำลังจะไปยังดินแดนน้ำพุทั้งเก้าแล้ว ขอมอบแผ่นดินแคว้นฉีให้เจ้าปกครองสืบไป จนตั้งใจทำนุบำรุงบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข อนึ่งก็จงอย่าลืมว่าบรรพชนของเรา ฉีอายกง เคยถูกเจ้าแคว้นจี๋ใส่ร้ายจนต้องพระราชอาญาถูกต้มในกระทะจนตาย ความแค้นนี้ใหญ่หลวงนักหากเจ้ามีโอกาสจงยกทัพไปโจมตีแคว้นจี๋ ล้างแค้นให้บรรพชนของเราด้วยก็จะถือว่าเจ้าได้สนองคุณบิดาแล้ว" ฉีซีกงก็รับคำบิดาและจำใส่ใจไม่มีวันลืมถึงความแค้นอันใหญ่หลวงที่ย้อนไปนับร้อยปีนี้
ฉีซีกงเมื่อเป็นเจ้าแคว้นแล้ว ก็ตั้งใจทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เข้มแข็ง และเนื่องจากตอนนั้นแผ่นดินกำลังแตกแยก เจ้าแคว้นต่างๆล้วนพยายามช่วงชิงอำนาจสะสมทหารแย่งความเป็นใหญ่ ฉีซีกงก็เข้าไปในวังวนนี้ด้วยเพื่อขยายแสนยานุภาพของแคว้นฉีให้ยิ่งใหญ่ยิ่งๆขึ้นไป
ปีที่ 720 ก่อนคริสตกาล ฉีซีกงก็ไปพบกับเจิ้งจวงกง เจ้าแคว้นเจิ้ง สองเมืองถือสัตย์สาบานเป็นมิตรกันเพื่อต่อต้านศัตรู ในครั้งนี้ฉีซีกงเอ่ยปากจะยกลูกสาวคนหนึ่งของเขาให้แต่งงานกับกงจื่อหู ลูกชายของเจิ้งจวงกง เป็นสัญญาด้วย
ปี 717 ก่อนคริสตกาล ฉีซีกงก็สาบานเป็นพันธมิตรกับหลู่อินกง เจ้าแคว้นหลู่ (เป็นพี่ชายของหลู่หวนกง) ทำให้แคว้นฉีเป็นใหญ่ในซานตงเหนือใคร
ปี 715 ก่อนคริสตกาล ฉีซีกง เชิญ ซ่งซางกง แห่งแคว้นซ่ง และ เหวยซวนกง แห่งแคว้ยเหวย มากระทำสัตย์สาบานเป็นพันธมิตรกัน แคว้นซ่งและเหวยยกให้ฉีเป็นแคว้นใหญ่
ปี 713 ก่อนคริสตกาล ซ่งซางกงเจ้าแคว้นซ่งไม่ยอมส่งบรรณาการไปถวายจักรพรรดิโจวที่เมืองหลวง จักรพรรดิเลยมีราชโองการให้ ฉีซีกง หลู่อินกง และ เจิ้งจวงกง ยกทัพไปสั่งสอนเจ้ารัฐซ่ง และเลยไปตีแคว้นเหยาที่เป็นดินแดนของพวกตงอี๋ด้วย เพื่อให้แคว้นเหยายอมสยบต่ออำนาจของราชสำนักโจว
ปี 711 ก่อนคริสตกาล กองทัพฉี เจิ้งและหลู่ก็บุกตีแคว้นสี่ เข้ายึดเมืองได้ ฉีซีกงมอบเมืองสี่ให้เจิ้งจวงกงเป็นบรรณาการ
ปีทื่ 706 ก่อนคริสตกาล พวกเป่ยหรงคนเถื่อนยกทัพล่วงแดนเข้ามาโจมตีแคว้นฉี เจิ้งจวงกงก็ส่งกงจื่อหูยกทัพเมืองเจิ้งไปช่วยขับไล่พวกเป่ยหรง และช่วยแคว้นฉีขยายดินแดนตอนบนของแม่น้ำจีออกไปอย่างกว้างขวาง ฉีซีกงเอ่ยปากยกนางเหวินเจียงให้เป็นภรรยาของกงจื่อหู แต่กงจื่อหูขอผัดผ่อนกลับไปปรึกษาบิดาก่อน เพราะรู้ว่านางเหวินเจียงแบบคบชู้กับกงจื่อจูเอ่อร์ผู้เป็นพี่ชาย ชื่อเสียงนั้นฉาวโฉ่ไปทั่วแผ่นดิน
ปี 706 ก่อนคริสตกาล หลู่หวนกงส่งทูตมาขอนางเหวินเจียง ฉีซีกงเลยยกให้แต่งเป็นภรรยาเอกของหลู่หวนกง
ปี 699 ก่อนคริสตกาล ฉีซีกงยกทัพไปโจมตีแคว้นจี๋เพื่อล้างแค้นให้บรรพชน ในศึกนี้ฉีซีกงขอให้แคว้นเหวยและซ่งยกมาช่วยด้วย ฝ่ายแคว้นจี๋มีแคว้นหลู่และเจิ้งมาช่วย สองฝ่ายรบกันหนักหน่วง แต่สุดท้ายฝ่ายของฉีซีกงแพ้ต้องเตลิดหนีกลับแคว้นฉีไป แต่นั้นมาฉีซีกงก็ล้มเจ็บหนัก แพทย์จ่ายยาหลายเทียบอาการก็ไม่ดีขึ้น เมื่อเห็นว่าตนคงไม่หายแน่แล้ว ฉีซีกงก็เรียกกงจื่อจูเอ่อร์บุตรชาย และ กงซุนอู๋จื่อ หลานชาย พร้อมทั้งขุนนางทั้งปวงเข้ามาหา และสั่งเสียว่า
"อันกงจื่อจูเอ่อร์และกงซุนอู๋จื่อทั้งสองนี้ก็เป็น ลูกและหลานรักของเรา ขอพวกท่านจงช่วยทำนุบำรุงและดูแลพวกเขาสืบไปด้วยเถิด"
"เมื่อเราจากโลกนี้ไป ขอให้ตั้งกงจื่อจูเอ่อร์ขึ้นเป็นเจ้าครองแคว้นสืบต่อจากเรา และตั้งให้กงซุนอู๋จื่อขึ้นช่วยว่าราชการงานเมือง ขอให้พวกเจ้าสองพี่น้องจงสมัครสมานรักใคร่กัน เรื่องใดสมควรหรือไม่สมควรก็จงตักเตือนกันด้วย"
"ความตายของเรานี้ ขอให้ทุกคนจงถือว่า เราตายด้วยอาวุธของคนเมืองจี๋ด้วยเถิด เมื่อเราตายแล้วข้าวปลาอาหาร เงินทองตลอดจนของเซ่นสรวงบูชาก็ของดไป ให้เก็บเอาไว้เป็นเสบียงอาหารให้ไพร่พลตอนยกทัพไปตีเมืองจี๋แทน"
"จูเอ่อร์ลูกรัก หากเจ้าคิดสนองคุณบิดา ขอให้จงตั้งใจบำรุงกองทัพและบ้านเมือง หากมีโอกาสเมื่อใดก็ยกไปตีแคว้นจี๋ล้างแค้นให้บิดาด้วย เมื่อใดที่กองทัพฉีเข้าเมืองจี๋ได้ เมื่อนั้นเจ้าก็ได้ทดแทนคุณบิดาสิ้นแล้ว"
ว่าแล้วฉีซีกงก็ขาดใจตาย ปิดฉากเจ้าแคว้นฉีคนสำคัญที่ปูรากฐานให้กับลูกๆของเขาในการขึ้นเป็นใหญ่ในยุคชุนชิวต่อไป
ฉีซีกง ผู้ตามล้างแค้นให้บรรพชนจนตัวตาย
ฉีซีกง เป็นบุตรของ ฉีจวงกง ผู้ซึ่งครองแคว้นฉียาวนานถึงหกสิบกว่าปี เมื่อฉีจวงกงจะตายก็ได้สั่งเสียแก่ ฉีซีกงว่า
"ลูกเอ๋ย บัดนี้บิดากำลังจะไปยังดินแดนน้ำพุทั้งเก้าแล้ว ขอมอบแผ่นดินแคว้นฉีให้เจ้าปกครองสืบไป จนตั้งใจทำนุบำรุงบ้านเมืองให้อยู่เย็นเป็นสุข อนึ่งก็จงอย่าลืมว่าบรรพชนของเรา ฉีอายกง เคยถูกเจ้าแคว้นจี๋ใส่ร้ายจนต้องพระราชอาญาถูกต้มในกระทะจนตาย ความแค้นนี้ใหญ่หลวงนักหากเจ้ามีโอกาสจงยกทัพไปโจมตีแคว้นจี๋ ล้างแค้นให้บรรพชนของเราด้วยก็จะถือว่าเจ้าได้สนองคุณบิดาแล้ว" ฉีซีกงก็รับคำบิดาและจำใส่ใจไม่มีวันลืมถึงความแค้นอันใหญ่หลวงที่ย้อนไปนับร้อยปีนี้
ฉีซีกงเมื่อเป็นเจ้าแคว้นแล้ว ก็ตั้งใจทำนุบำรุงบ้านเมืองให้เข้มแข็ง และเนื่องจากตอนนั้นแผ่นดินกำลังแตกแยก เจ้าแคว้นต่างๆล้วนพยายามช่วงชิงอำนาจสะสมทหารแย่งความเป็นใหญ่ ฉีซีกงก็เข้าไปในวังวนนี้ด้วยเพื่อขยายแสนยานุภาพของแคว้นฉีให้ยิ่งใหญ่ยิ่งๆขึ้นไป
ปีที่ 720 ก่อนคริสตกาล ฉีซีกงก็ไปพบกับเจิ้งจวงกง เจ้าแคว้นเจิ้ง สองเมืองถือสัตย์สาบานเป็นมิตรกันเพื่อต่อต้านศัตรู ในครั้งนี้ฉีซีกงเอ่ยปากจะยกลูกสาวคนหนึ่งของเขาให้แต่งงานกับกงจื่อหู ลูกชายของเจิ้งจวงกง เป็นสัญญาด้วย
ปี 717 ก่อนคริสตกาล ฉีซีกงก็สาบานเป็นพันธมิตรกับหลู่อินกง เจ้าแคว้นหลู่ (เป็นพี่ชายของหลู่หวนกง) ทำให้แคว้นฉีเป็นใหญ่ในซานตงเหนือใคร
ปี 715 ก่อนคริสตกาล ฉีซีกง เชิญ ซ่งซางกง แห่งแคว้นซ่ง และ เหวยซวนกง แห่งแคว้ยเหวย มากระทำสัตย์สาบานเป็นพันธมิตรกัน แคว้นซ่งและเหวยยกให้ฉีเป็นแคว้นใหญ่
ปี 713 ก่อนคริสตกาล ซ่งซางกงเจ้าแคว้นซ่งไม่ยอมส่งบรรณาการไปถวายจักรพรรดิโจวที่เมืองหลวง จักรพรรดิเลยมีราชโองการให้ ฉีซีกง หลู่อินกง และ เจิ้งจวงกง ยกทัพไปสั่งสอนเจ้ารัฐซ่ง และเลยไปตีแคว้นเหยาที่เป็นดินแดนของพวกตงอี๋ด้วย เพื่อให้แคว้นเหยายอมสยบต่ออำนาจของราชสำนักโจว
ปี 711 ก่อนคริสตกาล กองทัพฉี เจิ้งและหลู่ก็บุกตีแคว้นสี่ เข้ายึดเมืองได้ ฉีซีกงมอบเมืองสี่ให้เจิ้งจวงกงเป็นบรรณาการ
ปีทื่ 706 ก่อนคริสตกาล พวกเป่ยหรงคนเถื่อนยกทัพล่วงแดนเข้ามาโจมตีแคว้นฉี เจิ้งจวงกงก็ส่งกงจื่อหูยกทัพเมืองเจิ้งไปช่วยขับไล่พวกเป่ยหรง และช่วยแคว้นฉีขยายดินแดนตอนบนของแม่น้ำจีออกไปอย่างกว้างขวาง ฉีซีกงเอ่ยปากยกนางเหวินเจียงให้เป็นภรรยาของกงจื่อหู แต่กงจื่อหูขอผัดผ่อนกลับไปปรึกษาบิดาก่อน เพราะรู้ว่านางเหวินเจียงแบบคบชู้กับกงจื่อจูเอ่อร์ผู้เป็นพี่ชาย ชื่อเสียงนั้นฉาวโฉ่ไปทั่วแผ่นดิน
ปี 706 ก่อนคริสตกาล หลู่หวนกงส่งทูตมาขอนางเหวินเจียง ฉีซีกงเลยยกให้แต่งเป็นภรรยาเอกของหลู่หวนกง
ปี 699 ก่อนคริสตกาล ฉีซีกงยกทัพไปโจมตีแคว้นจี๋เพื่อล้างแค้นให้บรรพชน ในศึกนี้ฉีซีกงขอให้แคว้นเหวยและซ่งยกมาช่วยด้วย ฝ่ายแคว้นจี๋มีแคว้นหลู่และเจิ้งมาช่วย สองฝ่ายรบกันหนักหน่วง แต่สุดท้ายฝ่ายของฉีซีกงแพ้ต้องเตลิดหนีกลับแคว้นฉีไป แต่นั้นมาฉีซีกงก็ล้มเจ็บหนัก แพทย์จ่ายยาหลายเทียบอาการก็ไม่ดีขึ้น เมื่อเห็นว่าตนคงไม่หายแน่แล้ว ฉีซีกงก็เรียกกงจื่อจูเอ่อร์บุตรชาย และ กงซุนอู๋จื่อ หลานชาย พร้อมทั้งขุนนางทั้งปวงเข้ามาหา และสั่งเสียว่า
"อันกงจื่อจูเอ่อร์และกงซุนอู๋จื่อทั้งสองนี้ก็เป็น ลูกและหลานรักของเรา ขอพวกท่านจงช่วยทำนุบำรุงและดูแลพวกเขาสืบไปด้วยเถิด"
"เมื่อเราจากโลกนี้ไป ขอให้ตั้งกงจื่อจูเอ่อร์ขึ้นเป็นเจ้าครองแคว้นสืบต่อจากเรา และตั้งให้กงซุนอู๋จื่อขึ้นช่วยว่าราชการงานเมือง ขอให้พวกเจ้าสองพี่น้องจงสมัครสมานรักใคร่กัน เรื่องใดสมควรหรือไม่สมควรก็จงตักเตือนกันด้วย"
"ความตายของเรานี้ ขอให้ทุกคนจงถือว่า เราตายด้วยอาวุธของคนเมืองจี๋ด้วยเถิด เมื่อเราตายแล้วข้าวปลาอาหาร เงินทองตลอดจนของเซ่นสรวงบูชาก็ของดไป ให้เก็บเอาไว้เป็นเสบียงอาหารให้ไพร่พลตอนยกทัพไปตีเมืองจี๋แทน"
"จูเอ่อร์ลูกรัก หากเจ้าคิดสนองคุณบิดา ขอให้จงตั้งใจบำรุงกองทัพและบ้านเมือง หากมีโอกาสเมื่อใดก็ยกไปตีแคว้นจี๋ล้างแค้นให้บิดาด้วย เมื่อใดที่กองทัพฉีเข้าเมืองจี๋ได้ เมื่อนั้นเจ้าก็ได้ทดแทนคุณบิดาสิ้นแล้ว"
ว่าแล้วฉีซีกงก็ขาดใจตาย ปิดฉากเจ้าแคว้นฉีคนสำคัญที่ปูรากฐานให้กับลูกๆของเขาในการขึ้นเป็นใหญ่ในยุคชุนชิวต่อไป