ถ้าจะทำสัญญาเช่าบ้าน แบบสัญญาลิสซิ่งรถยนต์ จะมีความเป็นไปได้หรือไม่ครับ

ก่อนอื่น ต้องทำความรู้จักสัญญาลิสซิ่งรถยนต์ก่อนว่ามีลักษณะอย่างไร

เริ่มจากผู้เช่าสนใจรถยนต์ใหม่ มีราคาสูง แต่ไม่สามารถซื้อได้เพราะเงินไม่พอ ต้องผ่อนเป็นเดือน (ปกติทั่วไปคนซื้อผ่อนต้องมีเงินดาวน์ ต้องมีเครดิตดี จนทำให้ไฟแนนซ์คิดว่าไม่มีความเสี่ยงจึงให้ผู้ซื้อผ่อนรถจนหมดจึงโอนรถให้ ดอกเบี้ยคิดตั้งแต่วันทำสัญญา) แต่ในกรณีลิสซิ่งมักจะเป็นลูกค้าที่เป็นนิติบุคคล เอาเงินค่าเช่าไปลงเป็นรายจ่ายในบริษัททั้งหมด บริษัทได้ประโยชน์ตรงหักค่าใช้จ่ายได้ กำไรลด ภาษีลด(กำไรมากภาษีก้าวหน้าจ่ายมากกว่า) ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้ครับ ผู้เช่าเมื่อเช่าจนครบกำหนดสามารถขอซื้อรถคันนั้นในราคาต่ำได้ ไม่ซื้อก็ได้ ผู้ใช้รถก็จะใช้อย่างทะนุถนอม เข้าศูนย์ทุกครั้ง(คชจในการเข้าศูนย์เป็นของบริษัทลิสซิ่ง) ตัวรถก็ไม่ช้ำมาก จะขายตอนหมดสัญญาก็ได้เงินดี

ทีนี้ถ้ามาทำให้เป็นบ้านล่ะ จะเป็นอย่างไร

ผู้ซื้อตอนนี้มีเงินเดือน ไม่พอที่จะผ่อน ต้องเช่าบ้านอยู่ ค่าเช่าก็มีแต่จะสูญไป ก้อทำสัญญาเช่าบ้านให้มีออบชั่นแปลงเงินค่าเช่าส่วนหนึ่งเป็นเงินดาวน์บ้าน
เช่นผ่อนเดือนละ 10,000บาท ตกลงกันว่าถ้าจะซื้อบ้านก็จะแปลงค่าเช่าให้เป็นเงินดาวน์30% เท่ากับ 3,000 บาทต่อเดือน เช่าไป 3 ปี เท่ากับ 108,000บาท
ก็เอาไปลดยอดค่าบ้านได้ ณ วันทำสัญญาจะซื้อบ้าน

ผู้ขายก็วางใจได้ว่าจะขายได้ หรือถ้าขายไม่ได้ ก็ยังได้ผู้เช่าที่ประวัติค่อนข้างดี ดูแลรักษาบ้าน ซึ่งราคาขาย ณ ปัจจุบันน่าจะหาผู้ซื้อได้ยากในภาวะแบบนี้

ผู้เช่า ตอนนี้ก็คิดเสียว่าเช่าอยู่ หากได้เพื่อนบ้านไม่ดี อยู่แล้วไม่เป็นสุข ก็อยู่จนครบสัญญาก็ตัดใจไปหาที่อื่น แต่ถ้าพอใจก็หาธนาคารที่ปล่อยกู้ ตอนนั้นเงินเดือนก็ขึ้นมากพอแล้ว+เงินที่แปลงมาจากสัญญาเช่า ก็น่าจะทำให้ได้บ้านที่เราพอใจ

ขอความเห็นหน่อยครับ
ป.ล. จขกท มีคอนโดที่ยังสองจิตสองใจ ว่าจะทำอย่างไรกับมันดี จะขายก็เสียดาย จะให้เช่าก็ไม่วางใจ ถ้าอนาคตต้องอยู่คนเดียวก็อยากกลับไปอยู่ครับ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่