เรากับแฟน คบกันมา7ปีกว่า เราอายุ23 แฟนอายุ33
ตลอดที่คบกันมา มีคนเข้ามาจีบเราตลอดแต่เราก็ซื่อสัตย์กับแฟนมาตลอดนะคะ ทำและยอมเพื่อเขาทุกอย่าง
ช่วงที่คบกัน2ปีแรก เราจับได้ว่าแฟนเราแอบไปคุยกับผญ.อื่น ทั้งแชท โทร และวิดีโอคอล แต่ตอนนั้นเราก็เงียบค่ะ แต่ใช้วิธีประชดเขาโดยการทำแบบที่เขาทำ เพราะตอนนั้นยังเด็กและคิดแค่ว่า "เธอทำได้ แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้" เรายอมรับว่าเราพลาดเองที่ทำแบบนั้น พอแฟนเรารู้ เราเลยทะเลาะกันและคุยเรื่องราวทั้งหมด สุดท้ายเรา2คนเลยเลิกกันค่ะ แต่พอหลังจากนั้นไม่ถึง1อาทิตย์ เราก็กลับมาคบกันต่อ
ระยะเวลาต่อนั้นอีก5ปี แฟนเราแอบคุยกับผญ.คนอื่นมาตลอด ทั้งคนที่ไปเจอในแอพหาคู่และคนรู้จัก มีทั้งแชท โทรคุย เคยไปส่งที่ทำงานและที่เคยโทรให้มาหาที่ห้อง ซึ่งเราจับได้ทุกครั้งเพราะผญ.เหล่านั้นจะชอบโทรหรือไม่ก็เด้งแชทมารัวๆเวลาแฟนเราไม่ตอบพวกเขา
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราให้อภัยเขาตลอดเพราะคิดว่าสักวันเขาก็เลิกนิสัยนี้ได้ แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เราไม่เคยโวยวายและคุยกับเขาด้วยเหตุผลว่าเพราะอะไร แต่เขาไม่เคยเครียไม่คุย พอถามมากๆก็จะลงท้ายด้วยประโยคที่ว่า "จะอะไรนักหนา ถ้ารับไม่ได้ก็เลิก กูรำคาญ"
แต่ล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา เราทะเลาะกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องผญ.และเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะแฟนเราทำงานอิสระค่ะ (ก่อนหน้านี้ทำงานประจำแต่ไม่ชอบเลยลาออก) และเราก็เพิ่งเรียนจบทำงานประจำได้1ปี ปีที่แล้วหนักหน่อยตรงที่เราจับได้ว่าเขาแอบคุยกับน้องคนนึงมาหลายเดือน เขาอยุ่คนละจังหวัดกัน แต่เราไม่รู้ว่าเขาไปถึงขั้นไหนะคะ เพราะเขาเรียกแทนกันว่า "ผัวเมีย" แต่เราก็ยังให้โอกาสเขาอีกครั้ง และพอเราขอเครียก็ลงท้ายด้วยประโยคเดิมๆ และเรื่องค่าใช้จ่าย ด้วยความที่แฟนเราทำอาชีพอิสระช่วงโควิดรายได้เลยลดลงไปมากและยังถูกเพื่อนหลอกยืมเงินไป เลยไม่สามารถจ่ายพวกค่าบัตรเครดิตค่างวดรถได้ เราเลยช่วยเขาจ่าย จนตอนนี้แทบจะทุกอย่างไม่ว่าจะค่าไฟ ค่าเน็ต ค่ารถ ค่าบัตร เรวมถึงค่ากิน เราช่วยจ่ายออกให้แทบทั้งหมด แต่เราเริ่มไม่ไหวเพราะเราก็มีภาระของตัวเอง จนเราบอกให้เขาหางานประจำทำไปด้วยก่อน เราช่วยเขาหางานแต่เขากับไม่สนใจ และสุดท้ายก็ทะเลาะกันแบบบ่อยมาก แล้วทุกครั้งเขาก็จะลงท้ายด้วยประโยคที่ว่า "ตอนที่เรียน กูก็จ่ายทุกอย่าง พอตอนนี้กูให้ช่วยออกแค่นี้ ทำเป็นร้อง เห็นแก่ตัว ถ้าจะไปก็ไปอย่ามาทำให้กูเกลียดขี้หน้า รำคาญ" แต่ตอนที่เราเรียนเราก็ฝึกงานนะคะ ได้เงินเดือนเดือนละไม่ถึงหมื่น และเราก็ฝึกไปเรียนไปสลับกันไปมา เวลาฝึกงานเราก็ต้องเก็บเงินนั้นมาใช้ช่วงเรียน ค่ากิน ค่ารถ ค่าทำงานและกิจกรรมต่างๆ เราไม่เคยขอเขาเลยและถ้าเงินพอเหลือบ้างก็จะช่วยเขาจ่ายค่ารถบ้างสัก500-1500บาท
เมื่อปลายปีทะเลาะกันหนักจนจะเลิกกัน เพราะเรื่องผญ.ค่ะ เราไม่ไว้ใจเขา เราแอบเช็คโทรศัพท์ แล้วเราก็เจอว่าเขายังคุยกับคนอื่นไปทั่วทั้งๆที่เขาก็รู้นะคะว่าเราเช็ค เราเลยตกลงจะเลิกค่ะ แต่พอเราตกลงกันเรื่องเงินที่เขายืมเรากับญาติไป (หลักหมื่น) พอเย็นวันนั้นเขาก็ทำตัวปกติค่ะ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็สับสนแต่ก็ลองคบต่อเพราะเอาจริงๆก็ยังทำใจไม่ได้ และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ก็ทะเลาะกันอีกรอบทั้งเรื่องผญ.และเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยทะเลาะกันมา และก็ลงท้ายด้วยประโยคเดิมๆและก็ด่าเราบลาๆ" จนเราตกลงจะเลิก แต่ก็มาติดปัญหาเรื่องห้อง เราเลยยังคบต่อจนกว่าจะเครียเรื่องห้องกับญาติได้ และทุกเรื่องที่ทะเลาะกัน ด้วยทั้งเรื่องผญ.และอื่น มันเลยทำให้ความรู้สึกที่มีให้เขาเปลี่ยนไป เราไม่มีความมั่นใจในตัวเขาเหมือนเดิม
ประเด็นต่อมาคือ มีรุ่นพี่คนนึงเข้ามาในชีวิตเรา เริ่มแรกที่ได้คุยกันเพราะเรื่องงาน ตั้งแต่ก่อนปลายปีที่แล้วและก่อนที่เราจะจับได้ว่าแฟนคุยกับคนอื่น เราก็คุยกันเรื่องงาน พอเริ่มสนิทกันก็มีคุยเรื่องชีวิตประจำวันบ้าง เรารู้สึกว่าเขาเหมือนพี่ เหมือนเพื่อนที่สามารถปรึกษาเรื่องนู้นนี่ได้ และจนกระทั้งเริ่มเข้ามาปีนี้ ที่เราเริ่มไม่มั่นใจในตัวแฟนเพราะเรื่องผญ. ความรู้สึกที่เคยมีมันเปลี่ยนไป แล้วไม่รู้ว่าเราอ่อนแออยุ่มั้ย เราเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับแฟนให้เพื่อนสนิทในกลุ่มและกับพี่คนนั้นฟัง ไม่มีใครยุให้เราเลิกกับแฟนนะคะ แต่ก็ไม่ได้อยากให้คบต่อ บอกให้เราตัดสินใจเอง
แล้วเรากับพี่คนนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆค่ะ เริ่มสนิทกัน มีไปเที่ยวด้วยกัน ไปกินข้าวด้วยกัน แต่ขอบอกก่อนนะคะ เวลาเราทำอะไรไปไหนเราบอกแฟนเราตลอด ที่เราไปกับพี่เขา ไปกับเพื่อน เพราะแฟนเราไม่เคยชวนเราไปไหน เราชวนก็ไม่ค่อยอยากไป บอกคนเยอะ ไม่ชอบ
จนเรายอมรับว่า เราเริ่มรู้สึกดีกับพี่คนนั้น เรา2คนคุยกัน ไม่เคยหยอดคำจีบกันนะคะ แต่เป็นในเชิงปรึกษา เล่าเรื่องนู้นนี่ คุยเรื่องชีวิตประจำวันว่าทำอะไรที่ไหนเจออะไรบ้าง จนวันนึงพี่คนนั้นบอกว่าชอบเราตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรก(เจอที่ทำงานแต่ทำงานคนละส่วน ไม่ค่อยได้เจอกันอยุ่แล้ว) และตอนนี้รู้สึกดีกับเรา แต่เรามีแฟนแล้วเขาเลยอยากจะขออยุ่ข้างๆแบบพี่คนนึงที่จะคอยให้ความช่วยเหลืออยุ่ข้างๆ
เรายอมรับนะคะ ว่าเราก็รู้สึกดีกับพี่เขาเหมือนกัน แต่เพราะสถานะของเราคือมีแฟน แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิมกับแฟนมาตั้งแต่ตอนปลายปีแล้วและอยากจะเลิกมาหลายครั้งแต่เพราะว่าความผูกพันธ์ที่ทำให้เราไม่กล้าตัดใจ ทั้งๆที่ใจเราไม่อยากคบกับเขาแล้ว
ตอนนี้เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำกำลังคิดนั้นมันผิดมากน้อยและเหมาะสมมั้ย เราเอาเรื่องนี่ไปปรึกษาเพื่อนสนิททุกคน ทุกคนบอกให้เราออกมาจากแฟนแล้วมาเริ่มต้นใหม่ หาคนใหม่ (ปล.พี่คนนั้นที่เราคุยเป็นผญ.ค่ะ) และปล. ที่เรายังไม่ได้แยกออกมาจากแฟนเพราะติดปัญหาเรื่องห้องที่อยุ่อยุ่
มีแฟนแล้ว แต่ไปรู้สึกชอบและรู้สึกดีกับอีกคน
ตลอดที่คบกันมา มีคนเข้ามาจีบเราตลอดแต่เราก็ซื่อสัตย์กับแฟนมาตลอดนะคะ ทำและยอมเพื่อเขาทุกอย่าง
ช่วงที่คบกัน2ปีแรก เราจับได้ว่าแฟนเราแอบไปคุยกับผญ.อื่น ทั้งแชท โทร และวิดีโอคอล แต่ตอนนั้นเราก็เงียบค่ะ แต่ใช้วิธีประชดเขาโดยการทำแบบที่เขาทำ เพราะตอนนั้นยังเด็กและคิดแค่ว่า "เธอทำได้ แล้วทำไมฉันจะทำไม่ได้" เรายอมรับว่าเราพลาดเองที่ทำแบบนั้น พอแฟนเรารู้ เราเลยทะเลาะกันและคุยเรื่องราวทั้งหมด สุดท้ายเรา2คนเลยเลิกกันค่ะ แต่พอหลังจากนั้นไม่ถึง1อาทิตย์ เราก็กลับมาคบกันต่อ
ระยะเวลาต่อนั้นอีก5ปี แฟนเราแอบคุยกับผญ.คนอื่นมาตลอด ทั้งคนที่ไปเจอในแอพหาคู่และคนรู้จัก มีทั้งแชท โทรคุย เคยไปส่งที่ทำงานและที่เคยโทรให้มาหาที่ห้อง ซึ่งเราจับได้ทุกครั้งเพราะผญ.เหล่านั้นจะชอบโทรหรือไม่ก็เด้งแชทมารัวๆเวลาแฟนเราไม่ตอบพวกเขา
ตลอดเวลาที่ผ่านมาเราให้อภัยเขาตลอดเพราะคิดว่าสักวันเขาก็เลิกนิสัยนี้ได้ แต่ทุกครั้งที่ทะเลาะกัน เราไม่เคยโวยวายและคุยกับเขาด้วยเหตุผลว่าเพราะอะไร แต่เขาไม่เคยเครียไม่คุย พอถามมากๆก็จะลงท้ายด้วยประโยคที่ว่า "จะอะไรนักหนา ถ้ารับไม่ได้ก็เลิก กูรำคาญ"
แต่ล่าสุดเมื่อปีที่ผ่านมา เราทะเลาะกันหลายเรื่อง ทั้งเรื่องผญ.และเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ เพราะแฟนเราทำงานอิสระค่ะ (ก่อนหน้านี้ทำงานประจำแต่ไม่ชอบเลยลาออก) และเราก็เพิ่งเรียนจบทำงานประจำได้1ปี ปีที่แล้วหนักหน่อยตรงที่เราจับได้ว่าเขาแอบคุยกับน้องคนนึงมาหลายเดือน เขาอยุ่คนละจังหวัดกัน แต่เราไม่รู้ว่าเขาไปถึงขั้นไหนะคะ เพราะเขาเรียกแทนกันว่า "ผัวเมีย" แต่เราก็ยังให้โอกาสเขาอีกครั้ง และพอเราขอเครียก็ลงท้ายด้วยประโยคเดิมๆ และเรื่องค่าใช้จ่าย ด้วยความที่แฟนเราทำอาชีพอิสระช่วงโควิดรายได้เลยลดลงไปมากและยังถูกเพื่อนหลอกยืมเงินไป เลยไม่สามารถจ่ายพวกค่าบัตรเครดิตค่างวดรถได้ เราเลยช่วยเขาจ่าย จนตอนนี้แทบจะทุกอย่างไม่ว่าจะค่าไฟ ค่าเน็ต ค่ารถ ค่าบัตร เรวมถึงค่ากิน เราช่วยจ่ายออกให้แทบทั้งหมด แต่เราเริ่มไม่ไหวเพราะเราก็มีภาระของตัวเอง จนเราบอกให้เขาหางานประจำทำไปด้วยก่อน เราช่วยเขาหางานแต่เขากับไม่สนใจ และสุดท้ายก็ทะเลาะกันแบบบ่อยมาก แล้วทุกครั้งเขาก็จะลงท้ายด้วยประโยคที่ว่า "ตอนที่เรียน กูก็จ่ายทุกอย่าง พอตอนนี้กูให้ช่วยออกแค่นี้ ทำเป็นร้อง เห็นแก่ตัว ถ้าจะไปก็ไปอย่ามาทำให้กูเกลียดขี้หน้า รำคาญ" แต่ตอนที่เราเรียนเราก็ฝึกงานนะคะ ได้เงินเดือนเดือนละไม่ถึงหมื่น และเราก็ฝึกไปเรียนไปสลับกันไปมา เวลาฝึกงานเราก็ต้องเก็บเงินนั้นมาใช้ช่วงเรียน ค่ากิน ค่ารถ ค่าทำงานและกิจกรรมต่างๆ เราไม่เคยขอเขาเลยและถ้าเงินพอเหลือบ้างก็จะช่วยเขาจ่ายค่ารถบ้างสัก500-1500บาท
เมื่อปลายปีทะเลาะกันหนักจนจะเลิกกัน เพราะเรื่องผญ.ค่ะ เราไม่ไว้ใจเขา เราแอบเช็คโทรศัพท์ แล้วเราก็เจอว่าเขายังคุยกับคนอื่นไปทั่วทั้งๆที่เขาก็รู้นะคะว่าเราเช็ค เราเลยตกลงจะเลิกค่ะ แต่พอเราตกลงกันเรื่องเงินที่เขายืมเรากับญาติไป (หลักหมื่น) พอเย็นวันนั้นเขาก็ทำตัวปกติค่ะ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เราก็สับสนแต่ก็ลองคบต่อเพราะเอาจริงๆก็ยังทำใจไม่ได้ และเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ก็ทะเลาะกันอีกรอบทั้งเรื่องผญ.และเรื่องค่าใช้จ่ายที่เคยทะเลาะกันมา และก็ลงท้ายด้วยประโยคเดิมๆและก็ด่าเราบลาๆ" จนเราตกลงจะเลิก แต่ก็มาติดปัญหาเรื่องห้อง เราเลยยังคบต่อจนกว่าจะเครียเรื่องห้องกับญาติได้ และทุกเรื่องที่ทะเลาะกัน ด้วยทั้งเรื่องผญ.และอื่น มันเลยทำให้ความรู้สึกที่มีให้เขาเปลี่ยนไป เราไม่มีความมั่นใจในตัวเขาเหมือนเดิม
ประเด็นต่อมาคือ มีรุ่นพี่คนนึงเข้ามาในชีวิตเรา เริ่มแรกที่ได้คุยกันเพราะเรื่องงาน ตั้งแต่ก่อนปลายปีที่แล้วและก่อนที่เราจะจับได้ว่าแฟนคุยกับคนอื่น เราก็คุยกันเรื่องงาน พอเริ่มสนิทกันก็มีคุยเรื่องชีวิตประจำวันบ้าง เรารู้สึกว่าเขาเหมือนพี่ เหมือนเพื่อนที่สามารถปรึกษาเรื่องนู้นนี่ได้ และจนกระทั้งเริ่มเข้ามาปีนี้ ที่เราเริ่มไม่มั่นใจในตัวแฟนเพราะเรื่องผญ. ความรู้สึกที่เคยมีมันเปลี่ยนไป แล้วไม่รู้ว่าเราอ่อนแออยุ่มั้ย เราเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างเรากับแฟนให้เพื่อนสนิทในกลุ่มและกับพี่คนนั้นฟัง ไม่มีใครยุให้เราเลิกกับแฟนนะคะ แต่ก็ไม่ได้อยากให้คบต่อ บอกให้เราตัดสินใจเอง
แล้วเรากับพี่คนนั้นก็คุยกันมาเรื่อยๆค่ะ เริ่มสนิทกัน มีไปเที่ยวด้วยกัน ไปกินข้าวด้วยกัน แต่ขอบอกก่อนนะคะ เวลาเราทำอะไรไปไหนเราบอกแฟนเราตลอด ที่เราไปกับพี่เขา ไปกับเพื่อน เพราะแฟนเราไม่เคยชวนเราไปไหน เราชวนก็ไม่ค่อยอยากไป บอกคนเยอะ ไม่ชอบ
จนเรายอมรับว่า เราเริ่มรู้สึกดีกับพี่คนนั้น เรา2คนคุยกัน ไม่เคยหยอดคำจีบกันนะคะ แต่เป็นในเชิงปรึกษา เล่าเรื่องนู้นนี่ คุยเรื่องชีวิตประจำวันว่าทำอะไรที่ไหนเจออะไรบ้าง จนวันนึงพี่คนนั้นบอกว่าชอบเราตั้งแต่ที่เจอกันครั้งแรก(เจอที่ทำงานแต่ทำงานคนละส่วน ไม่ค่อยได้เจอกันอยุ่แล้ว) และตอนนี้รู้สึกดีกับเรา แต่เรามีแฟนแล้วเขาเลยอยากจะขออยุ่ข้างๆแบบพี่คนนึงที่จะคอยให้ความช่วยเหลืออยุ่ข้างๆ
เรายอมรับนะคะ ว่าเราก็รู้สึกดีกับพี่เขาเหมือนกัน แต่เพราะสถานะของเราคือมีแฟน แต่เราก็ไม่ได้รู้สึกเหมือนเดิมกับแฟนมาตั้งแต่ตอนปลายปีแล้วและอยากจะเลิกมาหลายครั้งแต่เพราะว่าความผูกพันธ์ที่ทำให้เราไม่กล้าตัดใจ ทั้งๆที่ใจเราไม่อยากคบกับเขาแล้ว
ตอนนี้เราไม่รู้ว่าสิ่งที่เรากำลังทำกำลังคิดนั้นมันผิดมากน้อยและเหมาะสมมั้ย เราเอาเรื่องนี่ไปปรึกษาเพื่อนสนิททุกคน ทุกคนบอกให้เราออกมาจากแฟนแล้วมาเริ่มต้นใหม่ หาคนใหม่ (ปล.พี่คนนั้นที่เราคุยเป็นผญ.ค่ะ) และปล. ที่เรายังไม่ได้แยกออกมาจากแฟนเพราะติดปัญหาเรื่องห้องที่อยุ่อยุ่