โตมาจึงรู้ว่า...ชีวิตการทำงาน ไม่ได้ง่ายอย่างที่ฝันไว้ตอนเด็ก
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ (
https://www.blockdit.com/waithamngan)
.
สมัยตอนที่เราแบเบาะ แบมือขอตังค์แม่พ่อ ทำให้เราหวนนึกถึงพวกท่านที่พาเราไปนู้นไปนี้ ในใจก็คิดว่า ถ้าฉันมีตังค์บ้าง ฉันจะออกเดินทาง กินของสนุกให้สุดเหวี่ยงไปเล๊ย แต่ในความเป็นจริง แทนที่จะเป็นความฝันในวัยเด็ก ที่คิดว่าอยากโตขึ้นมาเร็ว ๆ มีเงินใช้ มีชีวิตที่อิสระ มีอะไรทุกอย่างตามใจที่ตัวเองต้องการ แค่นึกถึงเวลานั้น เราก็พร่ำบ่นว่า เมื่อไหร่จะมาถึงสักทีนะวัยทำงานของฉัน
.
น่าเสียดาย ที่ชีวิตไม่ได้เป็นไปดั่งที่เราคิดไว้ มันคล้ายกับการโยนเหรียญขึ้นไปบนอากาศ และเรามองเห็นแค่ 'หัว' ตลอด แต่พอเวลาผลสรุปออกมา กลับเป็นฝั่ง 'ก้อย' ซะงั้น เมื่อผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างนี้ บางคนถึงกลับโทษสังคม โทษสิ่งแวดล้อม และโทษอะไรต่าง ๆ มากมาย จนไม่ได้คำนึงถึงตัวเอง ทำไม? ทำไมเราถึงโทษทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่เราเป็นเลือกเส้นทางนี้เอง...
.
ความเป็นจริงที่โหดร้ายคือ นอกจากเราจะต้องมา เผชิญกับโลกที่โหดร้ายแล้ว ยังเป็นโลกที่เราอยู่ตัวคนเดียวเข้าไปอีก ตอนเราจบใหม่ ๆ เพื่อน ๆ ที่เรียนกันมา ต่างก็หางานกันว่าเล่น ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากระบายออกมาเป็นน้ำตา พ่อแม่ ครอบครัว ของบางคนอาจกดดัน หรือแม้แต่ญาติพี่น้องพูดคุยกันสนุกปาก จนเป็นเรื่อง Topic วงกว้าง และนั่นคงทำให้เราท้อมาก กับสายตาคนอื่นที่มองมาทางเรา
.
บางคนที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว อาจนอนสบายใจอยู่บ้าน และคิดว่า มันคงจะง่ายและสบาย เพราะเราก็จบมาจากมหาวิทยาลัยที่ดังพอตัว แต่เมื่อไปลองหางานกันจริง ๆ ชีวิตสมัครงานนั้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แล้วไหนจะต้องทนฝืนยิ้มกับคำถามที่ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรอีก ผ่านดง HR บ้าง ผู้ติดต่อบ้าง บางคนเหมือนคนหลงหน่อย อาจถามไปทั่วจนคนในบริษัทเขามองว่าไม่รอบคอบ ละเอียดอ่อนซะเลย
.
และนี้ยังรวมไปถึงการสัมภาษณ์งาน ที่บางทีต้องออกเดินทางไกล เสียค่าน้ำมัน ที่พัก และหลาย ๆ อย่าง จนบางทีเราก็แอบเสียใจ และผิดหวังที่ทำให้เงินก้อนนั้นไร้ค่าไป เพราะบางทีเงินก้อนนั้นอาจไม่ได้มาจากการเก็บออม แต่เป็นเงินของครอบครัวที่ยากไร้ เกษียณไปแล้ว หรือยังทำงานอยู่ก็ตาม
.
พอผ่านช่วงเวลานึงมา ได้งานเสร็จ ความคิดนึงที่จะเข้ามาในโสตประสาทเราคือ หัวหน้าดี เพื่อนร่วมงานดี บริษัทดี อะไรต่าง ๆ ดี แต่พอมาทำงานจริง จึงเข้าใจว่า สถานที่แบบนั้นมันเหมือนราวกับฝันไม่มีผิด หาได้ยาก และบางทีหาเจอ แต่การเติบโตของหน้าที่การงานกลับแย่ยิ่งยวดกว่าที่คิดไว้
.
ทุกคนภายในที่ทำงานต่างเป็นสังคมแข่งขัน แย่งชิง เอารัดเอาเปรียบ และที่สำคัญ การเป็นมนุษย์เงินเดือน มันไม่มีเวลาจริง ๆ แบบ...ไม่มีเวลาอะนะ มันสอนให้เรารู้ว่า การมานั่งทำงานตัวสั่นงก ๆ อยู่กับที่กว่า 8-9 ชั่วโมง ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลย
.
ตอนเรียนมีเวลา แต่ไม่มีเงิน ตอนโตมีเงิน แต่ไม่มีเวลา
.
บทความนี้ แด่ชีวิตวัยทำงาน การเริ่มต้นตำแหน่งเล็ก ๆ ที่คุณคิดว่า ไม่แม้แต่จะชายตามอง เนื่องจากจบมาสูง ฉันไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่นอน ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าอภิรมณ์สักเท่าไหร่....แต่การไม่ทำสิ่งใดเลย แม้กระทั่งลองดูก่อน ค่อนข้างน่าเป็นห่วงมากกว่า
.
บางทีการรอ 'โอกาส' อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใครบางคน แต่ความหมายคำว่า 'โอกาส' จริง ๆ คือการเตรียมพร้อมสำหรับทุกอย่าง ที่จะเกิดขึ้นในแวดวงที่เราสนใจ และเมื่อมันปรากฏขึ้นแล้ว เราจะไม่ตกขบวนรถไฟอย่างไงละ
.
บางทีการสัมภาษณ์ แนวคิด ทัศนคติ หลักการทำงาน การกระทำ การแสดงออก ก็เป็นทั้งตัวกำหนดทิศทาง และสร้างโอกาสให้กับเรามากมาย และก่อนจากลา ผมขอทิ้งผลึกความรู้ ที่ผมสั่งสมมาในชีวิต 1 ก้อนให้ผู้อ่านทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น และหากประยุกต์ได้ จะยิ่งดีมาก ๆ เลยครับ
.
"จริง ๆ แล้ว ในช่วงแรกของการทำงาน....เราไม่จำเป็นต้องพึงพอใจกับ เงินเดือนที่จ้างมาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพึงพอใจกับ งานที่ทำก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีความสุขกับ การทำงานก็ได้ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับ เพื่อนร่วมงานหรือญาติพี่น้องก็ได้ และไม่จำเป็นต้องสนใจชีวิตเพื่อน ที่ก้าวล้ำหน้าไปก่อนเราก็ได้ เพราะทัศนคติแรกของการทำงาน ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ การเห็นตัวเองเติบโตขึ้น ต่างหาก ที่เป็นปัจจัยหลักในการสร้างคุณค่าแก่ชีวิต"
.
คุณไม่ได้อยู่เพื่อ ให้ใครก็ได้มาแทนคุณ แต่คุณอยู่ได้ เพื่อให้อีกฝ่ายขาดคุณไม่ได้ต่างหาก
.
ความแตกต่างระหว่าง 'เด็ก' กับ 'ผู้ใหญ่' ก็คือ "เหตุผล หลักการ รอบคอบ และสำคัญที่สุดคือ....ความอึด ! " โลกใบนี้เราแข่งกันที่สติปัญญา การปรับตัว และความอึด ยิ่งคุณอยู่ได้นานมากเท่าไหร่ โอกาส และชัยชนะที่คาดไม่ถึงก็เข้ามามากขึ้นเท่านั้น จงเปิดกว้าง ศึกษา ปรับตัว อดทน และอึดเข้าไว้ (เขียนโดย เอ๊ะ พชรพล ภู่เสือ)
โตมาจึงรู้ว่า...ชีวิตการทำงาน ไม่ได้ง่ายอย่างที่ฝันไว้ตอนเด็ก
โตมาจึงรู้ว่า...ชีวิตการทำงาน ไม่ได้ง่ายอย่างที่ฝันไว้ตอนเด็ก
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมที่ (https://www.blockdit.com/waithamngan)
.
สมัยตอนที่เราแบเบาะ แบมือขอตังค์แม่พ่อ ทำให้เราหวนนึกถึงพวกท่านที่พาเราไปนู้นไปนี้ ในใจก็คิดว่า ถ้าฉันมีตังค์บ้าง ฉันจะออกเดินทาง กินของสนุกให้สุดเหวี่ยงไปเล๊ย แต่ในความเป็นจริง แทนที่จะเป็นความฝันในวัยเด็ก ที่คิดว่าอยากโตขึ้นมาเร็ว ๆ มีเงินใช้ มีชีวิตที่อิสระ มีอะไรทุกอย่างตามใจที่ตัวเองต้องการ แค่นึกถึงเวลานั้น เราก็พร่ำบ่นว่า เมื่อไหร่จะมาถึงสักทีนะวัยทำงานของฉัน
.
น่าเสียดาย ที่ชีวิตไม่ได้เป็นไปดั่งที่เราคิดไว้ มันคล้ายกับการโยนเหรียญขึ้นไปบนอากาศ และเรามองเห็นแค่ 'หัว' ตลอด แต่พอเวลาผลสรุปออกมา กลับเป็นฝั่ง 'ก้อย' ซะงั้น เมื่อผลลัพธ์ออกมาเป็นอย่างนี้ บางคนถึงกลับโทษสังคม โทษสิ่งแวดล้อม และโทษอะไรต่าง ๆ มากมาย จนไม่ได้คำนึงถึงตัวเอง ทำไม? ทำไมเราถึงโทษทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้ง ๆ ที่เราเป็นเลือกเส้นทางนี้เอง...
.
ความเป็นจริงที่โหดร้ายคือ นอกจากเราจะต้องมา เผชิญกับโลกที่โหดร้ายแล้ว ยังเป็นโลกที่เราอยู่ตัวคนเดียวเข้าไปอีก ตอนเราจบใหม่ ๆ เพื่อน ๆ ที่เรียนกันมา ต่างก็หางานกันว่าเล่น ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากระบายออกมาเป็นน้ำตา พ่อแม่ ครอบครัว ของบางคนอาจกดดัน หรือแม้แต่ญาติพี่น้องพูดคุยกันสนุกปาก จนเป็นเรื่อง Topic วงกว้าง และนั่นคงทำให้เราท้อมาก กับสายตาคนอื่นที่มองมาทางเรา
.
บางคนที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาว อาจนอนสบายใจอยู่บ้าน และคิดว่า มันคงจะง่ายและสบาย เพราะเราก็จบมาจากมหาวิทยาลัยที่ดังพอตัว แต่เมื่อไปลองหางานกันจริง ๆ ชีวิตสมัครงานนั้น ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด แล้วไหนจะต้องทนฝืนยิ้มกับคำถามที่ไม่รู้ว่าควรจะตอบอย่างไรอีก ผ่านดง HR บ้าง ผู้ติดต่อบ้าง บางคนเหมือนคนหลงหน่อย อาจถามไปทั่วจนคนในบริษัทเขามองว่าไม่รอบคอบ ละเอียดอ่อนซะเลย
.
และนี้ยังรวมไปถึงการสัมภาษณ์งาน ที่บางทีต้องออกเดินทางไกล เสียค่าน้ำมัน ที่พัก และหลาย ๆ อย่าง จนบางทีเราก็แอบเสียใจ และผิดหวังที่ทำให้เงินก้อนนั้นไร้ค่าไป เพราะบางทีเงินก้อนนั้นอาจไม่ได้มาจากการเก็บออม แต่เป็นเงินของครอบครัวที่ยากไร้ เกษียณไปแล้ว หรือยังทำงานอยู่ก็ตาม
.
พอผ่านช่วงเวลานึงมา ได้งานเสร็จ ความคิดนึงที่จะเข้ามาในโสตประสาทเราคือ หัวหน้าดี เพื่อนร่วมงานดี บริษัทดี อะไรต่าง ๆ ดี แต่พอมาทำงานจริง จึงเข้าใจว่า สถานที่แบบนั้นมันเหมือนราวกับฝันไม่มีผิด หาได้ยาก และบางทีหาเจอ แต่การเติบโตของหน้าที่การงานกลับแย่ยิ่งยวดกว่าที่คิดไว้
.
ทุกคนภายในที่ทำงานต่างเป็นสังคมแข่งขัน แย่งชิง เอารัดเอาเปรียบ และที่สำคัญ การเป็นมนุษย์เงินเดือน มันไม่มีเวลาจริง ๆ แบบ...ไม่มีเวลาอะนะ มันสอนให้เรารู้ว่า การมานั่งทำงานตัวสั่นงก ๆ อยู่กับที่กว่า 8-9 ชั่วโมง ไม่ใช่เรื่องน่าสนุกเลย
.
ตอนเรียนมีเวลา แต่ไม่มีเงิน ตอนโตมีเงิน แต่ไม่มีเวลา
.
บทความนี้ แด่ชีวิตวัยทำงาน การเริ่มต้นตำแหน่งเล็ก ๆ ที่คุณคิดว่า ไม่แม้แต่จะชายตามอง เนื่องจากจบมาสูง ฉันไม่มีทางทำอะไรแบบนั้นแน่นอน ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยน่าอภิรมณ์สักเท่าไหร่....แต่การไม่ทำสิ่งใดเลย แม้กระทั่งลองดูก่อน ค่อนข้างน่าเป็นห่วงมากกว่า
.
บางทีการรอ 'โอกาส' อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับใครบางคน แต่ความหมายคำว่า 'โอกาส' จริง ๆ คือการเตรียมพร้อมสำหรับทุกอย่าง ที่จะเกิดขึ้นในแวดวงที่เราสนใจ และเมื่อมันปรากฏขึ้นแล้ว เราจะไม่ตกขบวนรถไฟอย่างไงละ
.
บางทีการสัมภาษณ์ แนวคิด ทัศนคติ หลักการทำงาน การกระทำ การแสดงออก ก็เป็นทั้งตัวกำหนดทิศทาง และสร้างโอกาสให้กับเรามากมาย และก่อนจากลา ผมขอทิ้งผลึกความรู้ ที่ผมสั่งสมมาในชีวิต 1 ก้อนให้ผู้อ่านทุกคนมีชีวิตที่ดีขึ้น และหากประยุกต์ได้ จะยิ่งดีมาก ๆ เลยครับ
.
"จริง ๆ แล้ว ในช่วงแรกของการทำงาน....เราไม่จำเป็นต้องพึงพอใจกับ เงินเดือนที่จ้างมาก็ได้ ไม่จำเป็นต้องพึงพอใจกับ งานที่ทำก็ได้ ไม่จำเป็นต้องมีความสุขกับ การทำงานก็ได้ ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับ เพื่อนร่วมงานหรือญาติพี่น้องก็ได้ และไม่จำเป็นต้องสนใจชีวิตเพื่อน ที่ก้าวล้ำหน้าไปก่อนเราก็ได้ เพราะทัศนคติแรกของการทำงาน ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จมากที่สุดคือ การเห็นตัวเองเติบโตขึ้น ต่างหาก ที่เป็นปัจจัยหลักในการสร้างคุณค่าแก่ชีวิต"
.
คุณไม่ได้อยู่เพื่อ ให้ใครก็ได้มาแทนคุณ แต่คุณอยู่ได้ เพื่อให้อีกฝ่ายขาดคุณไม่ได้ต่างหาก
.
ความแตกต่างระหว่าง 'เด็ก' กับ 'ผู้ใหญ่' ก็คือ "เหตุผล หลักการ รอบคอบ และสำคัญที่สุดคือ....ความอึด ! " โลกใบนี้เราแข่งกันที่สติปัญญา การปรับตัว และความอึด ยิ่งคุณอยู่ได้นานมากเท่าไหร่ โอกาส และชัยชนะที่คาดไม่ถึงก็เข้ามามากขึ้นเท่านั้น จงเปิดกว้าง ศึกษา ปรับตัว อดทน และอึดเข้าไว้ (เขียนโดย เอ๊ะ พชรพล ภู่เสือ)