นามปากกาเป็นตุเป็นตะ ผมเริ่มหัดเขียนนิยายเป็นเรื่องแรก อยากฟังความคิดเห็นของเพื่อนๆ เพื่อนำมาพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น

หนุ่มแกร็บกับสาวเปิ๊ดสะก๊าด
ตอนที่2.2
โบว์ง่วนอยู่กับการทำเครื่องดื่มและไม่มีทีท่าว่าจะหันมาเห็นเขาที่รอจังหวะส่งยิ้มให้เธอ และฟ้าก็เป็นใจอีกครั้ง เธอทำช้อนตกพื้นจึงก้มลงเก็บแล้วหันไปวางที่ซิ๊งน้ำ จังหวะที่เธอเอี้ยวตัวเพื่อกลับมาทำเครื่องดื่มต่อ คำหล่าทำเสียง กระแอม โบว์หันมาสบตาพอดี คำหล่าไม่รอช้าส่งรอยยิ้มให้ทันที โบว์ยืนนิ่งหน้าเริ่มเป็นสีแดง คำหล่าจ้องมองดูปฎิกิริยาตอบรับของเธอ เธอหลุดยิ้มออกมาแวบหนึ่ง แต่เธอรีบหันหน้าหลบไปอีกทางอย่างรวดเร็วจนคอสะบัดเสียงดังกร๊อบ 
‘’ โอ้ย ‘’ เธอร้องพลางเอามือจับต้นคอ คำหล่าหัวเราะเสียงดัง โบว์ท้าวสะเอวหันมาจ้องคำหล่าตาเขม็ง ปากกัดริมฝีปากล่างใบหน้าของเธอตอนนี้เป็นสีแดง เธองอนที่คำหล่าหัวเราะเยาะเธอ 
‘’ เชอะ ‘’ เธอเชิดหน้าใส่คำหล่า มันเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษสำหรับคำหล่ามาก ‘’ตอนโบว์งอนช่างน่ารักจัง’’ เขาเริ่มเคลิ้ม
‘’ คำหล่า วันนี้เองงานดีเปล่า ‘’ น้าชลเอยถาม
คำหล่าไม่ได้ฟังที่น้าชลถาม เพราะสายตาของเขาโฟกัสอยู่กับโบว์ที่กลับมาง่วนอยู่กับการทำออเดอร์ หน้าของคำหล่าดูเคลือบเคลิ้ม และเขาก็ต้องสะดุ้งโหยงเมื่อเห็นใบหน้าดำๆผมหยิกเหมือนเงาะป่า น้าชลยื่นหน้าลงมาใกล้กับหน้าของเขา ‘’เองเป็นอะไรคำหล่า ‘’ น้าชลถามอย่างสงสัย
‘’ ข้าเห็นเองมองไปทางโบว์แล้วยิ้มอยู่คนเดียว ‘’ ‘’ หรือเองแอบชอบโบว์ ‘’
ตี๋เริ่มหันมาสนใจสิ่งที่น้าชลพูดและพร้อมที่จะร่วมสนทนาด้วยราวกับเจอของคาว เรื่องเผือกร้อนนี่มันหน้าตื่นเต้นนัก 
‘’ เปล่าครับน้า ผมกำลังคิดไรเพลินแต่ดันบังเอิญหันไปทางนั้นพอดี ‘’ คำหล่าเลิกลัก
‘’ เองแน่ใจ๊ ‘’ ตี๋แอบอมยิ้ม
เขาได้แต่พยักหน้ารับ คำหล่ารู้สึกถึงแรงกดดันของพวกพี่ๆที่พยายามจะเค้นหาความจริง เขาจำเป็นต้องโกหก เขายังไม่กล้าเล่าเรื่องที่เขาแอบชอบโบว์ให้พวกพี่ๆฟังตอนนี้ 
แต่อีกใจหนึ่งเขาลองมานั่งคิด ถ้าเขาลองเล่าให้พวกพี่ๆฟังจะเกิดอะไรขึ้น พวกพี่ๆจะต้องคอยช่วยเหลือและพร้อมสนับสนุนทุกอย่างเพื่อให้เขาจีบโบว์สำเร็จ เขาเริ่มรู้สึกอยากลองเล่าให้พวกพี่ๆดู แต่เมื่อเขาหันไปเห็นพี่ตี๋และน้าชลแค่นั้นแหละ ทั้งสองคนแสยะยิ้มน่าเกลียดอย่างไม่น่าไว้ใจได้เลย
‘’ลาดเวนเดอร์ เรากำลังวิ่งอยู่บนทุ่งลาเวนเดอร์ ไม่มีทาง เราคิดให้แง่ดีเกินไป ถ้าพวกเขารู้ในกลุ่มก็ต้องรู้ เผลอๆโพสลงโซเชียลให้โลกรู้อีก พี่ตี๋ยิ่งตัวดีเลย ตี๋รู้ โลกรู้ จักรวาลรู้ แม้แต่ธานอสก็ยังรู้(คำหล่าเริ่มคิดไปไกล)
‘’ให้รู้ไม่ได้ ไม่ได้เด็ดขาด’’ คำหล่าเหงื่อแตก
นัดเดินเข้าร้านมาทำหน้างงเมื่อเห็นเหตุการณ์ ‘’มีไรกัน มีไรกัน’’ พยายามเซ้าซี้ร้องขอให้เล่าให้ฟัง ลางสังหรณ์เจ้านัดแรงมาก ตาของเขาลุกวาวเป็นประกายพร้อมที่จะเผือกเต็มที่ คำหล่าเหงื่อแตกมากกว่าเดิมเมื่อเจ้านัดเข้ามาสมทบ เขายอมตายสะยังดีกว่าถ้าจะให้เจ้านัดรู้ น้าชลอ้าปากกำลังจะเริ่มเล่าเรื่องที่สงสัยว่าคำหล่าแอบชอบโบว์หรือเปล่า แต่ไม่ทันได้เล่าน้าภัทรเดินย่างสามขุมเปิดประตูร้านเข้ามาพลางร้องโวยวายใส่คำหล่า
‘’เอง คำหล่า ไอน้องเวร’’ น้าภัทรใช้ท่อนแขนซ้ายรัดไปที่คอแล้วใช้กำปั้นขยี้ไปที่หัวคำหล่า
‘’โอ้ย! ผมเจ็บนะน้า’’ คำหล่าร้องพลางยกมือปัดป้อง
‘’มีไรหรอพี่’’ ตี๋ร้องถามอย่างสงสัย ทุกคนหันมามองน้าภัทรพร้อมอยากรู้ว่าเกิดไรขึ้น
‘’ มันทำร้ายจิตใจข้าน่ะสิ’’ ทุกคนงงไปหมดว่าคำหล่าไปทำร้ายจิตใจแกเรื่องอะไร
แต่ด้วยต่อมเผือกทำงานรุนแรงทุกคนพร้อมเพียงกันเงียบและรอฟังโดยไม่ขัดจังหวะน้าภัทรที่กำลังจะเล่าอย่างรู้ใจกัน
‘’น้องแอนน่ะสิ น้องแอนฟู้ดแลนด์ชอบคำหล่า’’ 
‘’!! ว่าไงนะ !!’’ ทุกคนตะโกนพร้อมกัน
เสียงของบางอย่างตกกระทบพื้นดัง ‘’เพล้ง’’ ทุกคนหันมามองต้นต่อของเสียง คำหล่าหันมาด้วยเช่นกัน โบว์ทำจานลองแก้วตกแตก และกำลังโดนเจ้าของร้านเอ็ด 
‘’ ไม่จริง มันต้องไม่จริง ‘’ ตี๋เริ่มวกกลับมาเรื่องเดิมอีกครั้ง 
‘’เองต้องตาย คำหล่า’’ ทุกคนเริ่มเป็นซอมบี้พากันรุมทึ้งคำหล่า
แอนเป็นสาวทำงานในร้านฟู้ดแลน เธอเป็นที่หมายปองของทุกคน เพราะด้วยหน้าตาที่สะสวย ตาคมโต ผมยาวสีดำผิวขาวเป็นยองใยแถมร่าเริงและมีเสน่ห์ การที่น้องแอนดันมาชอบคำหล่าจึงไม่แปลกที่ทุกคนจะคลั้งเป็นซอมบี้ได้แบบนี้
‘’เออ แล้วพี่รู้ได้ไง’’ ตี๋ถามเมื่อนึกขึ้นได้ ‘’ใช่ๆเล่ามาให้หมด’’เจ้านัดร่วมด้วยเสียงสั่น
‘’คืองี้ ‘’ น้าภัทรเริ่มเล่าแบบใส่อารมณ์ 
‘’ น้องแอนถามชื่อคำหล่ากับน้า และยังบอกว่าคำหล่าน่ารักอีก “
น้าภัทรเสียงสั่นเล่าด้วยความเจ็บปวด
ทุกคนเริ่มกลายเป็นซอมบี้อีกครั้ง ‘’ โอ้ววว ปวดหัวใจ ‘’ ทุกคนเอะอะเสียงดังขึ้น
‘’น้องแอนของผม’’ ทุกคนโหยหวนยกใหญ่ ความรู้สึกของคำหล่าที่ได้รับรู้ว่าน้องแอนได้แอบชอบเขา เขาควรจะดีใจไหม
เขาพยายามจับความรู้สึกของตัวเองว่ารู้สึกอย่างไร แต่คิดไม่ออกเลย ดีใจหรือว่าเฉยๆ ยิ่งคิดยิ่งปวดหัว 
ในขณะที่ทุกคนพากันคร่ำครวญส่งเสียงดัง ได้มีเสียงตะเบ็งขึ้นมา
“ เงียบๆกันหน่อยได้ไหม รบกวนลูกค้าในร้าน ถ้าอยากคุยเรื่องไร้สาระที่ใครแอบชอบใครก็ไปคุยกันนอกร้านโน้น” โบว์เห่วใส่
ทุกคนพากันเงียบกริบ น้าชลกับคำหล่าหันมามองหน้ากัน โบว์ไม่เคยวีนใส่ทุกคนแบบนี้มาก่อนเลย
“ทั้งสองคนนั้นน่ะ จะเอาไหมออเดอร์”เธอยังคงอารมณ์ไม่ดีและพูดจาห่างเหิน น้าชลกับคำหล่าชี้นิ้วมาที่ตัวเองพร้อมกัน สื่อว่าหมายถึงพวกเขาใช่ไหม
โบว์ดึงหน้าใส่แล้วหันหลังหยิบโถปั่นมาล้างโดยไม่สนใจพวกเขา น้าชลเดินเอามือลูบคางพลางสงสัยว่าโบว์อารมณ์เสียเรื่องอะไรหรือว่าเรื่องโดนเจ้าของร้านต่อว่า แต่ไม่น่าใช่
‘’เป็นเมนหรอ’’ น้าชลโพล่งออกมา คำหล่าเอาศอกถองสีข้างน้าชลเตือนให้หยุด โบว์กระแทกโถปั่นลงในซิ้งน้ำเสียงดังโครม หันมาท้าวสะเอวตาจ้องเขม็ง เสียงประตูเปิดดัง กริ๊ง น้าชลหยิบของแล้ววิ่งหนีออกไปจากร้านเรียบร้อยแล้ว ปล่อยให้คำหล่าต้องเผชิญกับความโกรธเกรี้ยวของโบว์ตามลำพัง คำหล่าหันไปมองแผ่นหลังน้าชลแบบเดือดดาล โบว์หันมาจ้องเขาหวังจะเอาเรื่อง “ขอโทษคราฟ” คำหล่าหยิบของแล้ววิ่งหนีตามน้าชลไป
ท่ามกลางความโกลาหลเจ้านัดนั่งท้าวคางมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างสงบ
เขาเริ่มระแคะระคาย ทั้งสองคนนี้มีไรบางอย่างที่น่าสงสัย เจ้านัดแสยะยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
เป็นเวลาสองทุ่ม ท้องฟ้าที่มืดสนิทมีแสงไฟจากรถที่ต่างคนต่างมุ่งหน้ากลับบ้าน หลังจากเลิกงาน โบว์เดินมารอรถที่ป้ายรถเมล์ เธอถอนหายใจพลางนั่งลงอย่างหมดแรง หลังพิงป้ายโฆษณาเงยหน้ามองดาวบนท้องฟ้า วันที่วุ่นวายผ่านไปอีกหนึ่งวัน เธอรู้สึกเหนื่อยอย่างบอกไม่ถูกพลางเอามือแนบอก
ถอนหายใจยาวและลึก เธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่เหนื่อยกาย แต่ใจของเธอต่างหากที่เหนื่อย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย นวนิยายรัก นิยายออนไลน์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่