จดหมายเก่ากับความทรงจำ

กระทู้คำถาม
จริงๆผมก็พยายามที่จะลืมจดหมายทั้ง76ฉบับนี้อยู่นะ
ซ่อนแล้วซ่อนอีก เพราะเปิดอ่านเมื่อไหร่ก็แอบเศร้าในใจทุกที
   เจ้าของจดหมายเป็นน้องข้างบ้านผมเอง  ตอนยังเด็กเธอถูกเอามาฝากแม่ผมเลี้ยงคู่กับน้องชาย  เธอเลี้ยงง่าย ไม่งอแงแม่ผมรักเธอเหมือนลูกเลยครับ
ผมเองก็ 555....บางวันเธอก็ถูกฝากยาว ตอนกลางคืนแม่ก็จะให้เธอมานอนกับพวกผม(ตอนนั้นผม10ขวบแล้ว พี่ชาย13น้องชาย5ขวบและเธอ4ขวบ
เราติดกันและกันมากจนอยู่ป.4ป.5เธอก็ยังขอพ่อแม่มาค้างบ้านผมทุกเสาร์อาทิตย์
เธอชอบวาดรูป ชอบฟังนิทาน และเป็นคนรักของมาก(ผมเคยให้แหวนที่ไขได้จากตู้หยอดเหรียญเธอ
ไม่คิดสักนิดว่าเธอจะเก็บไว้จนโต.ใส่ไม่ได้แล้วก็ยังเก็บ)
เธอชอบร้องฟังนิทานเรื่องเถรขนุน. เล่าเป็นรอบที่ร้อยเธอก็ยังขำ
เธอชอบวิ่งตามเวลาพวกผมไปตกปลา ถ้ามีปลาติดเบ็ดเธอก็จะทำหน้าเศร้าจนพวกผมต้องแกะให้เธอเอาไปปล่อย  เจอดอกผักตบชวาดอกสารภีก็เต้นแร้งเต้นกาอยากได้
กี่ปีแล้วนะที่เธอจากไป
จดหมายฉบับแรกที่เธอเขียนถึงผมลงวันที่8/7/43
ตอนนั้นเธอย้ายไปเรียนม.1
(จริงๆก็ย้ายบ้านเลยละ พ่อเธอย้ายกลับไปอยู่ดูแลคุณปู่ที่อีกจังหวัดนึงในเขตภาคกลาง) ปกติเวลาคุยกันเธอจะพูดน้อยยิ้มซะมากกว่า
แต่พอเขียนเป็นจดหมายเธอเขียนเก่งมาก2-3หน้ากระดาษเสมอและทุกครั้งจะลงท้ายว่ารักผมที่สุด
ตอนแรกๆก็จะพูดถึงเรา3พี่น้อง หนักๆเข้าก็กลายเป็นเขียนถึงผมคนเดียว(คงเพราะผมเป็นคนเขียนตอบมั้ง)ช่วงนั้นผมยังไม่ได้ทำงานประจำ(ผมจบแค่ม.3เพราะแม่ไม่ค่อยมีเงิน รวมทั้งถ้าจะเรียนต่อที่เรียนก็ไกลมากต้องเข้าเมืองและไม่มีรถรับส่ง)
ผมก็เลยไปทำงานกับลุง(เป็นช่างลายไทยทำโบสถ์ทำเมรุประมาณนั้นครับ)
จนคัดเลือกทหารเสร็จผมถึงไปหาสมัครงานและได้เจอเธอแบบบังเอิญในวันหนึ่ง(ตอนนั้นทำงานได้2ปีแล้ว  และตามไปเที่ยวบ้านหัวหน้าแผนกกัน)จริงๆก็รู้แหละว่าเธอก็อยู่แถวๆนั้นกะว่าเดี๋ยวจะลองไปตามหาดู  แต่แล้วแค่เดินเข้าวัดไปซื้ออาหารปลา  ก็ได้ยินเสียงเรียกแบบไม่แน่ใจอยู่ใกล้ๆ  แค่หันไปเจอเธอก็ร้องไห้จ๊าก จนต้องรีบจูงไปปลอบไกลๆคนเลย
เธอร้องไปบ่นไปว่าทำไมไม่บอกว่าจะมา(จริงๆผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าจะเป็นที่นั่น รู้แค่อำเภอเดียวกันเฉยๆ)
เธอขอเป็นคนพาเที่ยววัดเราอยู่ด้วยกันจนเย็นผมถึงกลับไปสมทบกับพวกเพื่อเดินทางกลับ  เธอจดเบอร์โทรที่หอยัดใส่มือมาให้
(ตอนนั้นยังโทรตู้อยู่เลยครับ  โทรไปทีไร เธอก็บ่นคิดถึงทุกที  เธอเล่าว่าที่เธอพักอยู่เป็นหอหญิงล้วนผู้ชายไม่สามารถเข้ามาได้)บางทีเราก็คุยกันนานจนได้ยินเสียงเพื่อนเธอเรียก  เราไม่เคยบอกรักกันด้วยคำพูดแต่ผมคิดว่าเธอรู้
ว่าผมรักเธอ  และเธอก็ยังลงท้ายจดหมายว่ารักผมที่สุดเช่นเดิม
ปี49ผมซื้อโทรศัพท์เราก็เลยติดต่อกันง่ายขึ้น  ผมบอกกับแม่ว่าผมคุยกับเธอแต่ไม่เล่าว่ารักเธอและคุณอาแม่ของเธอก็รู้ว่าเราติดต่อกัน(แต่ไม่แน่ใจว่ารู้รึเปล่าว่าผมคิดไม่ซื่อกับลูกสาวเค้า)
ปี52เธอเรียนจบเธอก็ให้พ่อของเธอพามาเที่ยวบ้านผม
แม่ดีใจมาก ทำนั่นทำนี่ให้กินทั้งวัน คืนนั้นอาค้างที่บ้านผมตอนเช้าเราไปเที่ยวตลาดกัน พอกินข้าวกลางวันเสร็จอาก็ลากลับ  เธอลากผมไปแอบคุยก่อนจะเอาแหวนสมัยเด็กมาให้ดูและบอกว่ายังเก็บไว้ ก่อนจะจุ๊บคางผม ผมเขินก็เลยดีดหน้าผากเธอไป1ที โทษฐานลวนลามได้แม้กระทั่งพี่
จริงๆ ถ้าเธอไม่จากผมไปซะก่อน ป่านนี้ลูกผมก็หน้าจะโตแล้วครับ  อุบัติเหตุนี่ไม่ว่าจะเกิดกับใครก็เป็นเรื่องเศร้าเสมอ ไม่ว่าจะครอบครัวเธอหรือผม
ผมทำงานยังกับบ้าเลยครับตอนนั้น ไม่อยากให้ตัวเองว่างเลย อยากเหนื่อยมากๆในทุกๆวันจะได้หัวถึงหมอนก็หลับไปเลยไม่ต้องคิดไม่ต้องเศร้า   ป่านนี้เธอคงไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรคฺ์แล้วนะ เหลือแต่ผมกับจดหมายแทนตัว  ตัวแทนความคิดถึงที่ผมมีต่อเธอ
จดหมายที่ผมไม่ค่อยตอบบางทีครึ่งปีตอบ2ฉบับแต่เธอก็ไม่โกรธ ไม่เคยต่อว่า
มีแต่คำว่ารักที่สุดเสมอ
12ปีจะว่านานก็นาน
แต่ในความทรงจำมันเหมือนเมื่อวานนี้เอง  พี่จะอยู่โสดรอนะครับยายหนูของพี่
ป.ล.วันครบรอบที่เธอจากไปคือ4เม.ย. แต่พอใกล้ถึงกำหนดเมื่อไหร่ ผมก็จะหยิบเอาจ.ม.มาอ่านด้วยความคิดถึงเสมอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่