สวัสดีค่า เราห่างหายจากพันทิปไปนาน กลับมาอีกครั้งด้วยความคิดถึงญี่ปุ่นมาก เลยจะรีวิวภูมิภาคโทโฮคุทุกจังหวัดที่เราไปมาค่ะ ได้แก่ อาโอโมริ, อิวาเตะ, อาคิตะ, มิยากิ, ยามากาตะ และฟุกุชิมะ ออกตัวก่อนว่าไปหลายซ้ำครั้งมากนะคะกว่าจะได้เป็นกระทู้นี้ : -)
ขยายความสำหรับคนที่ไม่เคยไปภูมิภาคนี้ ‘โทโฮคุ’ พูดง่ายๆ ก็เหมือนเป็นภาคอีสานของญี่ปุ่นค่ะ ที่เราชอบก็เพราะว่าธรรมชาติสวย ยังอุดมสมบูรณ์แบบสุดๆ แต่ข้อเสียคือถ้าไม่ใช่ในตัวเมือง สถานที่ท่องเที่ยวแต่ละที่จะอยู่ห่างกัน เลยอาจจะเดินทางยากหน่อย อ้อ อาหารอร่อยด้วยนะคะ 

เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ หน่อย เราจะแนะนำทีละจังหวัดนะคะ (ไม่ได้เรียงตามระยะทางใกล้ไกล) ลงตามที่ชอบและเคยไปมาค่ะ เผื่อจะมีคนโดนโทโฮคุตกเหมือนเราค่ะ หรือใครเคยไปที่อื่นก็มาแชร์กันได้นะคะ เดี๋ยวเราตามเก็บต่อ! 

ปล.อาจไม่ได้ลงรายละเอียดมาก อยากรู้ตรงไหนเป็นพิเศษก็ถามมาได้นะ ยินดีตอบมากค่า

เมืองฮิโรซากิดังเรื่องแอปเปิ้ลค่ะ มีฟาร์มผลไม้ให้เก็บอยู่นับไม่ถ้วน และในเมืองก็มีร้านขายพายแอปเปิ้ลเพียบ จนที่สถานีรถไฟถึงกับทำแผนที่ร้านพายแอปเปิ้ลในเมืองแจกให้นักท่องเที่ยวเลยนะคะ น่ารักมาก
สถานีรถไฟ: Hirosaki Station

2. Hirosaki Castle 
ปราสาทฮิโรซากิเป็นปราสาทประจำเมืองฮิโรซากิค่ะ สวยมากๆ ทุกฤดูเลยนะคะ ถ้าไปหน้าหนาวก็จะเจอหิมะ ไปช่วงเมษาก็จะเห็นซากุระบาน หน้าร้อนก็ยังเดินเล่นได้ค่ะ ที่ปราสาทชอบมีอีเว้นท์ของเมืองจัดบ่อยๆ ด้วย

สถานีรถไฟ: Hirosaki Station

3. Oirase
ใครที่ชอบเดินป่าต้องมาโออิราเสะเลยค่ะ ที่นี่มีเส้นทางเดินป่าเลียบแม่น้ำยาว 14 กิโล ฮอตฮิตมากช่วงฤดูใบไม้ร่วง เพราะทั้งป่าจะกลายเป็นสีส้มแดงเลย แต่เราไปช่วงฤดูร้อนก็จะเขียวๆ แบบที่เห็นค่ะ ระหว่างทางมีน้ำตกให้แวะเล่นอยู่หลายจุดเลย
สถานีรถไฟ: Aomori Station เป็นสถานีใกล้สุด แต่จากสถานีต้องนั่ง JR BUS TOHOKU ต่อไปที่ลงที่ป้าย Yakeyama ค่ะ 

4. Lake Towada
ทะเลสาบโทวาดะ ตั้งอยู่สุดเส้นทางเดินป่าโออิราเสะ ถ้าอยากมาที่นี่ก็แนะนำให้มาวันเดียวกับโออิราเสะนะคะ จะได้ไม่เสียเวลา รอบๆ ทะเลสาบมีร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านขายของฝาก รวมถึงมีบริการล่องเรือชมวิวด้วยนะ 
5. Mt. Hakkoda
ภูเขาฮักโกดะ อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ Towada Hachimantai ค่ะ ที่นี่มีทั้งเส้นทางเดินเขาสำหรับสายแอดเวนเจอร์ แต่ถ้าชอบชิลล์ๆ แบบเราก็มีโรปเวย์ Hakkado Ropeway ให้นั่งขึ้นไปชมวิวด้านบน พอถึงด้านบนก็มีเส้นทางเดินชมธรรมชาติให้เลือกอีก ชอบแบบไหนก็เลือกเลย ส่วนเราเลือก Hakkoda Gourd Line แบบ 1.8 กิโลเมตร เพราะไม่อยากเหนื่อยมากค่ะ 555
สถานีรถไฟ: Aomori Station เป็นสถานีใกล้สุด แต่ต้องนั่งบัสต่อมาลงที่โรปเวย์อีกประมาณ 1 ชั่วโมง

6. Furukawa Fish Market 
มาต่อที่ของกินกันบ้างค่ะ ฟุรุคาวะเป็นตลาดดังของอาโอโมริเลย เมนูที่ต้องกินให้ได้ Nokke Don ความเก๋ของนกเกะด้งคือ เราสามารถเลือกหน้าได้เอง ที่ตลาดจะมีวัตถุดิบสดใหม่ใส่ถาดหรือกล่องเล็กๆ วางไว้ อยากกินอะไรก็มีหมดทุกอย่าง วิธีการซื้อคือ เราต้องแลกคูปองก่อน แล้วนำคูปองนั้นไปแลกวัตถุดิบที่เราต้องการอีกทีค่า 
7. Aomori Museum of Art 
ชอบศิลปะ ที่อาโอโมริก็มีพิพิธภัณฑ์ด้วยนะคะ มีงานศิลปะของศิลปินดังเพียบ ไฮไลท์ของที่นี่คือเจ้าหมายักษ์ ผลงานของ Yoshitomo Nara นั่นเอง

สถานีรถไฟ: Shin-Aomori Station

8. Resort Shirakami
รถไฟญี่ปุ่นคือความพิเศษที่ทำให้เราตกหลุมรักซ้ำแล้วซ้ำอีก ที่นี่ก็มีรถไฟที่แล่นเลียบทะเลแบบวิวดีมาก เพราะเป็นวิวมรดกโลก Shirakami Sanchi นอกจากวิวจะดีแล้ว บนรถไฟก็มีงานคราฟต์ท้องถิ่น มีคนมาเล่นดนตรีพื้นบ้าน ระหว่างทางมีจอดให้แวะลงไปเดินเล่นริมทะเลอีก ต้องลองมานั่งซักครั้งเลยค่ะ!
9. Aoike
เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เราพบระหว่างเส้นทางรถไฟ Resort Shirakami ค่ะ ถ้าอยากไปที่นี่ต้องลงสถานี Juniko แล้วนั่งบัสต่อ สระมรกตอาโออิเคะอยู่ในพื้นที่มรดกโลกชิราคามิซันจิ โด่งดังเรื่องสีน้ำที่สวยแปลกตามากๆ ค่ะ จริงๆ แถวนี้มีเส้นทางเดินป่าด้วย ใครสนใจก็ลองหาข้อมูลกันดูนะคะ (ส่วนตัวเราไม่ได้เดินค่ะ)

สถานีรถไฟ: Juniko Station

10. Aomori Nebuta Matsuri
แถมอีกอย่าง ไม่ใช่สถานที่แต่เป็นงานเทศกาลใหญ่ที่จัดขึ้นปีละครั้งค่ะ เทศกาลเนบูตะจัดขึ้นต้นสิงหาคม เป็นขบวนพาเหรดโคมไฟขนาดยักษ์ลวดลายพื้นบ้าน โด่งดังขนาดได้รับเลือกให้เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมพื้นบ้านของญี่ปุ่น 

สถานีรถไฟ: Aomori Station

1. SL Ginga
นี่เป็นรถไฟขบวนที่เราอยากนั่งมาก เพราะด้านในมีห้องดูดาว เก๋สุด! ขบวนนี้ยังเป็นรถจักรไอน้ำสุดวินเทจ ซึ่งออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากวรรณกรรมเรื่อง “รถไฟสายทางช้างเผือก” ของมิยาซาวะ เคนจิค่ะ ด้านในมีพิพิธภัณฑ์เล็กๆ ที่จัดแสดงของดีอิวาเตะและผลงานของนักเขียนด้วยค่ะ 
2. Hiraizumi 
คนอินพวกประวัติศาสตร์ วัฒนธรรมขอให้มาที่ย่านฮิราอิซุมิเลยค่ะ ที่นี่เขามีแหล่งท่องเที่ยวมรดกโลกชื่อดังถึง 2 แห่ง คือวัด Motsuji เป็นวัดพุทธใหญ่ของนิกายเทนได จุดเด่นของที่นี่คือสวนโจโด (Pure Land Garden) ที่ใช้เทคนิคการจัดสวนเก่าแก่ที่สุดในญี่ปุ่นเลยล่ะค่ะ 
สถานีรถไฟ: Hiraizumi Station 

3. Morioka Jajamen, Morioka Reimen และ Wanko Soba
มาเที่ยวอิวาเตะแล้วต้องกิน 3 เมนูเส้นประจำเมืองเลยค่ะ ดังขนาดไหนก็เอาเป็นว่ามีร้านขายเมนูเหล่านี้อยู่ทั่วเมือง สะดวกที่ไหนก็ลองเลือกกันดูเลย เราขอแนะนำร้านที่เราไปละกันนะคะ Morioka Reimen เรากินที่ร้าน PYON PYON SYA มีหลายสาขาเลยค่ะ เรากินสาขาหน้าสถานีโมริโอกะ เพราะใกล้โรงแรม 
4. Geibikei Gorge
หุบเขาหินเก่าแก่ที่มีบริการล่องเรือโบราณของญี่ปุ่น ระหว่างที่เรานั่งชมวิวเพลินๆ จะมีฝีพายมาขับกล่อมด้วยเพลงพื้นบ้านของญี่ปุ่น และเรือจะไปจอดที่ด้านในสุดของหุบเขา ตรงนี้จะมีผาหินอธิษฐาน เชื่อกันว่าถ้าขว้างหินเข้าไปในช่องได้ คำขอจะเป็นจริง
สถานีรถไฟ: Geibikei Station

5. POKÉMON with YOU Train
ใครเป็นแฟนโปเกมอนห้ามพลาดนั่งรถไฟโปเกมอนนะ ภายในถูกออกแบบให้มีโปเกมอนซุกซ่อนอยู่ทุกแห่ง ทั้งเบาะ เพดาน ประตู บนพื้น ที่จับกันล้ม ในห้องน้ำ และจะมีตู้โดยสารหนึ่งแปลงให้เป็นห้อง play room ด้านในมีโปเกมอนขนาดใหญ่และมุมถ่ายรูปต่างๆ เปิดให้เข้านั่งเล่นกันเพลินๆ ค่ะ

เส้นทาง: ระหว่าง Ichinoseki Station กับ Kesennuma Station

6. Morioka Handi-Works Square  
พื้นที่เล็กๆ ริมแม่น้ำที่รวบรวมงานฝีมือท้องถิ่นดังๆ ของอิวาเตะเอาไว้เพียบ เช่น เครื่องเหล็กนัมบุ เซรามิก ผ้ามัดย้อม ขนม ฯลฯ ซึ่งที่นี่มีทั้งเวิร์คช็อปให้ลองทำและร้านขายของให้ช้อปเป็นของฝากด้วยนะคะ  
สถานีรถไฟ: Morioka Station เป็นสถานีใกล้สุด แล้วนั่งบัสที่มุ่งหน้าไปยัง Tsunagi มาลงที่ป้าย Morioka Tezukurimura-mae

7. Hachimantai Aspite Line 
กำแพงหิมะที่เกิดจากการใช้รถกวาดหิมะเคลียร์พื้นที่ถนนจนสองข้างทางกลายเป็นแนวกำแพงที่สูงหลายเมตร เป็นระยะทางประมาณ 27 กิโลเมตร ถ่ายรูปออกมาสวยดีค่ะ 

สถานีรถไฟ: Morioka Station แล้วนั่งบัสมาลงที่ป้าย Hachimantai Sancho ประมาณ 2 ชม จากนั้นเดินต่ออีก 15 นาที

8. Jodogahama Beach
ชายหาดในเมืองมิยาโกะ จุดเด่นของที่นี่คือโขดหินสูงใหญ่จำนวนมาก บริเวณรอบๆ สามารถทำกิจกรรมได้หลากหลาย เช่น ปูผ้านั่งปิกนิก เดินเล่น ล่องเรือ และทัวร์ลอดถ้ำสีน้ำเงิน Ao no Dokutsu ฯลฯ