ฟอสซิล " The Boy of Gran Dolina " อายุ 800,000 ปีตอนนี้กลายเป็นเด็กหญิง



(Girl of Gran Dolina, Individual H3 ที่มา: Tom Björklund /  CENIEH)


ประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีหลายเรื่องราวของผู้หญิงที่ปลอมตัวเป็นผู้ชายเพื่อต่อสู้ในสงคราม เพื่อขโมยมงกุฎ และโค่นล้มอาณาจักร อย่างไรก็ตาม ตอนนี้มีอีกเรื่องที่นักวิทยาศาสตร์เพิ่งเปิดเผยว่าเด็กชายตัวเล็ก ๆ ที่อายุ 800,000 ปี แท้จริงแล้วเป็นเพศหญิงที่อยู่ในวัยแรกรุ่น

วันนี้ ทีมนักวิทยาศาสตร์กำลังอธิบายกับสื่อของโลกว่า “Sexual dimorphism" (ลักษณะที่แตกต่างกันทางเพศ) เป็นส่วนสำคัญของความผันแปรทั้งหมด
ที่สังเกตได้ในบันทึกฟอสซิล เนื่องจากฟอสซิลของมนุษย์ในยุคแรก ๆ ที่พบไม่มากพอ จึงเป็นอุปสรรคต่อการประเมินความผันแปรภายในของกลุ่มที่สูญพันธุ์ได้อย่างถูกต้อง และด้วยเหตุนี้ การประมาณเพศของตัวอย่างจากฟอสซิลที่มี่นี้ ทำให้มันยากที่จะแยกความแตกต่างระหว่างเพศชายและหญิง 

นอกจากนี้ เมื่อกระดูกสำคัญเช่น กระดูกเชิงกรานขาดหายไปจากโครงกระดูก นักวิจัยจะแยกแยะได้ยากมากขึ้นว่าซากฟอสซิลชุดนั้นเป็นของหญิงหรือชาย แต่ความไม่ชัดเจนทั้งหมดนี้กลายเป็นอดีตไปแล้ว เพราะทีมนักวิทยาศาสตร์ประสบความสำเร็จในการพัฒนาวิธีการใหม่ ๆในการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของฟันโบราณเพื่อการคัดแยกเด็กผู้หญิงออกจากเด็กชาย

เขี้ยวถาวรของ Gran Dolina-TD6.2 รวมอยู่ในการศึกษา  ( Cr.Journal of Anthropological Sciences )
ย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษ 1960 มีการสร้างทางรถไฟในเทือกเขา Atapuerca  ทางตอนเหนือของสเปน ร่องลึกถูกตัดผ่านโขดหินและตะกอนซึ่งเผยให้เห็นพื้นที่แหล่งโบราณคดี Gran Dolina ที่ถูกขุดขึ้นครั้งแรกในปี 1964 เมื่อมีการค้นพบสิ่งประดิษฐ์และซากดึกดำบรรพ์ของมนุษย์ในยุคแรก ๆ

จากนั้นในปี1994 และ 1995 พบชิ้นส่วนกระดูกมากกว่า 80 ชิ้นของ 5 - 6 hominins ที่มีอายุระหว่าง 850,000 -780,000 ปี โดยนักโบราณคดีที่เกี่ยวข้อง กล่าวว่า การค้นพบครั้งนี้มีฟอสซิลอายุอย่างน้อย 250,000 ปี ซึ่งมากกว่า hominins อื่น ๆ ที่ค้นพบในยุโรปตะวันตก และยังพบกระดูกประมาณ 25% ที่มี
ร่องรอยที่บ่งบอกถึงการ " กินเนื้อคน ” แต่ข้อมูลนี้จะนำมาพิจารณาในภายหลัง

เอกสารการวิจัยใหม่นี้ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารมานุษยวิทยา Journal of Anthropological Sciences โดยกลุ่มมานุษยวิทยาทันตกรรมที่
Centro Nacional de Investigación de la Evolución Humana( CENIEH ) ซึ่งจากข้อมูลของนักวิจัย เผยให้เห็นการประมาณเพศครั้งแรกของฟอสซิลที่เป็นสัญลักษณ์ที่สุดสองชิ้นจาก Gran Dolina ในภูมิภาค Sierra de Atapuerca (Burgos) ในระดับ TD6

และอยู่ในสายพันธุ์ Homo antecessor “ H1” และ "H3" โดยแต่ละชิ้นเป็นที่รู้จักกันดีทั่วโลกในชื่อ "Boy of Gran Dolina" ตามชื่อในหนังสือวิทยาศาสตร์ยอดนิยมของสเปน อย่างไรตาม ในการศึกษาใหม่จากเขี้ยวของบุคคลทั้งสองนี้ เผยให้เห็นว่า H1 ถูกระบุว่าเป็นเด็กหนุ่ม แต่ฟอสซิล H3 นั้น น่าจะเป็นเด็กหญิง 


กะโหลกศีรษะที่ไม่สมบูรณ์ของ Homo antecessor ที่สร้างขึ้นใหม่จาก "Gran Dolina" (ATD6-15 & ATD6-69) ใน Atapuerca สเปน 
(Cr.Xvazquez /  Pubic Domain  )
อ้างอิงจากคำพูดของ Dr Cecilia García-Campos ซึ่งเป็นผู้นำการวิจัยนี้ ก็คือ " ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่าเขี้ยวของบุคคลทั้งสองแสดงความแตกต่างที่เทียบได้กับชายและหญิงในสมัยใหม่ ทำให้สามารถพิสูจน์ได้ว่า H1 น่าจะเป็นเพศชายในขณะที่ฟอสซิล H3 น่าจะเป็นเพศหญิง"

ทั้งนี้ ฟอสซิลของมนุษย์ที่พบในระดับ Gran Dolina TD6 นั้น ได้รับการวิเคราะห์โดยนักวิจัยหลายคน แม้ว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถประเมิน “Sexual dimorphism" ทางเพศในประชากรกลุ่มนี้ได้มากนัก เนื่องจากบุคคลส่วนใหญ่ที่รวมอยู่ในตัวอย่างของ Homo antecessor นั้นยังไม่บรรลุนิติภาวะ
หมายความว่าพวกเขายังไปไม่ถึงวัยรุ่น ซึ่งจะทำให้การประมาณเพศของพวกเขายุ่งยากมากๆ และความยากที่เกิดขึ้นยังเกิดจากการมีชิ้นส่วนโครงกระดูกขนาดเล็กเกินไป

ซึ่ง José María Bermúdez de Castro ผู้ประสานงานโครงการ Paleobiology ของ CENIEH และผู้เขียนรหัสของไซต์ Atapuerca อธิบายไว้ว่า
“ ในปัจจุบัน เราสามารถรู้เพศได้จากโปรตีนเคลือบฟันของชิ้นส่วนฟันเพียงชิ้นเดียว และการศึกษาที่จัดทำโดยกลุ่มของเราในขณะนี้ ได้เปิดวิธีใหม่และเชื่อถือได้สูงในการประเมินเพศด้วยวิธีการที่ไม่ทำลาย (non-destructive method) ”

การศึกษาใหม่พบว่าญาติของมนุษย์ในสมัยโบราณชื่อ Homo antecessor ชอบกินกันเองมากกว่าสัตว์ชนิดอื่น
กระดูกกะโหลกเหล่านี้ ได้แก่ ฟอสซิล ATD6-15 (กระดูกหน้าผาก) และ ATD6-69 (แม็กซิลลา) เป็นของ "Boy of Gran Dolina"
(Cr.ภาพ: José-Manuel Benito)
กล่าวคือ ในการประมาณเพศสามารถทำได้โดยการศึกษาสัดส่วนของเนื้อเยื่อฟันในเขี้ยว ซึ่งขนาดของเคลือบฟันและเนื้อฟันในชิ้นฟันเหล่านี้มีลักษณะที่ผิดปกติทางเพศอยู่ ทำให้สามารถแยกแยะบุคคลชายและหญิงภายในกลุ่มได้  ดังนั้น ตัวแปรเหล่านี้จึงถูกนำมาใช้เพื่อประมาณเพศ ในตัวอย่างทางนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งมีอัตราความแม่นยำสูงถึง 92.3% และในประชากรฟอสซิลเช่น ในตัวอย่างมนุษย์ยุคหินจาก Krapina (โครเอเชีย) หรือประชากรของ มนุษย์โบราณ Sima de los Huesos ที่อยู่ใน Sierra de Atapuerca

García-Campos ได้กล่าวถึงผลการศึกษาหนึ่งที่น่าสนใจที่สุดของการศึกษานี้คือ การตรวจสอบพบว่าซากของ H3 หลายชิ้นจาก Gran Dolina เป็นของเด็กผู้หญิงอายุระหว่าง 9 -11 ปี ที่มีอายุประมาณ 800,000 ปีก่อน ซึ่งเป็นชิ้นส่วนของใบหน้าบางส่วนและกระดูกหน้าผาก และแม้แต่ขากรรไกรล่างที่พบในปี 2003 ก็มีแนวโน้มที่จะเป็นเพศหญิงอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นจาก " The Boy of Gran Dolina "  เธอจึงได้รับการเปลี่ยนเป็น "Girl of Gran Dolina"

แม้ว่าเด็กหญิงแห่ง Gran Dolina อาจมีรูปร่างและสัดส่วนที่คล้ายคลึงกับสาวสมัยใหม่ในยุคของเธอจากการพัฒนามาก่อนหน้านี้ก็ตาม แต่ยังไม่ค่อยมีใครรู้ถึงชีวิตของเธอเมื่อกว่า 800,000 ปีก่อน แต่จากฟอสซิลมนุษย์ที่พบใน Gran Dolina ในระดับ TD6 รวมถึงของ H3 ที่แสดงให้เห็นหลักฐานที่ชัดเจนของการกินเนื้อคนอาจเป็นผลมาจากการเผชิญหน้ากับกลุ่มศัตรู และข้อมูลก่อนหน้าที่ระบุว่า “ ประมาณ 25% ของกระดูกมีร่องรอยที่บ่งบอกถึงการกินเนื้อคน ” ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสประมาณ 1 ใน 4 ที่เธออยู่ในเมนู
 

แหล่งโบราณคดี Atapuerca
ถ้ำของ Sierra de Atapuerca มีซากฟอสซิลของมนุษย์ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปตั้งแต่เกือบหนึ่งล้านปีก่อนและขยายไปถึงยุคสามัญ พวกเขาเป็นตัวแทนของข้อมูลสำรองที่ยอดเยี่ยมการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ซึ่งให้ข้อมูลล้ำค่าเกี่ยวกับรูปลักษณ์และวิถีชีวิตของบรรพบุรุษมนุษย์ห่างไกลเหล่านี้


( A ) ที่ตั้งของ Sierra de Atapuerca 
( B ) สถานที่ตั้งของ Gran Dolina ซึ่งตั้งอยู่ในร่องลึกทางรถไฟ  
( C ) แบบจำลอง 3 มิติของไซต์ Gran Dolina ในปี2012 พื้นที่สีน้ำตาลบ่งบอกถึงลำดับชั้นของหิน (stratigraphic) พื้นที่สีเทาคือผนังและหลังคาของถ้ำ          พื้นผิวการขุดในปี 2012 ได้รับการทำเครื่องหมายด้วยตัวอักษร S. S1 - พื้นผิวการขุด TD10 S2 - พื้นผิวขุด TD5 S3 - พื้นผิวขุด TD4 ที่ตั้งของ
        “ Torreón” และการขุดหลุมทดสอบตั้งอยู่ใน TD6
( D ) หน่วย Stratigraphic (TD1 ถึง TD11) และส่วนหน้าของตะกอนของไซต์ Gran Dolina 19


Field Projects : Atapuerca (Burgos, Spain) Cr.ภาพ iphes.cat/



The Atapuerca Mountains
เทือกเขา Atapuerca (สเปน: Sierra de Atapuerca) เป็นแนวเขา karstic (การสลายตัวของหินที่ละลายน้ำได้เช่นหินปูน) ใกล้เมือง Atapuerca ในแคว้น Castile และ Leon ทางตอนเหนือของสเปน ที่การขุดค้นยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง มีการค้นพบซากฟอสซิลและชุดเครื่องมือหินที่ซับซ้อน
ในถ้ำท้องถิ่นของ ชาว hominin ที่รู้จักกันมากที่สุดในยุโรปตะวันตก ไซต์นี้ได้รับการเสนอให้อยู่ในรายชื่อแหล่งมรดกโลกขององค์การ UNESCO
ภายใต้การกำหนดแหล่งโบราณคดี Atapuerca




(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่