จับตา! "ทักษิณ-ชัชชาติ" ร่วมเวที "The Change Maker" ผลิตคนรุ่นใหม่ เพื่อไทย
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6206793
จับตา! “ทักษิณ ชินวัตร – ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ร่วมเวที “The Change Maker” ผลิตคนรุ่นใหม่ เพื่อไทย ในพรุ่งนี้ ที่โรงแรม SC Park 13.00 น. เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 มี.ค.) พรรคเพื่อไทย โครงการ The Change Maker จัด Boot Camp สัปดาห์ที่ 3 ในหัวข้อ มิติของการคิดเชิงอนาคต (Future Thinking) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) ณ โรงแรม SC Park ห้องประชุมเทพลีลา ชั้น 6
โดยในเวลา เวลา 13.00-15.00น. พบกับ นาย
ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ บรรยายในหัวข้อ “
Future of People” จากนั้นเวลา 15.00 น. พบกับแขกรับเชิญสุดพิเศษ
Tony Woodsome หรือ นาย
ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บรรยายในหัวข้อ “
Reimagining the Future of Thailand Economy: ชวนคิดใหม่ วางอนาคตเศรษฐกิจไทยในเวทีโลก”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการ THE CHANGE MAKER – คิด เพื่อ ทำ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองจากภาคประชาชนในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาคือ หมุดหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลง การแสดงออกของคนรุ่นใหม่ที่จริงแล้วคือการแสดงออกถึงวิสัยทัศน์ และแนวคิดที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ
แพลตฟอร์ม THINK – คิด เพื่อไทย โดยพรรคเพื่อไทย เตรียมพื้นที่ทางความคิดขนาดใหญ่ พร้อมรองรับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วยโครงการ ‘THE CHANGE MAKER’ ที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ผู้มีอุดมการณ์ และต้องการแก้ปัญหาบ้านเมืองได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิสัยทัศน์อย่างเปิดกว้าง เพื่อแสวงหาอนาคตของประเทศร่วมกัน ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการนี้ คือ โอกาสในการได้ร่วมระดมความคิดกับผู้เข้าร่วมโครงการจากทั่วประเทศ วงสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์กับนักการเมืองผู้ประสบความสำเร็จ และท้ายที่สุด คือ การแปรความคิดสู่นโยบายที่ปฏิบัติได้จริงร่วมกับพรรคเพื่อไทย ที่พร้อมสนับสนุนทรัพยากรทุกรูปแบบ
โดยที่ผ่านมา ได้มีการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป สนใจแนวคิดเชิงนโยบาย และ ปรารถนาจะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง มีมนุษย์สัมพันธ์ สามารถทำงานร่วมกับผู้ที่มีความคิดแตกต่างได้ พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมตามที่โครงการกำหนด และได้มีผู้ร่วมสมัครเข้าโครงการหลายร้อยคน และมีการเข้าร่วมโครงกันมาแล้วกว่า 2 สัปดาห์
‘สหรัฐ-อังกฤษ’ ขึ้นบัญชีดำบริษัทเครือข่ายกองทัพเมียนมา
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2642557
‘สหรัฐ-อังกฤษ’ ขึ้นบัญชีดำบริษัทเครือข่ายกองทัพเมียนมา
สหรัฐอเมริกาและอังกฤษประกาศคว่ำบาตรบริษัทที่อยู่ในเครือข่ายภายใต้การควบคุมของกองทัพเมียนมา เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น
กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศว่าได้ทำการคว่ำบาตรบริษัท Myanmar Economic Holdings Public Company Ltd (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation Ltd (MEC) ขณะที่อังกฤษได้ประกาศคว่ำบาตรต่อบริษัท MEHL โดยให้เหตุผลว่าเมียนมาได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงกรณีชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮีนจา
การประกาศคว่ำบาตรดังกล่าวถือว่ามีนัยสำคัญมากที่สุดต่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของกองทัพเมียนมา ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การผลิตเบียร์และบุหรี่ ไปจนถึงธุรกิจโทรคมนาคม การผลิตยางรถยนต์ การทำเหมือง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
หลังประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่เพียงไม่นานกระทรวงต่างประเทศสหรัฐยังออกมาประณามการใช้กำลังรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในเมียนมาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 27 รายรวมถึงเด็กอีกหลายคน
แถลงการณ์ของนาย
เน็ด ไพรส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า การกระทำอันโหดร้ายและรุนแรงต่อเด็กซึ่งมีหนึ่งในนั้นมีอายุเพียง 7 ขวบ ที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพักของตนเองขณะนั่งอยู่บนตักของผู้เป็นบิดา ยิ่งแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติอันเลวร้ายของการใช้ความรุนแรงโดยกองทัพเมียนมาต่อประชาชน
ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดจะมีการยึดทรัพย์สินใดๆ ก็ตามของบริษัทเหล่านั้นในสหรัฐ และยังห้ามให้บริษัทสหรัฐรวมถึงพลเมืองสหรัฐทำการค้าหรือทำการธุรกรรมทางการเงินกับบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อกองทัพเมียนมา เนื่องจากการค้าขายส่วนใหญ่มักทำผ่านสถาบันทางการเงินในสหรัฐ ขณะที่การขึ้นบัญชีดำครั้งนี้จะทำให้บริษัทเมียนมาถูกตัดขาดออกจากระบบการทำธุรกรรมทางการเงินในสหรัฐ
นาย
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การดำเนินการของสหรัฐได้พุ่งเป้าไปที่ผู้นำการก่อรัฐประหาร รวมถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจของกองทัพเมียนมา และการเงินที่สนับสนุนกองทัพเมียนมา ซึ่งได้กระทำการอันโหดร้ายรุนแรงต่อประชาชน แต่จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนชาวเมียนมา
บลิงเคนย้ำด้วยว่า สหรัฐและอังกฤษได้แสดงให้เห็นว่าพวกเราจะดำเนินการตามที่เคยให้คำมั่นไว้ว่า จะทำให้ผู้ยึดอำนาจและใช้ความโหดร้ายรุนแรงรวมถึงข่มขู่คุกคามประชาชนในช่วงที่ผ่านมา ต้องรับผิดชอบต่อผลแห่งการกระทำของตนเอง
JJNY : จับตา!"ทักษิณ-ชัชชาติ"ร่วมเวที│สหรัฐ-อังกฤษขึ้นบช.ดำบ.ทัพเมียนมา│กฤษฎีกาจี้พลเดชรับผิดชอบ│'ดร.อรรถจักร์'ซัดเอนก
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6206793
จับตา! “ทักษิณ ชินวัตร – ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” ร่วมเวที “The Change Maker” ผลิตคนรุ่นใหม่ เพื่อไทย ในพรุ่งนี้ ที่โรงแรม SC Park 13.00 น. เป็นต้นไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 มี.ค.) พรรคเพื่อไทย โครงการ The Change Maker จัด Boot Camp สัปดาห์ที่ 3 ในหัวข้อ มิติของการคิดเชิงอนาคต (Future Thinking) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันพรุ่งนี้ (27 มี.ค.) ณ โรงแรม SC Park ห้องประชุมเทพลีลา ชั้น 6
โดยในเวลา เวลา 13.00-15.00น. พบกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ บรรยายในหัวข้อ “Future of People” จากนั้นเวลา 15.00 น. พบกับแขกรับเชิญสุดพิเศษ Tony Woodsome หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี บรรยายในหัวข้อ “Reimagining the Future of Thailand Economy: ชวนคิดใหม่ วางอนาคตเศรษฐกิจไทยในเวทีโลก”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับโครงการ THE CHANGE MAKER – คิด เพื่อ ทำ ถือเป็นปรากฏการณ์ทางการเมืองจากภาคประชาชนในรอบ 1 ปีที่ผ่านมาคือ หมุดหมายสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่แสดงให้เห็นว่า ประเทศไทยกำลังเปลี่ยนแปลง การแสดงออกของคนรุ่นใหม่ที่จริงแล้วคือการแสดงออกถึงวิสัยทัศน์ และแนวคิดที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศ
แพลตฟอร์ม THINK – คิด เพื่อไทย โดยพรรคเพื่อไทย เตรียมพื้นที่ทางความคิดขนาดใหญ่ พร้อมรองรับความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ด้วยโครงการ ‘THE CHANGE MAKER’ ที่จะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ผู้มีอุดมการณ์ และต้องการแก้ปัญหาบ้านเมืองได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและวิสัยทัศน์อย่างเปิดกว้าง เพื่อแสวงหาอนาคตของประเทศร่วมกัน ผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบตลอดระยะเวลากว่า 2 เดือน
สิ่งที่จะได้รับจากโครงการนี้ คือ โอกาสในการได้ร่วมระดมความคิดกับผู้เข้าร่วมโครงการจากทั่วประเทศ วงสนทนาเพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์กับนักการเมืองผู้ประสบความสำเร็จ และท้ายที่สุด คือ การแปรความคิดสู่นโยบายที่ปฏิบัติได้จริงร่วมกับพรรคเพื่อไทย ที่พร้อมสนับสนุนทรัพยากรทุกรูปแบบ
โดยที่ผ่านมา ได้มีการเปิดรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป สนใจแนวคิดเชิงนโยบาย และ ปรารถนาจะแก้ไขปัญหาบ้านเมือง มีมนุษย์สัมพันธ์ สามารถทำงานร่วมกับผู้ที่มีความคิดแตกต่างได้ พร้อมเข้าร่วมกิจกรรมตามที่โครงการกำหนด และได้มีผู้ร่วมสมัครเข้าโครงการหลายร้อยคน และมีการเข้าร่วมโครงกันมาแล้วกว่า 2 สัปดาห์
‘สหรัฐ-อังกฤษ’ ขึ้นบัญชีดำบริษัทเครือข่ายกองทัพเมียนมา
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2642557
‘สหรัฐ-อังกฤษ’ ขึ้นบัญชีดำบริษัทเครือข่ายกองทัพเมียนมา
สหรัฐอเมริกาและอังกฤษประกาศคว่ำบาตรบริษัทที่อยู่ในเครือข่ายภายใต้การควบคุมของกองทัพเมียนมา เมื่อวันที่ 25 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น
กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศว่าได้ทำการคว่ำบาตรบริษัท Myanmar Economic Holdings Public Company Ltd (MEHL) และ Myanmar Economic Corporation Ltd (MEC) ขณะที่อังกฤษได้ประกาศคว่ำบาตรต่อบริษัท MEHL โดยให้เหตุผลว่าเมียนมาได้มีการละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างร้ายแรงกรณีชนกลุ่มน้อยมุสลิมโรฮีนจา
การประกาศคว่ำบาตรดังกล่าวถือว่ามีนัยสำคัญมากที่สุดต่อผลประโยชน์ทางธุรกิจของกองทัพเมียนมา ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่การผลิตเบียร์และบุหรี่ ไปจนถึงธุรกิจโทรคมนาคม การผลิตยางรถยนต์ การทำเหมือง และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
หลังประกาศมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่เพียงไม่นานกระทรวงต่างประเทศสหรัฐยังออกมาประณามการใช้กำลังรุนแรงของเจ้าหน้าที่รัฐในเมียนมาในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 27 รายรวมถึงเด็กอีกหลายคน
แถลงการณ์ของนายเน็ด ไพรส์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ระบุว่า การกระทำอันโหดร้ายและรุนแรงต่อเด็กซึ่งมีหนึ่งในนั้นมีอายุเพียง 7 ขวบ ที่ถูกยิงเสียชีวิตภายในบ้านพักของตนเองขณะนั่งอยู่บนตักของผู้เป็นบิดา ยิ่งแสดงให้เห็นถึงธรรมชาติอันเลวร้ายของการใช้ความรุนแรงโดยกองทัพเมียนมาต่อประชาชน
ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรครั้งล่าสุดจะมีการยึดทรัพย์สินใดๆ ก็ตามของบริษัทเหล่านั้นในสหรัฐ และยังห้ามให้บริษัทสหรัฐรวมถึงพลเมืองสหรัฐทำการค้าหรือทำการธุรกรรมทางการเงินกับบริษัทที่ถูกขึ้นบัญชีดำดังกล่าว ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างมากต่อกองทัพเมียนมา เนื่องจากการค้าขายส่วนใหญ่มักทำผ่านสถาบันทางการเงินในสหรัฐ ขณะที่การขึ้นบัญชีดำครั้งนี้จะทำให้บริษัทเมียนมาถูกตัดขาดออกจากระบบการทำธุรกรรมทางการเงินในสหรัฐ
นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ กล่าวว่า การดำเนินการของสหรัฐได้พุ่งเป้าไปที่ผู้นำการก่อรัฐประหาร รวมถึงผลประโยชน์ทางธุรกิจของกองทัพเมียนมา และการเงินที่สนับสนุนกองทัพเมียนมา ซึ่งได้กระทำการอันโหดร้ายรุนแรงต่อประชาชน แต่จะไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนชาวเมียนมา
บลิงเคนย้ำด้วยว่า สหรัฐและอังกฤษได้แสดงให้เห็นว่าพวกเราจะดำเนินการตามที่เคยให้คำมั่นไว้ว่า จะทำให้ผู้ยึดอำนาจและใช้ความโหดร้ายรุนแรงรวมถึงข่มขู่คุกคามประชาชนในช่วงที่ผ่านมา ต้องรับผิดชอบต่อผลแห่งการกระทำของตนเอง