เพื่อนๆผช.หรือสาวๆ เคยเป็นไหมครับ เวลาที่จีบสาว หรือผู้ แล้วเขาเอาเรื่องที่เราจีบไปโม้ให้เพื่อนเธอฟัง ถ้าเล่ากันปกติ คงไม่มีอะไร แต่หากเขาเพิ่มเสริมเติมแต่งจากความจริง จนทำให้เรากลายเป็นตัวตลกในสายตากลุ่มเพื่อนๆของเขา ทำให้เรากลายเป็นคนน่ารังเกียจ
คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมเนี่ยทำงานอยู่ บ.หนึ่งในแผนกวิศวกร แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งผมไปส่งเอกสารในแผนกบัญชี แล้วเผอิญไปเห็นน้องพนักงานคนนึงในฝ่ายนั้นน่ารักดีก็เลยชอบ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก แต่หลังจากวันนั้นในช่วงเช้าๆที่เข้าออฟฟิศ ก็เจอน้องเขาบ่อยขึ้นจึงทักทายกัน เริ่มทำความรู้จักกัน แต่ก็ไม่กล้าจีบ แต่เพื่อนๆในแผนกก็ยุว่า ถ้าเราชอบเขาจริง ก็แสดงออกไปมั่งดิวะ เดี๋ยวคนอื่นเขาแย่งเอาไป ผมเลยตัดสินใจจีบอย่างจริงๆจังๆ ว่าแล้วหลังจากวันนั้น ผมก็ซื้อของกิน ขนมบ้าง มาฝากในตอนเช้า บางวันเจอมั่งก็ให้ บางวันไม่เจอไม่เป็นไร เรากินเอง ไม่อยากบุกไปแผนกเขา กลัวเขาขายหน้า และอีกอย่างเดี๋ยวจะหาว่าคุกตาม คอยตามติดเขา ยิ่งช่วงนี้เรื่องการคุกคามความเป็นส่วนตัวนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมจึงต้องระวังเป็นพิเศษ อีกอย่างภาพจำแรกที่ผมเห็นน้องเขานั้นเป็นคนเรียบร้อย ขี้อายหน่อยๆ ......... หลังจากเป็นอย่างนี้อยู่พักหนึ่ง เกือบๆเดือน น้องเขาก็เริ่มเป็นคนเปิดบทสนทนาเองบ้าง เริ่มพูดมากขึ้น เล่นมุกหยอกล้อกัน ผมก็คิดในใจว่าเขาคงจะเปิดใจหน่อยๆแล้วแหละ จนถึงวันนึงเจ้านายผมให้เอาเอกสารไปเดินเรื่องกับแผนกบัญชี ผมก็อาสาไปเอง เพราะอยากเจอน้องเขาด้วยแหละ แต่พอไปถึงแผนกบัญชีเท่านั้น...บรรยากาศที่ผมสัมผัสได้คือสายตาคนในแผนกมองผมแปลกๆ มองหางตาบ้าง บางคนนั่งเม้ากัน ผมก็เหลือบตาไปมองน้องคนที่ผมแอบชอบ แต่เห็นน้องเขานั่งทำงานอยู่ไม่ได้มองมา ผมก็คิดว่าคงรู้สึกไปเองแหละ
พอผ่านไปเกือบอาทิตย์นึง ผมกับเพื่อนๆในแผนกก็นัดกินเบียร์กันหลังเลิกงาน แล้วก็มีเพื่อนของเพื่อนในที่ทำงานแผนกบัญชีมากินด้วย กินอยู่พักนึง(หมดไปลังกว่าๆ)จนเมากริ่มๆ เพื่อนที่มาจากแผนกบัญชีก็ถามว่า จีบน้อง....อยู่หรอ ผมก็คิดว่าคงเมาแล้วแหละเลยตอบส่งๆไปว่าใช่แล้วมีไรหรอ แต่หลังจากนั้นคำพูดต่างๆของเพื่อนทำให้ผมสับสนอยู่พักนึง เขาบอกกับผมว่า เนี่ยตามจีบน้องเค้าเกินไปป่าววะ ผมก็งง เพราะผมไม่ได้เจอน้องเค้าบ่อยเลยนะ สัปดาห์นึง3-4วัน บางวันเจอแต่ก็ไม่ได้คุยอะไรยิ้มทักก็แยก อีกอย่างช่วงหลังผมก็งานเยอะ ไหนจะต้องออกไปไซต์งาน ไหนจะไปเจอลูกค้าอีก ก็เลยตอบปฏิเสธไปแบบหวิบหน่อยๆ แต่เพื่อนก็ยังเถียงกับมาประมาณว่า จะไม่ได้ไง ก็เค้าคุยกันทั้งแผนกว่าผมเนี่ยตามจีบน้องเค้า ตามตอแยบ้าง ตามง้อบ้างหละ ของฝากมาเซอร์ไพร้ส์บ้างหละ จนน้องอายละเนี่ย ผมที่ฟังอย่างนั้นแล้วกลืนน้ำลายไปอึกนึง หันไปมองหน้าเพื่อนในแผนกที่มันแทบจะตัวติดกับผม 10ชมตั้งแต่เช้ายันกลับบ้าน มันก็รู้ดีกว่าผมชอบ และก็จีบน้องเค้า แต่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย หลังจากนั้นผมก็ปรับความเข้าใจกับเพื่อนบัญชีคนนั้น ถึงไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจไม่เข้าใจด้วยจากสภาพที่มันเมาหนักเอาเรื่อง แต่ผมไม่เมามากนะ(ก็คอแข็งอ่ะคับ)
นั่งคุยไปคุยมาจนมันเริ่มสร่าง มันถามผมว่าหลังจากนี้ยังจีบอยู่มั้ย ผมก็ได้แต่ตอบว่าคงไม่แล้วแหละ ซึ่งตอนนั้นในใจผมนี่อย่างจุกเลยจากที่เมาอยู่นี่สร่างจัดเลย หลังจากวันนั้นเวลาเจอน้องเขา ผมก็แค่ยิ้มไหว้เขา แต่ก็ไม่ได้คุยไรกันเลย ของฝากผมก็ไม่ได้ซื้อให้อีก น้องเขาถามทำไมช่วงนี้เงียบๆ ก็ได้แต่บอกว่าช่วงนี้ยุ่งมากๆ เลยไม่มีเวลาคุย ไม่นานน้องเค้าก็หายไปจากผมเลย และผมก็พึ่งมารู้ทีหลังด้วยว่าน้องเขามีคนมาจีบเยอะอยู่ถึงว่าแหละ คงจะได้ใจติดนิสัย ผมนี่ยังโชคดีที่ปลีกตัวมาเร็ว ก่อนที่เธอคนนั้นจะทำให้ใจน้อยๆของพี่บ่าวพรื่อโช่ไปมากกว่านรี้ ฮืออออออ
.
.
.
เพื่อนๆคิดยังไงบ้างคับ หรือใครเคยมีประสบการณ์ ไปจีบใครหรือมีคนมาจีบแล้วแบบ เอาไปโม้ให้เพื่อนฟัง ในทำนองว่า ชั้นเนี่ยมีคนมาจีบเว้ยย เป็นไงหละพวกแก เค้าเอาใจชั้นใหญ่เลย ดูไอบ้าที่มาจีบฉันสิ น่าโง่เนาะ อะไรทำนองนี้
เมื่อก่อนผมก็เคยอยู่กลางวงสนธนาของเพื่อนสาวๆที่มาโม้ให้ฟังหลายครั้งว่ามีผู้มาจีบ และก็สนุกไปกับเขา แต่พอมาเจอกับตัวเองนี่รู้ซึ้งเลย จุกจี๊ด เสียความรู้สึกสุด สำสำหรับผมคิดว่า เหมือนเอาความรู้สึกดีๆที่เรามีให้ไปย่ำยีเล่นๆ เหมือนเค้าดูถูกความรักของเราเกินไป การที่เขาเอาไปโม้ต่อใครต่อใครฟังให้น่าอายและพยายามเหมือนทำให้เราอยู่ต่ำกว่าเพื่อให้เค้าอยู่จุดสูงกว่าในความสัมพันธ์ ผมว่าคนประเภทนี้โคตรtoxicเลย เจอใครก็ทำลายความมั่นใจ ความเชื่อใจไปหมด
ผมฝากกับใครๆไว้เลยนะ ใครที่โดนจีบไม่ว่าหญิงหรือชาย ถ้าไม่ชอบเขา ก็บอกไปตรงๆเลย อย่ามาเล่นตัวเลี้ยงความสัมพันธ์เพื่อที่จะเอาไปโม้แบบที่ผมโดนมาเลย อย่างแย่ เXี้ยยยยยๆ
ข้อคิดที่ฝากน้องๆวัยเรียนที่เข้ามาอ่าน..... รักในวัยเรียน อาจเหมือนจุดเทียนกลางสายฝน แต่ถ้ารักในวัยทำงานเหมือน เหมือนจุดเทียนกลางสายฝนระดับไต้ฝุ่นอ่ะคับ หาทั้งตังค์ หาทั้งความรัก แม่Jเอร้ยยยยยย
ขอโทษที่บ่นยาวไป ขอบคุณทุกคนที่เขามาอ่านเรื่องเง่าๆของผม...............ทั้งเศร้าทั้งหวิบว่ะ แต่ก็ต้องทำงานต่อไป
โอ๊ย จุกไปทั้งหัวใจ จีบสาวอยู่ดีๆ โดนเอาไปเม้าท์มอยเสียๆหายๆจนเพื่อนคนที่เราจีบมองเราแปลกๆ
คือ เรื่องมันมีอยู่ว่า ผมเนี่ยทำงานอยู่ บ.หนึ่งในแผนกวิศวกร แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่งผมไปส่งเอกสารในแผนกบัญชี แล้วเผอิญไปเห็นน้องพนักงานคนนึงในฝ่ายนั้นน่ารักดีก็เลยชอบ แต่ก็ไม่ได้ติดใจอะไรมาก แต่หลังจากวันนั้นในช่วงเช้าๆที่เข้าออฟฟิศ ก็เจอน้องเขาบ่อยขึ้นจึงทักทายกัน เริ่มทำความรู้จักกัน แต่ก็ไม่กล้าจีบ แต่เพื่อนๆในแผนกก็ยุว่า ถ้าเราชอบเขาจริง ก็แสดงออกไปมั่งดิวะ เดี๋ยวคนอื่นเขาแย่งเอาไป ผมเลยตัดสินใจจีบอย่างจริงๆจังๆ ว่าแล้วหลังจากวันนั้น ผมก็ซื้อของกิน ขนมบ้าง มาฝากในตอนเช้า บางวันเจอมั่งก็ให้ บางวันไม่เจอไม่เป็นไร เรากินเอง ไม่อยากบุกไปแผนกเขา กลัวเขาขายหน้า และอีกอย่างเดี๋ยวจะหาว่าคุกตาม คอยตามติดเขา ยิ่งช่วงนี้เรื่องการคุกคามความเป็นส่วนตัวนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ผมจึงต้องระวังเป็นพิเศษ อีกอย่างภาพจำแรกที่ผมเห็นน้องเขานั้นเป็นคนเรียบร้อย ขี้อายหน่อยๆ ......... หลังจากเป็นอย่างนี้อยู่พักหนึ่ง เกือบๆเดือน น้องเขาก็เริ่มเป็นคนเปิดบทสนทนาเองบ้าง เริ่มพูดมากขึ้น เล่นมุกหยอกล้อกัน ผมก็คิดในใจว่าเขาคงจะเปิดใจหน่อยๆแล้วแหละ จนถึงวันนึงเจ้านายผมให้เอาเอกสารไปเดินเรื่องกับแผนกบัญชี ผมก็อาสาไปเอง เพราะอยากเจอน้องเขาด้วยแหละ แต่พอไปถึงแผนกบัญชีเท่านั้น...บรรยากาศที่ผมสัมผัสได้คือสายตาคนในแผนกมองผมแปลกๆ มองหางตาบ้าง บางคนนั่งเม้ากัน ผมก็เหลือบตาไปมองน้องคนที่ผมแอบชอบ แต่เห็นน้องเขานั่งทำงานอยู่ไม่ได้มองมา ผมก็คิดว่าคงรู้สึกไปเองแหละ
พอผ่านไปเกือบอาทิตย์นึง ผมกับเพื่อนๆในแผนกก็นัดกินเบียร์กันหลังเลิกงาน แล้วก็มีเพื่อนของเพื่อนในที่ทำงานแผนกบัญชีมากินด้วย กินอยู่พักนึง(หมดไปลังกว่าๆ)จนเมากริ่มๆ เพื่อนที่มาจากแผนกบัญชีก็ถามว่า จีบน้อง....อยู่หรอ ผมก็คิดว่าคงเมาแล้วแหละเลยตอบส่งๆไปว่าใช่แล้วมีไรหรอ แต่หลังจากนั้นคำพูดต่างๆของเพื่อนทำให้ผมสับสนอยู่พักนึง เขาบอกกับผมว่า เนี่ยตามจีบน้องเค้าเกินไปป่าววะ ผมก็งง เพราะผมไม่ได้เจอน้องเค้าบ่อยเลยนะ สัปดาห์นึง3-4วัน บางวันเจอแต่ก็ไม่ได้คุยอะไรยิ้มทักก็แยก อีกอย่างช่วงหลังผมก็งานเยอะ ไหนจะต้องออกไปไซต์งาน ไหนจะไปเจอลูกค้าอีก ก็เลยตอบปฏิเสธไปแบบหวิบหน่อยๆ แต่เพื่อนก็ยังเถียงกับมาประมาณว่า จะไม่ได้ไง ก็เค้าคุยกันทั้งแผนกว่าผมเนี่ยตามจีบน้องเค้า ตามตอแยบ้าง ตามง้อบ้างหละ ของฝากมาเซอร์ไพร้ส์บ้างหละ จนน้องอายละเนี่ย ผมที่ฟังอย่างนั้นแล้วกลืนน้ำลายไปอึกนึง หันไปมองหน้าเพื่อนในแผนกที่มันแทบจะตัวติดกับผม 10ชมตั้งแต่เช้ายันกลับบ้าน มันก็รู้ดีกว่าผมชอบ และก็จีบน้องเค้า แต่ไม่ได้เป็นอย่างนั้นเลย หลังจากนั้นผมก็ปรับความเข้าใจกับเพื่อนบัญชีคนนั้น ถึงไม่รู้ว่ามันจะเข้าใจไม่เข้าใจด้วยจากสภาพที่มันเมาหนักเอาเรื่อง แต่ผมไม่เมามากนะ(ก็คอแข็งอ่ะคับ)
นั่งคุยไปคุยมาจนมันเริ่มสร่าง มันถามผมว่าหลังจากนี้ยังจีบอยู่มั้ย ผมก็ได้แต่ตอบว่าคงไม่แล้วแหละ ซึ่งตอนนั้นในใจผมนี่อย่างจุกเลยจากที่เมาอยู่นี่สร่างจัดเลย หลังจากวันนั้นเวลาเจอน้องเขา ผมก็แค่ยิ้มไหว้เขา แต่ก็ไม่ได้คุยไรกันเลย ของฝากผมก็ไม่ได้ซื้อให้อีก น้องเขาถามทำไมช่วงนี้เงียบๆ ก็ได้แต่บอกว่าช่วงนี้ยุ่งมากๆ เลยไม่มีเวลาคุย ไม่นานน้องเค้าก็หายไปจากผมเลย และผมก็พึ่งมารู้ทีหลังด้วยว่าน้องเขามีคนมาจีบเยอะอยู่ถึงว่าแหละ คงจะได้ใจติดนิสัย ผมนี่ยังโชคดีที่ปลีกตัวมาเร็ว ก่อนที่เธอคนนั้นจะทำให้ใจน้อยๆของพี่บ่าวพรื่อโช่ไปมากกว่านรี้ ฮืออออออ
.
.
.
เพื่อนๆคิดยังไงบ้างคับ หรือใครเคยมีประสบการณ์ ไปจีบใครหรือมีคนมาจีบแล้วแบบ เอาไปโม้ให้เพื่อนฟัง ในทำนองว่า ชั้นเนี่ยมีคนมาจีบเว้ยย เป็นไงหละพวกแก เค้าเอาใจชั้นใหญ่เลย ดูไอบ้าที่มาจีบฉันสิ น่าโง่เนาะ อะไรทำนองนี้
เมื่อก่อนผมก็เคยอยู่กลางวงสนธนาของเพื่อนสาวๆที่มาโม้ให้ฟังหลายครั้งว่ามีผู้มาจีบ และก็สนุกไปกับเขา แต่พอมาเจอกับตัวเองนี่รู้ซึ้งเลย จุกจี๊ด เสียความรู้สึกสุด สำสำหรับผมคิดว่า เหมือนเอาความรู้สึกดีๆที่เรามีให้ไปย่ำยีเล่นๆ เหมือนเค้าดูถูกความรักของเราเกินไป การที่เขาเอาไปโม้ต่อใครต่อใครฟังให้น่าอายและพยายามเหมือนทำให้เราอยู่ต่ำกว่าเพื่อให้เค้าอยู่จุดสูงกว่าในความสัมพันธ์ ผมว่าคนประเภทนี้โคตรtoxicเลย เจอใครก็ทำลายความมั่นใจ ความเชื่อใจไปหมด
ผมฝากกับใครๆไว้เลยนะ ใครที่โดนจีบไม่ว่าหญิงหรือชาย ถ้าไม่ชอบเขา ก็บอกไปตรงๆเลย อย่ามาเล่นตัวเลี้ยงความสัมพันธ์เพื่อที่จะเอาไปโม้แบบที่ผมโดนมาเลย อย่างแย่ เXี้ยยยยยๆ
ข้อคิดที่ฝากน้องๆวัยเรียนที่เข้ามาอ่าน..... รักในวัยเรียน อาจเหมือนจุดเทียนกลางสายฝน แต่ถ้ารักในวัยทำงานเหมือน เหมือนจุดเทียนกลางสายฝนระดับไต้ฝุ่นอ่ะคับ หาทั้งตังค์ หาทั้งความรัก แม่Jเอร้ยยยยยย
ขอโทษที่บ่นยาวไป ขอบคุณทุกคนที่เขามาอ่านเรื่องเง่าๆของผม...............ทั้งเศร้าทั้งหวิบว่ะ แต่ก็ต้องทำงานต่อไป