[BR] รีวิว 5 จุดเด่น NEW MG HS PHEV ที่ทำให้เป็นมากกว่ารถ SUV ที่เคยรู้จัก

กระทู้ผู้สนับสนุน
กระทู้รีวิว
ต้องบอกว่าช่วงที่ผ่านมา กระแสรถยนต์พลังงานทางเลือกในบ้านเราร้อนแรงเอามากๆ รวมถึงตลาดรถยนต์ประเภทอเนกประสงค์ SUV (Sport Utility Vehicle) ด้วยเช่นกัน ทำให้ผู้ผลิตหลายเจ้าต่างก็ส่งสินค้าของตัวเองเข้าสู่ตลาดมากขึ้น ทำเอาผู้บริโภคที่กำลังกำเงินอยู่ตัดสินใจแทบจะไม่ถูกเลยทีเดียว  และเมื่อการซื้อรถก็เปรียบเหมือนกับการลงทุนอย่างหนึ่ง ถ้าใครกำลังตั้งโจทย์ว่า อยากได้รถ SUV สักคัน ในขณะเดียวกันก็ต้องขับเคลื่อนด้วยพลังงานทางเลือก อย่างระบบ Plug-in Hybrid ด้วยแล้ว NEW MG HS PHEV คือคำตอบที่เราว่า  ‘ให้’ และ ‘เป็น’ ได้มากกว่ารถ SUV


เราขอเริ่มต้นหยิบกุญแจ กดปุ่มสตาร์ต และวอร์มเครื่อง ด้วยการพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ NEW MG HS PHEV นวัตกรรมยานยนต์แบบ Plug-in Hybrid ผลงานการปั้นจากเอ็มจี ที่ต้องขอบอกว่า NEW MG HS PHEV คันนี้เป็น SUV ที่ถูกพัฒนาต่อยอดมาจากรุ่นพี่ MG HS ที่ทำไว้อย่างสวยงาม โดยการมาครั้งนี้มาพร้อมกับแนวคิด REFINEMENT สมชื่อ มีความละเอียดและปราณีตขึ้นในหลายมิติ ตั้งแต่การออกแบบ เทคโนโลยีความปลอดภัย Feeling การขับขี่ ความบันเทิง และความฉลาดของระบบปฏิบัติการ i-SMART

ถึงตรงนี้ล้อพร้อมที่จะออกทะยานสู่ถนนแล้ว...หลายคนก็น่าจะอยากทราบแล้วว่า เพราะอะไรบ้างที่ทำให้ NEW MG HS PHEV คือคำตอบที่เราว่า ‘ให้’ และ ‘เป็น’ ได้มากกว่ารถ SUV...งั้นออกเดินทางกันเลย

สมรรถนะต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง

แต่ก่อนอาจมีคำพูดที่ว่า ซื้อรถที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ามาใช้ ระวังอืดนะ! หรือไฟหมดกลางทางจะทำอย่างไร? ลืมประโยคเหล่านี้ไปเสีย เพราะ NEW MG HS PHEV มาพร้อมกับนวัตกรรมระบบขับเคลื่อนแบบ Plug-in Hybrid มีพละกำลังสูงสุด 284 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 480 นิวตันเมตร เป็นการผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์เทอร์โบ ขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 162 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร ขณะที่มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร ขับขี่ใกล้ไกลสมรรถนะรถก็ไม่ทำให้ผิดหวัง และยังช่วยประหยัดน้ำมันด้วย

ในส่วนของแบตเตอรีก็ต้องบอกว่าไม่ธรรมดา โดยเป็นแบบ Lithium-Ion แบบ 6 โมดูล ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแบตเตอร์รีขั้นสูง มีขนาดใหญ่ถึง 16.6 kWh ทำให้สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% (EV Mode) ได้ไกลถึง 67 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง


หน้าตาชวนมอง ทั้งภายนอกและภายใน

การจะซื้ออะไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องแบ่งคะแนนให้เรื่องความสวยความงาม หรือดีไซน์ด้วยเหมือนกัน ที่ผ่านมา ดีไซน์ของ “MG HS” รุ่นพี่ทำไว้ได้ชนิดดีมากอยู่แล้ว ทั้งทรวดทรงอกเอว พอมาเป็น NEW MG HS PHEV เราก็ต้องบอกว่าหน้าตาสวยหรูละม้ายคล้ายกับรุ่นพี่ไล่เรียงตั้งแต่ เส้นสายตัวถังที่โค้งมนในรูปแบบ British Shoulder Line, กระจังหน้าแบบ Stellar Magnetic Field, ไฟหน้า LED Projector พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ, ไฟส่องสว่างสำหรับขับขี่เวลากลางวัน (Daytime Running Lights), ไฟท้าย LED Space Light Field ที่โฉบเฉี่ยวและไฟเลี้ยวแบบ Sequential ที่แสดงผลแบบไล่ระดับทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพิ่มความแตกต่างด้วยล้ออัลลอยด์ดีไซน์ใหม่ในสไตล์ Thunder Wing Blade ขนาด 18 นิ้ว

ภายนอกที่ว่าสะกดตาจนเหลียวหลัง ด้านในก็แพรวพราวไม่แพ้กันครับ มีลูกเล่นมากขึ้น ด้วยการตกแต่ง เป็นแบบสองสี 2-Tone Monaco Blue เบาะนั่งคู่เป็นแบบ Sport Bucket Seat ที่ตกแต่งด้วยวัสดุ Alcantara และเพิ่มความเป็นส่วนตัวในห้องโดยสารด้วย NVH Luxury Silence Space และแผ่นซับเสียงภายในห้องโดยสาร พร้อมหลังคาหลังคาซันรูฟที่เปิดกว้างแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof)



เป็นเพื่อนรู้ใจและให้ความสะดวกสบายกว่าที่เคย

ยุคนี้รถยนต์แทบจะกลายเป็นเพื่อนสนิทตัวติดกันของใครหลายคนไปแล้ว หรืออาจจะเป็นห้องกินข้าว ห้องประชุม โต๊ะเครื่องแป้ง บางครั้งยังต้องแปลงร่างเป็นห้องเก็บของด้วย การเลือกซื้อรถ SUV มาใช้งานก็เพื่อตอบโจทย์วิถึชีวิตที่ไม่ซ้ำกันแบบนี้ เรื่องเหล่านี้ไม่ต้องว่ากันเยอะ NEW MG HS PHEV เก็บหมด ทั้งพื้นที่ใช้สอยสไตล์ SUV อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจอแสดงผลอัจฉริยะ Full Virtual Dashboard ขนาด 12 นิ้ว ดูสปอร์ต สวยงาม ที่แสดงข้อมูลการขับขี่อย่างครบถ้วน และจอทัชกรีนขนาด 10 นิ้ว มีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย พร้อมลำโพง BOSE 8.1 Sound System ให้คุณฟังเพลงเพลินๆ ได้ตลอดทาง ที่สำคัญยังมีระบบกรองอากาศ PM 2.5 ด้วย

ขณะที่ในส่วนของฟังก์ชันเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกการขับขี่ เข้าขั้นรู้ใจด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART เมื่ออยู่ในรถก็สามารถสั่งการระบบด้วยเสียงภาษาไทยได้ โดยไม่ต้องปล่อยมือจากพวงมาลัย จะสั่งเปิด Sunroof เปิดเพลง ปรับแอร์ ก็ทำได้ หรือหากไม่อยู่ที่รถก็สามารถสั่งการระบบ หรือตรวจเช็กรถได้ง่ายๆ ผ่านแอพพลิเคชั่นบนสมาร์ทโฟน ทำให้รู้สถานะของรถได้ตลอดเวลา จะเช็กสถานะแบตเตอรี สถานะประตู ตำแหน่งที่จอด หรือสั่งเปิดแอร์ก่อนขึ้นรถ ก็แค่ปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น อีกฟังก์ชันที่น่าสนใจของระบบ i-SMART นั่นคือ Emergency Call เป็นระบบโทรหาคนสำคัญอัตโนมัติในกรณีฉุกเฉินเมื่อถุงลมนิรภัยทำงาน  ถือเป็น SUV Plug-in Hybrid ที่มาพร้อมเทคโนโลยี และให้ความสบายที่มากกว่า



เทคโนโลยีความปลอดภัยใส่ใจมาแบบเต็มๆ

อุบัติเหตุ ไม่ว่าใครก็ไม่อยากให้เกิด ดังนั้น Safety First ปลอดภัยไว้ก่อนจึงสำคัญมาก NEW MG HS PHEV ก็จัดมาแบบเต็มพิกัดในเรื่องระบบความปลอดภัย มีการติดตั้งระบบความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปที่เรียกว่า Advance Synchronized Protection System กว่า 25 ระบบ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุทุกรูปแบบ โดยแบ่งออกเป็นระบบความปลอดภัยเชิงป้องกันก่อนเกิดอุบัติเหตุที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรก และช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ จำนวน 14 ระบบ  และระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ Advanced Driver Assistance System (ADAS) หรือระบบช่วยควบคุมการ ขับขี่ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ จำนวน 11 ระบบซึ่งระบบ ADAS นี้ ถือเป็นระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติ ระดับที่ 2 (Partial Automation) คือ รถยนต์สามารถควบคุมความเร็ว หรือควบคุมการหมุนพวงมาลัยผ่านได้โดยอัตโนมัติ แต่ผู้ขับขี่ยังคงมีหน้าที่หลัก ในการสังเกตสิ่งกีดขวาง ประเมินสถานการณ์ และตอบสนองต่อเหตุการณ์ต่างๆ อยู่ 11 ระบบที่ว่า ประกอบไปด้วย

กลุ่มระบบที่ช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดจากมุมอับสายตา RDA (Rear Drive Assist)
•    ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
•    ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
•    ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
•    ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู DOW (Door Open Warning)

กลุ่มระบบเตือนและควบคุมให้รถอยู่ในเลน LAS (Lane Assist System)
•    ระบบช่วยเตือนเมื่อรถออกนอกเลน LDW (Lane Departure Warning)
•    ระบบช่วยควบคุมรถเมื่อรถจะออกนอกเลน LDP (Lane Departure Prevention)
•    ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในเลน LKA (Lane Keep Assist)

กลุ่มระบบที่ช่วยในการขับขี่ FDA (Front Drive Assist)
•    ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน ACC (Adaptive Cruise Control)
•    ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติเมื่อความเร็วต่ำ TJA (Traffic Jam Assist)
•    ระบบช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนรถยนต์คันหน้าในขณะขับขี่ FCW (Forward Collision Warning)
•    ระบบเปิด-ปิดไฟสูงอัตโนมัติ IHC (Intelligent High-Beam Control)

นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ความปลอดภัยอื่นๆ อาทิ จุดยึดเบาะนั่งเด็ก ISOFIX ระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock) เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัย 6 จุด กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ (3D Around View Monitor) และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer


เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ข้อสุดท้ายที่เราลงคะแนนให้ NEW MG HS PHEV คือคำตอบล่าสุดที่ ‘ให้’ และ ‘เป็น’ ได้มากกว่า SUV นอกจากการมาพร้อมกับเทคโนโลยี Plug-in Hybrid ขับเคลื่อนด้วยเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้า มีอัตราการประหยัดน้ำมันสูงสุดอยู่ที่ 65 กิโลเมตรต่อลิตร  ทั้งยังช่วยลดมลพิษทางอากาศ ด้วยการปล่อยค่าไอเสียน้อยมาก แค่ 36 กรัมต่อกิโลเมตร (อ้างอิงข้อมูลจาก ECO Sticker)

NEW MG HS PHEV มาพร้อมระบบ KERS (Kinetic Energy Recovery System) ที่สามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) เลือกได้ถึง 3 ระดับ ช่วยลดการใช้น้ำมันได้มากขึ้นอีกด้วย


ก่อนจะถึงสุดหมายปลายทางในอีกหนึ่งนาทีข้างหน้า เราก็ขอกล่าวทิ้งท้ายไว้ว่า จริงๆ การเลือกซื้อรถมาใช้งาน หลักๆ ก็อยู่ที่ ความชอบ การใช้ และงบประมาณ เพราะไลฟ์สไตล์แต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าอยากได้รถยนต์ SUV พลังงานทางเลือกที่ ’ให้’ และ ’เป็น’ มากกว่ารถยนต์ SUV เปิดประสบการณ์ใหม่แห่งการขับขี่ที่เหนือกว่า ปลอดภัยกว่า และประหยัดพลังงานกว่าที่เคยรู้จักมา ต้องเลือก NEW MG HS PHEV นี่ละ!

คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mgcars.com/th/mg-models/new-mg-hs-phev/overview

[Advertorial]
ชื่อสินค้า:   NEW MG HS PHEV
คะแนน:     

BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่