กระทู้นี้ขอแชร์โพสจากคุณ ติ๊ก Playground ผู้แปลเนื้อภาษาไทย
และคุณ ไผ่ Pongwiwat Chairat ทีมงานเบื้องหลังโชว์ครั้งนี้ครับ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=226238485962737&id=100057297615841
ช่วงเพื่อนกันวันละเพลง วันนี้แอบไปแปลเพลงให้วงที่แอบเชียร์อยู่เสมออย่างน้องๆ CGM48 มาฮะ
เพลงนี้ชื่อว่า あなたがいてくれたから (anata ga ite kureta kara) หรือชื่อไทยว่า "บ้านแห่งหัวใจ"ครับ
เป็นเพลงที่ตอนแปลอินมากๆ ด้วยความที่เวลาผมจะแต่งเพลงให้แปลเพลงของกลุ่ม 48
นอกจากข้อมูลที่ทางทีมงานให้มาแล้วผมมักจะทำรีเสิร์ช Side Stroy ต่างๆในเพลงนั้นๆด้วย
เพื่อทำความเข้าใจและอินกับบทเพลงนั้นๆมากขึ้น ซึ่งเพลงนี้ระหว่างที่ทำรีเสิร์ชผมก็ไปเจอบทความนึง
ที่มีชื่อบทความเดียวกับชื่อเพลงนี้ และเป็นเรื่องราวของ ซัชชี่ สมาชิก วง AKB48 และ HKT48
เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของเค้ากับคุณย่าและบ้านเกิด (ไว้มีโอกาสจะเล่าให้ฟังนะครับ)
เป็นบทความที่ซึ้งมากๆ ซึ้งจนผมร้องไห้ไม่หยุดเลยฮะ
เป็นการร้องไห้จากความซาบซึ้งของความสวยงามในความสัมพันธ์ ของคนที่จากบ้านไปทำตามความฝันกับคนที่คอยเชียร์อยู่จากบ้านเกิด
มันอบอุ่นและตัวผมเองแอบรู้สึกว่าเข้าใจเป็นอย่างดี ในฐานะที่เราเองก็เป็นศิลปินและได้รับสิ่งเหล่านี้จากครอบครัวและแฟนเพลงเสมอมาเหมือนกัน
เลยตั้งใจว่าจะแปลเพลงนี้ให้ซาบซึ้งแบบเดียวกับที่เรารู้สึกจากการอ่านบทความนี้ให้ได้
.
วันนี้ครูเอ๊ะส่งคลิปการแสดงสดเพลงนี้ครั้งแรกมาให้ดูแล้วเล่าว่า น้องๆสมาชิกหลายๆคนร้องไห้
(รวมไปถึงแฟนเพลงข้างล่างพอเห็นน้องร้องไห้ก็ร้องตามด้วย)
แล้วรู้สึกยินดีมากๆที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสัมพันธ์ที่สวยงามอย่างในเพลงนี้นะครับ
.
ขอบคุณ @kru_aeh ที่ชวนมาแปลเพลงนี้นะครับ
และเป็นกำลังใจให้น้องๆ @cgm48official เติบโตขึ้นมาเป็นมะลิที่สวยงามนะครับ
.
#บ้านแห่งหัวใจ
#cgm48 #cgm483rdsingle
#เพราะโลกใบนี้คือสนามเด็กเล่น
https://www.facebook.com/pongwiwatchairat/posts/3813091052060234
มีเรื่องอยากมาเล่ายาวมากนะอันนี้
วันนี้จะมาเขียนเรื่องซีนคอนเสิร์ตและวิธีคิดของผมกับคอนเสิร์ตแบบไอดอล
ซึ่งก็ต้องขอโทษทุกคนก่อนที่ชอบพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกทำให้อ่านยากในบางทีนะครับ
ในทุกครั้งที่ผมกับทีมคิดธีมโชว์ภาพรวมต่างๆเราจะนำทุกอย่างมานั่งพูดกันว่าบนเวทีแต่ละเพลงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ภาพของจุ้ย Benjapol Osathanugrah จะเป็นยังไง วิชวลของบาส Nutthapat Suay-raj จะออกแนวไหน
แล้วรวมไปถึงนำไปคุยกับซัฟว่าไฟกับเอฟเฟคควรเป็นไปในแนวไหน
แต่ครั้งนี้เนื่องจากผมไม่ได้อยู่กับเพื่อนๆที่ออฟฟิศแล้วการทำงานครั้ง
ทุกอย่างจึงออกมาจากแบบที่พวกจุ้ยและบาสคิดแล้วผมนำมาต่อยอดให้เกิดภาพความจริงที่สุด
โดยเพื่อนเจ๋ง จิรัสย์ภูมิ บวรพัฒน์นนท์ แห่ง vls เพื่อนรักของผมที่มาช่วยงาน ในฐานะ ซัฟพลายเออร์เครื่องเสียงไฟ
มาช่วยคิดแบบไฟให้ทั้งหมดว่าควรมีอะไรแบบไหนบ้าง
แถมยังช่วยแตกแบบจากกระดาษแผ่นเดียวให้เกิดเป็นโครงสร้างจริงๆว่ามันต้องใหญ่แค่ไหนใช้นั้งร้านกี่ชั้นใดใด
และครั้งนี้ยังได้พี่ปิง Ping Thanasan Sricham กับพี่แพทBodipatt Aswamanasak จาก บริษัทหน้าตั้ง
ที่ฝากผลงานด้านคอนเสิร์ตไว้มากมายถ้าจะเอาให้คนเชียงใหม่เห็นภาพชัดๆก็คือบริษัทที่ทำโชว์ทั้งหมดของงานเชียงใหญ่เฟส
และทีมนี้ยังเคยฝากผลงานการทำโชว์ในคอนเสิร์ตรุ่น 2 ของวงพี่สาวBNK 48มาแล้วนั้น
ต้องบอกว่าได้เพื่อนสนิทสุดที่รักอีกสองคนมาช่วยทำโชว์ให้สมูทไหลลื่นไปอย่างดี
ทำให้ตัวผมก็คงมีเพียงหน้าที่เดียวคือ เอาแต่ใจว่าเพลงไหนอยากได้อะไรก็ปรับตามฉันเท่านั้นนะ
และส่วนสำคัญที่ผมชอบคิดและชอบทำที่สุดคือเอฟเฟคต่างๆเพื่อสร้างอารมณ์ของโชว์ให้อิมแพคมากยิ่งขึ้น
โดยปกติแล้วทุกๆครั้งในการทำโชว์เราจะมีการสรุปกับศิลปินทุกครั้งว่าเราจะมีเอฟเฟคใดใดบ้างในเพลงไหน
หรือศิลปินเองต้องการใช้ในเพลงไหนของโชว์ของศิลปินคนนั้นๆ
เพื่อความปลอดภัยของตัวศิลปินเองและการทำให้เอฟเฟคได้เสริมสร้างโชว์ได้อย่างเต็มที่อย่างที่มันควรจะเป็น
ครั้งแรกตอนเปิดตัวเพลง เชียงใหม่106
อันนี้ต้องให้เครดิตกับเพื่อนเจ๋งที่เกิดจากเรานั่งคุยกันผ่านเพลงเวอร์ชั่นญี่ปุ่นในตอนนั้น
แล้วเจ๋งคิดว่ามันควรเป็นการขับรถเข้าเมืองเชียงใหม่ในตอนเช้าและเห็นน้ำค้างที่ยอดใบไม้
มันจึงเกิดเป็นบับเบิ้ลในเพลงเชียงใหม่ 106 ในตอนนั้น
ส่วนโชว์ซิงเกิ้ลที่สองเป็นเพลงเมล่อนเป็นความตั้งใจที่ผมคุยกับทีมสร้าง mv ว่าผมจะใส่เปเปอร์ชู๊ตเข้าไปตอนโชว์ ซึ่งทีม mv ก็ชอบและเห็นด้วย
แต่ในการโชว์ครั้งนี้เราสร้างสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นโดยการพูดคุยกันกับบาสและจุ้ยว่าเราอยากได้ทะเลดาวในงานของเราสักครั้ง
ซึ่งคงไม่มีครั้งไหนเหมาะไปกว่าครั้งนี้แล้วแหละ เราอยู่ในฮอลล์มีเพลงช้าๆเพราะๆซึ้งๆมันเป็นเวลาที่เหมาะกับการเล่นทะเลดาวที่สุด
แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากได้คือการที่น้องๆได้รับความรักความประทับใจแบบนั้นบนเวทีด้วย
เราจึงตัดสินใจไม่บอกน้องว่าเราร่วมมือกับแฟนคลับสร้างทะเลดาวไปด้วยกัน ภาพที่ได้มาก็อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ
มาในครั้งนี้พอได้รับโจทย์ว่ามีเพลงอะไรบ้างเป็นยังไงบ้างผมก็มานั้งคิดอีกว่าควรต้องใช้เอฟเฟคในตอนไหนช่วงไหนของเพลงบ้าง
สำหรับ มะลิ ผมตั้งใจให้กดเอฟเฟค CO2 ในท่อนพรีคอรัส พี่ปิงบอกว่ามันเป็นการกดแบบจังหวะ 2/4
สำหรับผมพอฟังเพลงแล้วคิดว่ามันน่าจะเป็นท่อนที่ทุกคนน่าจะยิงมิกซ์ได้
หรืออะไรที่ทุกคนเรียกกันที่เค้าจะร้องโอ้ยยยย โอ้ยยย สักอย่างหนึ่งนั้นแหละครับ
โจทย์มาถึงเพลงช้าอีกเพลงหนึ่งที่น้องๆทุกคนขึ้นบนเวทีพร้อมกันและเป็นเพลงช้าๆเพราะๆซึ้งๆ เข้าทางไผ่ล่ะ
อย่างหนึ่งต้องขอขอบคุณพี่โอ๋เอฟเฟคก่อนนะครับที่ แถม!!! เอฟเฟคโบเวอร์ให้เราได้มาใช้ในเพลงนี้ ขอบคุณมากจริงๆครับ
กลับมาที่โจทย์ของเราคือเราอยู่กลางแจ้งเพลงสุดท้ายร้องพร้อมกันเพลงเพราะช้าซึ้ง
เมื่อครั้งที่แล้วผมเขียนเรื่องหนึ่งแล้วบอกว่ากำลังไล่ดูโชว์เก่าๆอยู่ว่าทำไรไปบ้างแล้วใช่มั้ยครับ
นั่นแหละครับสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำคือเจ้ากระดาษโปรยลงมาจากฟ้า
พาน้องๆของเราไปอีกมิติหนึ่งครับพวกเรานั่งคุยกันสามคนกับพี่ปิง
พี่แพทว่าช่วงเวลาไหนที่ปล่อยแล้วมันจะได้อิมแพคที่สุดสรุปมาก็คือช่วงเวลาหลังโซโล่ของเพลง
และอีกเช่นเคยครับเพลงก่อนหน้านี้ทุกเพลงเราแจ้งน้องทั้งหมดว่ามีเอฟเฟคอะไรบ้าง
แต่เพลงนี้ไม่ครับ ผมเองตั้งใจพาน้องไปพบกับอารมณ์ใหม่ที่เค้าจะได้เห็นมัน
เพลงนี้ถ้าใครได้ดูคลิปที่ออกมาบ้างแล้วจะเห็นว่าน้องๆหลุดครับทั้งร้องไห้
ทั้งเต้นผิดทุกอย่างเพราะมันเกิดขึ้นจากอารมณ์ที่แท้จริงความสุขที่พวกเค้าได้รับในเวลานั้นมันจะเรียลมากครับ
น้องจะกลับมาเต้นเพลงนี้ได้ดีในทุกๆโชว์ต่อไปครับเพราะถูกฝึกมาแบบนั้น
แต่นี่แหละครับคือเสน่ห์ของการเปิดตัวเพลงใหม่ครั้งแรกของวง CGM48 ที่พวกเราทุกๆคนช่วยกันคิดและสร้างมันขึ้นมา
สุดท้ายเหมือนผมพูดทุกครั้งครับชอบไม่ชอบ ดีไม่ดีอยู่ที่ทุกๆคนชอบมันมั้ยครับ
ส่วนตัวผมผมมีความสุขกับงานครั้งนี้มาก และขอบอกเลยว่าถ้าผมได้มีโอกาสทำคอนใหญ่ให้ CGM48
ทุกเอฟเฟคที่เราเล่นไปมันจะต้องกลับมาในทุกๆเพลงของเค้าครับ
แต่ถ้าไม่ได้กลับมาแล้วก็ขอฝากบทความนี้เป็นทรงจำที่ดีไว้นะครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับอ่านกันรู้เรื่องมั้ย ยาวมากจริงๆ รักและขอบคุณมากครับ
เรื่องราวของเพลง [ บ้านแห่งหัวใจ ] และซีนสุดประทับใจในงานเปิดตัว
และคุณ ไผ่ Pongwiwat Chairat ทีมงานเบื้องหลังโชว์ครั้งนี้ครับ
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=226238485962737&id=100057297615841
ช่วงเพื่อนกันวันละเพลง วันนี้แอบไปแปลเพลงให้วงที่แอบเชียร์อยู่เสมออย่างน้องๆ CGM48 มาฮะ
เพลงนี้ชื่อว่า あなたがいてくれたから (anata ga ite kureta kara) หรือชื่อไทยว่า "บ้านแห่งหัวใจ"ครับ
เป็นเพลงที่ตอนแปลอินมากๆ ด้วยความที่เวลาผมจะแต่งเพลงให้แปลเพลงของกลุ่ม 48
นอกจากข้อมูลที่ทางทีมงานให้มาแล้วผมมักจะทำรีเสิร์ช Side Stroy ต่างๆในเพลงนั้นๆด้วย
เพื่อทำความเข้าใจและอินกับบทเพลงนั้นๆมากขึ้น ซึ่งเพลงนี้ระหว่างที่ทำรีเสิร์ชผมก็ไปเจอบทความนึง
ที่มีชื่อบทความเดียวกับชื่อเพลงนี้ และเป็นเรื่องราวของ ซัชชี่ สมาชิก วง AKB48 และ HKT48
เป็นเรื่องราวความสัมพันธ์ของเค้ากับคุณย่าและบ้านเกิด (ไว้มีโอกาสจะเล่าให้ฟังนะครับ)
เป็นบทความที่ซึ้งมากๆ ซึ้งจนผมร้องไห้ไม่หยุดเลยฮะ
เป็นการร้องไห้จากความซาบซึ้งของความสวยงามในความสัมพันธ์ ของคนที่จากบ้านไปทำตามความฝันกับคนที่คอยเชียร์อยู่จากบ้านเกิด
มันอบอุ่นและตัวผมเองแอบรู้สึกว่าเข้าใจเป็นอย่างดี ในฐานะที่เราเองก็เป็นศิลปินและได้รับสิ่งเหล่านี้จากครอบครัวและแฟนเพลงเสมอมาเหมือนกัน
เลยตั้งใจว่าจะแปลเพลงนี้ให้ซาบซึ้งแบบเดียวกับที่เรารู้สึกจากการอ่านบทความนี้ให้ได้
.
วันนี้ครูเอ๊ะส่งคลิปการแสดงสดเพลงนี้ครั้งแรกมาให้ดูแล้วเล่าว่า น้องๆสมาชิกหลายๆคนร้องไห้
(รวมไปถึงแฟนเพลงข้างล่างพอเห็นน้องร้องไห้ก็ร้องตามด้วย)
แล้วรู้สึกยินดีมากๆที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในความสัมพันธ์ที่สวยงามอย่างในเพลงนี้นะครับ
.
ขอบคุณ @kru_aeh ที่ชวนมาแปลเพลงนี้นะครับ
และเป็นกำลังใจให้น้องๆ @cgm48official เติบโตขึ้นมาเป็นมะลิที่สวยงามนะครับ
.
#บ้านแห่งหัวใจ
#cgm48 #cgm483rdsingle
#เพราะโลกใบนี้คือสนามเด็กเล่น
https://www.facebook.com/pongwiwatchairat/posts/3813091052060234
มีเรื่องอยากมาเล่ายาวมากนะอันนี้
วันนี้จะมาเขียนเรื่องซีนคอนเสิร์ตและวิธีคิดของผมกับคอนเสิร์ตแบบไอดอล
ซึ่งก็ต้องขอโทษทุกคนก่อนที่ชอบพิมพ์ผิดพิมพ์ถูกทำให้อ่านยากในบางทีนะครับ
ในทุกครั้งที่ผมกับทีมคิดธีมโชว์ภาพรวมต่างๆเราจะนำทุกอย่างมานั่งพูดกันว่าบนเวทีแต่ละเพลงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
ภาพของจุ้ย Benjapol Osathanugrah จะเป็นยังไง วิชวลของบาส Nutthapat Suay-raj จะออกแนวไหน
แล้วรวมไปถึงนำไปคุยกับซัฟว่าไฟกับเอฟเฟคควรเป็นไปในแนวไหน
แต่ครั้งนี้เนื่องจากผมไม่ได้อยู่กับเพื่อนๆที่ออฟฟิศแล้วการทำงานครั้ง
ทุกอย่างจึงออกมาจากแบบที่พวกจุ้ยและบาสคิดแล้วผมนำมาต่อยอดให้เกิดภาพความจริงที่สุด
โดยเพื่อนเจ๋ง จิรัสย์ภูมิ บวรพัฒน์นนท์ แห่ง vls เพื่อนรักของผมที่มาช่วยงาน ในฐานะ ซัฟพลายเออร์เครื่องเสียงไฟ
มาช่วยคิดแบบไฟให้ทั้งหมดว่าควรมีอะไรแบบไหนบ้าง
แถมยังช่วยแตกแบบจากกระดาษแผ่นเดียวให้เกิดเป็นโครงสร้างจริงๆว่ามันต้องใหญ่แค่ไหนใช้นั้งร้านกี่ชั้นใดใด
และครั้งนี้ยังได้พี่ปิง Ping Thanasan Sricham กับพี่แพทBodipatt Aswamanasak จาก บริษัทหน้าตั้ง
ที่ฝากผลงานด้านคอนเสิร์ตไว้มากมายถ้าจะเอาให้คนเชียงใหม่เห็นภาพชัดๆก็คือบริษัทที่ทำโชว์ทั้งหมดของงานเชียงใหญ่เฟส
และทีมนี้ยังเคยฝากผลงานการทำโชว์ในคอนเสิร์ตรุ่น 2 ของวงพี่สาวBNK 48มาแล้วนั้น
ต้องบอกว่าได้เพื่อนสนิทสุดที่รักอีกสองคนมาช่วยทำโชว์ให้สมูทไหลลื่นไปอย่างดี
ทำให้ตัวผมก็คงมีเพียงหน้าที่เดียวคือ เอาแต่ใจว่าเพลงไหนอยากได้อะไรก็ปรับตามฉันเท่านั้นนะ
และส่วนสำคัญที่ผมชอบคิดและชอบทำที่สุดคือเอฟเฟคต่างๆเพื่อสร้างอารมณ์ของโชว์ให้อิมแพคมากยิ่งขึ้น
โดยปกติแล้วทุกๆครั้งในการทำโชว์เราจะมีการสรุปกับศิลปินทุกครั้งว่าเราจะมีเอฟเฟคใดใดบ้างในเพลงไหน
หรือศิลปินเองต้องการใช้ในเพลงไหนของโชว์ของศิลปินคนนั้นๆ
เพื่อความปลอดภัยของตัวศิลปินเองและการทำให้เอฟเฟคได้เสริมสร้างโชว์ได้อย่างเต็มที่อย่างที่มันควรจะเป็น
ครั้งแรกตอนเปิดตัวเพลง เชียงใหม่106
อันนี้ต้องให้เครดิตกับเพื่อนเจ๋งที่เกิดจากเรานั่งคุยกันผ่านเพลงเวอร์ชั่นญี่ปุ่นในตอนนั้น
แล้วเจ๋งคิดว่ามันควรเป็นการขับรถเข้าเมืองเชียงใหม่ในตอนเช้าและเห็นน้ำค้างที่ยอดใบไม้
มันจึงเกิดเป็นบับเบิ้ลในเพลงเชียงใหม่ 106 ในตอนนั้น
ส่วนโชว์ซิงเกิ้ลที่สองเป็นเพลงเมล่อนเป็นความตั้งใจที่ผมคุยกับทีมสร้าง mv ว่าผมจะใส่เปเปอร์ชู๊ตเข้าไปตอนโชว์ ซึ่งทีม mv ก็ชอบและเห็นด้วย
แต่ในการโชว์ครั้งนี้เราสร้างสิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นโดยการพูดคุยกันกับบาสและจุ้ยว่าเราอยากได้ทะเลดาวในงานของเราสักครั้ง
ซึ่งคงไม่มีครั้งไหนเหมาะไปกว่าครั้งนี้แล้วแหละ เราอยู่ในฮอลล์มีเพลงช้าๆเพราะๆซึ้งๆมันเป็นเวลาที่เหมาะกับการเล่นทะเลดาวที่สุด
แต่สิ่งหนึ่งที่เราอยากได้คือการที่น้องๆได้รับความรักความประทับใจแบบนั้นบนเวทีด้วย
เราจึงตัดสินใจไม่บอกน้องว่าเราร่วมมือกับแฟนคลับสร้างทะเลดาวไปด้วยกัน ภาพที่ได้มาก็อย่างที่เห็นนั่นแหละครับ
มาในครั้งนี้พอได้รับโจทย์ว่ามีเพลงอะไรบ้างเป็นยังไงบ้างผมก็มานั้งคิดอีกว่าควรต้องใช้เอฟเฟคในตอนไหนช่วงไหนของเพลงบ้าง
สำหรับ มะลิ ผมตั้งใจให้กดเอฟเฟค CO2 ในท่อนพรีคอรัส พี่ปิงบอกว่ามันเป็นการกดแบบจังหวะ 2/4
สำหรับผมพอฟังเพลงแล้วคิดว่ามันน่าจะเป็นท่อนที่ทุกคนน่าจะยิงมิกซ์ได้
หรืออะไรที่ทุกคนเรียกกันที่เค้าจะร้องโอ้ยยยย โอ้ยยย สักอย่างหนึ่งนั้นแหละครับ
โจทย์มาถึงเพลงช้าอีกเพลงหนึ่งที่น้องๆทุกคนขึ้นบนเวทีพร้อมกันและเป็นเพลงช้าๆเพราะๆซึ้งๆ เข้าทางไผ่ล่ะ
อย่างหนึ่งต้องขอขอบคุณพี่โอ๋เอฟเฟคก่อนนะครับที่ แถม!!! เอฟเฟคโบเวอร์ให้เราได้มาใช้ในเพลงนี้ ขอบคุณมากจริงๆครับ
กลับมาที่โจทย์ของเราคือเราอยู่กลางแจ้งเพลงสุดท้ายร้องพร้อมกันเพลงเพราะช้าซึ้ง
เมื่อครั้งที่แล้วผมเขียนเรื่องหนึ่งแล้วบอกว่ากำลังไล่ดูโชว์เก่าๆอยู่ว่าทำไรไปบ้างแล้วใช่มั้ยครับ
นั่นแหละครับสิ่งที่เรายังไม่ได้ทำคือเจ้ากระดาษโปรยลงมาจากฟ้า
พาน้องๆของเราไปอีกมิติหนึ่งครับพวกเรานั่งคุยกันสามคนกับพี่ปิง
พี่แพทว่าช่วงเวลาไหนที่ปล่อยแล้วมันจะได้อิมแพคที่สุดสรุปมาก็คือช่วงเวลาหลังโซโล่ของเพลง
และอีกเช่นเคยครับเพลงก่อนหน้านี้ทุกเพลงเราแจ้งน้องทั้งหมดว่ามีเอฟเฟคอะไรบ้าง
แต่เพลงนี้ไม่ครับ ผมเองตั้งใจพาน้องไปพบกับอารมณ์ใหม่ที่เค้าจะได้เห็นมัน
เพลงนี้ถ้าใครได้ดูคลิปที่ออกมาบ้างแล้วจะเห็นว่าน้องๆหลุดครับทั้งร้องไห้
ทั้งเต้นผิดทุกอย่างเพราะมันเกิดขึ้นจากอารมณ์ที่แท้จริงความสุขที่พวกเค้าได้รับในเวลานั้นมันจะเรียลมากครับ
น้องจะกลับมาเต้นเพลงนี้ได้ดีในทุกๆโชว์ต่อไปครับเพราะถูกฝึกมาแบบนั้น
แต่นี่แหละครับคือเสน่ห์ของการเปิดตัวเพลงใหม่ครั้งแรกของวง CGM48 ที่พวกเราทุกๆคนช่วยกันคิดและสร้างมันขึ้นมา
สุดท้ายเหมือนผมพูดทุกครั้งครับชอบไม่ชอบ ดีไม่ดีอยู่ที่ทุกๆคนชอบมันมั้ยครับ
ส่วนตัวผมผมมีความสุขกับงานครั้งนี้มาก และขอบอกเลยว่าถ้าผมได้มีโอกาสทำคอนใหญ่ให้ CGM48
ทุกเอฟเฟคที่เราเล่นไปมันจะต้องกลับมาในทุกๆเพลงของเค้าครับ
แต่ถ้าไม่ได้กลับมาแล้วก็ขอฝากบทความนี้เป็นทรงจำที่ดีไว้นะครับ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้นะครับอ่านกันรู้เรื่องมั้ย ยาวมากจริงๆ รักและขอบคุณมากครับ