JJNY : เคเอ็นยูขู่ยิงถล่ม-หากส่งข้าวให้เมียนมา│โกง‘ม.33 เรารักกัน’ทำกันว่อน│ชูศักดิ์ยันเนื้อหาม.9│ก๊วนส.ว.เอาอีกแล้ว

เคเอ็นยูขู่ยิงถล่ม-หากส่งข้าวให้เมียนมา
https://www.nationtv.tv/main/content/378819062/?aig=

 
วันที่ 23 มีนาคม 2564 แหล่งข่าวหน่วยงานความมั่นคงระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทย ได้มีการประชุมเร่งด่วนที่ค่ายทหารพราน กรมทหารพรานที่ 36 อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน โดยในการประชุมมีแนวโน้มว่า จะให้มีการขนข้าวสารของทหารเมียนมา ที่กองไว้ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน กลับไปที่ต้นทาง คือ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อตัดปัญหาในพื้นที่
 
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2564 เวลาประมาณ 12.15 น.ขณะที่ชาวบ้าน บ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ได้พากันลงไปดูกองข้าวสารที่มีประมาณ 700 กว่ากระสอบและน้ำมันเชื้อเพลิงอีกจำนวนหนึ่ง ขณะที่ชาวบ้านคนไทยลงไปมุงดูกองข้าวสารอยู่นั้น ปรากฏว่า ได้มีเสียงปืนในฝั่งเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามกองข้าวสาร ดังขึ้นประมาณ 5 นัด ลักษณะเป็นการยิงข่มขู่ คือ ยิงขึ้นฟ้า ทำให้ชาวบ้านพากันแตกฮือและวิ่งหนีขึ้นมาตรงฐานจุดตรวจทหารพรานของไทยที่ท่าเรือบ้านแม่สามแลบ
  
แหล่งข่าวระดับสูงของกองกำลังกะเหรี่ยงอิสระ (เคเอ็นยู) ระบุว่าหลังทราบเรื่องที่ทางการไทยอนุญาตให้ส่งข้าวสารแก่ทหารเมียนมา ฐานที่มั่นตรงข้ามบ้านแม่สามแลบของไทย ทางเจ้าหน้าที่เคเอ็นยู ได้มีการประสานงานกับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยและยื่นคำขาดต่อฝ่ายไทยว่า หากยังยืนยันที่จะส่งข้าวสารและน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับทหารเมียนมา ทางเคเอ็นยูจะยกระดับปฏิบัติการทางทหารต่อทหารพม่าที่ตั้งฐานตรงข้ามบ้านแม่สามแลบ โดยทางเคเอ็นยู ได้เคลื่อนกำลังเข้าใกล้ฐานที่มั่นดังกล่าวแล้วตั้งแต่วันที่ 22 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ทั้งนี้เมื่อปี 2563 ที่ผ่านมา ทางเคเอ็นยู ได้ปฏิบัติการทางด้านทหารต่อฐานที่มั่นของเมียนมามาแล้วครั้งหนึ่ง
 
สำหรับข้าวสารดังกล่าว เมื่อวันที่ 20 มีนาคม 2564 เวลา 05.00 น.ได้ถูกลำเลียงรถบรรทุก 3 คันจาก อ.แม่สอด จ.ตากมากองไว้ที่ท่าเรือบ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน จากนั้นได้มีทหารเมียนมา เข้ามาเจรจากับเจ้าหน้าที่ทหารพรานของไทยเพื่อขอเข้ามาลำเลียงข้าวสารและน้ำมันเชื้อเพลิง ไปไว้ที่ฐานที่มั่นทหารเมียนมา ซึ่งอยู่ตรงข้ามท่าเรือบ้านแม่สามแลบ
 
เรื่องที่เกิดขึ้น พบว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฝ่ายไทย ต่างพูดไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ตั้งแต่ปี 2563 เมื่อมีเหตุโรคโควิด-19 ระบาดในไทย ทางจังหวัด โดยศูนย์สั่งการชายแดนไทย ได้มีการสั่งปิดจุดผ่านปรนทั้งหมด เพื่อป้องกันการระบาดของโรคโควิด-19 จากเมียนมาเข้ามาสู่ไทย โดยทุกด่านที่ติดชายแดนไทยกับเมียนมา ไม่มีการค้าขายหรือสามารถส่งสินค้าไปฝั่งเมียนมาได้ แต่สำหรับช่องทางจุดผ่อนปรนเพื่อการค้าบ้านแม่สามแลบ พบว่า ยังคงมีการส่งเสบียงสินค้า เป็นข้าวสาร อาหารแห้งข้ามไปฝั่งเมียนมาได้อย่างสะดวก โดยมีกลุ่มองค์กรชาวกะเหรี่ยงในไทยเป็นผู้ดำเนินการและมีการโพสต์โชว์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ
 
แหล่งข่าวอดีตเจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองทางด้านการทหารของไทย ระบุว่าเรื่องที่เกิดขึ้น เกิดจากความอ่อนด้อยของเจ้าหน้าที่ไทย หากจะมีการให้ส่งข้าวสารไปยังเมียนมา ทำไมเจ้าหน้าที่ที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องไม่ตอบไปตามข้อเท็จจริง แต่ดูเหมือนว่าผู้นำระดับสูงฝ่ายความมั่นคงของไทย ได้รับข้อมูลที่ไม่ชัดเจน จึงตอบสื่อมวลชนไปคนละทิศละทาง และยิ่งทำให้คนที่ได้รับข่าวสารไม่เข้าใจและมองว่าเรื่องดังกล่าวจะเป็นชนวนก่อให้มีเหตุการณ์ตามแนวชายแดนขึ้นมาได้ในเร็ว ๆ นี้
 

 
แฉกลโกง ‘ม.33 เรารักกัน’ ทุจริตแลกเป็นเงินสด ทำกันว่อน-หักค่าบริการ 100 บาท
https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_6186898
  
แฉกลโกง ‘ม.33 เรารักกัน’ ทุจริตแลกเป็นเงินสด ทำกันว่อน-หักค่าบริการ 100 บาท จากที่ได้รับเงินผ่านแอพฯ เป๋าตัง 1,000 บาท ประกันสังคมเตือนร้านค้ามีความผิด
 
ล่าสุดในโลกออนไลน์ โดยเฉพาะในทวิตเตอร์ พบข้อความช่องทางแลกเงิน ม.33 เรารักกัน โดยเปิดให้ผู้ได้สิทธิ์โครงการ ม.33 เรารักกัน นำสิทธิ์มาแลกเป็นเงินสด พร้อมโชว์รีวิวเป็นสลิปเงินโอนเข้าบัญชี 900 บาท คือหักเงินค่าบริการ 100 บาท จากที่ได้รับผ่านแอพฯ เป๋าตัง
 
สำหรับขบวนการทุจริตโครงการ ม.33 เรารักกัน จะหักเงินค่าบริการตั้งแต่ 5-10 % ซึ่งถือเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไขโครงการ โดยโฆษกสำนักงานประกันสังคมเตือนร้านค้าที่ทำผิดเงื่อนไขและกระทำการลักษณะนี้ถือว่าเข้าข่ายทุจริต ซึ่งจะถูกตัดสิทธิ์เข้าร่วมทุกโครงการของรัฐและดำเนินคดีตามกฎหมาย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่