คือสมัยก่อนเราจะได้ยินกันเป็นปกติว่าอย่าแต่งตัวโป๊เพราะจะเสี่ยงให้โดนข่มขืน แต่ตอนนี้จะมีคนออกมาบอกว่า การแต่งกายไม่เกี่ยวกันเลยกับการถูกข่มขืน แต่งตัวแบบไหนก็โดนได้หมด ซึ่งเหยื่อก็มีทุกแบบจริงๆ ผมจึงสงสัยว่า
มีสถิติมั้ย ในบรรดาคนที่โดนข่มขืนอัตราส่วนระหว่างคนที่แต่งตัวเรียบร้อยกับแต่งตัวโป๋มันไม่มีความแตกต่างกันในทางสถิติเลยใช่มั้ย
ถ้าการแต่งตัวไม่มีผลต่อการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศเป็นเรื่องของรสนิยมล้วนๆ และรสนิยมทางเพศทุกแบบมีปริมาณเท่าๆกัน ทำไมอาบอบนวดพริตตี้โคโยตี้ถึงแต่งตัวโป๊แปลว่าผู้บริหารกำลังพลาดโอกาสในการทำกำไรจากคนอีกกลุ่มที่ชอบคนแต่งตัวเรียบร้อยไปเป็นจำนวนมากรึเปล่า ซึ่งจากทฤษฎีด้านบนถ้าให้มีการแต่งตัวทั้งโป๋และเรียบร้อยน่าจะเพิ่มยอดขายได้เท่าตัวเลย เนื่องจากมีคนอีกกลุ่มหนึ่งในปริมาณเท่าๆกัน หรือว่าอันที่จริงมีแบบที่แต่งตัวเรียบร้อยอยู่แต่ผมไม่รู้

คำถามต่อจากนี้ถามโดยเข้าใจว่าอาชีพที่ผมกล่าวมาก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่แต่งตัวโป๊

ถ้าการแต่งตัวโป๊ไม่ได้กระตุ้นอารมณ์ทางเพศแปลว่าคนที่จ้างสาวๆพวกนี้คือคนโง่เหรอครับ หรือมีเหตุผลอื่นที่ผมไม่รู้
ถ้าการแต่งตัวโป๊กระตุ้นอารมณ์ทางเพศงั้นแต่งตัวโป๊ก็เสี่ยงกว่าสิ ถ้าบอกว่าการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศไม่มีผลให้คนร้ายลงมือก่อเหตุงั้นผู้ผลิตสินค้าหลายๆเจ้าทำการโฆษณาทำไม หรือผมเข้าใจผิดมากน้อยแค่ไหนอย่างไร
ถ้าคนที่จ้างสาวๆมาทำงานไม่ได้โง่ แปลว่าคนที่ชอบผู้หญิงแต่งตัวโป๊มีมากกว่าคนอีกกลุ่มอย่างมาก แล้วทำไมถึงบอกว่าการแต่งตัวโป๊ไม่เกี่ยวกันเลยกับการโดนข่มขืน หรือมีสถิติที่บอกว่าคนโรคจิตไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจมีอัตราการเกิดในกลุ่มคนที่มีรสนิยมชอบการแต่งตัวเรียบร้อยมากกว่าคนที่ชอบคนแต่งตัวโป๊(ถ้าอาชีพที่ผมพูดถึงก่อนหน้านี้แต่งตัวโป๊จริงและคนที่จ้างพวกเธอไม่ได้โง่ อัตราการเกิดโรคจิตในคนที่ชอบคนแต่งตัวมิดชิดจะต้องมากกว่าในคนที่ชอบคนแต่งตัวโป๊จึงจะทำให้จำนวนของคนโรคจิตที่ชอบคนแต่งตัวทั้งสองแบบมีปริมาณเท่าๆกัน)

ปล.ถ้าข้อแรกๆผมเข้าใจผิดไม่จำเป็นต้องตอบข้อหลังๆก็ได้นะ เพราะคำถามข้อหลังๆตั้งโดยความเข้าใจจากข้อแรกๆ