คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 22
เป็นธรรมชาติของมนุษย์ครับ ถ้าจะหาอะไรมาอ้างอิง คงเป็น Hierarchy of Needs ของ Maslow
แรก ๆ รายได้น้อยตามหาแค่ปัจจัยพื้นฐาน คือ Physiological Needs งานรายวัน งานชั่วคราวก็ทำหมด กินข้าวข้างทาง ก็ไม่มีปัญหา อยู่หอพักเล็ก ๆ แอร์ไม่มี ก็อยู่ได้ ไม่เดือดร้อนอะไร (ปัจจัย 4 หรือปัจจุบันเท่ากับเงิน)
พอรายได้มากขึ้นมาหน่อย เติมเต็มปัจจัยพื้นฐานได้แล้ว ก็ขยับไปฐานถัดไป คือ Safety Needs คือเรื่องของความมั่นคง อยากไ้ด้งานที่มั่นคง ที่อยู่ดีขึ้นมาหน่อยเพื่อความปลอดภัยในแง่จิตใจ กินข้าวดี ๆ ร้านสะอาด ๆ บ้าง
พอเริ่มมีมากขึ้นอีก เราจะขยับฐานมาที่ Belongingness & Love Needs คือความต้องการได้รับการยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม หรือสังคม พอมาอยู่ในฐานนี้ เราจะเริ่มมีการไปกินข้าวกับกลุ่มเพื่อน ไปเที่ยว หรือที่เราเรียกว่าภาษีสังคมนั่นแหละ แล้วยังมีพวกเครื่องแต่งตัวที่เป็นไปตามกลุ่มหรือสังคม เพื่อไม่ให้แปลกแยก นี่คือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมา
หลังจากนั้นเราจะขยับมาอีกฐานหนึ่งที่เรียกว่า Esteem Needs หรือต้องการได้รับการยกย่อง เชิดชู เราจะเริ่มใช้เงินไปกับอะไรที่ทำให้เราดูดีขึ้น ไม่ว่าจะทางร่างกาย หรือสถานะ
เมื่อเติมเต็มทั้งหมดแล้ว (และยังมีเงินเหลือ) เราจะเริ่มทำในสิ่งที่เรียกว่า Self Actualization หรือการเติมเต็มความต้องการส่วนตัว เช่น บางคนชอบต้นไม้ ชอบฟิกส์เกอร์ ก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ตรงนี้ บางคนถึงขั้นว่าเริ่มลงทุนในธุรกิจที่ตัวเองอยากทำ หรือไม่ก็ไปทำไร่ ทำสวนในแบบที่ตัวเองต้องการ
ทั้งหมดมันคือธรรมชาติของจิตใจมนุษย์ครับ ถามว่าเราต้องไปตามนี้ไหม ก็ตอบได้ว่าไม่ แค่จะบอกว่าถ้าจะฝืน มันก็จะยากหน่อย แต่ถ้าฝืนได้เร็ว เราจะไปจบที่จุดสุดท้ายที่ Actualization ได้เร็วกว่าคนอื่นครับ
แรก ๆ รายได้น้อยตามหาแค่ปัจจัยพื้นฐาน คือ Physiological Needs งานรายวัน งานชั่วคราวก็ทำหมด กินข้าวข้างทาง ก็ไม่มีปัญหา อยู่หอพักเล็ก ๆ แอร์ไม่มี ก็อยู่ได้ ไม่เดือดร้อนอะไร (ปัจจัย 4 หรือปัจจุบันเท่ากับเงิน)
พอรายได้มากขึ้นมาหน่อย เติมเต็มปัจจัยพื้นฐานได้แล้ว ก็ขยับไปฐานถัดไป คือ Safety Needs คือเรื่องของความมั่นคง อยากไ้ด้งานที่มั่นคง ที่อยู่ดีขึ้นมาหน่อยเพื่อความปลอดภัยในแง่จิตใจ กินข้าวดี ๆ ร้านสะอาด ๆ บ้าง
พอเริ่มมีมากขึ้นอีก เราจะขยับฐานมาที่ Belongingness & Love Needs คือความต้องการได้รับการยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่ม หรือสังคม พอมาอยู่ในฐานนี้ เราจะเริ่มมีการไปกินข้าวกับกลุ่มเพื่อน ไปเที่ยว หรือที่เราเรียกว่าภาษีสังคมนั่นแหละ แล้วยังมีพวกเครื่องแต่งตัวที่เป็นไปตามกลุ่มหรือสังคม เพื่อไม่ให้แปลกแยก นี่คือค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมา
หลังจากนั้นเราจะขยับมาอีกฐานหนึ่งที่เรียกว่า Esteem Needs หรือต้องการได้รับการยกย่อง เชิดชู เราจะเริ่มใช้เงินไปกับอะไรที่ทำให้เราดูดีขึ้น ไม่ว่าจะทางร่างกาย หรือสถานะ
เมื่อเติมเต็มทั้งหมดแล้ว (และยังมีเงินเหลือ) เราจะเริ่มทำในสิ่งที่เรียกว่า Self Actualization หรือการเติมเต็มความต้องการส่วนตัว เช่น บางคนชอบต้นไม้ ชอบฟิกส์เกอร์ ก็จะเริ่มต้นตั้งแต่ตรงนี้ บางคนถึงขั้นว่าเริ่มลงทุนในธุรกิจที่ตัวเองอยากทำ หรือไม่ก็ไปทำไร่ ทำสวนในแบบที่ตัวเองต้องการ
ทั้งหมดมันคือธรรมชาติของจิตใจมนุษย์ครับ ถามว่าเราต้องไปตามนี้ไหม ก็ตอบได้ว่าไม่ แค่จะบอกว่าถ้าจะฝืน มันก็จะยากหน่อย แต่ถ้าฝืนได้เร็ว เราจะไปจบที่จุดสุดท้ายที่ Actualization ได้เร็วกว่าคนอื่นครับ

แสดงความคิดเห็น
สังเกตดูเวลาได้เงินเพิ่ม เงินเดือนขึ้น รายจ่ายก็เพิ่มขึ้นตามมาเองอัตโนมัติ เกิดขึ้นได้อย่างไร
แต่นี่เวลารายได้เพิ่ม รายจ่ายดันมาเพิ่มตามเอง
เช่นหาได้ 10 รายจ่าย 10
หายได้ 15 รายจ่ายก็เพิ่มมาเป็น 15
ตามมาแบบนี้ตลอดเลย งง