แป้งกับอ๊อฟ เรารู้จักกันมา9ปีแล้วค่ะ
ก่อนหน้านี้แป้งกับอ๊อฟเรียนกันคนละมหาวิทยาลัย เรารู้จักกันตอนเข้าค่ายปลูกป่าชายเลน ก่อนที่เราจะเรียนจบปี4
หลังจากค่ายนั้นเราก็ติดต่อกันเรื่อยมา
และตกลงคบกัน
อ๊อฟเขาเป็นคนน่ารัก เรียนเก่ง
และเป็นที่รักของเพื่อนๆ
ส่วนเราเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง แต่ชอบเป็นที่ปรึกษาให้อ๊อฟมาตลอด
จนเราทั้งคู่เรียนจบและได้เริ่มทำงานกัน
ตอนนี้ถึงจุดเปลี่ยนเริ่มแรก จากที่อ๊อฟเป็นคนน่ารัก อารมณ์ดี เขาก็เริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เขาชอบทำตัวมีอำนาจ เนื่องจากเขาได้ตำแหน่งหัวหน้าฝึกหัด เพราะอ๊อฟเรียนได้เกรดดี จึงได้ตำแหน่งหัวหน้าฝึกหัดเลย เขามักจะเอาคำพูดจากที่ออฟฟิศเขา มาพูดกับเราอยู่บ่อยครั้ง เช่น จะทำไม่ทำ ต้องให้บอกอีกกี่ครั้ง ถึงจะจำได้
ซึ่งแรกๆ เราคิดว่าเขาคงลืมตัวไป คงไม่มีอะไรมาก น่าจะเป็นแค่ช่วงปรับตัวกับตำแหน่งที่ได้รับ แต่เขาทำแบบนี้ไม่ใช่แค่ช่วงแรกๆ แต่เขาทำกับเรามาตลอด
หรือบางครั้งเวลาที่เราไปออฟฟิศเขา เขามักจะชอบพูดหรือกระทำกับคนอื่น แบบที่ไม่น่ารักเลย หลังจากวันนั้น เราก็มาคิดทบทวน และตัดสินบอกเลิกเขา ด้วยเหตุผลที่ว่า ทัศนคติของเราเริ่มต่างกันมากไป
เขาอาจจะเก่งในหลายๆด้าน ซึ่งอันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราชอบเขา แต่สุดท้ายแล้วเขามักจะทำร้ายจิตใจเราและคนรอบข้างคนอื่นมากกว่า
และวันนั้นเราก็ทะเลาะกันหนักมาก เขาบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นแบบนี้ แต่เนื่องจากหน้าที่จึงต้องทำ และทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน เขามักจะตามใจเรา ให้เราหายโกรธ แต่มันก็แค่หายโกรธชั่วคราว เขาก็กลับมาทำพฤติกรรมเหมือนเดิมอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และเราก็อดทนอยู่มาจนถึงปีที่7 เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้าภาค และต้องย้ายไปประจำที่ต่างจังหวัด ซึ่งตอนนี้เราไม่ได้อยู่จังหวัดเดียวกันแล้ว
ด้วยความที่อยู่ไกลกัน และอ๊อฟเป็นคนขี้หึงหนักมาก เขาจึงชอบมักหาเรื่องทะเลาะกับแป้ง และบ่อยครั้งเขาจะชักชวนเราให้ไปอยู่จังหวัดเดียวกันกับเขา ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่เขาต้องการจากเรา
จนบางทีเราก็รู้สึกว่า มันเป็นความต้องการของเขามากกว่า เพราะเขาชอบพูดกับเพื่อนๆของเขาเสมอว่า เรากับเขาห่างกัน เดี๋ยวแป้งก็ต้องมีแฟนใหม่ที่ไม่ใช่เขา แป้งต้องไปอยู่กับเขา เพื่อที่อ๊อฟจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ
และอ๊อฟชอบโทรไปหาเพื่อนสนิทเราบ้าง เพื่อนที่ทำงานเราบ้าง ว่าอยากให้เราไปอยู่กับเขา และทุกครั้งที่อ๊อฟพูด อ๊อฟเขาไม่ค่อยฟังเหตุผลเรา เพราะเราได้ทำงานที่เรารัก และเราก็พึ่งได้เลื่อนตั้งแหน่ง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกัน ที่อ๊อฟได้ย้ายไปต่างจังหวัด และเราก็ทะเลาะกันหนักมาก
ทะเลาะหนักจน เขาคิดจะทำร้ายตัวเอง และเพื่อนของเขา ครอบครัวของเขา ได้มาปรึกษาเราเพื่อให้ช่วยเขาหลุดพ้นจากจุดนั้น ด้วยความที่เราเป็นคนขี้สงสาร และเขาได้สัญญาว่า เขาจะไม่ทำตัวแบบนั้นอีก
เราจึงตัดสินใจลาออกจากงานที่เรารัก และย้ายไปเป็นลูกน้องของเขา ที่เขาเป็นหัวหน้าอยู่ที่ออฟฟิศนั้น
เริ่มแรกเขาดีมากๆเลย ไปรับส่งเราตลอด พูดจาดี ทำตัวดีกับเราตลอด แต่หลังจากนั้น6เดือน พฤติกรรมเก่าๆของเขาก็กลับมา
ความเจ้าอำนาจ เจ้าอารมณ์ของเขาที่มีต่อเราและคนรอบข้าง และการทำเขากับเราทำงานที่เดียวกัน เราเป็นลูกน้องเขา เขาเป็นหัวหน้าเรา บางอารมณ์บางตอนเขาก็ทำกับเราเหมือนไม่ใช่คนรักกัน เพราะเราไม่ได้เก่งเหมือนอ๊อฟ เลยทำงานพลาดเยอะไปหน่อย
อ๊อฟจะเป็นคนที่เสียหน้าไม่ได้ ไม่ว่ากับครอบครัว หรือกับตัวเรา มันยิ่งทำให้เราเจ็บช้ำทุกวัน ที่ตัดสินใจมาอยู่กับอ๊อฟ ซึ่งไม่รู้ว่า เราเป็นอะไรในสายตาเขา
เราเคยถามตอบกัน ปรับความเข้าใจกันในเรื่องของความรัก แต่เหมือนกับว่าเราเป็นฝ่ายเดียวที่ปรับปรุงตัวอยู่ตลอด ไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก แต่เป็นเรื่องปัจจัยอื่นๆด้วย เช่นเรื่อง บุหรี่ เบียร์ เที่ยวผับ เขาบอกว่า ต้องทำตามสังคมที่ออฟฟิศ และเขารับบทบาทหัวหน้า เขาต้องเต็มที่กับลูกน้องของเขา
และมีอยู่เคสหนึ่ง เนื่องจากเราต้องทำงานไปส่งของต่างจังหวัด และก็มีพี่คนขับรถส่งของคนใหม่เข้ามาแทนลุงที่ลาออกไป พี่เขาน่าตาดี พูดเพราะ น่ารัก เป็นที่รักของทุกคน ทั้งๆที่พึ่งเข้ามา
เวลาที่ไปส่งของกับพี่เขา พี่เขามักจะทำให้เราสบายใจ และใจดีกับเรา และเขามักจะเรียกเราว่าคุณแป้ง เพราะเขารู้ว่าเป็นแฟนกับอ๊อฟ ซึ่งเป็นหัวหน้าของเขา
เรารู้สึกดีมากเลย ที่พี่เขาทำตัวน่ารัก ใจดีกับเรา ด้วยความที่พี่เขามาจากจังหวัดเดียวกันกับเรา เลยทำให้เราสนิทกันดี เหมือนคนภูมิลำเนาเดียวกัน เข้าใจกันดี เวลาพี่เขากลับบ้าน เราก็จะฝากซื้อขนมอร่อยๆที่บ้าน แต่พี่เขาก็ไม่เคยเก็บเงินกับเราเลย
มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า เหมือนมีเพื่อนเวลาที่ไกลบ้าน หรือเวลามีปัญหาอะไรพี่เขารับฟังและให้คำปรึกษาได้ดี เหมือนพ่อกับลูกสาวเลย
และมีครั้งหนึ่งที่เราลืมของไว้ที่รถตอนไปส่งของ พี่เขาก็ส่งข้อความมาบอกว่าลืมของ แต่อ๊อฟเปิดอ่านข้อความ และตั้งข้อสงสัย ว่าเรากับพี่เขาชอบกัน
และหลังจากนั้นอ๊อฟก็สลับให้เราก็พี่เขาส่งของคนละรอบกัน ซึ่งเราก็โกรธมาก คืออ๊อฟไม่ควรเอาอารมณ์ของตัวเอง ไปทำอะไรแบบนี้ ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเลย
และมีวันหนึ่งเรากับพี่เขาเจอกันที่ร้านขายน้ำโดยบังเอิญ เราเลยคุยกันทั่วไป และอ๊อฟก็มาเห็นพอดี ยิ่งทำให้อ๊อฟเข้าใจผิดไปมากกว่าเดิม
และอ๊อฟก็เริ่มพูดเสียงดังกับพี่เขา และบอกคนอื่นว่าพี่เขามาจีบแป้งทั้งที่รู้ว่าแป้งมีอ๊อฟอยู่
ซึ่งวันนั้นเราอายคนมากเลย เราเสียใจหนักมาก คือเราต้องมาเสียพี่ดีๆ อีกคนไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เราก็เสียงานดีๆไปเพราะอ๊อฟ
มันทำให้เราคิดทบทวนว่า เราอยู่ออฟฟิศเดียวกันกับอ๊อฟ ทนอยู่กับอ๊อฟไปทำไม ในเมื่อช่วงหลังๆนี้ไม่ค่อยมีความสุขเลย
ต้องคอยเยียวยาบำบัดตัวเองอยู่ตลอด มีแฟนก็เหมือนไม่มี
ติดเพียงว่าเราติดสัญญางานปีต่อปี ถ้าหมดสัญญา เราคงต้องไปจริงๆ เราไม่อยากเสียใจอะไรอีกแล้ว
เราคบกันมา9ปี ตอนนี้เราอายุ30กว่าแล้ว เราอยากมีความมั่นคงทางจิตใจแล้ว
มันถึงเวลาที่เราจะต้องกลับไปรักตัวเอง หลังจากที่รักคนอื่นมานานถึง9ปี
และขอสอบถามค่ะ
ก่อนหน้านี้ตอนที่เราขอเลิกกับอ๊อฟ อ๊อฟเขามักจะพูดเรื่องการทำร้ายตัวเอง เราควรทำไงดีคะ เรากลัวว่าเขาจะทำแบบนั้นจริงๆ และครอบครัวเขามักจะโทษเราเสมอ เวลาที่อ๊อฟทะเลาะกันกับเรา เราเลยไม่อยากเป็นคนผิด ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย
มันอาจจะเหมือนการระบายหน่อย
แต่ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆที่มีให้กันนะคะ
ขอบคุณค่ะ
เธอรักเรามากไปหรือเธอรักตัวเธอเองมากไป
ก่อนหน้านี้แป้งกับอ๊อฟเรียนกันคนละมหาวิทยาลัย เรารู้จักกันตอนเข้าค่ายปลูกป่าชายเลน ก่อนที่เราจะเรียนจบปี4
หลังจากค่ายนั้นเราก็ติดต่อกันเรื่อยมา
และตกลงคบกัน
อ๊อฟเขาเป็นคนน่ารัก เรียนเก่ง
และเป็นที่รักของเพื่อนๆ
ส่วนเราเป็นคนพูดไม่ค่อยเก่ง แต่ชอบเป็นที่ปรึกษาให้อ๊อฟมาตลอด
จนเราทั้งคู่เรียนจบและได้เริ่มทำงานกัน
ตอนนี้ถึงจุดเปลี่ยนเริ่มแรก จากที่อ๊อฟเป็นคนน่ารัก อารมณ์ดี เขาก็เริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป เขาชอบทำตัวมีอำนาจ เนื่องจากเขาได้ตำแหน่งหัวหน้าฝึกหัด เพราะอ๊อฟเรียนได้เกรดดี จึงได้ตำแหน่งหัวหน้าฝึกหัดเลย เขามักจะเอาคำพูดจากที่ออฟฟิศเขา มาพูดกับเราอยู่บ่อยครั้ง เช่น จะทำไม่ทำ ต้องให้บอกอีกกี่ครั้ง ถึงจะจำได้
ซึ่งแรกๆ เราคิดว่าเขาคงลืมตัวไป คงไม่มีอะไรมาก น่าจะเป็นแค่ช่วงปรับตัวกับตำแหน่งที่ได้รับ แต่เขาทำแบบนี้ไม่ใช่แค่ช่วงแรกๆ แต่เขาทำกับเรามาตลอด
หรือบางครั้งเวลาที่เราไปออฟฟิศเขา เขามักจะชอบพูดหรือกระทำกับคนอื่น แบบที่ไม่น่ารักเลย หลังจากวันนั้น เราก็มาคิดทบทวน และตัดสินบอกเลิกเขา ด้วยเหตุผลที่ว่า ทัศนคติของเราเริ่มต่างกันมากไป
เขาอาจจะเก่งในหลายๆด้าน ซึ่งอันนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราชอบเขา แต่สุดท้ายแล้วเขามักจะทำร้ายจิตใจเราและคนรอบข้างคนอื่นมากกว่า
และวันนั้นเราก็ทะเลาะกันหนักมาก เขาบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะเป็นแบบนี้ แต่เนื่องจากหน้าที่จึงต้องทำ และทุกครั้งที่เราทะเลาะกัน เขามักจะตามใจเรา ให้เราหายโกรธ แต่มันก็แค่หายโกรธชั่วคราว เขาก็กลับมาทำพฤติกรรมเหมือนเดิมอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
และเราก็อดทนอยู่มาจนถึงปีที่7 เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้าภาค และต้องย้ายไปประจำที่ต่างจังหวัด ซึ่งตอนนี้เราไม่ได้อยู่จังหวัดเดียวกันแล้ว
ด้วยความที่อยู่ไกลกัน และอ๊อฟเป็นคนขี้หึงหนักมาก เขาจึงชอบมักหาเรื่องทะเลาะกับแป้ง และบ่อยครั้งเขาจะชักชวนเราให้ไปอยู่จังหวัดเดียวกันกับเขา ด้วยเหตุผลหลายๆอย่างที่เขาต้องการจากเรา
จนบางทีเราก็รู้สึกว่า มันเป็นความต้องการของเขามากกว่า เพราะเขาชอบพูดกับเพื่อนๆของเขาเสมอว่า เรากับเขาห่างกัน เดี๋ยวแป้งก็ต้องมีแฟนใหม่ที่ไม่ใช่เขา แป้งต้องไปอยู่กับเขา เพื่อที่อ๊อฟจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจ
และอ๊อฟชอบโทรไปหาเพื่อนสนิทเราบ้าง เพื่อนที่ทำงานเราบ้าง ว่าอยากให้เราไปอยู่กับเขา และทุกครั้งที่อ๊อฟพูด อ๊อฟเขาไม่ค่อยฟังเหตุผลเรา เพราะเราได้ทำงานที่เรารัก และเราก็พึ่งได้เลื่อนตั้งแหน่ง ซึ่งเป็นช่วงเดียวกัน ที่อ๊อฟได้ย้ายไปต่างจังหวัด และเราก็ทะเลาะกันหนักมาก
ทะเลาะหนักจน เขาคิดจะทำร้ายตัวเอง และเพื่อนของเขา ครอบครัวของเขา ได้มาปรึกษาเราเพื่อให้ช่วยเขาหลุดพ้นจากจุดนั้น ด้วยความที่เราเป็นคนขี้สงสาร และเขาได้สัญญาว่า เขาจะไม่ทำตัวแบบนั้นอีก
เราจึงตัดสินใจลาออกจากงานที่เรารัก และย้ายไปเป็นลูกน้องของเขา ที่เขาเป็นหัวหน้าอยู่ที่ออฟฟิศนั้น
เริ่มแรกเขาดีมากๆเลย ไปรับส่งเราตลอด พูดจาดี ทำตัวดีกับเราตลอด แต่หลังจากนั้น6เดือน พฤติกรรมเก่าๆของเขาก็กลับมา
ความเจ้าอำนาจ เจ้าอารมณ์ของเขาที่มีต่อเราและคนรอบข้าง และการทำเขากับเราทำงานที่เดียวกัน เราเป็นลูกน้องเขา เขาเป็นหัวหน้าเรา บางอารมณ์บางตอนเขาก็ทำกับเราเหมือนไม่ใช่คนรักกัน เพราะเราไม่ได้เก่งเหมือนอ๊อฟ เลยทำงานพลาดเยอะไปหน่อย
อ๊อฟจะเป็นคนที่เสียหน้าไม่ได้ ไม่ว่ากับครอบครัว หรือกับตัวเรา มันยิ่งทำให้เราเจ็บช้ำทุกวัน ที่ตัดสินใจมาอยู่กับอ๊อฟ ซึ่งไม่รู้ว่า เราเป็นอะไรในสายตาเขา
เราเคยถามตอบกัน ปรับความเข้าใจกันในเรื่องของความรัก แต่เหมือนกับว่าเราเป็นฝ่ายเดียวที่ปรับปรุงตัวอยู่ตลอด ไม่ใช่แค่เรื่องของความรัก แต่เป็นเรื่องปัจจัยอื่นๆด้วย เช่นเรื่อง บุหรี่ เบียร์ เที่ยวผับ เขาบอกว่า ต้องทำตามสังคมที่ออฟฟิศ และเขารับบทบาทหัวหน้า เขาต้องเต็มที่กับลูกน้องของเขา
และมีอยู่เคสหนึ่ง เนื่องจากเราต้องทำงานไปส่งของต่างจังหวัด และก็มีพี่คนขับรถส่งของคนใหม่เข้ามาแทนลุงที่ลาออกไป พี่เขาน่าตาดี พูดเพราะ น่ารัก เป็นที่รักของทุกคน ทั้งๆที่พึ่งเข้ามา
เวลาที่ไปส่งของกับพี่เขา พี่เขามักจะทำให้เราสบายใจ และใจดีกับเรา และเขามักจะเรียกเราว่าคุณแป้ง เพราะเขารู้ว่าเป็นแฟนกับอ๊อฟ ซึ่งเป็นหัวหน้าของเขา
เรารู้สึกดีมากเลย ที่พี่เขาทำตัวน่ารัก ใจดีกับเรา ด้วยความที่พี่เขามาจากจังหวัดเดียวกันกับเรา เลยทำให้เราสนิทกันดี เหมือนคนภูมิลำเนาเดียวกัน เข้าใจกันดี เวลาพี่เขากลับบ้าน เราก็จะฝากซื้อขนมอร่อยๆที่บ้าน แต่พี่เขาก็ไม่เคยเก็บเงินกับเราเลย
มันยิ่งทำให้เรารู้สึกว่า เหมือนมีเพื่อนเวลาที่ไกลบ้าน หรือเวลามีปัญหาอะไรพี่เขารับฟังและให้คำปรึกษาได้ดี เหมือนพ่อกับลูกสาวเลย
และมีครั้งหนึ่งที่เราลืมของไว้ที่รถตอนไปส่งของ พี่เขาก็ส่งข้อความมาบอกว่าลืมของ แต่อ๊อฟเปิดอ่านข้อความ และตั้งข้อสงสัย ว่าเรากับพี่เขาชอบกัน
และหลังจากนั้นอ๊อฟก็สลับให้เราก็พี่เขาส่งของคนละรอบกัน ซึ่งเราก็โกรธมาก คืออ๊อฟไม่ควรเอาอารมณ์ของตัวเอง ไปทำอะไรแบบนี้ ซึ่งมันไม่สมเหตุสมผลเลย
และมีวันหนึ่งเรากับพี่เขาเจอกันที่ร้านขายน้ำโดยบังเอิญ เราเลยคุยกันทั่วไป และอ๊อฟก็มาเห็นพอดี ยิ่งทำให้อ๊อฟเข้าใจผิดไปมากกว่าเดิม
และอ๊อฟก็เริ่มพูดเสียงดังกับพี่เขา และบอกคนอื่นว่าพี่เขามาจีบแป้งทั้งที่รู้ว่าแป้งมีอ๊อฟอยู่
ซึ่งวันนั้นเราอายคนมากเลย เราเสียใจหนักมาก คือเราต้องมาเสียพี่ดีๆ อีกคนไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เราก็เสียงานดีๆไปเพราะอ๊อฟ
มันทำให้เราคิดทบทวนว่า เราอยู่ออฟฟิศเดียวกันกับอ๊อฟ ทนอยู่กับอ๊อฟไปทำไม ในเมื่อช่วงหลังๆนี้ไม่ค่อยมีความสุขเลย
ต้องคอยเยียวยาบำบัดตัวเองอยู่ตลอด มีแฟนก็เหมือนไม่มี
ติดเพียงว่าเราติดสัญญางานปีต่อปี ถ้าหมดสัญญา เราคงต้องไปจริงๆ เราไม่อยากเสียใจอะไรอีกแล้ว
เราคบกันมา9ปี ตอนนี้เราอายุ30กว่าแล้ว เราอยากมีความมั่นคงทางจิตใจแล้ว
มันถึงเวลาที่เราจะต้องกลับไปรักตัวเอง หลังจากที่รักคนอื่นมานานถึง9ปี
และขอสอบถามค่ะ
ก่อนหน้านี้ตอนที่เราขอเลิกกับอ๊อฟ อ๊อฟเขามักจะพูดเรื่องการทำร้ายตัวเอง เราควรทำไงดีคะ เรากลัวว่าเขาจะทำแบบนั้นจริงๆ และครอบครัวเขามักจะโทษเราเสมอ เวลาที่อ๊อฟทะเลาะกันกับเรา เราเลยไม่อยากเป็นคนผิด ทั้งที่เราไม่ได้ทำอะไรเลย
มันอาจจะเหมือนการระบายหน่อย
แต่ขอบคุณสำหรับกำลังใจดีๆที่มีให้กันนะคะ
ขอบคุณค่ะ