...สัพเพเหระ ไก่ กา อาราเร่ "ผมชักเริ่มจะเห็นใจรัฐบาลขึ้นมา "....วชรน

กระทู้คำถาม
ตอนเห็น "การบินไทย" กำลังขมักเขม้นทอดปลาท่องโก๋ขายเพื่อนำเงินไปฟื้นฟูสายการบิน  ผมรู้สึกจุกในลำคอปลื้มอกปลื้มใจ ที่เห็นความมุมานะของพนักงานที่จะนำ "สายการบินแห่งชาติ" สายเดียวให้กลับมารุ่งโรจน์ด้วยสูตรปาท่องโก๋  สู้ๆ ครับ!  นานเท่าไหร่ก็จะรอ.....ว่าซ้านนนนนนนน!

วันนี้  ผมมาดีครับ.... ผมอยากจะหันมาให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ขอร่วมสนับสนุนชาวบ้านสร้างรายได้ด้วยการ ทำ "กล้วยชุบแป้งทอด"  ขายแข่งกับการบินไทยครับ   ผมเคยนำพิมเขียวไปทดลองสอบถามชาวในหม่บ้านผมเป็นการประเดิม ซึ่งถือว่าได้ผล "เกินคาด"  ขออนุญาตเล่าให้ฟังดังนี้เลยนะครับ :-
-------------------------------------------------------------------------------

"แล้วจะให้ลุงจะไปหากล้วยจากไหนมาทอดขายล่ะไอ้หนู เงินก็ไม่มีสักบาท"  ตาสีผัวยายมีบ่นให้ฟัง
"คืออย่างนี้ลุง...มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งท่านมีเมตตาสูง ท่านแจกกล้วยเป็นประจำ จะเอากี่หวี่ๆ ก็ติดต่อท่านได้เลยครับ"  จบคำ ตาสีรีบยกมือขึ้นท่วมมือสาธุในความเมตตาของผู้ใหญ่ท่านนั้น  สักพักก็หันควับมาที่ผมเหมือนพึ่งจะนึกอะไรขึ้นได้
"แล้วแป้งล่ะ?"   
"อ๋อ...ก็ท่านรัฐมนตรีคนเดิมนั่นแหละครับ  ท่านมีแป้งเป็นกระสอบๆ  จุ๊ จุ๊ อย่าเอ็ดไปเรื่องแป้งนี่ ท่านจะไม่แจกเอิกเริกเหมือนแจกกล้วย  ลุงต้องติดต่อหลังไมค์กับท่าน  ซึ่งผมคิดว่าคงไม่มีปัญหาหรอก  บอกแล้วไง... ท่านมีเมตตาจะตาย  ขนาดชาวต่างชาติท่านยังเคยอุตส่าห์บินข้ามน้ำข้ามทะเลไปแจกมาแล้ว  คนไทยด้วยกันอย่างลุงนี่  ถ้าไม่มีแป้งแจกให้กันก็เกินไปล่ะ"  สีหน้าและแววตาของลุงเริ่มมีความหวัง
" กล้วยมีแล้ว แป้งก็มีแล้ว จะติดก็ตรงที่เงินทุนเริ่มต้นนี่แหละ ตอนนี้สลึงเดียวลุงก็ไม่มี"  ตาสีตีหน้าเศร้า   นาฬิกาบนข้อมือของลุงสะท้อนแสงอาทิตย์เป็นประกายแยงเข้าตาผม  ไอเดียปิ้งวาบขึ้นตาม
"ขายนาฬิกาสิลุง"
"เฮ้ย ! ไม่ได้ๆ อันนี้ยืมเพื่อนมาใส่"  ลุงรีบละล่ำละลักบอกปัดทันที  พร้อมรีบยกมืออีกข้างกุมนาฬิกาไว้ (คงจะเกรงว่าเมื่อผมเห็นยี่ห้อแล้วอาจจะเป็นลมพับต่อหน้าลุง)  แต่ก็ไม่วายหันมายิ้มแสยะๆ ก่อนจะโน้มหัวมากระซิบที่ข้างหูผมเบาๆ 
แต่ถ้าแอบเอาไปจำนำก็น่าจะได้"  ผมพยักหน้าเห็นด้วย   

หลายอาทิตย์ต่อมาผมย้อนกลับไปหาตาสีเพื่อติดตามผลงาน  ให้รู้สึกแปลกใจที่ยังเห็นแกในสภาพเดิม  มีเพียงสิ่งเดียวที่เปลี่ยนไปคือข้อมือด้านซ้ายของแกไม่มีนาฬิกาเหมือนคราวก่อน
"ผมติดต่อผู้ใหญ่ท่านนั้นตามที่คุณแนะนำ ท่านให้กล้วยและให้แป้งผมตามที่คุณบอกไว้ทุกอย่าง"  ลุงมีสาธยาย
"อ้าว แล้วทำไมยังไม่เริ่มทำกล้วยชุบแป้งทอดขายล่ะลุง รออะไร?"
"ผมยังไม่มีสถานที่ที่จะเปิดร้านครับ"   เออจริงสินะ ผมเองก็ลืมเรื่องโลเกชั่นไปถนัด
"ไม่เป็นไรลุง  มีผู้ใหญ่อีกท่านหนึ่งที่ชำนาญในการหาที่ดิน เก่งมากๆ   ผมจะเป็นธุระติดต่อให้ลุงเองนะไม่ยากหรอกเรื่องที่เรื่องทาง"  ขณะที่พูด ภาพของเศรษฐีนีที่ดินที่เป็นผู้ใหญ่ที่ผมนับถืออีกท่านหนึ่งผุดมาในภวังค์   ประสาอะไรแค่ที่ดินไม่กี่ตารางเมตร  เจ๊ดีดนิ้วแค่เปราะเดียวก็ขี้คร้านที่จะต้อนรับคนมาเสนอให้ฟรี
"แล้วลุงจะเอาการสักกี่ร้อยไร่ล่ะครับ? ไม่ต้องเกรงใจ"   
"งั้นลุงขอแค่เท่าแมวดิ้นตายก็พอไอ้หนู"   
หลังจากนั้น  ผมรีบดำเนินการเดินทางไปกราบเคารพ "ผู้ใหญ่" ที่ผมพูดถึงทันทีเรื่องจัดหาที่ดินให้ลุงได้เปิดกิจการถึงบ้านตากอากาศของท่าน   กราบเรียนท่านไปอย่างเกรงใจๆ ว่า จะเป็นที่ดิน สปก.4-01 ก็ได้  หรือ ภ.บ.ท 5 ก็ไม่เกี่ยงขอรับ
"ตอนนี้กรูยังจะเอาตัวกรูไม่รอดเลยก็เพราะไอ้เรื่องที่ดินนี่แหละ   จะติดคุกวันนี้วันพรุ่งยังไม่รู้   แล้วนี่มะรึงยังจะมาหาเห็บใส่หมาเข้าไปอีก "!¬|\:;;?>,,<>5%"£$$"%+!!/-"£**+_+_/*-XXsdg{}{@~~@"£%£"£ZX:>?LL&*^$%^£!""£๖oO$££$$££$"    
ทันทีที่คว้าเอกสาร "กล้วยชุบแป้งทอด" ของผมได้  มีรึผมจะรอให้เจ๊แกสวดภาณยักษ์ไปจนจบกัณฑ์   รีบเผ่นลงเรือนสิครับรอไร??55555  

ขอให้มีฟามสุขวันเสาร์อาทิตย์นี้กันทุกคนนะครับ  อย่าซีเรียสๆ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่