คือท้าวความก่อนเลย จริงๆเราเป็นคนเรียนไม่ค่อยเก่งมากๆ แต่พอไปวัดไปวาได้บ้าง
แต่เราเป็นคนกล้าแสดงออก มีความสามารถชอบร้องเพลง ชอบทำอาหาร เล่นดนตรีได้ (กีต้าร์)
ตอนเราจบม.3ใหม่ๆ เราตั้งใจแล้วแหละอยากไปเรียน ปวช. เพราะเรารู้ว่าตัวเองเรียนไปเก่งเลยไปทางนี้ ได้ฝึกทำงานบ้างไรบ้าง มีประสบการณ์เยอะกว่าการเรียนสามัญ แต่พ่อกับแม่เราค่อนข้างจะเป็นห่วงเรื่องการเดินทางบลาๆ จะเรียกว่า ลูกแหง่ไหมนะ55555 พ่อแม่ประคบประหงมเป็นอย่างดีจะไม่ค่อยปล่อยให้ออกไปไหนตามลำพังเท่าไร อาจจะเพราะเราเป็นลูกคนเดียวด้วยแหละ เขาเลยกังวลว่าถ้าไปเรียนปวช. อาจจะติดเพื่อน จะทำตัวเหลวเปลว เที่ยวกลางค่ำกลางคืน บลาๆ เขาเลยให้เราเรียนสายสามัญ รร.ใกล้บ้าน ซึ่งตารางแน่นมากกกกกก มากจนเครียดเลยจากปกติเป็นคนร่าเริง เฮฮา กลายเป็นคนเงียบๆไม่คุยกับใครเลย รร.ใหม่ก็ฟิลตัวคนเดียวไม่มีเพื่อนสนิทเลย ที่สำคัญ เจอครูประจำศิลป์ ปสด.มาก เข้าไปเรียนได้ไม่กี่เดือน เราก็ไม่ได้ไปทำไรเป็นจุดสนใจนะ นิ่งมากเวลาอยู่ต่อหน้าครู แต่เรากลับโดนครูถามคำถามนึงว่า "ทำไมผู้หญิงสมัยนี้แ..ร..ด จังเลยขอถามในฐานะเทอเคยเป็นสก๊อยเก่า" ก็คือเราจบมัธยมต้นจากรร.วัดหนะ เหมือนคนในรร.นี้เขาชอบถือคติประมาณว่า รร.เก่าเราเป็นรร.สก๊อย ตั้งแต่โดนครูทักแบบนั้นก็รู้สึกเครียดเลย อาจจะเป็นเพราะเราเติบโตในครอบครัวที่ไม่เหยียดคนอื่นหนะค่ะเพราะเราก็จน กว่าจะมีกินมีใช้ทุกวันนี้ก็ลำบากมาเยอะเหมือนกัน เราต้องเจอเรื่องแบบนี้บ่อยมากตลอดภาคเรียนเพื่อนก็ไม่ค่อยมี ครูคนนี้ค่อนข้างชอบแขวะเด็กมากๆใครไม่เข้าตาก็จะพูดแขวะบ่อยๆ เรารับไม่ได้เลยค่ะต้องมาเจอแบบนี้ เราเลยขาดเรียนบ่อยมากเพราะไม่อยากไปเจอสังคมแบบนี้เลย เจอบ่อยจนเป็นโรคเครียด จิตตกบ่อยๆ ป่วยเข้ารพ.บ่อยมากๆแทบทุกเดือนเลยค่ะเป็นแบบนี้บ่อยมาก เลยเลือกที่จะทำงานช่วยที่บ้านสะส่วนใหญ่ เราไม่เล่าให้พ่อแม่ฟังเลยว่าเจอกับอะไรบ้างเพราะกลัวเขาคิดมาก เขาถามก็เอาแต่ตอบว่า ไหวค่ะ อย่างเดียว แต่ เรามีข้อเสียนะ เป็นคนขี้เกียจเรียน ไม่ค่อยอ่านหนังสือ ยิ่งเจอวิชาที่ไม่ชอบจะแบบ เซโน55555 แต่เราขยันทำงานมากๆ วันหยุดเราจะไม่ไปเที่ยวไหนเลย จะช่วยแม่ขายของที่ร้าน(ร้านอาหาร) ช่วยจนมีลูกค้าประจำมาติดฝีมือทำหารของเราเลย เรารู้สึกว่า การทำงานที่ร้านเป็นสิ่งเดียวที่ทำแล้วเรามีความสุขมาก เจอคนมากมาย หลายรูปแบบ ก็รับได้ทุกสถานการณ์เลย แต่ทำไมเรารับคนแบบครูในรร.นั้นไม่ได้เลยก็ไม่รู้ สุดท้ายก็เรียนไม่จบ แต่เพราะที่บ้านมีร้านอาหาร เราเลยสืบทอดต่อได้ แต่คิดไปคิดมาก็อยากจะเรียน อยากได้วุฒิไปทำงานอื่นๆหาประสบการณ์เพิ่มอีก เลยคิดไว้อยู่ 2 ทาง
1. เรียนกศน. 2ปี ไปเรียนต่อมหาลัยคณะคหกรรมอีก4ปี แต่ก็อยากรู้ประสบการณ์ของคนที่เรียนกศน.ว่า เหนื่อยไหมงานเยอะมากไหม เรียนเป็นไงสังคมในนั้นเป็นยัง ต้องเตรียมใจกับอะไรไหมก่อนเข้าไปเรียน
2.หรือจะเรียนทำอาหารโดยตรงไปเลย ไม่ต้องใช้วุฒอะไร
ขอคำแนะนำหน่อยนะค่าาอยากจะเอาไปประกอบการตัดสินใจค่ะ
ปีนี้อายุ 19 แล้วค่ะ คือเราเรียนม.ปลายแต่ไม่จบ แต่อยากเรียนต่อ จะไปเรียนกศน.แล้วต่อ มหาลัยดีไหม?
แต่เราเป็นคนกล้าแสดงออก มีความสามารถชอบร้องเพลง ชอบทำอาหาร เล่นดนตรีได้ (กีต้าร์)
ตอนเราจบม.3ใหม่ๆ เราตั้งใจแล้วแหละอยากไปเรียน ปวช. เพราะเรารู้ว่าตัวเองเรียนไปเก่งเลยไปทางนี้ ได้ฝึกทำงานบ้างไรบ้าง มีประสบการณ์เยอะกว่าการเรียนสามัญ แต่พ่อกับแม่เราค่อนข้างจะเป็นห่วงเรื่องการเดินทางบลาๆ จะเรียกว่า ลูกแหง่ไหมนะ55555 พ่อแม่ประคบประหงมเป็นอย่างดีจะไม่ค่อยปล่อยให้ออกไปไหนตามลำพังเท่าไร อาจจะเพราะเราเป็นลูกคนเดียวด้วยแหละ เขาเลยกังวลว่าถ้าไปเรียนปวช. อาจจะติดเพื่อน จะทำตัวเหลวเปลว เที่ยวกลางค่ำกลางคืน บลาๆ เขาเลยให้เราเรียนสายสามัญ รร.ใกล้บ้าน ซึ่งตารางแน่นมากกกกกก มากจนเครียดเลยจากปกติเป็นคนร่าเริง เฮฮา กลายเป็นคนเงียบๆไม่คุยกับใครเลย รร.ใหม่ก็ฟิลตัวคนเดียวไม่มีเพื่อนสนิทเลย ที่สำคัญ เจอครูประจำศิลป์ ปสด.มาก เข้าไปเรียนได้ไม่กี่เดือน เราก็ไม่ได้ไปทำไรเป็นจุดสนใจนะ นิ่งมากเวลาอยู่ต่อหน้าครู แต่เรากลับโดนครูถามคำถามนึงว่า "ทำไมผู้หญิงสมัยนี้แ..ร..ด จังเลยขอถามในฐานะเทอเคยเป็นสก๊อยเก่า" ก็คือเราจบมัธยมต้นจากรร.วัดหนะ เหมือนคนในรร.นี้เขาชอบถือคติประมาณว่า รร.เก่าเราเป็นรร.สก๊อย ตั้งแต่โดนครูทักแบบนั้นก็รู้สึกเครียดเลย อาจจะเป็นเพราะเราเติบโตในครอบครัวที่ไม่เหยียดคนอื่นหนะค่ะเพราะเราก็จน กว่าจะมีกินมีใช้ทุกวันนี้ก็ลำบากมาเยอะเหมือนกัน เราต้องเจอเรื่องแบบนี้บ่อยมากตลอดภาคเรียนเพื่อนก็ไม่ค่อยมี ครูคนนี้ค่อนข้างชอบแขวะเด็กมากๆใครไม่เข้าตาก็จะพูดแขวะบ่อยๆ เรารับไม่ได้เลยค่ะต้องมาเจอแบบนี้ เราเลยขาดเรียนบ่อยมากเพราะไม่อยากไปเจอสังคมแบบนี้เลย เจอบ่อยจนเป็นโรคเครียด จิตตกบ่อยๆ ป่วยเข้ารพ.บ่อยมากๆแทบทุกเดือนเลยค่ะเป็นแบบนี้บ่อยมาก เลยเลือกที่จะทำงานช่วยที่บ้านสะส่วนใหญ่ เราไม่เล่าให้พ่อแม่ฟังเลยว่าเจอกับอะไรบ้างเพราะกลัวเขาคิดมาก เขาถามก็เอาแต่ตอบว่า ไหวค่ะ อย่างเดียว แต่ เรามีข้อเสียนะ เป็นคนขี้เกียจเรียน ไม่ค่อยอ่านหนังสือ ยิ่งเจอวิชาที่ไม่ชอบจะแบบ เซโน55555 แต่เราขยันทำงานมากๆ วันหยุดเราจะไม่ไปเที่ยวไหนเลย จะช่วยแม่ขายของที่ร้าน(ร้านอาหาร) ช่วยจนมีลูกค้าประจำมาติดฝีมือทำหารของเราเลย เรารู้สึกว่า การทำงานที่ร้านเป็นสิ่งเดียวที่ทำแล้วเรามีความสุขมาก เจอคนมากมาย หลายรูปแบบ ก็รับได้ทุกสถานการณ์เลย แต่ทำไมเรารับคนแบบครูในรร.นั้นไม่ได้เลยก็ไม่รู้ สุดท้ายก็เรียนไม่จบ แต่เพราะที่บ้านมีร้านอาหาร เราเลยสืบทอดต่อได้ แต่คิดไปคิดมาก็อยากจะเรียน อยากได้วุฒิไปทำงานอื่นๆหาประสบการณ์เพิ่มอีก เลยคิดไว้อยู่ 2 ทาง
1. เรียนกศน. 2ปี ไปเรียนต่อมหาลัยคณะคหกรรมอีก4ปี แต่ก็อยากรู้ประสบการณ์ของคนที่เรียนกศน.ว่า เหนื่อยไหมงานเยอะมากไหม เรียนเป็นไงสังคมในนั้นเป็นยัง ต้องเตรียมใจกับอะไรไหมก่อนเข้าไปเรียน
2.หรือจะเรียนทำอาหารโดยตรงไปเลย ไม่ต้องใช้วุฒอะไร
ขอคำแนะนำหน่อยนะค่าาอยากจะเอาไปประกอบการตัดสินใจค่ะ