❤️💞 ดวงใจในมนตรา  💖💫 กระทู้นี้ขอยกให้ “นิว ชัยพล”  😘👏👏👏

จากกระทู้ที่แล้ว❤️💞ดวงใจในมนตรา❤️💫 ขอขอบคุณทุกดวงใจที่มีส่วนร่วมใน "ตารวะปุรัม"🔥🦅  
ที่เราเขียนถึงดวงใจในมนตราไปในช่วงกลางๆ เรื่อง 
ยังติดคำชมนักแสดงไว้คนหนึ่ง ด้วยความที่ตอนนั้นบทเขายังไม่ได้แสดงออกอะไรชัดเจนมากนัก จะชมเยอะก็กลัวเป็นการชี้เป้า 
แต่จริงๆ ถ้าคนดูเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น เชื่อว่าหลายคนน่าจะมองๆ ตัวละครนี้อยู่เหมือนกันแหละ

นิว "ชัยพล จูเลี่ยน พูพาร์ต" กับบท “วิภู” หนุ่มนักธุรกิจ มาดนิ่ง อบอุ่น แต่แววตาลึก หยั่งยาก ในความสุภาพแสนดีมีอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ 
เป็นบทที่มองเผินๆ เหมือนง่าย แต่จริงๆ เราว่ายากนะ ต้องเล่นแบบละครซ้อนละคร และต้องเป็นการเล่นละครที่แนบเนียน ซ่อนตัวเนียนมาก 
เข้าหานางเอกแบบมีจุดประสงค์ตั้งแต่แรก เจอพระเอกก็ตั้งหลายครั้ง แต่แทบไม่มีใครเอะใจเลยกระทั่งนาทีสุดท้าย  
แต่จะเล่นแบบไม่แสดงอะไรเลยแบลงค์ไปเลยก็ไม่ได้อีก ไม่งั้นเดี๋ยวตอนเฉลยมันจะเหมือนจับยัด ไม่สามารถดึงให้คนดูเชื่อตามได้

ซึ่งเราว่านิวเล่นได้ดีมากกกกกกกกก พอดี ละเอียด เป็นธรรมชาติ ไม่เล่นใหญ่ ไม่โฉ่งฉ่าง ไม่ดูฝืนหรือจงใจจนผิดธรรมดา 
แต่ถ้าคอยมองแววตา ภาษากายเล็กๆ น้อยๆ จะเห็นเบาะแสที่เขาทิ้งไว้ให้สะกิดใจตลอดทาง

อย่างเวลาที่วิภูทำท่าเหมือนสนใจพราวแบบผู้ชายชอบผู้หญิง ถ้าเรามองภาพนั้นผ่านสายตาตัวละครอย่างพริ้มเราอาจจะหลงทางตาม 
แต่ถ้าได้มองเห็นสายตาชัดๆ จะเห็นว่าสายตาวิภูมันไม่ได้สื่อแบบนั้น ตั้งแต่ตอนแรกที่เห็นคลิปพราว ตอนพาพราวไปที่แหล่งขุดค้น
โบราณคดีเพื่อฟังเรื่องเมืองตารวะปุรัม สายตาวิภูที่มองตามพราวคือดูจับจ้องมากแบบคาดหมายอะไรสักอย่าง 
เหมือนจะคอยจับสังเกตว่าพราวมีปฏิกิริยาอะไรที่เกินคนฟังตำนานปกติมั้ย ไม่ใช่มองแบบคนชอบคนหลงรักเลย 
(ทีแรกเรายังนึกว่าวิภูเป็นพวกเดียวกับพชรซะด้วยซ้ำ แบบช่วยพานางเอกมาเพื่อระลึกถึงเรื่องราวตอนเป็นมทิรา)

พอตอนพราวถูกพชรลักพาไปแล้ว แล้ววิภูพาพริ้มมาหานักโบราณคดีเพื่อฟังรายละเอียดตำนานกำเนิดเพชรอีกรอบ
สายตาวิภูก็ยิ่งบอกใบ้มากขึ้น ฯลฯ 



ช่วงแรกของเรื่องนิวเล่นอยู่แค่นี้จริงๆ บทเหมือนแค่เดินหล่อไปมา (ทั้งต้องไม่แสดงตัว ทั้งเนื้อเรื่องเน้นไปเทอยู่ทางพชรที่จับพราวไปมากกว่า)
แต่แค่เฉพาะสายตา, สีหน้า, อากัปกิริยาเล็กน้อย อย่างการขยับมือหรือท่านั่ง ที่เล่นแทรกอยู่ตามช่วงเหตุการณ์ต่างๆ ก็มีรายละเอียดที่ตามดูสนุกแล้ว

เราชอบเวลาที่แววตาเค้าบางครั้งมันดูลึกกว่าปกติ บางครั้งมีวาบแสดงอารมณ์ มีการหลุบตาซ่อนความรู้สึก หรือกระพริบสักที
แล้วกลับมาเป็นแววตาแบบไม่มีอะไรซ่อนเร้น ... 



พอช่วงกลางของเรื่อง บทวิภูเริ่มเพิ่มความน่าดูในทุกซีนที่เจอกับพชร ทั้งที่ส่วนใหญ่ก็แค่คุยกันธรรมดา เรื่องทั่วๆ ไป พูดกันสุภาพ 
แทบไม่มีเหน็บแนมอะไรกันด้วยซ้ำ แต่บรรยากาศคือรู้สึกถึงความตึงเปรี๊ยะๆ เหมือนกำลังแลกหมัดกันตลอด 
และเราชอบมือไม้วิภูที่มักจะมีอาการกรีดนิ้วใกล้ๆ หน้าในฉากที่นั่งคุยกับพชร เหมือนผู้หญิงที่แบบ..พูดๆ ไปแล้วเผลอ
จะเอามือม้วนผมน่ะ อันนี้เขาอาจตั้งใจรึอาจแค่บังเอิญ แต่ตาเรามันหาเรื่องสมองปรุงแต่งเอง เค้าล้อเล่น

(ที่ทึ่งอีกอย่างคือ นิวสามารถเล่นให้มีจริตของผู้หญิง มือไม้กรีดกรายได้ โดยไม่ดูออกสาวด้วย 
อันนี้คือดี เพราะยังไงวิภูก็คือวิภู ที่มีความทรงจำความแค้นของมทิรา แต่ยังไงก็เป็นผู้ชายที่เติบโตมาอย่างผู้ชายตลอดทั้งชีวิต 
ถึงมีความทรงจำมทิราอยู่ แต่ก็ยังเป็นคนละคนกับมทิรา การแสดงแค่อินเนอร์แบบนี้คือสุดๆ )

ยิ่งพอช่วงหลังที่แบบเริ่มลุ้นว่าวิภูจะเผยตัวเมื่อไหร่ คำพูดไหนมีนัยยะบ้าง พชรรู้แล้วแต่แกล้งหลอก หรือยังไม่รู้อะไรจริงๆ ฯลฯ อันนี้ยิ่งสนุก 


 

flower คือจริงๆ ก็เคยเห็นมาหลายเรื่องแล้วนะคะว่านิวฝีมือดี แต่ทุกครั้งที่เค้าได้บทใหม่ก็จะต้องมีอะไรใหม่ให้เซอร์ไพรส์ได้ตลอด 
เป็นอีกคนที่เราชอบการแสดงมากกกกก รอดูเสมอว่าแต่ละเรื่องเขาจะดีไซน์อะไรที่แตกต่างออกมาให้เราดูอีกบ้าง แล้วก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เยี่ยม 

จนถึงสองตอนสุดท้าย ที่เฉลยความเป็นมทิราในตัววิภู …

ตอนที่แฟลชแบคกลับไปเล่าถึงหนุ่มน้อยวิภูที่ยังไม่ได้ระลึกชาติ เขาดูเป็นคนละคนกับวิภูที่เรารู้จักมาทั้งเรื่อง 
แววตาที่สดใส รื่นรมย์กับชีวิต แววตามีความสุข แบบที่ใครๆ บอกว่า "มทิราไม่น่ามีได้" แต่ความจริงคือ... หากไม่ต้องระลึกชาติ ไม่ต้องจดจำ 
หรือแบกความแค้นสองพันปี หากมทิรายอมปล่อยวางทุกอย่างไปกับการข้ามชาติภพ ก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยแววตามีความสุขแบบนี้แหละ
(ถึงแม้ว่าที่สุดแล้วชีวิตอาจจะไม่ได้เพอร์เฟค ด้วยครอบครัวที่ไม่ได้สมบูรณ์แบบ
แต่เราว่าถ้าเป็นลำพังวิภูคนเดียวกับที่พูดให้ข้อคิดกับพริ้มพักตร์ เราว่าเขาผ่านไปได้แน่ๆ) 



ตอนที่เล่าถึงการระลึกชาติ ...
... การต่อสู้ระหว่างความเป็นตัวตนของวิภูตั้งแต่เกิดและเติบโตมาในชาติใหม่ กับความทรงจำของมทิราในอดีตชาติ 
เป็นการตีความการระลึกชาติในลักษณะที่ว่า แม้จะเป็นจิตดวงเดียวกัน แต่ก็เป็นคนละอัตตาตัวตน ความรู้สึกนึกคิด ความเชื่อ ความปรารถนา
จึงอาจเป็นคนละอย่าง ไม่ใช่แค่เหมือนคนที่จำเรื่องที่ลืมเลือนไปแล้วขึ้นมาได้เฉยๆ ที่จะสามารถยอมรับกันได้ง่ายๆ 

นิวสื่อสารความสับสน การต่อต้าน การพยายามปฏิเสธ ไปจนถึงตอนที่เป็นจุดเปลี่ยนให้ยอมรับ
สื่อความอ่อนแอ บอบช้ำในจิตใจของวิภูออกมาได้น่าสงสารมาก ทำให้เรานึกถึงช่วงที่มทิรากำลังเป๋เหมือนกัน
ตอนที่กิเลสความพยาบาทเคียดแค้น(หรือบางคนมองว่ามนต์ดำ)เข้าครอบงำ เป็นเจ้าเรือนในใจมทิรา ก็ใช้การสื่อเป็นอีกตัวตนในกระจกแบบเดียวกัน



จนถึงฉากที่วิภูแสดงตัวตนของมทิราออกมาเต็มตัว  ตอนที่จับตัวพราวพลอยไปเพื่อเรียกพชรมาพบ 
ทีแรกเราคิดว่าฉากนี้คงต้องพีคแบบโหดสุดๆ ระเบิดพลังความแค้นรุนแรง ต้องมีแบบสติหลุด ต้องลุกเป็นไฟ 
แต่เอาเข้าจริง กลับกลายเป็นฉากที่ทั้งเจ็บปวด แสนเศร้า และบีบหัวใจ...  ผิดคาด.. แต่เราชอบมากกว่านะ

ชอบการที่เลือกถ่ายทอดความเป็นมทิราออกมาแบบเจ็บปวด ทุกข์ทน อ้างว้าง โหยหา และดูเหนื่อยแสนสาหัส
ที่ต้องแบกความรักความแค้นมานานนับพันปี และทำให้เราดีใจไปด้วยมากๆ ที่มันจบลงซะที 
มทิราไม่ได้ปลดปล่อยแค่พชร แต่ที่สำคัญที่สุดคือปลดปล่อยตัวเอง 
จะความรักหรือความแค้น ถ้าต้องแบกมันไว้นานเกินไป ไม่มีการเริ่มต้นใหม่ซักที มันหนักหนาเกินไปจริงๆ เม่าโศก



 
สุดท้ายการบริจาคหัวใจให้พราว คือตอนจบแบบที่เราขอบคุณมากๆ เนื่องจากไม่ค่อยชอบตอนจบแบบในหนังสือ 
นี่แหละตอนจบที่อยากได้ ให้หัวใจมทิราได้กลับไปเป็นที่รักของพชรอีกครั้ง และให้พชรและพราวพลอยลตาน้อยช่วยกันดูแลหัวใจมทิรา 
อีกอย่างเวลาพริ้มกอดพราวก็จะได้กอดพี่ภูของเธอด้วย (เราว่าถ้าวิภูไม่ได้ระลึกชาติได้ เขาน่าจะสนใจพริ้มนะ)
(แต่ยัยพริ้มอาจไม่สนแล้วมั้ง นางมีคนให้กอดคนใหม่แล้วนี่  หยอกเย้าหยอกเย้าหยอกเย้า)

และเหนืออื่นใดคือ วิภู สูทขาวหล่อมาก นี่มันพระเอกชัดๆ  เพี้ยนชอบ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

 

วันนี้นิวรับไม้ต่อจากณิชาและมายด์ เพื่อจบความเป็นมทิราได้อย่างสมบูรณ์แบบมากจริงๆ ค่ะ ปรบมือให้เลย 👏👏👏

whiterose  ขอบคุณมทิราที่สอนให้เรารู้ว่า ความแค้นมันทำลายตัวเองก่อนคนอื่นเสมอ แทนที่เกิดใหม่จะได้มีความสุขตามอัตภาพชีวิตใหม่
กลับต้องจมกับอดีตและความเจ็บปวดซ้ำๆ ซากๆ จนกว่าเมื่อใดอภัย นั่นคือการปลดปล่อยตัวเองยิ่งกว่าปลดปล่อยคนอื่นเสียอีก
ขอให้เธอไปดี และได้เริ่มต้นใหม่จริงๆ ซะทีนะ ...มทิรา...  😔เทียน 

flowerflowerflower
รอติดตามนิวในละครเรื่องต่อไปนะคะ โดยเฉพาะบทเมอร์ซิเออร์โรแบรต์ “ลายกินรี” (หวังว่าจะได้ดูนะ) 
ส่วนตัวเราชอบบทนี้มากอยู่ ทีแรกที่มีข่าววางญาญ่า-ณเดชน์ แต่ยังไม่ระบุบท ยังแอบเชียร์ให้ณเดชน์เป็นเมอร์ซิเออร์เลย 
บทเด่น ประกบนางเอก ประชันพระเอกทั้งเรื่อง (อยากเห็นเคมีคู่นี้แบบแอบรักข้างเดียวบ้างด้วย น่าจะแปลกใหม่ดี อิอิ)
แต่พอสรุปณเดชน์เป็นออกหลวง ก็รอดูอยู่ว่าใครจะเป็นเมอร์ซิเออร์ ได้นิวมาก็แอบดีใจนะ แต่ไม่รู้จะได้ดูเมื่อไหร่นี่สิ ก็รอต่อไป 

และหวังว่าจะมีเรื่องอื่นๆ ด้วย ตอนนี้นิวน่าจะอิสระ อยากเห็นนิวมาเล่นละครกับช่องสามอีกเยอะๆ แต่ถ้าไปเล่นช่องอื่น ก็จะพยายามตามไปดูเช่นกัน 

ระหว่างนี้ก็ไปดูนิวในช่องยูทูป  (ที่เราเพิ่งรู้ว่ามี)ไปพลางๆ ก่อน เพิ่งรู้ว่าตัวจริงฮาน่ารักขนาดนี้ ทำรายการพากินพาเที่ยวได้สนุกชะมัด 
เล่าเรื่องเก่ง พูดจาชัดถ้อยชัดคำ ทัศนคติดี ชอบจริตการท่องเที่ยวของเขาด้วย ดูแล้วกระตุ้นต่อมเดินทางดีแท้ เพี้ยนออกทริป
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่